สภาพเตียงนอนที่แสนยุ่งเหยิงกับสภาพเสื้อผ้าเกลื่อนพื้นห้องตรงหน้าทำให้คนที่พึ่งจะมีแรงขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้อย่างยาหยีหน้าร้อนแทบไหม้ ภาพรักเร่าร้อนแสนบ้าคลั่งที่คอร์เนลระเบิดมันใส่ร่างกายของหล่อนมันเลิศเลอและน่าหลงใหลเหลือเกิน
ทั้งปากทั้งมือและลิ้นร้อนๆ ของเขาทำงานได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยได้สัมผัสผิวกายของหล่อน เขาบีบ เขาเฟ้นไปทั่วทุกซอกมุม เนื้อนุ่มแทบจะบี้แบนคาปากและมือใหญ่ จำได้ว่าเป็นหล่อนอีกแล้วที่ร้องขอให้เขาครอบครองกายสาว และก็เป็นหล่อนอีกแล้วที่พร่ำเพ้อเรียกร้องให้คนตัวโตดำเนินเพลงรักต่อเนื่องยาวนานไม่มีหยุด
น่าละอาย น่าขายหน้า และน่าอดสูนัก แต่…ในทุกความรู้สึกย่ำแย่นั้น มันซ่อนความหวานล้ำเลอค่าที่หาสิ่งใดเปรียบมิได้
หล่อนมีความสุขเหลือเกินยามที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ถึงจะปากร้าย ผู้ชายที่ถึงจะเหี้ยมโหดและในสมองไม่รู้จักคำว่าอ่อนโยน แต่เขาก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ทำให้หล่อนได้รู้จักกับความสุขสมของหญิงชายอย่างแท้จริง
“มีแรงลุกด้วยเหรอ”
เสียงทุ้มหูดังขึ้นเบาๆ
ยาหยีแก้มแดงก่ำ เผลอประสานสายตากับคนตัวโตที่ตอนนี้ลุกขึ้นนั่งตามหล่อนมาอีกคนแล้วอย่างจัง แต่แค่สบตาก็คงไม่สามารถทำให้กายสาวร้อนระอุได้ถึงเพียงนี้หรอก หากเขาไม่เปลือยแผงอกกว้างโชว์หราต่อหน้าต่อตาแบบไม่อายอย่างนี้
น้ำลายเหนียวขึ้นมาในทันที เมื่อสายตามองต่ำลงไปยังหน้าท้องที่หล่อนสัมผัสมาแล้วว่ามันแข็งยิ่งกว่าไม้กระดาน และทำท่าว่าจะต่ำลงไปอีก
“ชอบมองก็ไม่บอก จะได้แก้ผ้าให้ดูทั้งวันทั้งคืน”
เสียงเข้มของคนตัวโตทำให้ยาหยีสามารถละสายตาจากจุดอันตรายสุดๆ ของเขาได้อย่างหวุดหวิด
“คนบ้า!”
คอร์เนลหัวเราะร่วน ดึงร่างอรชรขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของตนเอง ก่อนจะก้มลงซอนไซ้ซอกคอระหงด้วยความหิวกระหายไม่เสื่อมคลาย
“ทั้งๆ ที่เรามาราธอนกันมาตั้งสามสี่ยกแล้ว แต่ทำไมนะ ผมถึงยังไม่รู้สึกอิ่มในตัวคุณเลย ทำเสน่ห์กับผมหรือเปล่าลูกหยี”
คอร์เนลพึมพำเสียงแหบพร่าและทำท่าจะเดินหน้าต่ออีกครั้ง แต่ยาหยีก็รีบยกมือดันแผงอกกว้างเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแง่งอนเมื่อสมองหวนนึกไปถึงภาพที่คอร์เนลแลกลิ้นกับแม่นางแบบสาวหุ่นสะบึมคนนั้นขึ้นมา
“ไม่อิ่ม ก็ไปนอนกับแม่เรนนี่สุดเซ็กซี่นั่นสิคะ หุ่นกระชากใจชายออกขนาดนั้น”
หญิงสาวไม่รู้เลยว่าน้ำเสียงที่ตัวเองใช้พูดออกมานั้นเต็มไปด้วยความหึงหวงแค่ไหน คอร์เนลอมยิ้มบางๆ เปลี่ยนจากการรุกรานซอกคอนุ่มมาเป็นพรมจูบใบหน้างามแทน ขณะที่มือใหญ่ลูบไล้ฟอนเฟ้นบั้นท้ายแน่นหนั่นอย่างมันมือ
“อยากให้ไปจริงๆ หรือเปล่า”
“ก็ไปสิ ฉันไม่มีสิทธิ์ห้ามอยู่แล้วนี่ และหากคุณสมองไม่เสื่อม คุณก็น่าจะจำได้นะคะว่าฉันอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
คอร์เนลไหวไหล่กว้างของตัวเองอย่างไม่แยแส
