สาวน้อยพรมจูบไปทั่วทั้งเรือนกายแกร่ง ทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน อ่อนโยน และหัวใจ คอร์เนลร้องคำรามด้วยความรัญจวนครั้งแล้วครั้งเล่า อ้อนวอนขอร้องให้แม่ลูกหยีแสนหวานมอบความสัมพันธ์ขั้นสุดท้ายให้แก่เขาเสียที
“ลูกหยี…ได้โปรด ผมทนไม่ไหวแล้วนะ”
ยาหยีเงยหน้าจากผิวหนุ่ม ยิ้มหวานฉ่ำมอบให้แก่หนุ่มหล่อที่นอนดิ้นพราดอยู่ใต้ร่างของหล่อน วางสองมือนุ่มกับแผงอกกว้างรกรุงรังของเขาเอาไว้ ก่อนจะก้มลงไปกระซิบชิดปากร้อนผ่าวของผู้ชายใต้ร่างแผ่วเบา
“ของดีต้องรออีกนิดค่ะ”
มันช่างเป็นคำพูดวาบหวามเหลือเกินในความคิดของคอร์เนล ชายหนุ่มหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ ใช้สองมือตรึงท้ายทอยของยาหยีเอาไว้มั่น ขณะยกศีรษะของตัวเองขึ้นไปขยี้จูบเร่าร้อนจนกลีบปากสาวบวมเป่ง
“บอกแล้วไงว่าไม่รอ”
“ไม่มีความอดทนเลยนะคะ” สาวน้อยยิ้มหวานชิดปากของคนตัวโต มือนุ่มลูบไล้ไปตามเนื้อหนุ่มเรียบตึงของคอร์เนลด้วยความหลงใหล
“อะไรที่เกี่ยวกับคุณ ผมรอไม่ได้ทั้งนั้นแหละ”
“ว้าย! คอร์เนลน่ะ”
สาวน้อยร้องขัดใจเมื่อพ่อคนตัวโตใช้ช่วงเวลาที่หล่อนเผลอพลิกขึ้นมาทาบทับเสียเอง ปากร้อนผ่าวก้มลงรวบปานถันสีกุหลาบแล้วดึงแรงๆ จนเจ้าของร่างร้องครางลั่น
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รอแล้ว ขืนรอผมตายพอดี”
หนุ่มหล่อไม่สนใจอาการดิ้นพราดของยาหยีเลยแม้แต่น้อย เขายังคงรุกรานเต้างามสองข้างสลับกันไปมาด้วยความหิวกระหาย ขยี้ขยำจนมันแทบบี้แบนคามือ ขณะที่สะโพกเพรียวแกร่งส่ายไปมาอย่างหยอกเย้า
“ผมยอมตายเพื่อให้ได้คุณนะลูกหยี”
แม้จะพยายามกัดฟันเพื่อข่มแรงปรารถนาเอาไว้มากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วคอร์เนลก็ไม่สามารถยืดเวลาแห่งการเล้าโลมต่อไปได้อีกแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เขาครอบครองกายสาวอย่างรุนแรง ดื่มด่ำกับความรัดรึงแสนหวานที่สาวน้อยมอบให้ด้วยความเต็มอกเต็มใจปนหิวกระหาย
เขาไม่เคยพบกับความสุขแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้จักสวรรค์มาก่อน แต่ยาหยีทำได้ หล่อนไม่ใช่แค่ทำให้เขารู้จักกับสรวงสวรรค์เท่านั้น แต่หล่อนทำให้เขาสามารถขึ้นไปยืนตระหง่านอยู่บนฉิมพลีนั่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“ลูกหยี…ยาหยีของผม…”
ไม่มีคำพูดใดจะสามารถมาบรรยายความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้ ตอนที่เขากำลังสั่นระริก ร่างกายเกร็งกระตุกอย่างสุขสมอยู่บนร่างอรชร ความซ่านสยิวที่กำลังกัดกินไปทั่วทั้งกายหนุ่มทำให้เขาไม่รู้สึกเจ็บสักนิดเมื่อยามที่สาวน้อยจิกเล็บคมๆ ลงมาบนหัวไหล่ทรงพลังของตัวเอง
คอร์เนลก้มลงมองสาวน้อยที่มอบของขวัญล้ำค่าให้กับตัวเองด้วยสายตาอ่อนหวาน เจ้าหล่อนกำลังหลับตาพริ้ม ห่อปากเผยอ บอกให้รู้ว่าหล่อนเองก็กำลังดื่มด่ำอยู่กับสวรรค์ชั้นเจ็ดเหมือนๆ กับเขานั่นแหละ
“ลูกหยี…” คนตัวโตก้มลงจูบแผ่วเบาที่หน้าผากกว้าง
“คอร์เนล…”
