เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 61
“นายน้อยเรียกผมมามีอะไรด่วนให้รับใช้หรือครับ”
เซอร์เกที่พึ่งจะก้าวข้ามธรณีประตูห้องเข้ามาเอ่ยถามหนุ่มหล่อที่กำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คอร์เนลหันกลับมาจ้องมองคนสนิทของตัวเองเขม็ง ใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติดุกระด้างน่ายำเกรงยิ่งนักจนคนมองอย่างเซอร์เกแทบจะหายใจไม่ทั่วท้อง
‘นายน้อยของเขากำลังโกรธ กำลังไม่พอใจ และแน่นอนว่ากำลังจะระเบิดมันออกมาในไม่ช้านี้’
“นายพูดอะไรกับยาหยี”
“ผมหรือครับ”
ยิ่งเซอร์เกอ้ำอึ้ง คอร์เนลก็ยิ่งเดือดดาล
“ก็นายนั่นแหละ! บอกมาว่าพูดอะไรกับเธอ”
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเกรี้ยวกราดขนาดนี้ด้วย ทำไมต้องรู้สึกเจ็บแค้นแทนแม่ผู้หญิงแพศยาอย่างยาหยีด้วยนะ
“ผม…”
“อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ เซอร์เก!”
คอร์เนลเค้นเสียงคำรามดุดัน เซอร์เกหน้าซีดเผือด มองนายน้อยของตัวเองด้วยความตื่นตกใจ คอร์เนลไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ผม…ผมเป็นห่วงนายน้อยครับ ผมก็เลยบอกให้คุณยาหยีไปจากนายน้อยทันที หากรู้ตัวว่าไม่ได้ตั้งท้องทายาทของซีร์ยานอฟ” ในที่สุดเซอร์เกก็สารภาพออกไป
“มันเรื่องส่วนตัวของฉัน นายเลิกวุ่นวายสักทีเถอะ”
“แต่ผม…ผมอยากให้นายน้อยอยู่ห่างจากผู้หญิงคนนี้” เซอร์เกมองหน้าคอร์เนลด้วยสายตาจงรักภักดี ซึ่งชายหนุ่มสามารถรับรู้มันได้อย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถจะทำตามคำเตือนของคนสนิทได้ ทั้งๆ ที่อยากจะทำใจจะขาด
“เธออันตรายสำหรับนายน้อยมากนะครับ”
“ขอบใจที่เป็นห่วงนะเซอร์เก แต่ฉันดูแลตัวเองได้ ออกไปได้แล้ว”
แม้จะถูกไล่ซึ่งๆ หน้าแต่เซอร์เกก็ยังดึงดัน
“แต่นายน้อยครับ ผม…”
“ไปซะเซอร์เก ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
เมื่อคราวนี้คอร์เนลเค้นเสียงไล่ดุดันขึ้น เซอร์เกจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินคอตกออกไปจากห้องนอนของเจ้านายหนุ่มอย่างเงียบกริบ
คอร์เนลถอนใจออกมาแรงๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อนึกถึงคำพูดของคนสนิท เซอร์เกจงรักภักดีแค่ไหนเขารู้และเข้าใจดี แต่…เรื่องนี้เขาไม่สามารถจะทำตามคำแนะนำของเซอร์เกได้ เขาไม่อาจที่จะขจัดยาหยีออกไปจากเส้นทางชีวิตได้ อย่างน้อยๆ ก็ในช่วงเวลานี้
รออีกหน่อย อีกนิดเดียว รอให้เขาเบื่อหน่ายและสะอิดสะเอียนในตัวของเจ้าหล่อนก่อน และเมื่อนั้นเขาจะเตะโด่งยาหยีให้หลุดไปนอกโลกเลยทีเดียว คอยดูสิ ชายหนุ่มระบายยิ้มบางๆ ออกมาอย่างชื่นชมในความคิดของตัวเอง ขณะเดินกลับมาทรุดกายนั่งลงบนที่นอน
