เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 34
“บอกมาสิว่าเพชรสีทองของฉันอยู่ที่ไหน!”
เสียงคำรามโหดเหี้ยมดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของคอร์เนลแผ่วเบา แต่ทุกพยางค์นั้นอัดแน่นไปด้วยโทสะร้ายจนคนที่กำลังคุกเข่าอยู่แทบเท้าตรงหน้าตัวสั่นเทาหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก
“ผม…ขอโทษครับ…”
“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ! แต่ฉันต้องการรู้ว่าตอนนี้แกเอาเพชรของฉันไปไว้ที่ไหน ไอ้สารเลว!”
กำปั้นที่หนักยิ่งกว่านักมวยอาชีพของคอร์เนลซัดเข้าที่ใบหน้าของยอดชายเต็มแรง จนร่างที่ผอมบางลงกว่าเดิมมากมายของยอดชายหงายหลังลงไปนอนอยู่กับพื้นหินอ่อนหน้าลานตึกใหญ่อย่างน่าเวทนานัก เซอร์เกรีบเข้าไปห้ามเมื่อเห็นนายน้อยของตัวเองกำลังจะเข้าไปซัดต่อ
“หากมันตายไปก่อนที่จะบอกที่ซ่อนของเพชรสีทอง เราก็จะไม่มีวันหาพบนะครับนายน้อย”
คอร์เนลหรี่ตาสีเขียวจัดมองคนสนิทนิ่ง ความเกรี้ยวกราดแล่นพล่านไปทั้งกายหนุ่ม
“ต่อให้ต้องขุดดินหา นายก็รู้ไม่ใช่หรือเซอร์เก ว่าฉันก็ต้องหาเพชรสีทองของแม่ให้พบ”
“ผมทราบครับว่านายน้อยจะหามันพบจนได้ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตนะครับนายน้อย สู้เราค่อยๆ เค้นตามจากนายยอดชายไม่ดีกว่าหรือครับ” เซอร์เกเอียงหน้ามากระซิบที่ข้างหูของคอร์เนลด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“และผมมีวิธีที่จะทำให้นายยอดชายคลายความลับนั้นออกมา”
คำกระซิบกระซาบของเซอร์เกมีผลทำให้คิ้วเข้มยาวเป็นปื้นของคอร์เนลเลิกขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ และก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้เอ่ยถามสิ่งใดออกไป คนสนิทวัยกลางคนก็รีบเอ่ยปากไขข้อข้องใจให้กับเขาเสียก่อน
“ถ้าใช้หนูยาหยี รับรองว่านายยอดชายต้องยอมบอกที่ซ่อนเพชรสีทองแน่ๆ ครับ”
มันเป็นความคิดที่ดีเหลือเกิน แต่ทำไมนะ ทำไมเขาถึงไม่มีความรู้สึกอยากจะทำมันเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่ว่ากลัวหรือเกรงอะไรหรอก แต่ที่ไม่อยากทำก็เพราะเขาไม่ต้องการจะเจอหน้าผู้หญิงคนนั้นอีก ผู้หญิงที่สามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงระรัวได้ในทุกครั้งเพียงแค่สบตากัน ยาหยีคือความหายนะอันยิ่งใหญ่สำหรับเขาเลยทีเดียว และการอยู่ห่างๆ เจ้าหล่อนก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้เซอร์เกกำลังแนะนำให้เขากลับไปดึงแม่นั่นมาไว้ข้างกายอีกครั้ง ผู้หญิงที่เขาตั้งใจจะถอยออกห่างทั้งที่ยังโหยหาแทบคลั่ง
“ฉันไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับแม่นั่นอีก”
“นายน้อยไม่ต้องทำเองก็ได้ครับ ให้ผมหรืออีวานทำให้ก็ได้” เซอร์เกพยายามแนะนำทางออกที่ดีที่สุดให้กับนายหนุ่ม แต่ดูเหมือนว่าคอร์เนลจะตัดความหวงแหนยาหยีออกจากใจไม่ขาด สังเกตได้จากน้ำเสียงห้วนๆ แข็งๆ ของนายน้อยที่คำรามออกมานั่นแหละ
“ห้ามใครแตะต้องยาหยีเด็ดขาด!”
สิ้นคำห้วนกระด้างที่ออกมาจากปากของผู้เป็นนาย เซอร์เกก็ลอบยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน
“แล้วนายน้อยจะให้พวกผมทำยังไงครับ”
“ฉันจะจัดการเรื่องยาหยีเอง นายแค่นำเรื่องนี้ไปขู่ไอ้คนทรยศนั่นก็พอ และบอกมันด้วยว่าหากมันไม่ยอมบอกที่ซ่อนเพชรสีทองกับฉันละก็ ลูกสาวมันตายคามือฉันแน่”
จบคำพูดที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล ร่างสูงใหญ่ของคอร์เนลก็ก้าวยาวๆ ขึ้นตึกใหญ่ไปในพริบตา เซอร์เกถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ขณะเดินเข้าไปหยุดมองร่างของยอดชายที่ยังนอนหงายอยู่กับพื้นด้วยสายตาเวทนา
“ไม่น่าทำเรื่องแบบนี้เลยนะยอดชาย”
“ผมขอโทษครับ ผมจำเป็นจริงๆ” ยอดชายพึมพำเสียงแผ่วเบา ขณะพยุงกายลุกขึ้นนั่ง
“แล้วจะไม่บอกจริงๆ ใช่ไหมว่าเพชรสีทองของนายน้อยอยู่ที่ไหน”
เซอร์เกถาม แต่คนถูกถามกลับนั่งก้มหน้านิ่งเป็นเป่าสาก และนั่นก็ทำให้คนยืนรอฟังคำตอบถึงกับหมดความอดทนขึ้นมา
“ไม่ต้องบอกก็ได้ แต่ขอให้รู้ไว้นะว่าทุกวันต่อจากนี้ไปลูกสาวของนายจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของนายทั้งหมด”
ท่าทางตาเหลือก อ้าปากค้างของยอดชาย ทำให้เซอร์เกลอบยิ้ม
“และแน่นอนว่านายน้อยไม่มีทางปรานีลูกสาวของนายแน่ ยอดชาย…”
“อย่า! อย่าทำอะไรลูกสาวผม อย่าทำ ได้โปรด…” ยอดชายคลานไปเกาะขาเซอร์เกที่กำลังจะเดินจากไป
“งั้นก็บอกมาสิว่าเพชรอยู่ที่ไหน?”
“ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ครับว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน ได้โปรดเชื่อผม”
เมื่อยอดชายยังยืนยันคำเดิม เซอร์เกจึงยุติการสนทนาทั้งหมดลงในทันที
“งั้นก็เตรียมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ซับน้ำตาให้ลูกสาวได้เลย แต่คงต้องหลายๆ ผืนหน่อยนะ เพราะเชื่อว่ากว่านายน้อยจะหายแค้น ลูกสาวของนายคงจะช้ำน่าดู”
เซอร์เกถอดแบบความเหี้ยมเกรียมและเด็ดขาดมาจากคอร์เนลเจ้านายหนุ่มของตัวเองได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ขณะหันไปสั่งหลานชายที่ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“เอานักโทษไปขังเอาไว้ และจัดเวรยามเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“ครับน้าเซอร์เก”
อีวานรับคำ จากนั้นก็พยักหน้าให้บอดี้การ์ดสองสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ให้หิ้วปีกยอดชายตรงไปยังเรือนเล็กเพื่อจองจำอิสรภาพ และแม้ตลอดทางยอดชายจะร่ำร้องอ้อนวอนให้ละเว้นยาหยีมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะทำเป็นไม่ได้ยินมันเลย