หลังจากความสุขพร่างพราวลดความรุนแรงลง สาวน้อยก็ลืมตาขึ้นมองผู้ชายบนร่าง เขายังอยู่แนบชิด ไม่ถอยห่างไปไหน แล้วเขาก็ยังยิ้มให้กับหล่อนอีก
“ยั่วเก่งมาก จนผมลืมปัญหาที่บ้านไปเลยให้ตายสิ”
“แล้วชอบไหมคะ”
ยาหยียกมือทั้งสองข้างขึ้นลูบสันกรามกระด้างของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามีแผ่วเบา
“เรียกว่าคลั่งไคล้จะตรงประเด็นกว่ามั้งทูนหัว”
คอร์เนลอมยิ้ม มองภรรยาด้วยสายตาร้อนแรง สมองนึกถึงการตอบสนองที่กระตือรือร้นของเจ้าหล่อนไม่ยอมหยุด และมันก็มีผลทำให้เขาเกิดความต้องการอีกครั้ง แต่ไม่ได้…ตอนนี้ไม่ได้…เขามีงานใหญ่ที่ต้องกลับไปทำ คิดได้เช่นนั้นชายหนุ่มก็พลิกตัวลงจากร่างอรชรอย่างรวดเร็ว เร็วจนสาวน้อยรั้งเอาไว้ไม่ทัน
หญิงสาวพยายามซ่อนน้ำตาแห่งความโศกเศร้าเอาไว้ในอก ขณะผุดลุกขึ้นนั่งตามคนตัวโต
“คุณจะไปแล้วหรือคะ”
คอร์เนลที่กำลังจะก้าวลงจากเตียงหันกลับมามองด้วยสายตากังขา
“ทำไมถามแบบนี้ล่ะลูกหยี เราก็ต้องไปด้วยกันนั่นแหละ”
ไม่มีคำตอบออกจากปากของยาหยีอีกนอกจากความเงียบงันเท่านั้น หญิงสาวนั่งมองคนตัวโตที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำด้วยสายตาเจ็บปวด อีกไม่กี่นาทีแล้วสินะที่จะต้องจากกัน มือบางรีบยกขึ้นป้ายน้ำตาที่ไหลรินออกมาทิ้งทันทีเมื่อคอร์เนลก้าวออกมาจากห้องน้ำ ร่างกายกำยำใหญ่โตไปทุกส่วนเดินโทงๆ มุ่งหน้าไปที่ตู้เสื้อผ้าแบบฝังติดผนัง เขาก้มๆ เงยๆ อยู่ไม่นานก็หล่อเหลาสมบูรณ์แบบอยู่ในชุดลำลองสีน้ำเงินอมดำ
“อาบน้ำเถอะลูกหยี ผมรีบจริงๆ”
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน ยาหยีลุกขึ้นจากเตียงทั้งๆ ที่เนื้อตัวเปลือยเปล่า โผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของคอร์เนลเอาไว้แน่น เขย่งปลายเท้าขึ้นบดจูบกับปากเร้าใจของเขาด้วยความเร่าร้อน คอร์เนลครางออกมากับความหวานฉ่ำที่ยาหยีกำลังยัดเยียดให้ แต่เพียงไม่นานเขาก็ดันร่างเกลี้ยงเกลาของเจ้าหล่อนออกจากตัว
“ผมมีธุระจริงๆ อาบน้ำเถอะ”
เท้าใหญ่เคลื่อนพาคอร์เนลถอยหลังออกไปจากร่างเย้ายวนกวนตัณหาของยาหยีหลายก้าวเลยทีเดียว พร้อมๆ กับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกล้ำ
“ผมไม่รู้หรอกว่าวันนี้คุณเป็นอะไรไป ถึงได้ยั่วผมตลอดเวลา แต่ขอให้รู้ว่าผมจะชดเชยให้คุณอย่างเต็มที่เมื่อเราอยู่บนเตียงในห้องนอนของผม”
‘แต่ฉันไม่มีโอกาสกลับไปที่นั่นแล้วนี่ ไม่มีโอกาสจะได้เห็นคุณอีกแล้ว’
ยาหยีคร่ำครวญโศกาอยู่ภายในอก แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่ตัวเองจะร่ำไห้ออกไปได้ จึงเปลี่ยนเป็นปั้นยิ้มขมขื่นมอบให้กับเขาแทน
“กอดฉันอีกสักครั้งได้ไหมคะ กอดให้แน่นๆ”
คอร์เนลระบายยิ้มออกมา
“ทำไมวันนี้ทำซึ้งนักล่ะลูกหยี ทำเหมือนกับว่ารักผม…หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือจะไปจากผม”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ฉันอยากเป็นของคุณอีกครั้ง”
เมื่อเห็นเขาไม่เข้ามาหา สาวน้อยจึงเป็นฝ่ายโผเข้าหาเขาเสียเอง กอดรัดเขาแน่นจนอกสาวที่ใหญ่เกินตัวแทบบี้แบนไปกับอกกำยำ และถึงแม้จะมีเสื้อเนื้อดีขวางกั้นอยู่ แต่มันก็ไม่สามารถช่วยลดความร้อนระอุลงได้เลย
