เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 28
“ไปไหนมาน่ะยายลูกหยี แล้วนี่หายป่วยแล้วหรือไง”
เมื่อยาหยีพาตัวเองกลับมาถึงห้องพัก ลินดาที่เดินกลับไปกลับมาในห้องก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ วิ่งเข้ามาโอบกอดแน่น
“นึกว่าถูกผู้พ่อเทพบุตรเถื่อนตาสีเขียวฉุดไปข่มขืนรอบสองเสียแล้ว”
แก้มสาวแดงก่ำแทบไหม้ทันทีเมื่อคำพูดของลินดาทำให้สมองของหล่อนหวนคิดไปถึงฉากรักอันแสนเร่าร้อนบนโต๊ะไม้ใหญ่ในห้องทำงานของคอร์เนล เขาครอบครองหล่อนอย่างดุดันบนโต๊ะไม้นั่น และหล่อนก็หน้าด้านเหลือเกินที่ร่ำร้องครวญครางออกมาด้วยความพึงพอใจสุดขีด เสียงร้องด้วยความสุขสมยามที่มีเขาอยู่ภายในกายยังติดตรึงอยู่ในสมอง ทั้งที่อยากจะลืมแต่มันก็กลับจดจำ
“ฉันไม่อยากพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีก” ยาหยีตัดบทด้วยใบหน้าที่ยังแดงเถือกไม่เลิก ขณะพากายสาวที่อิดโรยมาทรุดนั่งลงบนเตียง ลินดาอยากจะเชื่อคำพูดของเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่พอมองสภาพของแม่เพื่อนสาวแล้วก็เชื่อไม่ลง
‘ใครจะเชื่อเข้าไปลงล่ะ ในเมื่อปากยังเจ่อบวมช้ำอยู่เลย แถมสภาพก็เหมือนพึ่งถูกเสพสุขมาอย่างหนักหน่วงแบบนี้’
ลินดาถอนใจออกมา ก่อนจะมานั่งเคียงข้างยาหยี
“บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่เธอรอคอยก็ได้นะยายลูกหยี ผู้ชายหล่อร้ายที่ผู้หญิงทุกคนฝันหา”
“เขาไม่ใช่คนๆ นั้นหรอก” ยาหยีเถียงเสียงเรียบ น้ำตาซึมออกมาด้วยความน้อยใจ คอร์เนลแสดงท่าทางเย็นชาใส่หล่อนทุกครั้งหลังจากจบเกมรักเร่าร้อน เขาทำกับหล่อนยิ่งกว่าคนแปลกหน้าเสียอีก ขับไล่ไสส่งอย่างไม่รักษาน้ำใจกัน
“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าใช่หรือไม่ใช่ มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่จะเป็นคนตอบคำถามให้กับหัวใจตัวเองได้ว่าเขาใช่คนที่เธอรอคอยหรือเปล่า และหัวใจของเธอรักเขาไหม
‘รักหรือ? หล่อนรักผู้ชายคนนั้นหรือเปล่านะ ไม่ ไม่มีทางรักหรอก หล่อนก็แค่หลงใหลได้ปลื้มกับความหล่อเกินมนุษย์มนาของเขาเท่านั้นเอง’
“ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว”
“อย่าลืมสิ เขาเป็นคนแรกของเธอนะลูกหยี ผู้หญิงหัวโบราณแบบเธอคงไม่ดีใจนักหรอกที่จะมีผัวสองใช่ไหม” คำพูดของลินดาตีแผ่ความจริงจนแตกกระจุย
‘จริงสินะ หล่อนคิดภาพผู้ชายคนอื่นบนร่างกายของตัวเองไม่ออกจริงๆ แค่คิดว่ามือของใครบางคนที่ไม่ใช่ของคอร์เนลมาสัมผัสผิวกาย แค่นั้นก็แทบจะอาเจียนออกมาอยู่รอมร่อ หล่อนคงหลงใหลเซ็กส์ของคอร์เนลจนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้วล่ะ’
“มันก็แค่ความผิดพลาดที่สุดในชีวิต และฉันก็มั่นใจว่าตัวเองสามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องอาศัยใบบุญของผู้ชายคนไหนไปตลอดชีวิต”
ลินดาฟังน้ำเสียงของยาหยีแล้วก็พอจะรู้ว่าเพื่อนสาวกำลังน้อยอกน้อยใจพ่อเทพบุตรตาเขียวดุจมรกตเนื้อดีคนนั้นมากแค่ไหน
“แล้วหากเธอท้องล่ะ”
เหมือนสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมากลางหัวใจ ยาหยีหันขวับ จ้องมองใบหน้าของลินดาเขม็ง
“ท้องอย่างนั้นเหรอ?”
