เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 32
‘ไม่เคยหงุดหงิดแบบนี้มาก่อนเลยให้ตายสิ’
คอร์เนลสบถอยู่ในใจด้วยความเดือดดาล เดินกลับไปกลับมาในห้องครั้งแล้วครั้งเล่า สมองนึกถึงแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่หยุด ผู้หญิงที่กวนโทสะเขาได้อย่างร้ายกาจ ผู้หญิงที่ทำให้เขาหัวเสียได้อย่างเหลือเกิน และผู้หญิงที่ทำให้เขาหยุดนึกถึงไม่ได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เขาไม่ควรจะคิดถึงหล่อนมากมายแบบนี้เลย ให้ตายเถอะ
ชายหนุ่มสบถครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเดือดดาล เกรี้ยวกราด สมองสรุปเจ้าอาการงุ่นง่านที่เกิดขึ้นจนล้นปรี่ในอกให้อย่างแม่นยำเลยทีเดียว ว่าเป็นการลุ่มหลงแม่นั่นอย่างบ้าคลั่ง!
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายเลิศเลออย่างเขาจะต้องมานั่งร้อนอกร้อนใจเพียงเพราะผู้หญิงต่ำต้อยแถมยังพ่วงตำแหน่งลูกสาวไอ้ขี้ขโมยได้ถึงเพียงนี้
รุ่มร้อนจนแทบจะนั่งไม่ติด กายหนุ่มยังคงตื่นเร้ารอคอย ความจริงเขาคงจะนอนกกกอดหล่อนอยู่ในหอพักนั้นทั้งคืน หากเจ้าหล่อนไม่ปากดีปากเก่งแบบนั้น
“ก็เพราะฉันเกลียดคุณยังไงล่ะ”
ก็เพราะคำๆ นี้นี่แหละที่ทำให้เขาต้องรีบแยกจาก และเผ่นแน่บออกมาจากห้องพักของยาหยีแทบไม่ทัน หล่อนเกลียดเขา…ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งที่แปลกก็คือ ทำไมเขาจะต้องเจ็บแปลบในอกยามที่ได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของเจ้าหล่อนด้วย
ทำไมเขาต้องรู้สึกแคร์ด้วยว่าแม่นั่นจะคิดยังไงกับตัวเอง เขาควรจะเฉยเมย ไม่รู้สึกรู้สากับความรู้สึกของผู้หญิงที่ตัวเองซื้อมาบำบัดความใคร่ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บนักยามที่ยาหยีบอกว่าเกลียด หรือว่าเขาจะหลงรักหล่อนเข้าแล้วจริงๆ
‘ไม่! ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก’
หนุ่มหล่อสะบัดศีรษะแรงๆ จนเส้นผมสีเข้มกระจายยุ่งเหยิง ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำมากขึ้นหลายเท่า สองมือกำเข้าหากันแน่นเป็นหมัด ก่อนจะซัดเปรี้ยงเข้ากับกำแพงห้องใกล้ๆ เพื่อระบายอารมณ์คลั่งในอก แต่ให้ตายเถอะ ต่อยกำแพงห้องไปตั้งหลายทีจนนิ้วมือเลือดซิบ แม่เจ้าประคุณทูนหัวยาหยีก็ยังคงฝังแน่นอยู่ในสมองไม่หายไปไหน แถมยังติดแน่นราวกับตุ๊กแกเสียอีก
“ยายแม่มด!”
กรามแกร่งขบกันแน่นจนปูดเป่ง เกลียดโกรธตัวเองนักที่ไม่สามารถขจัดยาหยีออกไปจากสมองอันเฉียบคมของตัวเองได้ แถมไอ้ความต้องการยังครอบงำร่างกายอย่างรุนแรงอีกต่างหาก
เขาจะต้องทำยังไงนะ จะต้องทำยังไงถึงจะขจัดแม่ยาหยีคนงามออกไปจากชีวิตของตัวเองได้ นี่ขนาดแค่ครั้งสองครั้งบนเตียง บนโต๊ะทำงาน เขายังลุ่มหลงอย่างรุนแรงแบบนี้ แล้วถ้าคลุกอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนล่ะ มีหวังเขาไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากโรมรันสวาทกับแม่นั่นอย่างเดียว
ไม่ได้ๆ หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาจะเป็นคนเดียวที่ย่ำแย่ เขาจะต้องหาวิธีจัดการกับแม่นั่น และที่สำคัญจัดการกับสมอง หัวใจ และร่างกายของตัวเองให้เลิกโหยหาแม่ยาหยียาใจนั่นสักที วิธีน่ะเหรอ? ก็แค่ให้คนไปลากตัวไอ้คนทรยศมากองที่แทบเท้าแล้วเค้นหาที่ซ่อนเพชรสีทองน่ะสิ แค่นี้ยาหยีก็จะหมดประโยชน์ใดๆ กับเขาแล้ว
คอร์เนลระบายยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง
“คราวนี้คุณก็ไม่สามารถที่จะครอบงำผมได้ตลอดเวลาแล้วล่ะยาหยี”
ดวงตาสีเขียวดุจมรกตเนื้อดีวาวโรจน์ ขณะเคลื่อนกายทรงพละกำลังของตัวเองตรงไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดต่อสายหาคนสนิท
“เซอร์เก ไปลากคอไอ้ยอดชายมาให้ฉันขยี้คืนนี้!”
ออกคำสั่งจบปุ๊บก็ตัดสายทันทีเมื่อคู่สนทนาน้อมรับคำสั่ง โทรศัพท์มือถือบางเฉียบราคาแพงหูฉี่ถูกโยนลงบนที่นอนอย่างไม่ไยดี ก่อนที่เจ้าของผู้หล่อลากดินจะก้าวยาวๆ เดินหายเข้าไปในห้องน้ำแสนหรูที่อยู่ด้านในสุดของห้องนอนโอ่อ่าทันที
แม้แสงแดดยามเช้าจะเล็ดลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างมากมายแค่ไหน แต่เจ้าแสงสว่างเจิดจ้าชนิดที่หลอดนีออนยี่สิบวัตต์เทียบไม่ติดนี้ก็ไม่สามารถมาปลุกให้ร่างอรชรที่นอนขดตัวคุดคู้อยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้เลยแม้แต่น้อย หญิงสาวยังคงนอนนิ่งราวกับไร้ลมหายใจ
“ยาหยี…ยายลูกหยี”
ลินดาเอ่ยเรียกเบาๆ หลังจากยืนมองสภาพของเพื่อนอยู่ข้างเตียงเป็นเวลานานหลายอึดใจ คงจะทะเลาะกันอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นยายลูกหยีเพื่อนของหล่อนคงไม่นอนหลับไปทั้งที่น้ำตาท่วมหน้าแบบนี้หรอก ดูสิ…คราบน้ำตายังเต็มหน้าอยู่เลย
ลินดาถอนใจออกมา และเรียกเพื่อนอีกครั้ง
“ลูกหยี…ตื่นเถอะ สายแล้ว”
ร่างอรชรค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ และในที่สุดดวงตาหวานฉ่ำที่หล่อนเคยอิจฉาเสมอยามได้มองก็ลืมโพลงขึ้น และนั่นก็ทำให้หล่อนได้เห็นความโศกเศร้าในสายตาของยาหยีชัดเจน
“ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม?”