“นางทาสไง ผมจำได้สิในเมื่อผมยัดเยียดให้คุณเป็นเอง” ดวงตาสีเขียวดุจมรกตเนื้อดีเข้มจัดเมื่อจับจ้องใบหน้าของหล่อน
“กลางวันทำงานในครัว แต่กลางคืนรับใช้ผมบนเตียง” นึกว่าคอร์เนลจะพูดอะไรที่มันรักษาน้ำจิตน้ำใจของหล่อนบ้างแต่เปล่าเลย พ่อเจ้าประคุณทูนหัวยังถนัดที่จะทำให้คู่สนทนาตกนรกเพราะวาจาของตัวเองเช่นเคย
‘คนใจร้าย! คนใจดำ!’
“งั้นตอนนี้คุณก็ควรจะปล่อยฉันลงจากตักของคุณซะ เพราะมันยังกลางวันอยู่ นางทาสอย่างฉันต้องไปทำงานในครัว”
ยาหยีดิ้นรนสุดฤทธิ์สุดเดช แต่ยิ่งดิ้นรนกายหนุ่มทรงพละกำลังที่หล่อนกำลังสัมผัสอยู่ก็ยิ่งมีชีวิตชีวาขึ้นจนน่าตกใจ
“มือคุณเจ็บ ล้างจานหั่นผักไม่ได้หรอกน่า อยู่บนเตียงกับผมดีกว่า ใช้มือนุ่มๆ ลูบไล้ร่างกายของผมเหมือนกับที่คุณพึ่งทำไปเมื่อกี้นี้ยังไงล่ะ”
คอร์เนลระบายยิ้มกระชากใจออกมา และมันก็ทำให้กายสาวปั่นป่วนอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
“ผมชอบมากรู้ไหมทูนหัว”
เขาจ้องเอาๆ จนหล่อนแทบละลาย ความขัดเคืองใจที่มันมาพร้อมกับความหึงหวงกำลังเหือดแห้งไปทีละน้อย และสุดท้ายก็สลายหายไปจนหมด เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวกำลังจะประทับลงมา ยาหยีหลับตาพริ้มเผยอปากรอคอยด้วยอารมณ์หิวกระหายมากมายเช่นกัน
“ลืมตาแล้วอ้าปากรอผมสิลูกหยี”
สาวน้อยลืมตาขึ้นอย่างว่านอนสอนง่าย คอร์เนลระบายยิ้มพึงพอใจ ขณะเอียงศีรษะประกบปากลงมาหา ลิ้นแกร่งแทรกลึกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดรึงลิ้นเล็กแสนหวานเอาไว้อย่างแนบแน่น หยอกล้อ ยั่วเย้าจนสาวน้อยครางไม่หยุด มือใหญ่บีบตะโบมเนินเนื้อเต้างาม แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไปทั่วทุกอณูเนื้อของผิวสาว
“จำเอาไว้นะ แม่ลูกหยีแสนหวาน…”
เขากระซิบชิดปากบวมเป่งของหล่อน
“คุณเป็นของผม…เพียงคนเดียว”
และเมื่อหล่อนพยักหน้ารับ เขาก็ระบายยิ้มพึงพอใจออกมาอีกครั้ง แก้มสาวแดงก่ำ หัวใจเต้นแรงระรัวผิดจังหวะไปได้อย่างน่าตกใจ
“คุณสวยมาก…หวานมาก และผมก็…ต้องการคุณมากเหลือเกิน”
เขาพึมพำและก้มลงครอบครองปลายถันสีกุหลาบเอาไว้ด้วยความหิวกระหายเนิ่นนาน สาวน้อยคร่ำครวญ เส้นผมสีดำขลับสะบัดไปมาอยู่กลางแผ่นหลัง หยัดกายเข้าหาฝ่ามือใหญ่ที่กำลังบีบเคล้นเต้างามอวบสล้างด้วยความเต็มอกเต็มใจเป็นที่สุด
“คอร์เนล…ได้โปรด…”
“หัดอดทนบ้างสิแม่ลูกหยี รออีกนิด…ให้ผมชิมรสชาติความหวานของคุณอีกครั้งก่อน”
คอร์เนลดันร่างอรชรที่นั่งส่ายระริกอยู่บนตักแกร่งของตัวเองให้นอนหงายลงไปบนเตียงอีกครั้ง กำลังจะทาบทับลงไปคลุกเคล้า แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน
“คอร์เนล อย่าไป…”
รั้งเขาไว้เมื่อเห็นคนตัวโตทำท่าจะผละออกห่าง
“ผมจะกลับมาหาคุณน่าทูนหัว รอเดี๋ยวเดียว”
คอร์เนลกัดฟันข่มความปรารถนาของตัวเอง จากนั้นก็ก้าวลงไปจากเตียง มือใหญ่เอื้อมไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ลวกๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอน ตรงไปยังประตูหน้าห้อง และเปิดมันออก
“มีอะไร?”