“อีกครั้งนะคะ ที่ผนังห้องก็ได้”
มือบางสะเปะสะปะดึงกระชากเข็มขัดหนังของคอร์เนลออกด้วยความร้อนรน
“อย่า…ลูกหยี คุณเป็นอะไรไปเนี่ย”
แม้จะพยายามยับยั้งการจู่โจมของแม่สาวน้อยแสนหวาน แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก เพราะแค่ถูกมือนุ่มๆ จับนู่นจับนี่แถมยังจับต่ำอยู่แถวๆ ขอบกางเกงแบบนี้ กายหนุ่มก็ร้อนรุ่มแทบลุกเป็นไฟแล้ว
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร ทำไมมันถอดยากจัง…เข็มขัดคุณน่ะ”
สาวน้อยบ่นแต่ก็ยังดึงกระชากไม่เลิก และสุดท้ายหล่อนก็สามารถถอดมันออกจนได้ จากนั้นมือบางก็จัดการปลดตะขอ รูดซิปกางเกงลงจนสุด
“อีกครั้งนะคะ”
คอร์เนลถอนใจออกมาอย่างยอมรับความพ่ายแพ้ แน่นอนเขาไม่เคยต่อสู้กับความปรารถนาในตัวของแม่ยาหยีแสนหวานคนนี้ชนะเลยแม้แต่สักครั้งเดียว และครั้งนี้มันก็ยิ่งตอกย้ำความปราชัยได้อย่างชัดเจน
“แล้วอย่าร้องว่าเจ็บหลังล่ะ” และแสนอำมหิต สาวน้อยครางออกมาด้วยความพึงพอใจ หล่อนหิวกระหายสัมผัสของเขารุนแรงจนต้องเบียดกายเข้าหา สองมือบางตวัดรัดกายกำยำทรงพลังของเขาเอาไว้แนบแน่น
หากเป็นไปได้ หล่อนอยากขังเขาไว้ในอ้อมแขนนี้ตลอดไป แต่เมื่อรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หล่อนจึงต้องยอมแสดงตัวเป็นสาวร่านร้อนออกมาแบบนี้
ครั้งสุดท้าย…ที่จะจดจำไปจนชั่วชีวิต
“คอร์เนล…”
“ทูนหัว…ผมรักร่างกายของคุณเหลือเกิน”
เสียงแหบพร่าของคอร์เนลคำรามออกมา ขณะที่เขาสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนของหล่อน เขาจูบซับเหงื่อที่หน้าผากให้กับหล่อนเหมือนดังเช่นทุกครั้งที่ทำ ก่อนจะเชยคางหล่อนให้เงยหน้าขึ้นสบตากับนัยน์ตาสีเขียวจัดลึกล้ำ
“คุณน่ารักมากนะลูกหยี ผมไม่น่ามีงานสำคัญเลย”
ปากร้อนๆ ก้มลงมาหา สาวน้อยเผยอปากรับทันที กำลังจะแทรกลิ้นเล็กเข้าไปในอุ้งปากใหญ่ของเขา แต่คอร์เนลดันผละออกห่างเสียก่อน ออกห่างไปทั้งตัว ห่างเสียจนหล่อนเหน็บหนาว
“ผมไม่อยากกลับบ้านช้าไปกว่านี้”
เขาพูดขณะจัดการติดตะขอ รูดซิปกางเกง จากนั้นก็ใส่เข็มขัดหนังให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม สาวน้อยมองการกระทำนั้นน้ำตาคลอ เขากำลังจะไปแล้วจริงๆ
“แต่งตัวนะ ผมจะไปรอที่รถ”
เขาเดินไปหยุดที่ปากประตูห้อง ขณะที่ยาหยียังยืนนิ่งอยู่ที่ผนังห้องในสภาพเปลือยเปล่าเช่นเดิม คอร์เนลกัดฟันแน่นกับภาพงดงามที่เห็น
“เพราะหากผมนั่งรอคุณอยู่ในนี้ มีหวังเราต้องจบกันบนเตียงอีกรอบแน่ๆ เลย” มือใหญ่สีแทนคว้าลูกบิดประตู และกำลังจะเปิดออก แต่เสียงสั่นเครือของยาหยีก็ดังขึ้นเสียก่อน มันหยุดเท้าแกร่งได้อย่างชะงัดนัก คอร์เนลหยุดเดิน แต่ไม่คิดจะหันกลับไปมองเจ้าของเสียง เพราะรู้ดีว่าตัวเองมีภูมิต้านทานเสน่ห์นางของยาหยีน้อยจนติดลบแค่ไหน
“คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉัน…เอ่อ…” จ้องมองแผ่นหลังทรงพลังของคอร์เนลด้วยความอาลัยอาวรณ์
“ฉันอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกนิด แล้วจะกลับไปเองค่ะ”
“ไม่ได้!”