“พรุ่งนี้ผมจะทำให้คุณรู้ซึ้งถึงการถูกทรยศ…ยาหยี” เรือนกายกำยำเอนตัวลงไปนอนหงายบนเตียงแรงๆ ดวงตาสีเขียวจัดจ้องมองเพดานห้องนิ่ง พยายามจะข่มตาให้หลับแต่ภาพของแม่ยาหยีตัวแสบก็ปรากฏซ้อนทับขึ้นมาเสียนี่ เจ้าหล่อนกำลังเปลื้องผ้าออกทีละชิ้นจนล่อนจ้อน จากนั้นก็โยกย้ายส่ายสะโพกไปมา แถมยังกวักมือเรียกเขาอีกแน่ะ
“ระยำ!” คอร์เนลสบถหยาบคายออกมา ขณะผุดลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำด้วยความเดือดดาลเมื่อเห็นสภาพร่างกายของตัวเอง
ทำไมนะ ทำไมร่างกายของเขาถึงได้ไม่รักดีอย่างนี้ แค่สมองจินตนาการภาพบ้าๆ นั้นขึ้นมา เรือนกายก็ตื่นเร้าอย่างบ้าคลั่ง ชายหนุ่มกระแทกกำปั้นกับที่นอนหลายต่อหลายครั้งด้วยความเกรี้ยวกราด เกลียดตัวเองเหลือเกินที่ไม่เคยต้านทานแรงเสน่ห์ของยาหยีได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ร่างกายโหยหาจนอยากจะวิ่งออกไปจากห้องและมุ่งหน้าไปหาหญิงสาวที่เรือนซ้ายครั้งแล้วครั้งเล่า อยากจะจับร่างอรชรเปลื้องผ้าเสียให้หมด จากนั้นก็ครอบครองให้หายคลั่ง
คอร์เนลกัดฟันเสียงดังกรอดๆ ข่มความอยากเอาไว้ในอก ขณะฝืนใจล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ จนในที่สุดชายหนุ่มก็ต้องลุกขึ้นจากเตียง และก้าวยาวๆ ออกจากห้องนอนไปจนได้
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้งทำให้ยาหยีที่พึ่งข่มตาให้นอนหลับลงไปได้แค่เพียงไม่ถึงสองชั่วโมงต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา มือบางยกขึ้นขยี้ตาด้วยความงัวเงีย ก่อนจะยันกายลุกขึ้นแล้วเดินโซเซไปเปิดประตูห้อง
“ป้าเองเหรอ” เมื่อเห็นว่าเป็นเชอรี่ที่ยืนอยู่หลังประตู ยาหยีก็ฝืนยิ้มออกมา
“นายน้อยสั่งให้ป้ามารับคุณไปช่วยทำอาหารในห้องครัวค่ะ”
คำพูดเบาๆ ของหญิงร่างท้วมมีผลทำให้ใบหน้าของยาหยีถูกแต่งแต้มด้วยความเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว ยาหยีพยายามปั้นยิ้มและกลืนน้ำตาลงไปในอก ก่อนจะบังคับเสียงให้ราบเรียบเป็นปกติที่สุดเมื่อเอ่ยออกไป
“ฉันขอเวลาล้างหน้าสักนิดหนึ่งได้ไหมป้า”
“ได้สิคะ เดี๋ยวป้ายืนรอหน้าห้องนี่แหละ เอ่อ…แล้วนี่…”
ยาหยีก้มลงมองสิ่งที่แม่บ้านต่างวัยยื่นมาให้
“อะไรหรือจ๊ะป้า”
“ชุดฟอร์มสาวใช้ของคฤหาสน์ซีร์ยานอฟค่ะ นายน้อยให้…เอ่อ…ให้คุณใส่ชุดนี้ด้วยค่ะ”
น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา แต่ก็ฝืนเอาไว้ได้ทัน กัดปากแน่นจนไม่รู้สึกเจ็บอีก ขณะเอื้อมมือไปหยิบสิ่งที่เชอรี่ส่งให้มาถือเอาไว้