เชอรี่เห็นสภาพของคอร์เนลแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้ เพราะไม่ต้องเดาเลยก็รู้ว่านายน้อยของหล่อนกำลังทำสงครามเกี่ยวกับอะไรอยู่ ก็ผมยุ่งเหยิง ทั้งเนื้อตัวมีเพียงเสื้อคลุมแค่ตัวเดียวแบบนี้ จะกำลังทำอย่างอื่นไปได้ยังไง นอกจาก…
“เอ่อ…คุณอังเดรมาหานายน้อยค่ะ”
ความวาบหวามผุดไปจากร่างกายในทันทีเมื่อได้ยินชื่อของญาติฝ่ายพ่อที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว คอร์เนลขบกรามแน่น ดวงตาสีเขียวเข้มจัดน่ากลัว
“พาไปรอที่ห้องรับแขกทางปีกซ้าย อีกสิบนาทีฉันจะลงไป”
“ค่ะนายน้อย”
คอร์เนลปิดประตูและเดินกลับเข้ามายังเตียงนอนที่มีแม่ลูกหยีแสนหวานนอนระทดระทวยรอสังเวยอยู่ เขาทรุดตัวลงนั่ง ยื่นมือไปลูบปทุมถันอวบสล้างที่ชูชันท้าทายสายตาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะถอนใจออกมาด้วยความเสียดาย
“ผมขอโทษนะที่ไม่สามารถทำมันต่อจนจบได้”
มือใหญ่ดึงร่างอรชรขึ้นมาสวมกอดแน่น พร้อมกับก้มลงจูบหน้าผากกว้างด้วยความอ่อนโยนจนคอร์เนลเองก็ยังตกใจ
“ผมไม่ชอบทำอะไรเร็วๆ โดยไร้คุณภาพ”
ยาหยีแก้มแดงก่ำ ก้มหน้านิ่ง หัวใจพองโตคับอกกับความอ่อนหวานของผู้ชายตัวโตตรงหน้า
“แต่ผมจะชดเชยให้คืนนี้ทั้งคืน”
หล่อนได้ยินเสียงเขาถอนใจแรงๆ ก่อนที่จะผละออกห่าง คอร์เนลเดินหายเข้าไปยังห้องแต่งตัวที่อยู่ติดกัน เพียงไม่กี่นาทีก็ออกมาพร้อมกับชุดลำลองสีขาวสะอาด ส่งผลให้คนสวมใส่ที่หล่อกระชากวิญญาณอยู่แล้วยิ่งหล่อขั้นเทพมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ยาหยีเผลอตัวมองเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ รู้สึกไม่เคยเพียงพอเลยไม่ว่าจะอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้นานแค่ไหนก็ตาม
“ถ้าคุณมองผมแบบนี้นานๆ อาอังเดรคงต้องรอต่อไปถึงเย็นแน่ๆ เลยแม่ยาหยีแสนหวาน”
คอร์เนลยิ้มและเดินเข้ามากดจูบปากหล่อนอีกครั้ง และทำท่าจะเลยเถิดเมื่อแม่ลูกหยีแสนหวานเล่นตอบสนองอย่างกระตือรือร้น
“ไว้คืนนี้นะ…ผมต้องลงไปคุยกับอาอังเดรจริงๆ”
หนุ่มหล่อกัดฟันผละออกห่างสาวน้อยที่เขารู้ว่าหวานฉ่ำไปทั้งเนื้อทั้งตัวอีกครั้ง พร้อมกับถอยห่างออกไปจากเตียงนอนหลายก้าว
“หากเบื่อที่จะนอนก็ลงไปเดินเล่นรอบๆ บ้านก็ได้นะ แต่ไม่ต้องเข้าไปทำงานในครัวล่ะ เพราะมือของคุณโดนน้ำไม่ได้ มันจะแสบ”