คอร์เนลหันกลับมาจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาแข็งกร้าว ร่องรอยไม่พอใจขึ้นเต็มใบหน้าหล่อกระชากลมหายใจของเขามหาศาลเลยทีเดียว
“คุณต้องกลับไปกับผมนะลูกหยี”
“ขอฉันอยู่ที่นี่ต่ออีกนิดไม่ได้หรือคะ นะคะ แล้วฉันจะตามคุณกลับไปเอง”
“ผมเป็นห่วงคุณ” ในที่สุดคนตัวโตก็ยอมรับออกมา
หากเป็นในยามปกติหล่อนคงหัวใจพองโตไม่น้อย แต่ตอนนี้แม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งของความยินดีหล่อนยังไม่มีติดก้นบึ้งหัวใจเลย ก็กำลังจะลาจากกันแล้วนี่
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะ ฉันไม่มีทาง…ไปจากคุณได้อยู่แล้ว” ยาหยีก้าวเท้าขยับเข้าไปหาคอร์เนลทีละน้อย
“อย่าเข้ามานะลูกหยี ผมใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธคุณหรอกนะ หากคุณเข้ามากอดผมอีกครั้งหนึ่งน่ะ” คอร์เนลรีบร้องห้ามเสียงห้าวลึก ยาหยีหยุดเดิน ฝืนยิ้มหวานให้กับหนุ่มหล่อตรงหน้า
“ให้เซอร์เกมารับฉันก็ได้ค่ะ ถ้าคุณเป็นห่วงฉัน”
คอร์เนลถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด
“แล้วทำไมไม่กลับพร้อมผมล่ะลูกหยี คุณจะทำอะไรอีกกันแน่”
ยาหยีรีบส่ายหน้า
“ไม่มีค่ะ ฉันไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่…อยากนอนฟังเสียงคลื่นอีกสักนิดเท่านั้นเอง ก่อนที่ฉันจะ…ตามคุณไปมอสโกยังไงล่ะคะ”
“รัสเซียก็มีทะเล”
“แต่มันไม่ใช่ทะเลในเมืองไทยนี่คะ นะคะคอร์เนล ขอฉันอยู่ต่ออีกนิด”
แม้จะไม่สบายใจนักที่จะปล่อยให้ยาหยีพักอยู่ในโรงแรมหรูนี้ตามลำพัง แต่ทั้งปัญหาที่ต้องรีบเร่งไปแก้ไข กับคำอ้อนวอนหวานๆ ของแม่สาวน้อยตรงหน้า ทำให้เขาจำต้องพยักหน้ารับปากทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจเลยแม้แต่นิดเดียว
“ก็ได้…แต่เย็นนี้ผมจะให้เซอร์เกมารับ แล้วคุณห้ามเบี้ยวด้วย”
แทนที่ยาหยีจะดีใจกลับร้องไห้ออกมา
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ตามใจฉัน”
“ขอบคุณแล้วร้องไห้ทำไมล่ะ ผมว่าคุณพูดและทำอะไรแปลกๆ มากเลยนะเช้านี้น่ะ”
ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกตขณะมองใบหน้างามอย่างจับพิรุธ
“ตั้งแต่ผมรับโทรศัพท์นั่นแหละ”
ก็ตอนที่เขายังไม่ได้รับโทรศัพท์ ยาหยียังนอนเอียงอายอยู่ใต้ร่างของเขาอยู่เลย แต่พอหลังจากที่เขาพูดคุยกับเซอร์เกจบ เจ้าหล่อนก็ทำเสมือนถูกวิญญาณสาวร้อนรักเข้าสิง ยั่วยวนจนเขาที่ตั้งใจจะยุติเกมรักลงชั่วคราวต้องตบะแตกไปถึงสองครั้งสองครา
“ไม่มีอะไรนี่คะ…ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ”
คอร์เนลที่พยายามจะไม่มองต่ำไปกว่าใบหน้างามของยาหยีเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง
“แน่ใจนะว่าไม่ได้หลอกผม คุณก็รู้ใช่ไหมว่าผมเกลียดคนโกหก”
