เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 51
‘นั่นไง หล่อนคิดถูกจนได้ คอร์เนลแค่แกล้งปั่นหัวหล่อนเล่นเท่านั้น เขาไม่ได้อยากให้หล่อนรักเขาจริงๆ สักหน่อย เพราะในชีวิตของผู้ชายเลิศเลอเช่นเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยความรักจากใครเลยสักคน โดยเฉพาะผู้หญิงต่ำต้อยที่เขามองไม่ต่างอีตัวเช่นหล่อน’
“ฉันรู้ตัวเองดีค่ะว่าอยู่ตรงไหน”
“ก็ดี…งั้นก็ไปกับผม คุณยังไม่หมดหน้าที่จำไม่ได้หรือไง”
ดวงตาสีเขียวดุจมรกตเนื้อดีจ้องเขม็งกวาดมองร่างกายของหล่อนไม่วางตา ซึ่งมันก็มีผลต่อร่างกายของหล่อนอย่างรุนแรงทีเดียว กายสาวเบ่งบานรอคอย ช่องท้องร้อนระอุราวกับถูกสุมด้วยกองไฟ ขณะที่หัวใจเต้นระรัวถี่ยิบ
“นอนกับผมแบบอันลิมิต…”
“คุณ…”
แก้มสาวแทบลุกเพราะไฟแห่งความอับอาย
“จะบอกว่าไม่ไปหรือไง”
“เอ่อ…ไม่ใช่ค่ะ ฉันแค่อยากขอตัวอาบน้ำก่อน”
คอร์เนลหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะก้าวเข้ามาหาหล่อนอีกครั้ง และการที่เขาเข้ามาใกล้มากกว่าที่ควรจะเป็นมันก็ทำให้หัวใจของหล่อนเต้นระทึกมากขึ้นจนแทบหลุดออกจากขั้ว ยิ่งยามที่เขาก้มหน้าลงมาดมที่ซอกคอระหงด้วยแล้ว กายสาวยิ่งเดือดพล่านรุนแรง
“ตัวคุณหอมออก ไม่เห็นจำเป็นต้องอาบน้ำเลย”
“แต่ว่า…ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะคะตั้งแต่ตอนเช้า” หญิงสาวตอบออกไปเสียงสั่นเทา เงยหน้าสบตากับดวงตาสีเขียวเข้มราวกับถูกสะกดด้วยมนต์ขลังของจอมมารตัวร้าย
คอร์เนลระบายยิ้มออกมา ขณะดึงร่างอรชรเข้ามากอดรัดอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะทำเย็นชาใส่เจ้าหล่อน แต่สุดท้ายแล้วก็ต่อสู้กับความน่ารักน่าใคร่ของเจ้าหล่อนไม่ไหว
‘ช่างหัวมันเถอะ หล่อนจะคิดยังไงกับเขาก็ช่าง จะใช้เขาเป็นสะพานเพื่อข้ามไปหาบิดาก็ตามสบายเลย เขายินดีจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ขอแค่เพียงเจ้าหล่อนตอบสนองความเสน่หาของเขาให้น่ารักน่าชังเหมือนเช่นทุกค่ำคืนที่ผ่านมาก็พอ เพราะการนอนคนเดียวมันทรมานจริงๆ เลยให้ตายสิ!’
“จะอาบก็ได้…แต่ต้องไปอาบกับผมที่บ้าน”
ปากร้อนระอุขยี้ลงมาด้วยความหิวกระหาย สาวน้อยรีบเผยอปากรับลิ้นใหญ่แสนร้อนของคอร์เนลด้วยความเต็มอกเต็มใจ ทั้งคู่โรมรันแลกลิ้นกันอยู่เนิ่นนานกว่าจะหยุดแล้วมาคุยกันต่อ
“เราจะอาบด้วยกัน…”
ยาหยีหน้าแดงก่ำไปจนถึงไรผม เมื่อสมองจินตนาการภาพระหว่างคอร์เนลกับตัวเองในห้องน้ำ ไม่มีทางที่พ่อเจ้าประคุณจะอาบน้ำเฉยๆ แน่ เขาจะต้องทำมากกว่านั้น ในอ่างน้ำหรืออาจจะที่ผนังห้องน้ำ โอ้…แค่คิดท้องไส้ก็บีบเกร็งรุนแรงซะแล้ว
“แต่ว่า…”
“หรือว่าจะอาบด้วยกันในห้องน้ำที่นี่ดีล่ะ แต่มันเล็กไปหน่อยนะ ผมอาจจะทำอะไรไม่ถนัด แล้วคุณก็จะร้องเสียงดังแบบทุกครั้งที่เราร่วมรักกันไม่ได้ด้วย เพราะเสียงมันอาจจะดังไปถึงห้องข้างๆ”
ว่าจินตนาการของหล่อนร้อนแรงมากพอแล้ว แต่พอมาเทียบกับคำพูดชัดๆ โต้งๆ ของคอร์เนล จินตนาการของหล่อนตกขอบเวทีไปเลย
“ดูพูดเข้าสิคะ”
“ผมพูดเรื่องจริงนี่ ไปเถอะ รถผมจอดอยู่ข้างล่าง”
