เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 50
เสียงเคาะประตูห้องแรงๆ ทำให้ยาหยีที่กำลังนั่งเปิดหนังสือไปมาอย่างคนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสะดุ้งโหยง สาวน้อยหันไปมองรอบๆ ห้องเพื่อหาลินดาแต่ก็ไม่พบ จึงปิดหนังสือที่อ่านมาตั้งชั่วโมงหนึ่งแล้วก็ยังอยู่หน้าเดิมลงวางกับโต๊ะ จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูห้อง
“ใครกันนะไม่มีมารยาทเลย เคาะอยู่ได้”
อดบ่นกับพฤติกรรมของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งประตูไม่ได้ เคาะเอาๆ ไม่เกรงใจคนอื่นบ้างเลย มือบางกำลูกบิดแล้วก็กระชากมันออกแรงๆ กำลังจะเปิดปากต่อว่าแต่ปากก็มีอันต้องค้างเติ่ง คำพูดเจ็บๆ ที่คิดเอาไว้ไหลกลับลงคอไปจนหมด เมื่อคนไร้มารยาทตรงหน้าคือคอร์เนล!
“คอร์เนล!”
ความตกใจทำเอาหล่อนยืนอึ้งกิมกี่ อึ้งจนไม่รู้แม้กระทั่งว่าคนตัวโตเดินผ่านประตูเข้ามายืนอยู่กลางห้องตั้งแต่ตอนไหน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เห็นเขานั่งบนเตียงนอนแคบๆ ของหล่อนนั่นแหละ
“คุณมาทำไม?”
ปิดประตูเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาของเพื่อนข้างห้อง ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม คอร์เนลไหวไหล่ทรงพลังของตัวเองน้อยๆ
“เพื่อนของคุณโทรไปบอกผมว่าคุณโศกเศร้ามากที่ผมไม่มารับ”
“ไม่จริง! และก็กลับไปได้แล้วด้วย ไปสิ”
ยาหยีชี้นิ้วไล่ด้วยความขัดเคือง แต่คนถูกไล่กลับดันไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว แถมยังส่งรอยยิ้มเหยียดหยันใส่หน้าของหล่อนอีกต่างหากแน่ะ
“ออกไปนะ!”
“งั้นเพื่อนของคุณก็โกหกน่ะสิ อย่างนี้ผมคงต้องให้คนมาลากไปตัดแขนตัดขาสักหน่อย โทษฐานโกหกมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่”
คำพูดทีเล่นทีจริงของคอร์เนลทำเอายาหยีเบิกตาค้างด้วยความตื่นตกใจ ซึ่งตรงข้ามกับชายหนุ่มที่แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่สาวน้อยตรงหน้าจะหลอกง่ายหลอกดายแบบนี้
“แล้วนี่หายไปล่ะ ผมจะได้ให้คนมาลากตัวไป”
“อย่านะ อย่าทำอะไรลินดานะ” ยาหยีร้องห้ามเสียงเครือ ขณะยื่นมือเข้ามาจับต้นแขนของชายหนุ่มเอาไว้อย่างอ้อนวอน
“ได้โปรดอย่าทำลินดานะคอร์เนล ได้โปรดเห็นแก่ฉันเถอะ”
คนตัวโตซ่อนยิ้ม แกล้งแกะมือนุ่มออกจากแขนตัวเอง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินไปหยุดมองออกไปนอกหน้าต่างห้อง ยาหยีรีบเดินตามไปหยุดอยู่ข้างหลังทันที
“แต่เพื่อนของคุณโกหกผม ผมเป็นมาเฟียจะปล่อยให้ใครมาลูบคมไม่ได้หรอก”
“ก็ไหนเชอรี่บอกว่าคุณไม่ได้เป็นมาเฟียไงคะ”
“ในสายตาของคุณ ผมเป็นมาเฟียตลอดเวลาไม่ใช่หรือ ผมก็เป็นแล้วนี่ไง จะตัดแขนตัดขาแม่ลินดาแล้วใส่กล่องพัสดุมาให้คุณเป็นของขวัญวันปีใหม่ก็แล้วกัน”
คอร์เนลทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง ยาหยีไม่มีทางเลือกอื่นใดจึงต้องโผเข้ากอดรัดร่างกำยำเอาไว้ เพราะรู้ว่านี่คือวิธีเดียวที่จะหยุดยั้งชายหนุ่มได้
“ได้โปรดอย่าทำอะไรลินดาเลย ลินดาอาจจะหวังดี…”
“หวังดี?”
นิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยขึ้นประสานสายตากับตัวเอง
“เพื่อนคุณหวังดียังไง ไหนลองบอกผมให้เข้าใจหน่อยสิ”
ยาหยีกัดปากแน่น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวเข้มดุจมรกตเนื้อดี และก็เหมือนถูกดูดให้หลุดหลงเข้าไปภายในนั้น
“ฉัน…”
“คุณทำไม?”
“ฉัน…เอ่อ…” รอแล้วรอเล่าแม่ยาหยีคนดีก็ยังไม่พูดออกมาสักที คอร์เนลจึงคำรามออกมาอย่างสิ้นสุดความอดทน
“ถ้าไม่พูดคราวนี้นะ ผมไม่ฟังแล้วด้วย และคุณก็คงรู้นะว่าจะได้อะไรเป็นของขวัญจากผม”
‘แขนขาลินดาใช่ไหม? ไม่ได้ หล่อนปล่อยให้ลินดาต้องมารับเคราะห์กรรมแบบนี้ไม่ได้ ลินดาแค่หวังดี เพื่อนของหล่อนแค่หวังดีเท่านั้นเอง’
“ฉันคิดถึงคุณจริงๆ แล้วก็ร้องไห้จนตาบวม ลินดาคงเห็นเลยสงสารก็เลยโทรไปหาคุณ”
ในที่สุดก็สามารถกัดฟันพูดออกไปได้จนจบประโยค อับอายจนใบหน้าร้อนผ่าวแทบลุกเป็นไฟจนต้องก้มหน้าหลบตาคมกริบ และความขัดเขินนี้ก็ทำให้หล่อนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามือใหญ่ของคอร์เนลที่เคยทิ้งอยู่ข้างกายนั้นตอนนี้ยกขึ้นมาสวมกอดร่างของหล่อนเอาไว้อย่างแน่นหนา
“ขอร้องอย่าทำอะไรลินดาเลยนะคะ ลินดาไม่ได้โกหก”
“คุณคิดถึงผมจนร้องไห้จริงๆ หรือ”
คอร์เนลถามย้ำเสียงนุ่มนวล ขณะใช้ความสามารถส่วนตัวดันร่างอรชรให้ถอยหลังตรงไปยังเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งที่อยู่ไม่ไกลนักอย่างง่ายดาย
“ฉัน…เอ่อ…ฉัน…แค่รู้สึกอ้างว้างเท่านั้นเอง”
“รักผมหรือเปล่า”
คำพูดนี้ทำให้ยาหยีถึงกับเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาเบิกกว้าง กลีบปากเผยอแย้มเย้ายวนชวนให้ขยี้เหลือเกิน
“เอ่อ…”
“รักผมหรือเปล่า”
‘รักสิคะ รักมากด้วย’
สาวน้อยร้องตอบคนตัวโตภายในใจ แต่ข้างนอกใจหล่อนไม่อาจจะตอบเช่นนี้ออกไปได้ หล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดรักเขาด้วยซ้ำไป
“อีตัวไม่มีสิทธิ์หลงรักนายจ้างหรอกค่ะ”
“แล้วถ้าผมให้สิทธิ์นั้นล่ะ คุณจะรับมันไว้หรือเปล่า”
‘นี่เขากำลังล้อเล่นอะไรกับหล่อนหรือเปล่า เขากำลังจะปั่นหัวอะไรหล่อนหรือเปล่า ก็ไหนเขาบอกว่าหากหล่อนหลงรักเขาเมื่อไร ก็มีแต่หล่อนเท่านั้นแหละที่จะเจ็บปวด แต่นี่…เขากำลังเชิญชวนให้หล่อนบอกรักเขาเสียอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ?’
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ เราอย่าพูดเรื่องนี้กันเลยดีกว่า”
หล่อนเห็นชายหนุ่มนิ่งเงียบไปนานเลยทีเดียว ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา
“ลืมมันซะเถอะนะ ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าสมองตัวเองไม่ค่อยปกติเท่าไร” คอร์เนลปล่อยมือจากร่างกายของหล่อน และถอยออกห่างหลายก้าว
ยาหยีเป่าปากโล่งอกที่ตัวเองหลุดออกมาจากอ้อมแขนของคอร์เนลได้ทันเวลา เพราะหากนานกว่านี้หล่อนกับเขาคงต้องไปจบกันบนเตียงอย่างแน่นอน
“คุณพูดถูก อีตัวไม่มีสิทธิ์อาจเอื้อมรักนายจ้างอยู่แล้ว ดังนั้นคุณก็อย่ามาหลงรักผมเข้าก็แล้วกัน”