คล้ายกับเขาห่วงใย แต่ไม่ใช่หรอก คอร์เนลคงกลัวว่ามือของหล่อนจะเจ็บและให้บริการเขาได้ไม่ดีอย่างที่ตัวขาต้องการมากกว่า ความเศร้าหมองระคนน้อยใจทำให้กระบอกตาร้อนผ่าว
“ค่ะ”
“น่ารักจัง”
คอร์เนลเอ่ยชมพร้อมกับระบายยิ้มให้ก่อนจะก้าวหายออกไปจากห้องนอนใหญ่ และเมื่ออยู่ตามลำพังยาหยีก็ต้องถอดถอนใจออกมาไม่ได้เมื่อเห็นสภาพบอบช้ำยับเยินของตัวเอง แม้หล่อนจะมีความสุขราวกับได้ขึ้นสวรรค์เวลาอยู่ใต้ร่างของคอร์เนล แต่พอเขาผละจากไปแล้ว นรกอเวจีก็พลันเคลื่อนมาครอบงำเอาไว้จนมืดมิด
หญิงสาวขยับกายลงจากเตียงใหญ่นุ่มหนา ก้มลงควานหาเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกคอร์เนลเหวี่ยงมันไว้รอบๆ เตียงด้วยความอดสู หล่อนก็แค่ของเล่น ก็แค่ทาสบำเรอความใคร่ของเขาเท่านั้นแหละ พอเขามีอารมณ์ก็จะมาหา แต่พอหมดประโยชน์ เขาก็ถีบหัวหล่อนส่งอย่างไม่ไยดี
ยาหยีถอนใจออกมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรตัวเองถึงได้รู้สึกน้อยอกน้อยใจในตัวคอร์เนลมากมายถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เขาก็บอกแล้วไงว่าจะมาต่อที่ค้างไว้ให้จบอีกครั้งตอนกลางคืน แล้วทำไมยังต้องเก็บเอามาน้อยอกน้อยใจด้วยนะ
หล่อนคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่หลงละเมอคิดไปว่าคอร์เนลจะรู้สึกเช่นเดียวกับตัวเอง ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ผู้ชายถือตัวแถมหยิ่งสุดขั้วอย่างคอร์เนลไม่มีทางที่เขาจะมาชายตาแลผู้หญิงข้างถนนแบบหล่อนหรอก และที่เขาพาหล่อนมามอสโกด้วยก็เพียงเพราะว่าไม่มั่นใจว่าในท้องของหล่อนมีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง
‘ท้องหรือ? เมื่อกี้…คอร์เนลไม่ได้ใส่ถุงยางอีกแล้ว ทั้งครั้งแรกจนจบครั้งที่สี่…’
ยาหยียกมือขึ้นทาบอกของตัวเอง นี่เขาลืมหรือว่าจงใจกันแน่นะ ทำไมเขาถึงไม่ป้องกันทั้งๆ ที่เป็นเขาเองไม่ใช่เหรอที่หวาดกลัวว่าหล่อนจะตั้งท้องกว่าใครๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน หญิงสาวก้มหน้าก้มตาสวมใส่เสื้อผ้าของตัวเองด้วยมือที่สั่นระริก และเมื่อสามารถซ่อนกายสาวชอกช้ำลงไปในเสื้อผ้าได้สำเร็จ หล่อนก็รีบเดินออกไปจากห้องนอนของคอร์เนลทันทีโดยไม่คิดจะหันกลับหลังมามองอีกเลยแม้แต่นิดเดียว
MANGA DISCUSSION