เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 39
เซอร์เกเดินตามคอร์เนลมาถึงห้องส่วนตัวริมระเบียงชั้นสองของตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความแคลงใจ
“นายน้อยเชื่อคำพูดของนายยอดชายหรือครับ”
“แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ” คอร์เนลไม่ตอบ แต่เลือกที่จะถามคนสนิทกลับไป
เซอร์เกถอนใจก่อนจะตอบออกมาตามความคิดของตัวเอง
“ผมไม่เชื่อนายยอดชายเท่าไร บางทีหมอนั่นอาจจะโกหกเราเพื่อให้เราบาดหมางกับพวกเซอร์คอฟก็เป็นไปได้นะครับ”
คอร์เนลที่ยืนหันหลังอยู่หันกลับมาระบายยิ้มบางๆ ให้กับคนสนิท
“สมแล้วที่ฉันไว้ใจนายที่สุด แน่นอนว่าไอ้ระยำนั่นไม่มีทางบอกความจริงกับเราทั้งหมดหรอก แต่กระนั้นเราก็ไม่อาจจะมั่นใจได้ว่าสิ่งที่มันพูดจะไม่มีเค้าความจริง”
ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองชุ่มชื้นเพราะหยาดน้ำในสระเดินมาทรุดกายลงนั่งบนโซฟานุ่ม ท่อนขากำยำตวัดขึ้นไขว้กันเอาไว้
“บางทีอาจจะมีใครสักคนชักใยอยู่เบื้องหลังก็ได้ใครจะไปรู้ จริงไหมเซอร์เก”
“นายน้อยกำลังสงสัยใครหรือครับ” เซอร์เกเอ่ยถามเสียงเครียด สมองนึกถึงใครบางคนทันที
คอร์เนลระบายยิ้มหยัน ปรายตามองคนสนิทนิ่ง
“ฉันรู้ว่านายรู้ว่าเป็นใคร แต่อย่าพึ่งกระโตกกระตากไปล่ะ เรายังไม่มีหลักฐาน”
“ครับนายน้อย เอ่อ…แล้วเรื่องของพวกเซอร์คอฟล่ะครับ นายน้อยมั่นใจแล้วหรือครับว่าพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเพชรสีทองที่หายไป”
ศีรษะแสนทระนงของคอร์เนลส่ายน้อยๆ
“แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเชื่อคำพูดของไอ้ระยำนั่นสักเท่าไร แต่ฉันก็ไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองสงสัยอยู่อย่างนี้หรอก” ร่างกำยำผุดลุกขึ้นยืนตระหง่าน หันมาจ้องมองหน้าคนสนิทนิ่ง
“ส่งคนของเราแฝงเข้าไปในเซอร์คอฟ สืบให้ได้ว่าพวกนั้นเกี่ยวข้องกับการหายไปของเพชรสีทองหรือเปล่า”
“ครับนายน้อย ผมจะให้อีวานแฝงตัวเข้าไป”
คำพูดของคนสนิททำเอาคอร์เนลต้องรีบเบรกความคิดนั้นเอาไว้ในเฉียบพลัน
“งานนี้ไม่เหมาะกับผู้ชายหรอก ต้องเป็นผู้หญิง และก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดด้วย นายคงจะรู้นะว่าฉันหมายถึงใคร”
คอร์เนลทิ้งปริศนาเอาไว้ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องพักผ่อนส่วนตัวของตนเอง ทิ้งให้เซอร์เกยืนอึ้งอยู่กับที่เมื่อสมองผุดภาพของผู้หญิงคนที่นายน้อยเอ่ยถึงขึ้นมาอย่างชัดเจน
เมลิน่า ลูกสาวของเขานั่นเอง
ถนนกว้างเบื้องหน้าเป็นทางมุ่งตรงไปยังหอไอเฟลซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก แต่หญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นกลับหันหลังให้มันเสียอย่างนั้น สาวน้อยเดินฝ่าคลื่นมหาชนจำนวนมหาศาลที่เดินกันขวักไขว่เต็มฟุตปาทมุ่งหน้าไปตามทางเดินที่มีต้นไม้ร่มรื่น
