เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 44
“นายน้อยครับ มีโทรศัพท์ด่วนมาจากออฟฟิศที่มอสโกครับ”
คอร์เนลที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถเพื่อไปรับยาหยีตามที่ได้รับปากกับหญิงสาวเอาไว้ชะงักและหันกลับไปมองคนสนิทต่างวัยทันที
“ลอร่านี่ใช้ไม่ได้เลย ฉันสั่งแล้วว่าอย่าโทรมารบกวน”
หนุ่มหล่อบ่นงึมงำด้วยความไม่พอใจเมื่อเลขาฯ ประจำตัวของตนเองขัดคำสั่งโดยการโทรมารบกวนเขาอีกครั้ง
“เรื่องด่วนครับ มิสเตอร์ลีทวงถามสัญญาครับ” เซอร์เกยื่นโทรศัพท์ให้กับคอร์เนล ชายหนุ่มรับขึ้นมาถือเอาไว้
“แต่ฉันต้องไปรับยาหยีที่มหาวิทยาลัย” น้ำเสียงของคอร์เนลเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“ผมจะไปรับเธอมาให้เองครับ นายน้อยไม่ต้องเป็นห่วง”
ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะรู้สึกว่างานตรงหน้าน่าเบื่อหน่ายเช่นนี้มาก่อน ทำไมสมองของเขาในทุกๆ เซลล์ถึงได้มีแต่ชื่อและภาพของยาหยีมากมายเช่นนี้นะ
“ก็ได้ พาเธอมาหาฉันทันทีที่เธอสอบเสร็จเลยล่ะ”
“ครับนายน้อย”
เซอร์เกก้มหน้าน้อมรับคำสั่ง ขณะมองร่างสูงใหญ่ของคอร์เนลที่เดินคุยโทรศัพท์หายเข้าไปในตึกใหญ่ด้วยสายตาเป็นกังวล
‘นายน้อยของเขาเป็นหนักขึ้นทุกวันเลย ดูสิ ถึงขนาดลังเลเลือกไม่ได้ว่าจะไปรับเด็กยาหยีดีหรือจะคุยโทรศัพท์เรื่องงานดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนคอร์เนลจะเลือกงานโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป และมันก็เปลี่ยนไปในทางลงสู่หายนะด้วย’
เซอร์เกพ่นลมออกจากปากหนักหน่วง ก่อนจะก้าวขึ้นรถและขับมันออกไปอย่างรวดเร็ว
ยาหยียกมือขึ้นโบกให้ลินดาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะก้าวขึ้นรถสีดำเงาวับที่จอดอยู่เบื้องหน้า รอยยิ้มหวานฉ่ำแต้มใบหน้างามเพราะคาดหวังว่าจะได้พบกับคอร์เนลในห้องผู้โดยสาร แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นได้ความว่างเปล่า
สาวน้อยนั่งนิ่งไปเงียบๆ ตลอดทาง พยายามคิดว่าคอร์เนลอาจจะกำลังยุ่งเลยมารับหล่อนไม่ได้ตามสัญญา แต่หัวใจเจ้ากรรมมันก็ไม่ยอมรับฟังอยู่ดี เจ้าความโศกเศร้าความน้อยอกน้อยใจที่เพียรขังเอาไว้ในลิ้นชักจึงพุ่งโพลงขึ้นมาในอกทันที และน้ำตาก็ซึมไหลออกมา
‘ในที่สุดก็ต้องร้องไห้อีกครั้ง เพราะความรักที่มีต่อเขา’
หญิงสาวมัวแต่จมอยู่กับความเสียใจ จนไม่รู้เลยสักนิดว่ารถคันงามที่วิ่งอยู่นั้นได้เลี้ยวเข้ามาจอดสนิทในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มารู้ตัวก็ตอนที่เซอร์เกเปิดประตูรถฝั่งหล่อนนั่นแหละ
“ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณครับ”
มือบางรีบยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง มองผู้ชายที่เปิดประตูให้ด้วยความตื่นตกใจ
“ที่นี่ที่ไหน แล้วพาฉันมาทำไม?”
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมไม่ได้คิดร้าย แค่อยากคุยกับคุณเท่านั้นเอง”
ยาหยีเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนจะก้าวลงไปจากรถ เซอร์เกพาหล่อนเดินไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวยาว ขณะที่เขายืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ความจริงถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น หล่อนคงจะขวัญหนีดีฟ่อไปแล้ว แต่นี่เป็นเซอร์เกผู้ชายที่ถึงแม้แต่จะทำหน้าบูดบึ้งยังไงก็ยังดูใจดีในสายตาของหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง
“คุณมีอะไรจะพูดกับฉันหรือคะ”
“ผมอยากพูดเรื่องนายน้อย”
เซอร์เกไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา เขาเจาะตรงประเด็นทันที และนั่นก็ทำให้คนฟังถึงกับนั่งอ้าปากค้างด้วยความเคลือบแคลง
“เรื่องของคอร์เนล?”
