เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 49
‘คอร์เนลยังไม่หายโกรธหล่อน’
นี่คือเรื่องจริงที่มันรบกวนจิตใจของหล่อนมาตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้บ่ายสองโมง หญิงสาวเดินทอดถอนใจออกมาจากห้องสอบ ใบหน้างามเคร่งเครียดและโศกเศร้าจนเพื่อนสนิทอย่างลินดาที่ออกมาจากห้องสอบก่อนต้องนิ่วหน้าด้วยความสงสัย
“ทะเลาะกับพ่อเทพบุตรตาเขียวมาหรือไงแม่ลูกหยี”
เสียงคุ้นหูของลินดาทำให้คนที่เดินใจลอยอย่างยาหยีสะดุ้งและหันไปมองต้นเสียง ก่อนจะรีบปั้นยิ้มเนือยๆ เมื่อเห็นสายตาจับผิดของเพื่อนสนิท
“เอ่อ…ไม่มีอะไรหรอกลินดา”
ลินดาส่ายหน้าไม่เชื่อ ขณะลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของหล่อน
“โกหก! หน้าตาเธอมันฟ้องน่ะว่ากำลังทุกข์”
ยาหยีก้มหน้าหลบสายตารู้ทันของเพื่อน
“ไม่มีอะไรนี่ ก็แค่ทำข้อสอบไม่ค่อยได้เท่านั้นเอง”
“นี่แม่ลูกหยีจ๋า ฉันเคยบอกเธอไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าหน้าของเธอมันฟ้องทุกอย่างที่เธอกำลังคิดอยู่ทั้งหมดนั่นแหละ แถมยังอ่านง่ายมากๆ อีกด้วย”
“จะบ้าหรือไง มันหน้าคนนะไม่ใช่หนังสือสักหน่อย” ยาหยีเถียงไม่เต็มเสียงนัก ขณะที่ลินดาหัวเราะร่วน
“อย่ามาเฉไฉเลย บอกมาซะดีๆ ว่าเธอทะเลาะอะไรกับพ่อเทพบุตรตาเขียว แต่มันคงจะรุนแรงพอดูทีเดียวใช่ไหม เพราะดูเธอโศกเศร้าเหลือเกินนี่”
ยาหยีเม้มปากแน่น ข่มความขมขื่นลงไปในอก ขณะกวาดตามองหารถคันงามที่เคยมาจอดรอรับหลังหล่อนเลิกสอบเมื่อวานอย่างรอคอย แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
‘เขาคงไม่มา…ใช่ เขาไม่มาจริงๆ’
เจ็บแต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ในอกอย่างมิดชิด…
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ลินดา ไปกันเถอะ ฉันอยากกลับหอแล้ว อยากไปอ่านหนังสือสอบวันพรุ่งนี้” ยาหยีรีบก้าวเดินไปทันที ลินดาอ้าปากค้างก่อนจะรีบวิ่งตามไปเช่นกัน
“นี่แม่ลูกหยี แล้วเธอไม่กลับไปค้างกับพ่อเทพบุตรตาเขียวเหรอ”
“ไม่…” ยาหยีส่ายหน้าน้อย ตอบสั้นๆ
“เดี๋ยวพ่อเจ้าประคุณก็ขึ้นมาลากตัวเธอถึงเตียงอีกหรอก กลับไปที่นั่นเถอะน่า ฉันไม่อยากถูกฉีกอกด้วยข้อหาทำให้เธอห่างเหินจากเขา” ลินดาพูดทีเล่นทีจริง
ร่างอรชรของยาหยีหยุดเดินกะทันหัน ก่อนจะหันขวับมามองหน้าเพื่อนรักเขม็ง
“ถ้ายังอยากคบกับฉันต่อไป เลิกพูดถึงผู้ชายคนนี้ทีเถอะ ฉันไม่อยากได้ยินชื่อของเขา”
“เอ่อ…” คราวนี้เป็นลินดาที่ยืนอึ้งพูดไม่ออก “คือว่าลูกหยี ฉันอยากให้เธอ…”
“ลินดา…ต้องให้ไหว้หรือเปล่า เธอถึงจะหยุดพูดถึงผู้ชายคนนั้น ถ้าใช่ ฉันก็จะทำ”
เมื่อเห็นยาหยีทำท่าจะยกมือขึ้นไหว้จริงๆ ลินดาจึงต้องรีบรับปากทันที
“ก็ได้ ฉันจะพยายามไม่พูดถึงพ่อเทพบุตรตาเขียวนั่นอีก”
“ขอบใจมาก ขอบใจจริงๆ”
ยาหยีเอ่ยขอบคุณลินดาเสียงสั่นเครือ รีบหมุนตัวหันหลังให้กับเพื่อนรักทันทีเมื่อน้ำตาไม่รักดีทะลักไหลออกมาอาบแก้ม ลินดาถอนใจออกมาแรงๆ ด้วยความสงสารก่อนจะเดินตามเพื่อนรักไปห่างๆ ด้วยความห่วงใย