หล่อนมาศึกษาในชั้นปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงปารีสด้วยความเอื้อเฟือของคอร์เนลเจ้านายที่มีหน้าตาถอดแบบมาจากเทพบุตรกรีกของบิดา และหล่อนไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าตัวเองไม่ได้ตกหลุมรักคอร์เนล
เมลิน่า อดามอฟ บุตรสาวเพียงคนเดียวของเซอร์เก อดามอฟ ระบายยิ้มอวดฟันขาวสะอาดของตัวเองออกมาเมื่อนึกถึงความเมตตาที่คอร์เนลมีให้ตนและบิดา นายน้อยของหล่อนใจดีและปรานีหล่อนในทุกๆ เรื่อง หากแต่ไม่ใช่แค่หล่อนกับพ่อเท่านั้นที่นายน้อยใจดีด้วย แต่เป็นกับลูกน้องทุกๆ คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา ทุกๆ คนล้วนแต่จงรักภักดีต่อคอร์เนลกันทั้งนั้น ไม่มีใครเลยสักคนที่จะคิดคดทรยศ ยกเว้นก็แต่เพียงนายยอดชาย โรจน์มหามงคล คนเดียวเท่านั้น
หญิงสาวนัยน์ตาสีฟ้าอร่ามตัดกับเส้นผมสีเข้มระบายยิ้มจางๆ ออกมาเมื่อนึกถึงคำพูดของบิดาที่ดังผ่านสายโทรศัพท์มาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
“นายน้อยต้องการให้ลูกแฝงตัวเข้าไปในเซอร์คอฟ ลูกทำได้ไหมลิน่า”
“หนูตกลงค่ะพ่อ หนูยินดีทำเพื่อนายน้อย”
และหล่อนก็ตอบตกลงไปในทันทีเมื่อได้ยินว่าเป็นความต้องการของคอร์เนล โดยไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้รู้ดีว่าผู้ชายที่ตัวเองเทิดทูนสุดหัวใจจะไม่เคยมองหล่อนในแง่ชู้สาวเลยแม้แต่นิด ทว่าเมลิน่าก็ยังอดหวังไม่ได้ หวังว่าสักวันหนึ่งนายน้อยผู้ใจดีจะชายตาแลทาสผู้ภักดีเยี่ยงหล่อนสักครั้งหนึ่ง
ปิ๊น!
โอ้…พระเจ้านี่หล่อนเดินใจลอยลงมาอยู่ในเลนรถวิ่งตั้งแต่เมื่อไรกันนะ หญิงสาวยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ รีบถอยหลังกลับขึ้นไปยืนอยู่บนฟุตปาท ก่อนจะรีบโค้งคำนับเพื่อขอโทษเจ้าของรถสปอร์ตสีดำคันงามด้วยความเสียใจที่ตัวเองไปกีดขวางการจราจรของเขาเอาไว้อย่างไร้มารยาท
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
กระจกรถสีทึบถูกลดลงมาเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ทำให้หล่อนพอจะมองเห็นว่าคนขับรถที่สวมแว่นตาสีดำอันใหญ่ปิดใบหน้าอยู่นั้นเป็นผู้ชาย เขามองมาที่หล่อนอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะขับรถจากไปโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
เมลิน่าถอนใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอกที่ตัวเองไม่ได้ถูกด่าแม้จะถูกจ้องมองนานไปสักหน่อยก็ตาม หญิงสาวกระชับกระเป๋าสะพายแน่น ขณะตั้งใจมองซ้ายมองขวาจนเห็นว่าไม่มีรถแล้วนั่นแหละจึงได้ตัดสินใจเดินข้ามถนนเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอพักของตัวเอง
อีกแค่สองวันเท่านั้นหล่อนก็จะปิดเทอม และนั่นก็จะเป็นการเริ่มต้นของภารกิจที่แสนอันตราย การปลอมตัวเข้าไปในตระกูลมาเฟียเก่าอย่างเซอร์คอฟไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสักนิด