เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 4
รถลีมูซีนสีดำเงาวับหลายคันแล่นมาจอดที่หน้าห้องแถวเดิมที่ยาหยีเคยพักอาศัย ชายในชุดสูทสีดำรีบกระโดดลงมาจากรถคันแรก มาโค้งคำนับให้กับคนที่อยู่ในรถคันที่สอง จากนั้นจึงค่อยๆ เปิดประตูรถออกอย่างนิ่มนวล
บุรุษร่างกายสูงใหญ่ในสูทสีเดียวกันกับคนอื่นๆ ก้าวลงมาด้วยท่าทางสง่างาม เส้นผมสีน้ำตาลเข้มปลิวสะบัดไปตามแรงลมที่พัดผ่าน และเมื่อแว่นตาสีดำถูกมือใหญ่กระชากออกไป ใบหน้าหล่อเหลาสุดสมบูรณ์แบบชัดเจนก็เด่นชัดขึ้น
“ว้าย! ผู้ชายอะไรหล่อจังเลย”
“นั่นสิ หล่อจนแทบละลาย”
“เท่ระเบิดเลย น่ากินชะมัด”
เสียงกรี๊ดกร๊าดจากบรรดาสาวๆ ที่โผล่หน้าออกมาจากห้องพักดังสนั่นขึ้น แต่คอร์เนลหาได้ใส่ใจกับกิริยาคลั่งไคล้ที่ผู้หญิงพวกนั้นแสดงออกมาไม่ เพราะชายหนุ่มเลือกที่จะพยักหน้าให้เซอร์เกเข้าไปหาข้อมูลของคนที่ตัวเองกำลังต้องการสืบหา โดยตัวเองเลือกที่จะยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าบอดี้การ์ด
“ผมต้องการพบคุณยาหยี โรจน์มหามงคล เธอพักอยู่ที่ห้องไหนครับ”
เซอร์เกเลือกที่จะเอ่ยนุ่มๆ กับแม่สาวนางหนึ่งในกลุ่มสามคนที่กำลังยืนจ้องมองนายน้อยของเขาตาเป็นมันด้วยภาษาไทยที่สำเนียงค่อนข้างแปร่งเล็กน้อย ความจริงไม่ใช่แค่เขาคนเดียวหรอกที่พอจะสื่อสารภาษาไทยได้บ้าง แต่นายน้อยของเขา คอร์เนล ซีร์ยานอฟก็สามารถใช้ภาษาไทยได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากนายน้อยถูกเลี้ยงดูมาจากแม่นมคนไทยที่อพยพตามสามีไปทำงานที่รัสเซีย
“ย้ายออกไปแล้วค่ะ” แม้จะแปลกใจที่ชายวัยกลางคนตรงหน้าสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ แต่ก็เลือกจะตอบออกไป
“พอจะทราบไหมครับว่าย้ายไปอยู่ที่ไหน”
“พวกเราไม่รู้หรอก ไม่ได้สนิทกัน แค่เคยเห็นหน้าเท่านั้น เอ่อ…แต่ว่าผู้ชายหล่อๆ คนนั้นชื่ออะไรเหรอคะ ฉันอยากรู้จัก” หญิงตรงหน้าถามตรงๆ ขณะที่สายตาไม่ยอมเคลื่อนไปจากใบหน้าของคอร์เนลเลยแม้แต่วินาที
เซอร์เกอยากจะหัวเราะออกมากับท่าทางทอดสะพานเสริมใยเหล็กของพวกหล่อน เพราะต่อให้แม่คุณทั้งหลายแก้ผ้าแก้ผ่อน นายน้อยของเขาก็ไม่มีทางชายตาแลหรอก เพราะคนอย่างคอร์เนล ซีร์ยานอฟได้ชื่อว่าเป็นนักล่าตัวฉกาจ ดังนั้นนายน้อยของเขาไม่มีทางยอมถูกล่าอย่างแน่นอน
“ขอบคุณครับที่ตอบคำถามของผม”
เซอร์เกกล่าวขอบคุณ หมุนตัวจะเดินตรงไปที่รถ แต่แม่สาวๆ ก็วิ่งมาขวางหน้าจนเขาต้องหยุดเดินกะทันหัน
“บอกมาก่อนสิคะว่าผู้ชายรูปหล่อคนนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร แล้วบ้านอยู่ที่ไหน”
เซอร์เกเป่าปากออกมาด้วยความรำคาญ แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้านายของเขาถูกแม่สาวๆ ตามตื๊อก็ตามที
“พวกคุณใช่นางงามจักรวาลหรือเปล่าครับ”
สาวน้อยนางหนึ่งรีบส่ายหน้า
“ไม่ใช่ค่ะ”
“แล้วพวกคุณใช่นางเอกดังจากฮอลลีวูดหรือเปล่าครับ”
คราวนี้อีกคนหนึ่งส่ายหน้าบ้าง
“ไม่ใช่ค่ะ เอ่อ…แต่ว่าทำไมคุณต้องตั้งคำถามแบบนี้ด้วยคะ”
เซอร์เกผุดรอยยิ้มเหยียดหยันขึ้นมาที่มุมปาก ขณะกวาดตามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของแม่สามสาวตรงหน้า
“ถ้าไม่ใช่ ก็เลิกฝันไปเถอะครับ เพราะผู้หญิงที่มีสิทธิ์เข้าใกล้นายน้อยของผมได้ต้องไม่ใช่ผู้หญิงติดดินแบบพวกคุณ”
“นี่คุณ…”
เซอร์เกไม่คิดจะใส่ใจกับวาจาของแม่สามสาวนั่นอีก เขารีบก้าวยาวๆ เข้ามารายงานสิ่งที่พึ่งรับรู้มาให้กับคอร์เนลฟังทันที
