คอร์เนลยังยืนนิ่งราวกับไม่ได้ยินคำพูดของหล่อน ดังนั้นยาหยีจึงตัดสินใจเดินอ้อมไปหยุดตรงหน้าของเขา จ้องมองใบหน้าหล่อเหลานิ่ง ก่อนจะพูดข้อเสนอของตัวเองออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ฉันจะนอนกับคุณ…”
ความอับอายที่เกิดจากสายตาคมกริบที่จ้องมองมานั้นทำให้หญิงสาวไม่อาจจะพูดได้จบประโยคในรวดเดียวได้ หล่อนต้องหยุดเรียกความกล้าอยู่หลายชั่วอึดใจกว่าจะสามารถพ่นคำพูดน่าละอายออกมาได้อีก
“จะนอนกับคุณ…ทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ”
และในที่สุดหล่อนก็สามารถพูดมันจนจบประโยคได้ แต่ทำไมนะ ทำไมคอร์เนลถึงยังมีสีหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึกเช่นเดิมนะ นี่เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยใช่ไหม อย่างนั้นไอ้ท่าทางถูกอกถูกใจที่เขาแสดงออกมายามที่ได้ครอบครองหล่อน มันก็เป็นการโกหกทั้งเพน่ะสิ
ยาหยีกัดปากแน่น พยายามซ่อนน้ำตาแห่งความอดสูเอาไว้สุดกำลัง ขณะเงยหน้าปั้นยิ้มให้กับคอร์เนลราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองได้พูดออกไปนั้นเป็นแค่การตกลงซื้อขายผักปลากันธรรมดา
“เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน…”
“แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ”
ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา
“ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้ แล้วค่อยตัดสินใจ”
มือบางที่สั่นระริกไม่แพ้กับกลีบปากสีกุหลาบของเจ้าหล่อนยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนทีละเม็ด เนินอกขาวอวบที่เขาเคยฟอนเฟ้นด้วยอุ้งมือและดูดดื่มด้วยริมฝีปากค่อยๆ เปิดเผยต่อสายตาทีละน้อย และเมื่อกระดุมทุกเม็ดถูกแกะจนหมด สาบเสื้อก็ถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เต้าอวบอิ่มที่มีบราเซียร์สีขาวแบบโบราณก็เด่นชัดขึ้นตรงหน้า คอร์เนลปากแห้ง ลำคอแห้งผาก เลือดหนุ่มร้อนฉ่าเดือดพล่านอย่างรุนแรง ขีดความต้องการพุ่งสูงจนแทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้
“มันไม่น่าสนใจนักหรอก ก็ผมเห็นคุณมาทั้งตัวแล้ว”
กัดฟันพูดออกไป ทั้งๆ ที่ร่างกายแทบจะลุกเป็นไฟเพราะความต้องการอยากครอบครองแม่สาวน้อยที่กำลังเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอบราเซียร์อยู่แล้ว และก็เหมือนกับลมหายใจถูกปีศาจร้ายจากขุมนรกสูบไปจนแห้งเหือด เมื่อสายตาของเขาได้รับภาพความเต่งตึงของเต้างามที่ดีดผึงออกมาจากบราเซียร์ตัวน้อยที่ตอนนี้ร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นชัดๆ เต็มๆ ตา ขาวอวบอิ่ม แถมปลายถันสีกุหลาบนั้นยังชูชันท้าทายปากและลิ้นเสียเหลือเกิน