“ใช่ครับ เรื่องของนายน้อย”
หล่อนเห็นคนสนิทของคอร์เนลถอนใจออกมาแรงๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็จ้องหน้าหล่อนเขม็งราวกับต้องการจะอ่านความคิดของหล่อน
“ผมอยากให้คุณไปจากนายน้อยซะ”
ยาหยีเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“หมายความว่ายังไงกันคะ? เขาให้คุณมาบอกฉันใช่ไหม”
ทุกความรู้สึกที่ไม่ดีในโลกนี้กำลังโจมตีหล่อนอย่างอำมหิต กัดปากของตัวเองจนไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว
“ไม่ใช่หรอกครับ นายน้อยไม่รู้เรื่องนี้หรอก แต่เป็นผมที่ต้องการให้คุณไปเอง”
“คุณกำลังจะพูดอะไรกับฉันกันแน่”
“ตั้งแต่ที่ผมรับใช้นายน้อยมา นายน้อยของผมไม่เคยวิ่งตามผู้หญิงคนไหนมาก่อน ในสายตาของนายน้อยผู้หญิงก็แค่วัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น แค่ค่ำคืนเดียวกับเงินจำนวนมาก ทุกอย่างก็จะยุติลง แต่กับคุณ…คุณอยู่กับนายน้อยนานเกินไป และนับวันก็จะยิ่งมีอิทธิพลกับนายน้อยมากจนผมอดเป็นห่วงไม่ได้”
‘นี่เซอร์เกอยากจะพูดอะไรกับหล่อนกันแน่นะ หล่อนงงไปหมดแล้ว’
“ฉันคิดว่า…”
คนสนิทวัยกลางคนเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นยาหยีตั้งท่าจะแย้ง
“คุณทำให้นายน้อยเลือกไม่ได้ระหว่างงานแล้วก็คุณ ทั้งๆ ที่หากเป็นในอดีต นายน้อยจะเลือกงานโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยด้วยซ้ำไป คุณทำให้ตารางการดำเนินชีวิตของนายน้อยรวนจนพังยับเยิน และผมก็มั่นใจว่านายน้อยจะต้องพาคุณกลับไปที่มอสโกด้วย…” เซอร์เกหยุดพูดจ้องใบหน้าของยาหยีนิ่ง
“ซึ่งผมไม่อยากให้คุณไป”
“ฉัน…ฉันไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับเขาอย่างที่คุณคิดหรอก” ตอบออกไปปากคอสั่น เมื่อสมองนึกถึงวันที่จะไม่มีคอร์เนลห่างกาย
“คุณอาจจะมองไม่เห็นมัน แต่ผมอยู่กับนายน้อยมานาน ผมรู้ดีว่านายน้อยเปลี่ยนไป และคุณก็คือตัวการนั้น”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจหรอก นายน้อยของคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเลย เขาแค่ยังไม่เบื่อหน่ายในตัวของฉันเท่านั้นเอง” ยาหยีพยุงกายให้ลุกขึ้นยืนทั้งๆ ที่แขนขาอ่อนแรงเหลือเกิน
“ถ้าคิดอย่างนั้นก็ไปจากนายน้อยเสียสิครับ เดินจากไปซะ นายน้อยจะได้กลับมาเป็นผู้ชายคนเดิมสักที”
“ผู้ชายไร้หัวใจใช่ไหมที่คุณอยากให้คอร์เนลเป็น” หญิงสาวโพล่งออกไปทั้งน้ำตา กัดปากแน่นจนไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว
“เอาละ…ฉันสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับนายน้อยของคุณอีก หากคุณทำให้พ่อของฉันเป็นอิสระจากกรงขังนั้นได้”
เซอร์เกจ้องมองใบหน้าของสาวน้อยที่สามารถเขย่าหัวใจกระด้างของเจ้านายหนุ่มของตนเองได้นิ่ง พลางถอนใจแรงๆ และพูดออกมา
“อีกไม่นานนายน้อยจะปล่อยพ่อของคุณ ซึ่งผมรับปากว่าจะช่วยให้วันแห่งอิสรภาพนั้นมันมาถึงเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คุณอย่าผิดคำพูดก็แล้วกัน”
ยาหยีพยักหน้าน้ำตาเอ่อซึมขอบตา
“ฉันจะไปจากคอร์เนลทันทีที่พ่อของฉันได้รับอิสรภาพ”
“ขอบคุณครับที่คุณเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด งั้นเรากลับกันเถอะครับ นายน้อยกำลังรอคุณอยู่อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว”
เซอร์เกกำลังจะเดินนำหล่อนไปยังรถคันเดิมที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็มีรถคันยาวสีเดียวกันแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าเสียก่อน ร่างของคอร์เนลก้าวลงมาพร้อมๆ กับกระแสความเดือดดาล
“พายาหยีแวะที่นี่ทำไมเซอร์เก!”