“เธอย้ายไปแล้วครับ นายยอดชายน่าจะส่งข่าวเรื่องที่เราจะตามมาให้เธอทราบ”
คอร์เนลไม่ได้พูดอะไรออกมากับความล้มเหลวนั้น ชายหนุ่มเลือกที่จะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถลีมูซีนคันงาม ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องขับรถออกไปทันที
วอดก้าในแก้วใบสวยถูกสาดใส่คอของคอร์เนลจนหมดเกลี้ยง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสีไข่ไก่จะลุกขึ้นจากโซฟาราคาแพงระยับในห้องนั่งเล่นส่วนตัว เดินออกไปยืนรับลมที่ระเบียงไม้ร่มรื่น นัยน์ตาคมกริบประดุจใบมีดโกนจับจ้องไปยังสวนสวยของคฤหาสน์หลังงามทรงวิกตอเรียนด้วยความชื่นชม ในสมองไม่มีความคิดเสียดายเงินสดเกือบสามร้อยล้านบาทที่ตัวเองพึ่งจ่ายให้กับเจ้าคฤหาสน์คนเดิมเมื่อสิบแปดชั่วโมงที่ผ่านมาเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้คฤหาสน์หลังนี้จะโอ่อ่ากว้างขวางไม่ถึงหนึ่งในสิบของคฤหาสน์ซีร์ยานอฟในกรุงมอสโกเลยก็ตาม แต่มันก็คงจะช่วยให้เขามีที่พักสบายๆ ในช่วงเวลาสิบกว่าวันต่อจากนี้ ที่เขาจะใช้ลากคอไอ้คนทรยศอย่างนายยอดชายมาลงโทษ
“นายน้อยครับ” เสียงเซอร์เกเอ่ยขึ้นเบาๆ ที่หน้าประตูห้อง
“เวลานี้นายน่าจะนอนอยู่บนเตียงแล้วไม่ใช่หรือ” คอร์เนลหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งๆ ที่ยังยืนจ้องสวนสวยอยู่เช่นเดิม
เซอร์เกขยับเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“ผมเป็นห่วงนายน้อยครับ”
“ห่วงฉัน?” คราวนี้คอร์เนลหันกลับมาจ้องหน้าคู่สนทนานิ่ง ยิ้มจางๆ ที่มุมปาก
“คนอย่างฉันมีอะไรให้นายต้องมาคอยห่วงอีกหรือเซอร์เก ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวมาตั้งหลายปีแล้ว”
“นายน้อยไม่เคยไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่วันนี้เรื่องของผู้หญิงคนนั้นทำให้นายน้อยผิดหวัง หล่อนหนีไปอยู่ที่อื่น”
ยิ่งพูดน้ำเสียงของเซอร์เกก็ยิ่งเต็มไปด้วยความวิตกกังวล จนคนฟังอย่างคอร์เนลต้องรีบหยุดความเข้าใจผิดนั้นซะ
“อยู่กันมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่า ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับเหตุการณ์ในวันนี้ หรือถ้ามีก็แค่รำคาญแม่ผู้หญิงพวกนั้นนิดหน่อยเท่านั้น” หนุ่มหล่อเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มตัวเดิม เซอร์เกเดินตามมาหยุดก้มศีรษะอยู่ใกล้ๆ
“แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราทำงานผิดพลาด”
คอร์เนลหรี่ตามองคนสนิทต่างวัย ก่อนจะระบายยิ้มร้ายกาจออกมา
“ไม่มีอะไรผิดพลาดหรอกเซอร์เก ผู้หญิงคนนั้นไม่มีปัญญาหนีฉันพ้นหรอก”
“อย่าบอกนะครับว่านายน้อยรู้แล้วว่าจะไปตามเธอได้จากที่ไหน” น้ำเสียงของเซอร์เกอัดแน่นไปด้วยความประหลาดใจ
คอร์เนลระบายยิ้มเย็นๆ ออกมาขณะหยิบแก้วใบสวยที่เซอร์เกพึ่งรินวอดก้าใส่ให้ขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว มือใหญ่วางแก้วลงกับโต๊ะไม้มะฮอกกานีตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าพูดกับคนสนิท
“พรุ่งนี้เราจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”
“ครับนายน้อย”
เซอร์เกรับคำเสร็จก็จะถอยหลังก้าวออกไปจากห้องนั่งเล่นเพื่อปล่อยให้คอร์เนลอยู่ตามลำพัง แต่ก็ถูกเจ้าของห้องเรียกเอาไว้เสียก่อน
“จะไปไหนล่ะเซอร์เก มาแล้วก็อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิ วันนี้ฉันรู้สึกเหงา”