หญิงสาวพยักหน้าพลางฝืนยิ้มออกไป
“ไม่ได้โกหกหรอกค่ะ ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องโกหกนี่คะ”
“ก็ดี…งั้นตอนบ่ายสามโมงผมจะให้เซอร์เกมารับคุณที่นี่ก็แล้วกัน ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วอย่าลงไปเดินอวดหุ่นสวยๆ ของคุณให้ไอ้หนุ่มๆ ที่ไหนมองล่ะ เพราะถ้าผมรู้ คุณตายคามือของผมแน่ จำเอาไว้นะแม่ลูกหยีแสนหวาน” เขากำลังบอกว่าหวงแหนหล่อนทั้งคำพูดและดวงตาที่ทอดมองมา ยาหยีน้ำตาซึม ข่มความโศกเศร้าเอาไว้ในอก
“ผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณ และก็ต้องเป็นคนสุดท้ายในชีวิตของคุณด้วย ผมไม่เคยมีความคิดจะแบ่งผู้หญิงกับใคร จำเอาไว้”
“ค่ะ…คุณจะเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตของฉัน”
คอร์เนลระบายยิ้มกว้าง อยากจะดึงร่างอรชรเข้ามากอดนัก แต่ก็ไม่อาจจะทำดั่งใจคิดได้ เพราะไม่มั่นใจเลยว่าหากกอดแล้วจะมีปัญญาปล่อยหล่อนออกไปจากอ้อมแขนได้สำเร็จหรือเปล่า กลัวจะไปจบกันบนเตียงอีกครั้งเสียมากกว่า
“งั้นผมไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” ชายหนุ่มกัดฟันกระชากประตูห้องให้เปิดออก
“แล้วอย่าออกไปไหนนะ ผมเป็นห่วง”
เขากำลังจะก้าวเดินออกไป แต่ยาหยีก็ไม่สามารถทนยืนเฉยๆ มองเขาจากไปได้อีกต่อไป หญิงสาววิ่งตามไปกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่น กอดด้วยความรักสุดหัวใจ คอร์เนลตัวเกร็งทันทีเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับเต้าอวบใหญ่บดเคล้ากันแนบแน่น
“เดินทางดีๆ นะคะ”
“กอดผมแบบนี้ ผมก็ทำใจให้ไปจากคุณไม่ได้น่ะสิลูกหยี” มือใหญ่จับสองมือเรียวให้ออกจากกายใหญ่โตของตนเอง จากนั้นเขาก็หันหน้ามาสวมกอดร่างอรชรเอาไว้แนบแน่น ปากร้อนก้มลงจูบกลีบปากสาวหนักหน่วง
“ไว้เจอกันที่บ้านผมนะ”
ยาหยีพยักหน้าทั้งน้ำตา ไม่ขัดขืนเมื่อคนตัวโตปล่อยมือจากร่างกายของตัวเอง
“ค่ะ เราจะเจอกันอีก…”
คอร์เนลยิ้มบางๆ อีกครั้งก่อนจะก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องโดยไม่ได้หันหลังกลับมามองอีกเลย ยาหยีปล่อยน้ำตาที่เก็บกักไว้ให้ทะลักทลายออกมาท่วมท้นใบหน้า ร่างอรชรเปลือยเปล่าทรุดฮวบลงกองกับพื้นพรมด้วยความชอกช้ำรุนแรง
“ไว้เจอกันที่บ้านผมนะ”
ไม่มีทางได้เจอกันอีกแล้ว ทุกอย่างมันจบลงแล้ว และพ่อของหล่อนก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว ดังนั้นหล่อนก็ต้องทำตามคำสัญญาที่ตัวเองให้ไว้กับเซอร์เกเช่นกัน
“ฉันจะไปจากคอร์เนลทันทีที่พ่อของฉันได้รับอิสรภาพ”
หล่อนกำลังจะไปแล้ว กำลังจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเซอร์เก และกำลังจะจากคอร์เนลไปตลอดกาล…
MANGA DISCUSSION