“เอ่อ…นายน้อย…”
เมื่อเห็นเซอร์เกผู้จงรักภักดีเหลือแสนอับจนคำพูด หญิงสาวจึงรีบแก้ตัวให้
“ฉันค่ะ…เอ่อ…ฉันอยากนั่งที่นี่สักพักก่อนไปหาคุณ”
ได้ผล คราวนี้สายตาคมกริบของคอร์เนลยอมละจากใบหน้าซีดเผือดของเซอร์เกมาจ้องหน้าของหล่อนแทน
“คุณหรือยาหยี”
“ใช่ค่ะ ฉันเห็นมันปลอดโปร่งดีก็เลย…อยากมานั่งเล่น”
คิ้วเข้มของคอร์เนลเลิกขึ้นสูงคล้ายกับยังไม่เชื่อ
“ที่บ้านผมก็มีที่ปลอดโปร่งแบบนี้ ทำไมไม่ไปที่นั่นล่ะ มีอะไรปิดบังผมหรือเปล่า”
“ไม่มี ไม่มีอะไรนี่คะ ฉันแค่อยากนั่งเล่นจริงๆ”
เมื่อเห็นแม่สาวน้อยที่ตัวเองนั่งคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออกยืนกรานแข็งขัน คอร์เนลก็จำใจต้องเชื่อแม้ว่าใบหน้างามจะมีพิรุธก็ตาม
“คราวหน้าคราวหลังโทรรายงานฉันก่อนนะเซอร์เก ไม่ใช่ให้ฉันรอแหง็กอยู่แบบนั้น” คนตัวโตหันไปคำรามใส่คนสนิท ก่อนจะโอบประคองร่างอรชรของหล่อนให้เดินตรงไปที่รถอีกคันหนึ่งซึ่งเป็นคันที่เขานั่งมาเมื่อครู่นี้
“ไม่เห็นต้องมาเลยนี่คะ อีกเดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว” พูดกับชายที่เดินตามขึ้นมานั่งข้างๆ บนรถเสียงแผ่วเบา
“รอไม่ไหว…คิดถึงใจจะขาด” และเมื่อประตูรถถูกปิดลง ปากร้อนผ่าวของคอร์เนลก็ประกบลงมาบนกลีบปากของหล่อนด้วยความหิวกระหาย ดูดดื่ม เร่งเร้าให้ตอบสนองด้วยอารมณ์เดียวกัน จนหญิงสาวอดคล้อยตามไม่ได้
“ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันจะนานราวกับเป็นสิบๆ ปี”
ยาหยีกล้ำกลืนความขมขื่นที่เกิดจากคำสัญญาที่ตัวเองมอบให้ไว้กับเซอร์เกลงไปในอก ก่อนจะปั้นยิ้มหวานให้กับผู้ชายที่นั่งข้างๆ
“ปากหวานจังนะคะ แบบนี้ต้องอยากได้รางวัลแน่เลย จะรับเป็นหูฉลามน้ำแดง หรือว่าเป๋าฮื้อราคาเหยียบหมื่นดีคะ”
คอร์เนลระบายยิ้มกว้าง ก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นของยาหยีอย่างอดใจไม่ได้
“อยากกินคุณน่ะ”
สาวน้อยถึงกับหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินชื่ออาหารจากปากของคอร์เนล
“ดูพูดเข้าสิคะ น่าเกลียดจังเลย”
“น่าเกลียดที่ไหนกันล่ะ มันน่าหลงใหลต่างหาก นี่ผมแทบรอให้ถึงบ้านไม่ไหวแล้วนะ” มือใหญ่เพียงมือเดียวก็สามารถยกร่างยาหยีขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งของตัวเองได้อย่างง่ายดาย หญิงสาวหน้าร้อนเป็นไฟเมื่อรับรู้ถึงแรงปรารถนาของคอร์เนลถนัดถนี่
“รู้แล้วใช่ไหมว่าผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน”
หล่อนไม่ได้ตอบ และไม่คิดจะตอบด้วย เพราะการนิ่งเงียบแล้วปล่อยให้พ่อสุดหล่อดื่มกินผิวสาวของตัวเองนั้นมันมีความสุขกว่ากันเยอะเลย