“แต่ว่าฉันต้องอ่านหนังสือสอบนะคะ”
คอร์เนลหัวเราะร่วน
“คุณอ่านมันรู้เรื่องที่ไหนกันล่ะ ลินดาบอกว่าตาคุณมองหนังสือก็จริง แต่ใจของคุณอยู่ที่ผม”
“เอ่อ…” พูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ
“จะบอกว่าไม่จริงใช่ไหมล่ะ”
ไม่มีทางออกใดจะดีไปกว่าการปฏิเสธอีกแล้วล่ะ
“ค่ะ ไม่จริง…”
คอร์เนลแค่นยิ้ม พร้อมกับไหวไหล่กว้างทรงพลังของตัวเองอย่างไม่แยแส
“งั้นก็เอาหนังสือไปด้วย” คนตัวโตคลายอ้อมแขน ก่อนจะเดินไปหยิบหนังสือสองสามเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับหน้าต่างห้องขึ้นมาถือ
“ถ้าคุณยังมีกะจิตกะใจอ่าน หลังจากที่เราสนุกกันเสร็จแล้ว ก็ตามสบาย ไปกันได้แล้ว เร็วเข้า มื้อค่ำรอเราอยู่” คนตัวโตพูดจบก็ถือหนังสือเรียนของหล่อนเดินออกไปจากห้องพักทันที ทิ้งให้ยาหยียืนหน้าแดงก่ำเป็นผลตำลึงสุกอยู่ตามลำพัง
“คนเอาแต่ใจ…”
อยากจะขัดใจผู้ชายร้ายกาจคนนี้นัก แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางสำเร็จ เพราะพ่อเจ้าประคุณบ้าอำนาจ แถมยังเผด็จการสุดขีดอีก ขัดใจทีไรถูกเล่นงานเสียจนหมดเรี่ยวหมดแรงทุกทีไปสิน่า
ยาหยีถอนใจออกมาด้วยไม่มีทางเลือกอื่นใด ก่อนจะวิ่งตามคนตัวโตออกไปจากห้องพัก ระหว่างทางก็สวนกับลินดาที่กำลังเดินขึ้นห้องมาพอดี หล่อนเห็นลินดาแอบหลิ่วตาให้กับคอร์เนล จากนั้นจึงหันมาพูดกับหล่อนด้วยน้ำเสียงล้อเลียนจนแก้มที่แดงอยู่แล้วของหล่อนแทบไหม้
“ขอให้มีความสุขนะแม่ลูกหยีแสนหวาน”
“นี่อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ลูกหยีแสนหวานนะ”
ปกติหล่อนไม่ใส่ใจหรอกว่าเพื่อนสนิทจะเรียกว่าอะไร แต่ตอนนี้มันกำลังโกรธจึงพาลไม่เลือก แถมแม่ลินดาตัวดีกลับไม่มีทีท่าจะสะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว ยังทำหน้าเป็นพูดตอกกลับมาให้หล่อนอายได้อีกต่างหาก
“ก็พ่อเทพบุตรตาเขียวบอกว่าเธอหวานจริงๆ นี่”
“ยายลินดาบ้า นี่แน่ะ!” ยาหยียกมือขึ้นฟาดต้นแขนอวบของเพื่อนรักแรงๆ หลายต่อหลายทีจนคนถูกตีร้องลั่น
“ตีทำไมเนี่ย เจ็บนะ ดูสิแดงเลย”
ลินดาลูบแขนที่มีรอยนิ้วมือของยาหยีป้อยๆ เพราะรู้สึกเจ็บจริงๆ แต่แทนที่เพื่อนจะสงสารกลับสมน้ำหน้าซ้ำซะงั้น โธ่! อุตส่าห์ช่วยเหลือให้สมรัก
“เจ็บให้ตายไปเลยยิ่งดี เจ้าแผนการนักนี่”
“หรือว่าจะไม่ไปล่ะ นู่น! พ่อเทพบุตรตาเขียวยืนที่รถนานแล้วนะ เดี๋ยวพ่อคุณโกรธขึ้นมาอีกจะถูกขยำทั้งคืนแบบอันลิมิตแล้วอย่าหาว่าเพื่อนรักคนนี้ไม่เตือนนะจะบอกให้”
ลินดาหัวเราะร่วนขณะรีบซอยเท้าวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ยาหยีจมอยู่กับความขัดเขินเพียงลำพัง
“เสียแรงที่เป็นห่วง ยายลินดาบ้า”
บ่นต่อว่าเพื่อนสนิท แล้วก็อดพาลไปถึงพ่อรูปหล่อที่กำลังนั่งรออยู่ในรถสปอร์ตราคาเฉียดร้อยล้านตรงหน้าด้วยไม่ได้
เมื่อไรหล่อนถึงจะหลุดพ้นจากเสน่หาอันแสนร้ายกาจของผู้ชายคนนี้สักทีนะ เมื่อไรถึงจะแข็งข้อกับเขาได้สักที ยาหยีถอนใจออกมาขณะก้าวลงบันไดไปช้าๆ มุ่งหน้าตรงไปยังรถสีดำคันงามที่มีคอร์เนลนั่งรออยู่ด้วยหัวใจที่เต้นแรงเป็นจังหวะแทงโก้เลยทีเดียว