คนสนิทหันกลับมา กำลังจะนั่งกับพื้นพรมแต่ก็ถูกคอร์เนลสั่งห้ามเสียงเฉียบ พร้อมๆ กับผายมือไปที่โซฟานุ่มตรงหน้า
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ชอบปกครองคนอย่างทาส ขึ้นมานั่งด้วยกันนี่ เร็วเข้า”
“ขอบคุณครับนายน้อย”
เซอร์เกรีบกล่าวขอบคุณ พร้อมๆ กับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามกับเจ้านายหนุ่ม เขาเลือกจะทำหน้าที่รินวอดก้าราคาแพงให้กับคอร์เนลโดยที่ตัวเองไม่คิดจะดื่มแม้แต่หยดเดียว
“จะไม่ดื่มหรือเซอร์เก”
เซอร์เกส่ายหน้าช้าๆ
“นายน้อยก็รู้ว่าผมเลิกดื่มมันนานแล้ว”
ชายวัยเฉียดเกษียณหวนคิดถึงความทรงจำของตัวเองในอดีต เพราะเหล้าทำให้เขาต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ
คอร์เนลพยักหน้ารับอย่างเข้าใจในความรู้สึกของคนสนิท
เซอร์เกเห็นนายน้อยของตัวเองนั่งดื่มเงียบๆ ก็เริ่มชวนคุย
“ถ้านายน้อยเหงา ทำไมไม่แต่งงานสักทีล่ะครับ ผมว่านายน้อยน่าจะมีความสุขมากกว่านี้”
หนุ่มหล่อส่ายหน้าช้าๆ
“นายก็รู้นี่เซอร์เก ว่าพวกผู้หญิงน่ารังเกียจมากแค่ไหน พวกหล่อนติดป้ายราคาค่าตัวของตนเองไว้ที่หน้าผากยามที่เยื้องย่างเข้ามาหาผู้ชาย ยอมขายศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับเงินทอง ฉันยอมทนเหงาอยู่คนเดียวเสียดีกว่าต้องลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงพวกนั้น”
“แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับนายน้อย ผู้หญิงดีๆ ก็ยังมีอยู่ในโลกใบนี้ อย่างเช่นคุณแม่ของนายน้อยและภรรยาของผม” เซอร์เกพยายามโน้มน้าว แต่คอร์เนลมีอคติกับผู้หญิงเกินกว่าจะทำได้สำเร็จ
“หนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้านคนกันล่ะ ไม่เอาแล้วเซอร์เก เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เดี๋ยวจะเสียบรรยากาศซะเปล่า”
คอร์เนลตัดบทเสียงเรียบ ยกแก้ววอดก้าขึ้นดื่มอึกใหญ่ แล้วก็เหมือนจะนึกอะไรได้จึงหันมาพูดกับคนสนิทที่นั่งอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
“ไปนอนเถอะเซอร์เก ฉันชักอยากอยู่คนเดียวแล้วล่ะ”
“ครับนายน้อย…” เซอร์เกลุกขึ้น ก้มศีรษะให้ ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ
หนุ่มรัสเซียถอนใจออกมาแรงๆ เมื่ออยู่ตามลำพัง สมองกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของคนสนิทอย่างเอาเป็นเอาตายทีเดียว
แต่งงาน?
คำๆ นี้ไม่เคยอยู่ในหัวของเขามาก่อน พอๆ กับที่เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ถูกใจนั่นแหละ ทุกคนที่ผ่านมาก็แค่เป็นที่ระบายความอึดอัดบนเตียงเท่านั้น ไม่มีใครทำให้เขาติดใจจนต้องเรียกกลับมาใช้ซ้ำสองเลยแม้แต่คนเดียว
แต่เขาก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือ ที่เวลาทุกหยาดหยดหมดไปกับงานกองพะเนินของธุรกิจในเครือซีร์ยานอฟที่ตัวเองดูแลอยู่ทั้งหมด คอร์เนลถามตัวเองและก็ยิ้มออกมาเมื่อได้คำตอบที่พึงพอใจ ถูกต้องที่สุด ผู้หญิงเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยปรารถนาในชีวิต
หนุ่มหล่อปานเทพบุตรยกแก้ววอดก้าขึ้นดื่มอีกครั้ง ก่อนจะวางแก้วใบสวยลงบนโต๊ะไม้มะฮอกกานีตรงหน้าอีกครั้ง จากนั้นร่างสูงใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของคอร์เนลก็ผุดลุกขึ้นยืนตระหง่าน ช่วงขาเพรียวกำยำก้าวพาเจ้าของร่างมุ่งสู่ห้องนอนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของคฤหาสน์ทันที