ลินดาทรุดตัวนั่งข้างๆ ขณะที่ยาหยีค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียงโดยมีหมอนใบใหญ่รองอยู่ใต้แผ่นหลัง
น้ำตาซึมออกมาอีกครั้งเมื่อต้องพูดถึงผู้ชายใจดำที่ทอดทิ้งหล่อนให้นอนฝันร้ายอยู่เพียงลำพังตลอดทั้งคืน
เขาใจดำ ใจร้าย และไม่มีวันรักหล่อนได้อย่างแน่นอน แต่หล่อนสิ ไม่รักดี ห้ามหัวใจตัวเองไม่เคยได้ อยู่ใกล้เขาทีไรหัวใจกระตุกเสียทุกทีไป ยิ่งได้อยู่ในอ้อมแขนทรงพลังนั้น หล่อนก็ยิ่งระทดระทวย ยอมสยบสิ้นคาแทบเท้าของเขา
มันน่าสมเพช น่าเวทนา แต่หัวใจของหล่อนก็ตกอยู่ในอุ้งมือของคอร์เนลไปเสียแล้ว ตกไปอยู่ในอุ้งมือมารโดยที่เจ้าของอย่างหล่อนไม่ได้เต็มใจสักนิด แถมเขายังมองไม่เห็นค่าของมันอีกต่างหาก มันช้ำเสียยิ่งกว่าช้ำ
น้ำตาพานไหลซึมออกมาอีกระลอกหลังจากที่นอนจมกับธารแห่งความอาดูรมาตลอดทั้งคืน ก้อนสะอื้นแสนทรมานอัดแน่นอยู่ในอกจำนวนมหาศาล หล่อนเกลียดความรู้สึกนี้เหลือเกิน เกลียดความรู้สึกที่มีแต่ผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหล่อนมีค่าเกินกว่าคำว่า ‘อีตัว’ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คนรักกันก็เป็นแบบนี้แหละ ต้องมีทะเลาะกันบ้าง ฉันกับโกวิทก็ตีกันบ่อยๆ แต่ก็ยังรักกันเหมือนเดิม”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวนั่งนิ่งไม่ยอมตอบคำถาม ลินดาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียเอง พยายามจะปลอบใจยาหยีแต่แม่คุณคนงามกลับส่ายหน้าปฏิเสธซะอย่างนั้น
“ฉันกับเขาไม่ใช่คนรักกันหรอกลินดา”
“ไม่ใช่คนรักอะไรล่ะ ดูพ่อรูปหล่อตาเขียวนั่นจะแคร์เธอมากๆ เลย เชื่อเถอะว่าฉันมองไม่ผิดหรอก”
“แต่ครั้งนี้เธอมองผิดแล้วล่ะลินดา เราไม่ใช่คนรักกัน…ไม่มีวันเป็นไปได้ด้วย” ยิ่งพูดก็ยิ่งช้ำ น้ำตาหลั่งรินออกมาไม่ขาดสาย
“ไม่ใช่คนรักอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่คนรักแล้วทำไมเธอถึงยอมนอนกับเขาล่ะลูกหยี และอย่าบอกนะว่าแค่สนุกๆ เพราะฉันไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด แล้วผู้หญิงหวงเนื้อหวงตัวแบบเธอก็ไม่มีทางปล่อยกายปล่อยใจเพียงเพราะความสนุกได้หรอก ลูกหยี…อย่ามาโกหกฉันเลย”
ลินดาค้านเสียงแข็งโป๊ก ขณะจับจ้องใบหน้าสวยงามปานน้ำตาลอ้อยของยาหยีเขม็งอย่างรอคอยคำตอบ และในที่สุดยาหยีก็ตอบออกมาเสียงเจือสะอื้น
“ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้มีความรู้สึกมาเกี่ยวข้องเลยจริงๆ ลินดา ฉัน…” แรงสะอื้นทำให้ยาหยีต้องหยุดพูดชั่วขณะ
“ฉันกับเขาก็แค่…แลกเปลี่ยนกันเท่านั้น”
และในที่สุดยาหยีก็สามารถพูดความอัปยศของตัวเองออกมาให้ลินดาได้รับรู้จนจบประโยคจนได้ ตอนนี้หล่อนไม่ควรจะปิดบังอะไรต่อเพื่อนรักคนนี้ของหล่อนอีกแล้ว
“แลกเปลี่ยน?”