เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 31
พายุสวาทสุดป่าเถื่อนแต่ก็แสนหวานจบลงไปแล้ว จบลงพร้อมๆ กับการเคลื่อนไหวและเสียงสั่นคลอนของเตียง แต่ทำไมนะ ทำไมความเสียวซ่านถึงยังคงกัดกินร่างกายของหล่อนอยู่มากมายขนาดนี้ ทำไมผิวสาวถึงยังร้อนผ่าว ช่องท้องถึงได้ตื่นเร้ารุนแรง เหมือนกับยังไม่พอ เหมือนกับยังไม่อิ่ม
ใช่สินะ หล่อนยังต้องการคอร์เนลอีก ต้องการอีกจนน่าละอาย
ยาหยีก้มหน้ายอมรับกับตัวเองอยู่ภายในใจด้วยความขมขื่น เมื่อสมองร้องเตือนว่าหล่อนก็แค่อีตัวบนเตียงที่ยังใช้งานไม่คุ้มก็แค่นั้นเอง
ความน้อยใจทำให้หญิงสาวเริ่มขยับตัวดิ้นรนอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้เขาดื่มด่ำอยู่ภายในกายมาเนิ่นนาน
คอร์เนลผงกศีรษะทุยได้รูปสวยของตัวเองขึ้นจากเต้างามอย่างไม่เต็มใจนัก ดวงตาคมกริบสีเขียวจัดของเขาดูหนักอึ้งเหลือเกิน
“ดิ้นทำไมลูกหยี”
“อย่ามาเรียกฉันแบบนี้นะ คุณไม่ใช่คนสนิทของฉัน”
“คุณน่าจะรู้นะว่าผมน่ะเป็นยิ่งกว่าคนสนิทของคุณเสียอีก”
คนตัวโตขยับสะโพกเป็นจังหวะหยอกเย้ามากกว่าจะเอาจริง แต่กระนั้นก็ทำให้สาวน้อยหน้าร้อนผ่าวจนแทบไหม้ได้อย่างง่ายดาย
“คนลามก!”
หญิงสาวหน้าแดงก่ำ มือที่เคยใช้โอบกอดเรือนกายชื้นเหงื่อของคอร์เนลเอาไว้ยกขึ้นผลักไสแผงอกกว้างสมบูรณ์แบบเสียเต็มแรงทันที
คิ้วเข้มของคอร์เนลเลิกขึ้นสูงราวกับต้องการถามว่าเจ้าหล่อนเป็นอะไรไปอีก
“เมื่อกี้ตอนที่เราสนุกกัน คุณไม่เห็นแสดงท่าทางรังเกียจผมแบบนี้เลย แล้วตอนนี้ทำทำไม?”
“ก็เพราะฉันเกลียดคุณยังไงล่ะ”
ไม่คิดว่าคำพูดแง่งอนของตัวเองจะส่งผลร้ายแรงได้ถึงเพียงนี้เลยให้ตายสิ เพราะมันทำให้คอร์เนลพลิกกายกำยำลงจากร่างเปลือยของหล่อนในทันที เขาขยับลุกขึ้นไปนั่งหันหลังให้หล่อนที่ขอบเตียง ความเงียบเข่นฆ่ายาหยีอยู่นานหลายอึดใจกว่าที่ชายหนุ่มจะพูดออกมาเสียงเย็นชา
“ท่องไว้ให้ขึ้นใจนะไอ้คำว่าเกลียดผมน่ะ เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณรักผม คุณจะต้องเสียใจจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเลยทีเดียวแหละ”
คนตัวโตลุกขึ้นยืน พร้อมๆ กับจัดการซ่อนเนื้อตัวกำยำที่งามไร้ที่ติของตัวเองกลับเข้าไปในเสื้อผ้าราคาแพงอีกครั้ง ก่อนจะจ้องหน้าหล่อนเขม็งราวกับโกรธเกลียดกันมาสักสิบชาติ
“เพราะผมไม่มีวันที่จะรักผู้หญิงปากคอเราะรายแบบคุณได้ จำเอาไว้!”