ยาหยีสวยงาม และเขาก็ไม่เคยหยุดคลั่งไคล้ในตัวของหล่อนได้เลยแม้แต่นิดเดียว ให้ตายเถอะ เขากำลังจะทนไม่ได้อยู่แล้วนะ หากหล่อนถอดอีกชิ้น แค่อีกชิ้นเดียว…เขา…เขาจะต้องจัดการหล่อนบนพื้นพรมกลางห้องทำงานอย่างแน่นอน
ไม่ได้…เขาจะไม่มีวันยุ่งเกี่ยวกับยาหยีอีก หล่อนเป็นตัวหายนะสำหรับเขา ดังนั้นการเดินหนี การผลักไสหล่อนให้ออกไปจากเส้นทางชีวิต จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาควรจะทำให้ตอนนี้
คอร์เนลกัดฟันเรียกความเข้มแข็งที่ยังพอจะมีเหลืออยู่ออกมาใช้จนหมด ขณะบังคับตัวเองให้แสยะยิ้มเหยียดหยันออกไป
“ผมไม่สนใจสินค้าของคุณอีกแล้ว”
คอร์เนลไม่มีทางรู้เลยว่าคำพูดของตัวเองได้สร้างรอยแผลในหัวใจของยาหยีไว้มากแค่ไหน ยิ่งเขากล้าถอยหลังหนีคล้ายกับรังเกียจ หล่อนก็ยิ่งเจ็บทรมาน แต่หล่อนจะยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้หรอก ต่อให้ต้องตายเพราะความเจ็บปวด หล่อนก็ต้องช่วยพ่อให้ได้
“ฉันยังถอดไม่หมด…”
มือบางเลื่อนไปจับที่ตะขอกางเกงยีนขายาวของตัวเอง ปลดตะขอ และรูดซิปลงจนหมด ดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรของคอร์เนลไม่วางตา ขณะค่อยๆ เลื่อนผ้าให้ผ่านสะโพกกลมกลึงของตัวเองลงมาที่หน้าขา
“ระยำ! จะเป็นอีตัวไปถึงไหนไม่ทราบ”
คอร์เนลกัดฟันหันหน้าหนีจากภาพยั่วยวนตรงหน้าทันที ให้ตายเถอะ เขาจะทนไม่ได้อยู่แล้ว แทบทนไม่ได้เลยแค่ได้เห็นความอ้อนแอ้นอรชรของยาหยีอีกครั้ง เจ้าหล่อนดูเย้ายวนสวยงามมีความเป็นอิสตรีเพศไปทั้งเนื้อทั้งตัว
แค่สามครั้งมันไม่เพียงพอสำหรับเขาเลยให้ตายสิ
“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้องทำงานของผมซะ!”
“ฉันไปไม่ได้…ฉัน…”
“ไม่ต้องกลัวว่าพ่อของคุณจะตายหรอกน่า ผมรับปากแล้วนี่ว่าจะไม่ฆ่าเขา รอแค่ให้เขาบอกความจริงเกี่ยวกับเพชรของผมเท่านั้นแหละ”
คอร์เนลพูดเสียงต่ำลึก ขณะสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อดับแรงปรารถนาที่มันอัดแน่นอยู่ที่ช่องท้องเอาไว้สุดกำลัง ยาหยีเป็นตัวหายนะสำหรับเขาจริงๆ เลย ก็ดูสิ เขาแทบจะฟาดหล่อนบนพื้นพรมอยู่รอมร่อแล้ว
“แต่พ่อจะต้องถูกคุณกักขัง…”
“นั่นเป็นโทษที่เขาต้องรับ เขาเป็นโจร และต่อให้คุณนอนอ้าขาให้ผมทั้งคืน มันก็เปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ไม่ได้หรอกยาหยี กลับไปซะ กลับไปอยู่ในที่ของคุณ และอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก” น้ำเสียงของเขาช่างห่างเหินจนยาหยีน้ำตาซึม ทั้งเจ็บทั้งอายขณะพยายามดึงกางเกงยีนที่กองอยู่บริเวณต้นขาให้ผ่านสะโพกกลมกลึงขึ้นมาอยู่ที่เดิม แต่มันทำได้ยากเย็นนัก
“แต่ฉัน…อยากขอร้องคุณ…”