‘อย่างนี้ถ้าหล่อนไม่ช่วย ยายลูกหยีแสนหวานเพื่อนรักก็คงต้องนอนร้องไห้ตลอดทั้งคืนแน่ๆ’
“นั่นนายน้อยจะไปไหนหรือครับ ดูรีบร้อนจังเลย”
เซอร์เกร้องถามคอร์เนลด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเจ้านายหนุ่มวิ่งหน้าตั้งลงมาจากบันได
“เอากุญแจรถสปอร์ตมา”
คอร์เนลไม่ได้ตอบคำถามของคนสนิท แต่เลือกที่จะแบมือตรงหน้า พร้อมๆ กับเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงกระด้าง
“นายน้อยจะออกไปข้างนอกหรือครับ ผมจะขับรถให้…”
“ไม่ต้อง ฉันบอกว่าต้องการกุญแจรถไงเซอร์เก หูแตกหรือไง”
เมื่อเห็นว่าโทสะของคอร์เนลทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ เซอร์เกจึงจำเป็นต้องให้ในสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าต้องการ
“นี่ครับ”
คอร์เนลคว้ากุญแจรถมาได้ก็เดินลิ่วๆ ไปที่รถสปอร์ตสีดำคันงามของตัวเอง เซอร์เกรีบวิ่งตามไปทันที
“เอ่อ…นายน้อยครับ ผมจะขับรถตามไปนะครับ เผื่อนายน้อยอาจจะจำเส้นทางไม่ได้”
คอร์เนลที่กำลังเปิดประตูรถหันขวับกลับมาจ้องหน้าคนสนิทเขม็ง
“หอพักของยาหยีไม่ใช่เส้นทางใหม่ที่ฉันไม่เคยไป” ชายหนุ่มกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถ
“ฉันรู้ว่านายเป็นห่วง แต่พอได้แล้วล่ะเซอร์เก ฉันโตเป็นหนุ่มแล้ว และตอนนี้ก็กำลังจะไปหาเมียของตัวเองด้วย”
รถสปอร์ตความแรงสูงแล่นทะยานออกไปในพริบตา แต่เซอร์เกก็ยังคงอ้าปากค้างกับคำพูดของนายน้อยที่ตัวเองได้ยิน
‘กำลังจะไปหาเมีย’
เขาคงช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว เขาต้องทำทุกอย่างให้เร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นคอร์เนลจะต้องถูกหายนะลูกใหญ่ซัดจนปางตายอย่างแน่นอน
เด็กยาหยีไม่มีทางรักนายน้อยของเขาด้วยหัวใจจริงๆ หรอก ยังไงลูกก็ต้องเหมือนกับพ่อ และเมื่อนายยอดชายไม่เคยจงรักภักดีต่อคอร์เนล แล้วลูกสาวของมันจะไว้ใจได้ยังไงกัน
“อีวาน…เราช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว” เซอร์เกหันไปพูดกับหลานชายที่พึ่งเดินเข้ามาหาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“แล้วเราจะเริ่มเมื่อไรครับน้าเซอร์เก”
“วันพรุ่งนี้คุณยาหยีจะสอบเป็นวันสุดท้าย และนายน้อยก็จะพาเธอไปเที่ยวไม่กลับมาที่นี่” เซอร์เกพูดถึงสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้มาจากคอร์เนลให้กับหลานชายฟัง
“น้าจะใช้โอกาสนี้ใช่ไหมครับ ในการปล่อยนายยอดชาย”
เซอร์เกพยักหน้าน้อยๆ
“ใช่ มันเป็นโอกาสเดียวที่เราจะทำได้”
“แล้วนายน้อยล่ะครับ หากนายน้อยรู้ว่านายยอดชายหายไปละก็ มีหวังบ้านแตกแน่” แม้จะร่วมมือกับน้าชายแต่อีวานก็อดหวาดกลัวต่อแรงอารมณ์ของคอร์เนลไม่ได้ เพราะเป็นที่รู้ๆ กันดีอยู่ว่าคอร์เนลนั้นเวลาโกรธร้ายกาจแค่ไหน
“ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนั้นน่ะ ฉันเตรียมรับมือไว้แล้ว”
“ครับ ผมเชื่อว่าน้าทำได้แน่” เมื่อเห็นเซอร์เกรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ อีวานก็คลายกังวลลงได้บ้างแม้มันจะไม่ทั้งหมดก็ตาม