เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 48
“ไม่ไปเที่ยวโรมด้วยกันจริงๆ หรือลิน่า”
รูธเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่วันนี้เดินทางมาส่งหล่อนที่สนามบินเพื่อมุ่งหน้ากลับมอสโกเอ่ยขึ้นด้วยความเสียดาย
‘ใช่…หล่อนเองก็เสียดายที่ไม่ได้ไปท่องเที่ยวเมืองแสนโรแมนติกอย่างกรุงโรม แต่ภารกิจที่บิดาขอร้องให้ทำนั้นมันยิ่งใหญ่กว่า และยิ่งรู้ว่ามันเป็นความต้องการของคอร์เนลด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งต้องทำให้สำเร็จ เพื่อตอบแทนบุญคุณของนายน้อย’
“ไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะ ฉันไม่ว่างจริงๆ”
“ขาดเธอก็ไม่สนุกน่ะสิ แล้วที่นี่ใครจะเป็นตัวดูดหนุ่มๆ ให้เข้ามาคุยกับพวกเราล่ะ หนุ่มอิตาเลียนยิ่งหล่อลากไส้อยู่ด้วย” เป็นรูธคนเดิมที่พูดออกมา
“ดูพูดเข้าสิรูธ นี่เธอเห็นยายลิน่าเป็นอะไรจ๊ะ” เพื่อนอีกคนในกลุ่มขัดขึ้น
“ก็ในกลุ่มเราลิน่าสวยที่สุดนี่ เวลาไปไหนก็จะมีผู้ชายเข้ามาทักทายเป็นฝูง” รูธยังยืนยันคำเดิม เมลิน่าได้ฟังก็หัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
“ฉันไม่ได้ดูดีขนาดนั้นสักหน่อย พวกผู้ชายเข้ามาหาเพราะพวกเธอต่างหาก”
“อย่ามาถล่มตัวไปหน่อยเลยเมลิน่า ก็เพราะเธอไม่ใช่เหรอที่ทำให้หนุ่มนักบาสกับหนุ่มรักบี้ต่อยกันเละเมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะ”
รูธพูดถึงเหตุการณ์ที่นักกีฬาหนุ่มสองประเภทต่อยตีกันเพราะแย่งกันเข้ามาจีบหล่อน มันไร้สาระมาก และหล่อนก็ไม่ชื่นชมการทำอะไรโดยใช้กำลังแบบนี้แม้แต่นิดเดียว
“มันเรื่องบังเอิญน่ะ เอ่อ…แล้วพวกเธออย่าลืมถ่ายรูปน้ำพุเทรวีมาฝากด้วย ฉันอยากเห็น”
“แน่นอนไม่ลืมหรอกจ้ะ เธอก็เดินทางปลอดภัยล่ะ ถึงมอสโกแล้วโทรมาหากันบ้าง” รูธเริ่มพูดเป็นการเป็นงานเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่เพื่อนสนิทต้องเดินทางแล้ว
“ขอบใจจ้ะ แล้วเจอกันตอนเปิดเทอมนะ บาย…” เมลิน่ายกมือขึ้นโบกให้กับเพื่อนทั้งสองคน
“จ้ะ ดูแลตัวเองดีๆ นะ” รูธโบกมือตอบ มองจนเมลิน่าหายเข้าไปในห้องรับรองผู้โดยสาร จากนั้นจึงพากันเดินออกมาจากสนามบิน
“เราไปไหนกันต่อดีล่ะรูธ” แพตตี้เอ่ยถามเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆ
“กลับหอเถอะ ฉันอยากพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกเราก็ต้องเดินทางไปโรมแล้ว จะได้เตรียมข้าวเตรียมของด้วย” รูธออกความคิดเห็น ซึ่งแพตตี้ก็เห็นด้วย
“ตามนั้นก็ได้ งั้นเรียกรถแท็กซี่เลย นั่นไงมาแล้ว”
สองสาวกำลังจะโบกมือเรียกรถแท็กซี่แต่เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของรูธดันดังขึ้นเสียก่อน รูธขมวดคิ้วเพราะจำเสียงเรียกเข้าได้ว่ามันไม่ใช่ของตัวเอง
“ของเธอหรือเปล่าแพตตี้”