“ฝากไปขอบคุณนายน้อยของป้าด้วยนะคะ ที่อุตส่าห์วางแผนชีวิตให้กับฉันทุกอย่าง”
พูดออกไปด้วยความน้อยใจ
“คุณคงต้องไปขอบคุณเองแหละค่า ป้าไม่กล้าหรอก”
เชอรี่มองคู่สนทนาสาวด้วยความเวทนา ไม่เข้าใจการกระทำของคอร์เนลเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่ดูเหมือนจะรักมาก แต่ทำไมถึงได้กลั่นแกล้งคนที่รักได้มากมายขนาดนี้นะ
“เดี๋ยวฉันแต่งตัวเสร็จ จะรีบไปกราบขอบคุณค่ะ” ยาหยีประชดประชันออกไป ขณะหมุนตัวหันหลังให้กับคู่สนทนา
“ตอนนี้คงไม่ได้หรอกค่ะ นายน้อยไม่อยู่ ออกไปตั้งแต่ตีสอง ป่านนี้ยังไม่กลับเลยค่ะ ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าหายไปไหน ถามเซอร์เกก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”
น้ำเสียงของเชอรี่เต็มไปด้วยความแคลบแคลง แต่ยาหยีหาได้สงสัยใดๆ เลยสักนิด เพราะหล่อนพอจะเดาได้ว่าคอร์เนลหายไปไหน
“ที่นี่ผมมีผู้หญิงรอให้บริการเพียบ คุณอาจจะต้องนอนเหงาไปตลอดทั้งเดือน หรืออาจจะตลอดไปเลยก็ได้ หากผมรู้ตัวว่าหมดความอยากต่อร่างกายของคุณ”
นี่ไง คำพูดของเขาที่มันเข่นฆ่าหล่อนมาตลอดทั้งคืน เจ็บจนหัวใจแหลกสลาย เจ็บจนต้องนอนร้องไห้ เจ็บปวดเหลือเกินกับความใจร้ายของผู้ชายคนนี้
“งั้นก็ช่างเถอะค่ะ ไว้เขากลับมาฉันค่อยไปขอบคุณก็ยังไม่สายหรอกค่ะ ฉันขอตัวเข้าไปอาบน้ำก่อนนะคะ อีกเดี๋ยวจะรีบออกมา”
ยาหยีเอ่ยปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขณะก้าวหายเข้าไปในห้องน้ำเล็กๆ ที่อยู่ด้านในอย่างรวดเร็ว และเมื่ออยู่ตามลำพัง น้ำตาที่ซ่อนเอาไว้ก็ทะลักทลายออกมาอย่างรุนแรง ความเจ็บปวด ชอกช้ำ กระหน่ำซัดเข้าใส่หัวใจอย่างรุนแรง
“คนใจร้าย…คนใจดำ…”
มือเรียวเอื้อมไปเปิดน้ำเย็นๆ จากฝักบัวให้สายน้ำไหลรดผ่านศีรษะลงมาแรงๆ ราวกับต้องการให้สายน้ำช่วยล้างความเจ็บปวดออกไปจากหัวใจของตัวเอง แต่มันก็ไม่สำเร็จเพราะต่อให้ใช้น้ำหมดทั้งโลกมันก็คงไม่สามารถชะล้างความชอกช้ำระกำใจที่เกิดจากการกระทำของคอร์เนลให้หมดไปได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ทำไมฉันถึงเกลียดคุณไม่ลงสักทีนะคอร์เนล ทำไมฉันถึงต้องรักคุณ”
ร่ำไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจเมื่อภาพของคอร์เนลที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้หญิงโชคดีคนหนึ่งที่ไม่ใช่หล่อนผุดขึ้นมาในสมอง ทั้งๆ ที่รู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์ แต่หล่อนก็ไม่อาจจะตัดความหึงหวงที่กำลังท่วมท้นหัวใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว