ตูม!
เรือนกายกำยำที่พุ่งลงกระทบกับผิววารีในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แผดเสียงกึกก้องเป็นวงกว้าง กระแสน้ำสาดกระเซ็นเป็นละอองเล็กๆ ไปรอบขอบสระ ร่างกายสูงใหญ่ที่ยังอยู่ในชุดลำลองราคาแพงดำผุดดำว่ายอยู่ในสายธารนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ช่วงแขนกำยำจ้วงลงสู่ผืนน้ำสุดแรงเกิด รอบแล้วรอบเล่าจนครบยี่สิบรอบแต่คอร์เนลก็ยังไม่หยุดว่ายน้ำ
ไม่เหนื่อย…เขายังไม่เหนื่อยเลยสักนิด ให้ตายเถอะ เขาอยากให้พลังงานที่มีเหลือเฟือในกายเหือดหายไปกับการว่ายน้ำนี้ให้หมด จะได้ไม่ต้องมีแรงไปยุ่งเกี่ยวกับแม่ผู้หญิงแพศยาที่คิดจะใช้ร่างกายของตัวเองแลกอิสรภาพของบิดาอย่างยาหยี
เขาเกลียดหล่อน ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากเห็นหน้า…
ไม่จริงหรอก เขาไม่ได้เกลียดเจ้าหล่อนเลยสักนิด เพราะถ้าหากเขาเกลียดชังหล่อน เขาคงไม่กระหายอยากที่ครอบครองเจ้าหล่อนมากมายแบบนี้หรอก เมื่อกี้เขาก็แทบจะถาโถมเข้าใส่หล่อนกับพื้นพรมกลางห้องทำงานอยู่แล้ว ดีนะที่สามารถหักห้ามใจเอาไว้ได้ แต่ร่างกายก็เจ็บปวดรวดร้าวทรมานสุดแสน
เขาคิดถึงยาหยี อยากจะครอบครองหล่อนให้หายคลั่ง อยากจะจูบปากอิ่มๆ ที่เผยอรับเขาอย่างเต็มใจคู่นั้น อยากจะดูดดื่มเต้าสวยเต็มมือ และก็อยาก…
คอร์เนลสบถในใจอย่างเดือดดาล ที่ทุกความนึกคิดของตัวเองพุ่งตรงไปหาแต่แม่ยาหยีสาวสวยที่ลีลาทางเพศแสนจะเงอะงะคนนั้นแต่เพียงผู้เดียว
ระยำ! ทำไมเขาต้องรู้สึกย่ำแย่แบบนี้ด้วยนะ ทำไมสมองถึงนึกวนเวียนอยู่แต่กับภาพเร่าร้อนที่เขากับหล่อนร่วมกันสร้างขึ้นมาด้วยนะ ทำไมถึงลืมมันไม่ได้สักที
“โธ่เว้ย!”
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คอร์เนลไม่สามารถควบคุมร่างกายและสมองของตัวเองได้ ลำแขนทรงพลังจ้วงใส่ผิวน้ำแรงขึ้นและเร็วขึ้นเพื่อดับความกระหายอยากในกายหนุ่ม แต่มันช่วยไม่ได้เลยให้ตายสิ ร่างกายของเขายังร้อนผ่าวอย่างรุนแรง แม้น้ำในสระจะเย็นจัดแค่ไหนก็ตาม และในที่สุดชายหนุ่มก็ต้องยอมพ่ายแพ้ให้แก่ร่างกายของตัวเอง เขาหยุดว่ายน้ำ กระโดดขึ้นมาบนขอบสระทันที มือใหญ่หยิบผ้าขนหนูที่สาวใช้นำมาวางไว้ให้ขึ้นมาเช็ดศีรษะ ก่อนจะก้าวยาวๆ ตรงไปยังเรือนพักที่ตัวเองใช้จองจำยอดชายเอาไว้ทันที
‘เพราะมันนั่นแหละ เขาถึงต้องมาเข้าตาจนแบบนี้’
คอร์เนลกล่าวโทษยอดชายอย่างดุเดือดภายในอก โทสะแรงกล้ากำลังครอบงำเขาอย่างรุนแรง ถ้าไอ้ยอดชายมันไม่ขโมยเพชรสีทองของเขาไป เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น และเขาก็คงไม่ต้องมาติดแหง็กอยู่ในบ่วงเสน่หาของแม่ยาหยีแสนหวานจนถอนตัวไม่ขึ้นแบบนี้หรอก คอยดูเถอะ เขาจะอัดมันให้เละเลย!
ประตูห้องพักที่ถูกดัดแปลงมาเป็นที่ควบคุมตัวของยอดชายถูกเปิดออกแรงๆ พร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่เปียกชุ่มของคอร์เนลที่ก้าวเดินเข้ามา โดยมีเซอร์เก อีวาน และบอดี้การ์ดอีกสามสี่คนเดินตามมาข้างหลัง
ยอดชายกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความหวั่นเกรง ขณะเงยหน้าสบตากับผู้ชายที่หน้าบูดหน้าบึ้งราวกับถูกใครขัดใจมาอย่างรุนแรงตรงหน้าด้วยสายตาสำนึกผิด
“ผมขอโทษครับ”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจะฟัง บอกมาว่าเพชรของฉันอยู่ที่ไหน”
“ผมไม่รู้ครับ โอ๊ย!”
ยอดชายร้องครางออกมาเมื่อถูกหมัดหนักๆ ของคอร์เนลเสยเข้าใส่เต็มหน้า คอร์เนลกระชากร่างที่ผอมบางกว่าตัวเองของยอดชายด้วยมือใหญ่เพียงมือเดียว ก่อนจะเค้นเสียงคำรามลอดไรฟันขาวสะอาดออกไป
“จะบอกดีๆ หรือว่าอยากเห็นศพของลูกสาวก่อนล่ะ” คอร์เนลคำรามติดๆ กันออกมา ขณะโยนร่างของยอดชายลงไปกองกับพื้นห้องแรงๆ
“ยาหยี! อย่านะครับ อย่าทำเธอ เธอไม่รู้เรื่อง…” ยอดชายร้องขอชีวิตลูกสาวลั่น แต่คอร์เนลก็เหี้ยมโหดเหลือเกิน
“ฉันไม่สนใจหรอกว่าใครจะรู้เรื่องหรือไม่ แต่เพชรของฉันมันหายไปเพราะแกไม่ใช่หรือ?” นัยน์ตาสีเขียวเข้มจัดด้วยโทสะแรงกล้า กรามกระด้างของคอร์เนลขบกันแน่นจนปูดเป่ง ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะคลี่ยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา
“ฉันจะส่งแขนขาของแม่ยาหยีใส่กล่องมาเป็นของขวัญในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“อย่าครับ อย่าทำลูกสาวผม อย่าทำ” ยอดชายคลานเข้าไปกราบแทบเท้าของหนุ่มหล่ออดีตเจ้านายของตัวเองอย่างวิงวอน น้ำตาลูกผู้ชายไหลทะลักออกมาอย่างสิ้นความละอาย แต่คอร์เนลใจแข็งเกินกว่าจะยอมให้อภัย
“ไม่มีอะไรหยุดยั้งฉันได้” คอร์เนลเค้นเสียงกร้าวออกมา
“นอกจากแกจะบอกว่าเพชรของฉันอยู่ที่ไหน”
“ผม…ไม่รู้จริงๆ ครับนายน้อย ผมไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้เพชรสีทองนั้นอยู่ที่ไหน”
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นใกล้หมดความอดทนเต็มที่
“แกจะไม่รู้ได้ยังไงไอ้ระยำ! ในเมื่อแกเป็นคนขโมยมันไปจากฉัน”
“ผมขโมยไปจริงๆ ครับ แต่ผมก็ถูกปล้นไปซะก่อน”
“อะไรนะ ถูกปล้น!” อีวานอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพูดต่อด้วยความไม่ไว้ใจในตัวยอดชาย
“โกหกกันหรือเปล่านายยอดชาย คำพูดของนายเคยเชื่อได้ที่ไหนกันล่ะ”
“หุบปากอีวาน ให้นายน้อยเป็นคนถามมันเถอะ” เซอร์เกปรามหลานชายเสียงดุ จนอีวานจำต้องสงบปากสงบคำและยืนฟังเงียบๆ ตามเดิม ยอดชายเห็นสายตาของคอร์เนลไม่มีวี่แววที่จะเชื่อคำพูดของตัวเอง เขาจึงรีบยืนยันขึ้นอีกครั้ง
“ผมพูดเรื่องจริงนะครับ ผมถูกปล้นจริงๆ หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ซีร์ยานอฟได้ไม่นาน”
“แล้วใครเป็นคนจ้างแก” คอร์เนลเค้นเสียงถาม เขาสังเกตเห็นไอ้คนทรยศนิ่งเงียบไปหลายอึดใจทีเดียวกว่าจะยอมเปิดปากออกมา
“พวกเซอร์คอฟครับ”
และทุกอย่างก็เงียบกริบลงอย่างสิ้นเชิง เซอร์เกมองร่างสูงใหญ่ของคอร์เนลที่ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องคุมขังนักโทษด้วยสายตาเป็นกังวล นายน้อยของเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำเมื่อได้ยินคำสารภาพของนายยอดชาย
‘เห็นทีจะเกิดศึกใหญ่ระหว่างตระกูลเสียแล้วล่ะมั้ง’
เซอร์เกถอนใจแรงๆ อีกครั้ง ขณะหันมาสั่งให้อีวานคุมตัวยอดชายไว้ให้แน่นหนา ก่อนที่ตัวเองจะเดินตามคอร์เนลออกไป
MANGA DISCUSSION