เขาทิ้งคำพูดเหี้ยมโหดใส่หน้าหล่อนอย่างไม่ปรานี ก่อนจะก้าวยาวๆ เดินออกไปจากห้องพักของหล่อนในพริบตา เสียงปิดประตูแรงๆ ทำให้ร่างอรชรสะดุ้งโหยง น้ำตาไหลทะลักออกมาเมื่อเงยหน้าพบกับความเป็นจริง
คอร์เนลไปแล้ว เขาเดินจากหล่อนไปอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ร่วมรักกันจบ หล่อนมันไม่มีค่าอะไรเลย ไม่มีค่า ไม่มีราคาพอที่จะทำให้เขาพูดจาดีๆ ด้วยเลยสักครั้ง
“ทำไมใจร้ายนักนะคอร์เนล คุณน่าจะรู้ว่าที่ฉันพูดไปแบบนั้นก็เพราะ…น้อยใจคุณ”
หญิงสาวสะอื้นไห้จนตัวโยน น้ำตาหลั่งรินออกมาอาบแก้ม หัวใจหนาวเหน็บจนสั่นสะท้าน ความสุขสันต์เลือนหายไปในพริบตาเมื่อผู้ชายคนนั้นเดินจากไป หัวใจไม่รักดีสั่งให้หล่อนร้องเรียกและวิ่งตาม แต่สองเท้ากลับไม่มีแรงพอที่จะทำแบบนั้น
เสียงเครื่องยนต์รถแว่วมาไกลๆ หญิงสาวฝืนพาร่างกายบอบช้ำของตัวเองก้าวลงจากเตียงเดินไปเกาะที่ขอบหน้าต่าง แม้จะอยู่สูงกว่าถึงสามชั้นแต่หล่อนก็สามารถจดจำรถสปอร์ตสีขาวที่กำลังแล่นออกจากหน้าหอพักของตัวเองไปได้เป็นอย่างดี
‘เขาไปแล้วจริงๆ จากไปพร้อมๆ กับหัวใจไม่รักดีของหล่อนนั่นแหละ’
“ฉันห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ฉันห้ามใจไม่ได้จริงๆ”
ยาหยียกมือขึ้นป้ายน้ำตาที่ดูจะไหลออกมามากเสียเหลือเกินทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า มองรถของคอร์เนลไปจนลับตา ก่อนจะทิ้งกายเปลือยเปล่าของตัวเองลงกองกับพื้นห้องข้างหน้าต่างด้วยหัวใจที่ชอกช้ำร้าวราน
หลังจากร่างสูงใหญ่ของคอร์เนลเดินหายเข้าไปในตึก อีวานก็รีบหันไปพูดกับน้าชายด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจทันที
“ไหนนายน้อยบอกว่าจะค้างคืนกับเด็กคนนั้นยังไงล่ะ แล้วนี่…” อีวานก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นพูดต่อ
“ยังไม่ทันถึงสามทุ่มเลย หน้าบูดกลับมาแล้ว สงสัยทะเลาะกันมาอีกแน่ๆ เลย น้าเซอร์เกคิดแบบผมไหมครับ”
เซอร์เกพ่นลมหายใจหนักหน่วงออกจากปาก ดวงตาที่ผ่านโลกมามากของเขากำลังอัดแน่นไปด้วยความหวาดวิตก และเขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียวเพราะเจ้าหลานชายตัวดีพ่นให้หมดราวกับเข้าไปนั่งอยู่ในใจของเขาเสียอย่างนั้น
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายน้อยจะยอมปล่อยให้ผู้หญิงมาทำให้ตัวเองอารมณ์เสียแบบนี้ ผมคิดว่ามันชักจะทะแม่งๆ แล้วนะเนี่ย นายน้อยเป็นหนักขึ้นทุกวัน”
อีวานพูดไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ปกติคอร์เนลไม่เคยปล่อยให้เรื่องของผู้หญิงคนไหนมาวุ่นวายในสมองของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว นายน้อยของเขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยไล่ตาม และไม่เคยต้องมาอารมณ์เสียกับเรื่องของสตรีมาก่อน แต่ยาหยีทำให้คอร์เนลเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่าง ตารางชีวิตของนายน้อยรวนเรพังพินาศ ตอนนี้ไม่ว่าจะเพชรสีทองหรือว่าอาณาจักรซีร์ยานอฟ ทุกอย่างดูด้อยค่าลงไปหมดหากต้องมาเทียบเคียงกับผู้หญิงไร้เดียงสาอย่างยาหยี โรจน์มหามงคล
เซอร์เกถอนใจออกมาแรงๆ อีกครั้ง ก่อนจะยอมเอ่ยปากพูดกับหลานชายตัวเอง
“เราเป็นขี้ข้า อย่ายุ่งเรื่องของเจ้านายดีกว่าอีวาน” เซอร์เกกำลังจะเดินจากไปแต่ก็ต้องชะงักด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของอีวานที่ดังขึ้นมา
“แต่ผมเป็นห่วงนายน้อยนะครับน้าเซอร์เก ผู้หญิงคนนี้ชักไม่ธรรมดาแล้วล่ะ นายน้อยอาจจะกำลังตกหลุมหายนะก็ได้นะครับ หรือบางทีนะนายยอดชายกับลูกสาวอาจจะร่วมกันวางแผนนี้เอาไว้ก็เป็นได้ หลอกล่อให้นายน้อยตกลงไปในหลุมรักจนดิ้นไม่หลุด แล้วพอนายน้อยเผลอ พวกนั้นก็แทงนายน้อยด้วยมีดแหลมๆ จนทะลุอก”