“ไม่ใช่ มันดังจากในกระเป๋าเธอไม่ใช่หรือรูธ”
รูธรีบหยิบกระเป๋าของตัวเองออกมาค้น แล้วก็พบเจ้าโทรศัพท์มือถือที่กำลังกรีดร้องอยู่
“นี่มันของยายลิน่านี่ แล้วทำไมมันมาอยู่ในกระเป๋าฉันได้ล่ะ” รูธร้องออกมาด้วยความตกใจ แพตตี้รีบชะโงกหน้าเข้ามาดู
“ใช่ ของลิน่าจริงๆ ด้วย สงสัยตอนที่เราลงมาจากหอพักแน่เลย จำได้ไหมรูธ ลิน่าลืมไว้บนเตียง เธอหยิบใส่กระเป๋ามาตั้งใจจะเอามาให้ แต่ดันลืมเสียนี่”
“จริงด้วย แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ นั่นพ่อของลิน่าโทรเข้ามาด้วย”
รูธอุทานด้วยความเดือดเนื้อร้อนใจ มองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของลิน่านิ่ง
“รับดีไหมแพตตี้”
“ก็รับไปสิ แล้วบอกว่าลิน่าลืมโทรศัพท์เอาไว้ในกระเป๋าเธอ แต่พวกเรากำลังจะเอาไปคืน” แพตตี้ออกความคิดและเร่งให้รูธรับสายจากเซอร์เก
รูธสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนจะตัดสินใจรับสาย
“เอ่อ…สวัสดีค่ะคุณพ่อ พอดีลิน่าลืมโทรศัพท์มือถือไว้กับหนูน่ะค่ะ ว่าแต่คุณพ่อมีเรื่องด่วนหรือเปล่าคะ อ๋อ! ค่ะ ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูจะรีบเอาไปให้ลิน่าเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“คุณพ่อของลิน่าว่ายังไงบ้าง” แพตตี้รีบถามเมื่อเห็นรูธกดตัดสาย
“ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกว่าต้องการคุยกับลิน่า” รูธยังเก็บโทรศัพท์ของเมลิน่าลงกระเป๋าของตัวเองไม่ทันเสร็จก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“เฮ้ย! แพตตี้ เครื่องที่ยายลิน่านั่งออกกี่โมง”
“สิบโมงสิบห้า…”
แพตตี้ตอบออกมาเสียงดังฟังชัด รูธที่หน้าซีดเผือดรีบก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วก็อุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“เหลืออีกห้านาที…เร็วเข้าแพตตี้ รีบเอาโทรศัพท์ไปให้ยายลิน่าเร็วเข้า!”
สองสาวตั้งหน้าตั้งตาวิ่งกลับเข้าไปในสนามบิน แต่ระยะทางไกลเอาการเลยทีเดียว และคนก็ยั้วเยี้ยกีดขวางทางจนน่าอารมณ์เสีย
“จะทันไหมเนี่ย” แพตตี้พึมพำ ขณะวิ่งตามร่างของรูธที่กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังประชาสัมพันธ์
“เอ่อ…เที่ยวบินปารีส-มอสโกออกไปหรือยังคะ” รูธละล่ำละลักถามเสียงหอบเหนื่อย
ประชาสัมพันธ์กดอะไรสักสามทีก็ยิ้มหวาน และตอบออกมา
“เที่ยวสิบโมงสิบห้าใช่ไหมคะ ออกไปแล้วค่ะเมื่อกี้นี้เอง”
“ออกไปแล้วหรือคะ!”
ทั้งรูธและแพตตี้อุทานออกมาพร้อมกัน
“ค่ะ ออกไปแล้ว ก็นี่มันสิบโมงสิบห้าแล้วนี่คะ”
รูธกับแพตตี้เดินคอตกออกมาจากโต๊ะของประชาสัมพันธ์สาวแสนสวย รู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่ไม่สามารถคืนโทรศัพท์มือถือให้แก่เมลิน่าได้ อย่างนี้มีหวังพวกหล่อนคงติดต่อกันไม่ได้ไปตลอดสามเดือนเต็มแน่ๆ เลย