วิงวอนออกไปในขณะพยายามติดตะขอกางเกงยีนสีซีดของตัวเองอย่างขะมักเขม้น และเมื่อทำสำเร็จหล่อนก็ก้มลงหยิบบราเซียร์สีขาวที่กองอยู่ตรงปลายเท้าขึ้นมาสวมใส่ทันที ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่คอร์เนลหันกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง
“ลองขอมาสิ”
ท่าทางของคอร์เนลดูเลือดเย็นนักยามที่เอื้อนเอ่ยออกมา หล่อนคงน่ารังเกียจเหลือเกินในสายตาของผู้ชายคนนี้
“ฉันอยากพบพ่อ…อยากคุยกับท่าน”
“ผมไม่คิดว่ามันจะมีประโยชน์” คอร์เนลคำรามตัดบทอย่างโหดเหี้ยม พร้อมๆ กับหันหน้าหนีอีกครั้ง แต่ยาหยีก็เดินอ้อมมาดักหน้าเอาไว้เสียก่อน ภาพเรือนร่างอรชรขาวผ่องเนียนตาทำให้ชายหนุ่มแทบหมดการควบคุมตัวเอง
“แต่ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าเพชรนั้นอยู่ที่ไหน คุณก็ต้องให้ฉันพบท่าน ท่านจะต้องบอกฉันแน่”
ชายหนุ่มแค่นยิ้ม กัดฟันละสายตาจากเต้างามๆ ขึ้นมามองกลีบปากอิ่มของเจ้าหล่อนแทน นึกว่ามันจะทำให้ตัวเองคลายความร้อนรุ่มลงได้บ้าง แต่เปล่าเลย ร่างกายของเขากลับยิ่งร้อนเป็นไฟเพียงแค่สมองนึกภาพยามที่เขาขยี้ปากหล่อนด้วยริมฝีปากของตัวเองเท่านั้น
‘ให้ตายเถอะ เขาทนไม่ไหวแล้วนะ!’
“ใส่เสื้อซะ!”
“แต่คุณต้อง…”
หญิงสาวกำลังจะบอกว่าให้คอร์เนลยอมรับปากจะให้ตัวเองพบกับบิดาซะก่อน แต่ก็ไม่สามารถพูดได้จบประโยค เพราะเสียงคำรามเหี้ยมโหดดังขึ้นซะก่อน
“บอกให้ใส่เสื้อ หูแตกหรือไง!”
และก็เป็นคอร์เนลนั่นแหละที่เป็นคนจับเสื้อเชิ้ตขึ้นมาใส่ให้กับยาหยีเสียเอง เขาจับมือของหล่อนใส่เข้าไปในแขนเสื้อ จากนั้นก็เริ่มติดกระดุม ลมหายใจของฟืดฟาดขาดช่วงจนน่าตื่นตกใจ แล้วในที่สุดเขาก็ติดกระดุมให้หล่อนจนครบทุกเม็ด
“ไปให้พ้นหน้าผมซะ!”
นี่เป็นคำพูดสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากของคอร์เนลก่อนที่เขาจะเดินหายออกไปจากห้องทำงานใหญ่ หญิงสาวทรุดกายลงกับพื้นพร้อมๆ กับบานประตูที่ปิดสนิทลง น้ำตาที่พยายามซ่อนเอาไว้ทะลักทลายออกมาราวกับเขื่อนที่ทำนบแตก
“คนใจร้าย…คนใจดำ…ฉันรักคุณนะถึงได้มาที่นี่” คร่ำครวญออกมาด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น ร่างอรชรสั่นเทาระริกไหวด้วยความเสียใจ
สายตาเย็นชา ท่าทางห่างเหิน แถมยังคำพูดโหดร้ายที่เขาพ่นมันใส่หน้าหล่อนเมื่อครู่นี้อีก มันแสดงให้หล่อนเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เขาเกลียดและขยะแขยงผู้หญิงชั้นต่ำแบบหล่อนมากแค่ไหน
คอร์เนลเกลียดหล่อน แต่ทำไมนะ ทำไมหล่อนถึงได้เกลียดเขาไม่ลงสักที ยิ่งพยายามเลิกรักเท่าไร เจ้าความเจ็บปวดก็ยิ่งถาโถมเข้าใส่ราวกับพายุบ้าคลั่งเท่านั้น จนในที่สุดหล่อนก็ต้องเลิกพยายามไปเอง และก็ปล่อยให้ตัวเองจมปลักอยู่กับความรักข้างเดียวต่อไปเพียงลำพัง
มันเจ็บปวด แต่หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว นอกจากรักคอร์เนล…
MANGA DISCUSSION