“พูดเกินจริงไปมั้งอีวาน นายน้อยของเราไม่ใช่คนโง่”
“แต่ผู้หญิงมักมีความสามารถพิเศษเสมอยามที่ตัวเองมีเป้าหมาย…” อีวานพูดอย่างอคติกับสตรี ขณะจ้องหน้าชายเขม็ง “และอีกอย่างที่ผมว่ามันแปลกๆ ก็คือ ผู้หญิงคนนั้นพยายามเรียกร้องความสนใจจากนายน้อยด้วยการทำเป็นดื้อรั้นหัวชนฝา เธอคงจะอ่านทางออกว่านายน้อยของเราน่ะยิ่งหนีก็จะยิ่งไล่ตาม แม่คุณก็เลยยิ่งทำเป็นรังเกียจรังงอนนายน้อยซะอย่างงั้น”
ใช่สินะ ยาหยีแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่คอร์เนลเคยได้สัมผัส เด็กสาวดื้อรั้นและแสนพยศไม่ยอมสยบง่ายๆ ตรงข้ามกับผู้หญิงทุกคนที่คอร์เนลเคยผ่านมา คอร์เนลคงจะเห็นว่ามันเป็นความท้าทายที่น่าพิชิตล่ะมั้งถึงได้ไม่ยอมปลดปล่อยแม่เด็กสาวคนนี้ไปสักที ทั้งๆ ที่ตัวเองก็สามารถจะกระชากนายยอดชายจากที่หลบซ่อนได้ตั้งนานแล้ว
“ทั้งๆ ที่ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยไม่มีใครสักคนที่จะใจแข็งกับผู้ชายหล่อขั้นเทพแบบนายน้อยได้สักคน ต่อให้แม่ชีที่บวชมาตลอดชีวิตก็ยังต้องอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟเลยยามที่สบตากับนายน้อยน่ะ”
อีวานไม่ได้พูดเกินจริงเลย เซอร์เกรู้ดีอยู่เต็มอก แต่ด้วยความอาวุโสกว่าเขาจึงรู้ว่าอะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูดออกไป
“เราไม่ควรพูดถึงเจ้านายลับหลัง”
“ผมไม่ได้นินทานี่ครับน้าเซอร์เก แต่ที่ผมพูดก็เพราะเป็นห่วงนายน้อยต่างหาก และตอนนี้สิ่งที่ผมคิดว่าน้าเซอร์เกควรจะทำที่สุดก็คือ…”
“อะไร?”
“กำจัดลูกสาวของนายยอดชายซะ ทำให้เธอหายไปจากชีวิตของนายน้อย” แม้น้ำเสียงของอีวานจะฟังดูเลือดเย็นเกินกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน แต่เซอร์เกก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจมัน เพราะความหมายของคำพูดต่างหากที่ฟังดูน่าตกใจ
“กำจัดอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ครับน้าเซอร์เก น้าจะต้องกำจัดแม่นั่นออกไป หากน้ารักนายน้อย” เมื่ออีวานยังยืนยันคำเดิม เซอร์เกจึงส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ
“อีกไม่นานนายน้อยจะกำจัดเธอออกไปจากชีวิตเอง ไม่ต้องถึงมือเราหรอกอีวาน”
“นี่น้ายังเชื่ออีกหรือครับว่านายน้อยไม่ได้หลงแม่เด็กคนนั้น” อีวานถามเสียงสูง ใบหน้าเคร่งเครียด
“อาจจะหลง แต่ไม่มีทางรักแน่นอน พอพวกเรากลับมอสโกกัน เด็กยาหยีก็จะกลายแค่อดีตที่ไม่น่าจดจำของนายน้อยเท่านั้นเอง เชื่อน้าเถอะอีวาน” เซอร์เกยกมือขึ้นตบไหล่หลานชายเบาๆ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“แต่ว่าผม…”
“เอาน่าอีวาน น้ารู้ว่าแกเป็นห่วงนายน้อยมาก น้าเองก็ห่วงไม่แพ้แกหรอก แต่เราเป็นแค่ขี้ข้า เป็นแค่คนนอก ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของท่านหรอกนะ เราแค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ก็พอ หากนายน้อยต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเมื่อไร เราจึงจะมีสิทธิ์พูดน่ะ…เข้าใจไหมอีวาน”
แม้จะไม่พอใจกับคำเตือนสติของน้าชายนัก แต่อีวานก็ไม่สามารถทำอะไรลงไปได้นอกจากพยักหน้ารับหงึกๆ
“ครับน้าเซอร์เก แต่ว่าผมจะไม่ยอมยืนมองแม่เด็กคนนั้นเงื้อมีดเตรียมแทงนายน้อยเฉยๆ หรอก ผมจะต้องทำให้นายน้อยตาสว่างให้ได้”
จบคำพูดหงุดหงิดนั้นหนุ่มน้อยอีวานก็เดินลิ่วๆ จากน้าชายของตัวเองหายไปทางเรือนพักหลังกะทัดรัดของตัวเองในทันที เซอร์เกถอนใจออกมาหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับที่พักของตัวเองไปเช่นกัน