ลินดาพยักหน้ารับ
“ก็ใช่น่ะสิ สาวบริสุทธิ์แบบเธอคงไม่ได้ป้องกันหรอกจริงไหม”
“ใช่ ฉันไม่ได้คุมกำเนิด”
น้ำเสียงเบาหวิวดังออกมาจากกลีบปากชอกช้ำพร้อมๆ กับใบหน้างามที่ซีดเผือดลงทีละน้อย ลินดามองเพื่อนด้วยความสงสาร ก่อนจะพูดให้กำลังใจออกไป
“อย่าคิดมากเลยน่า ผู้ชายคนนั้นอาจจะป้องกันก็ได้ เธอเห็นเข้าใส่ถุงยางไหม”
ยาหยีพยายามนึกแต่ความเร่าร้อนเจียนคลั่งในเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนั้นก็ทำให้หล่อนจำอะไรไม่ได้เลย
“ฉันไม่รู้…”
“แล้วเขา…เอ่อ…ปล่อยในตัวของเธอหรือเปล่า”
แม้มันจะกระดากปากมากแค่ไหนแต่ก็ต้องฝืนพูดออกไปเพื่อที่จะได้รู้ว่าเพื่อนสนิทของตัวเองมีสิทธิ์ที่จะอุ้มท้องทั้งๆ ที่ยังศึกษาอยู่หรือเปล่า
“ปล่อย?” คิ้วงามของยาหยีเลิกขึ้นสูง แล้วก็ต้องแก้มแดงก่ำเมื่อเข้าใจความหมายคำพูดของคู่สนทนา
ลินดาพยักหน้า มองใบหน้านวลของยาหยีที่แดงสลับขาวด้วยความเวทนา
“ใช่…ปล่อยหรือเปล่า”
“ฉะ…ฉันไม่รู้”
ตอบออกมาปากสั่นระริก สมองนึกภาพตามสิ่งที่ลินดาพยายามสื่อความหมาย แต่หล่อนไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ ช่วงจังหวะที่เขากับหล่อนแนบชิดกันนั้นมันเหมือนกับการหลุดหลงเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์แห่งหนึ่ง ดินแดนที่มีแต่ความเสียวซ่านและรัญจวนจิตเพียงเท่านั้น
“ฉันไม่รู้จริงๆ นะลินดา ไม่รู้จริงๆ” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหน้าร่ำไห้ ลินดารีบดึงเข้ามากอดอีกครั้งด้วยความเวทนาสงสาร
“เอาละๆ เลิกร้องไห้เถอะลูกหยี ทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว ลืมมันซะนะ”
“แต่ฉันกลัวท้อง ลินดา ฉันกลัวจริงๆ นะ” ยาหยีลดมือที่ปิดหน้าลงและมองคู่สนทนาอย่างขอความช่วยเหลือ
ลินดาถอนใจออกมาแรงๆ ด้วยความกลัดกลุ้มเช่นกัน ยาหยีไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรกับหล่อนเลยให้ตายสิ นี่แหละน่า ข้อเสียของสาวบริสุทธิ์ที่ไม่แม้แต่จะอ่านนิยายโรมานซ์
“เธอต้องถามผู้ชายคนนั้นแล้วล่ะลูกหยี”
“ถามเขา?”
ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ความตื่นตระหนกอัดแน่นอยู่เต็มกระแสเสียง ก่อนจะรีบส่ายหน้าพรืดโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ไม่…ฉันไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว”
“ถ้าเธอไม่ถาม แล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ ไม่งั้นก็นั่งเครียดกันตายเลย แถมยังจะสอบในอีกวันสองวันนี่แล้วด้วย คงไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านหนังสือแน่ แล้วไอ้เกรดเอที่เธอกวาดเรียบทุกวิชามาทุกเทอมน่ะคงต้องหลุดมือไปแน่ๆ”
ลินดาพยายามหว่านล้อม แต่เจ้าตัวก็เอาแต่นิ่งเงียบ ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด จนปัญญาที่จะช่วยเหลือแล้วจริงๆ
“ทำใจดีๆ ไว้นะลูกหยี นอนหลับพักผ่อนซะให้สบายใจ พรุ่งนี้ค่อยหาทางแก้ปัญหากันใหม่ แล้วนี่เธอมั่นใจได้ยังไงว่าพ่อรูปหล่อน่าฟัดนั่นจะไม่มาลากเธอไปกกอีกน่ะ เมื่อตอนเช้าก็บุกไปหาเธอที่ห้องเรียนมาครั้งหนึ่งแล้ว” คำพูดของลินดาทำให้คนที่กำลังร่ำไห้อยู่ถึงกับหยุดร้องไห้กึก พร้อมๆ กับถามออกมาเสียงสั่นเครือ
“เขาไปหาฉันที่ห้องเรียนเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ สาวๆ ในห้องน่ะกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ แต่พอรู้ว่าเป็นผู้ชายของเธอ พวกนั้นก็อิจฉากันตาร้อนผ่าว รวมทั้งฉันด้วย นี่รู้ไหมว่าเธอน่ะโชคดีแค่ไหนที่ได้เทพบุตรสุดหล่อแถมท่าทางจะรวยระเบิดมานอนกก ฉันหามาทั้งชีวิตยังได้แค่โกวิทลูกชายเจ้าของร้านทองเอง”
อยากจะดีใจอยู่หรอก แต่หล่อนจะดีใจลงไปได้ยังไงกันล่ะในเมื่อรู้ฐานะตัวเองในสายตาของคอร์เนลดีว่าเขามองหล่อนยังไง
เหยื่อแค้น อีตัว หรือไม่ก็นางบำเรอ
“หากการได้เจอกับผู้ชายคนนี้เป็นเรื่องโชคดีละก็ ฉันขออยู่แบบโชคร้ายดีกว่า อยู่โดยไม่ต้องพบเจอผู้ชายใจร้ายคนนี้…ผู้ชายใจดำ”
“โอ๋…หยุดร้องไห้ได้แล้วลูกหยีจ๋า เธอคงโกรธเขามากที่เขารุนแรงด้วยใช่ไหมล่ะ มันก็ธรรมดาของผู้ชายนั่นแหละ ยิ่งเป็นผู้ชายยุโรป ผู้ชายอเมริกันด้วยแล้ว พวกนี้เซ็กส์ค่อนข้างรุนแรง ป่าเถื่อน แต่อีกหน่อยเธอก็จะชอบมัน…เหมือนกับฉันนี่แหละ”
“ฉันไม่มีทางชอบคนเถื่อนแบบนั้นหรอก”
แม้จะกำลังคร่ำครวญอยู่แต่หญิงสาวก็ยังอดคัดค้านออกไปไม่ได้ แม้ความเป็นจริงแล้วหล่อนจะหลงใหลสัมผัสของคอร์เนลจนโงหัวไม่ขึ้นก็ตาม แต่หล่อนไม่มีทางยอมให้ใครรับรู้ได้หรอก ปล่อยให้มันตายไปพร้อมๆ กับลมหายใจของหล่อนเนี่ยแหละ หล่อนจะต้องบอกว่าเกลียดเขาทุกครั้งที่เจอหน้า
ลินดานั่งปลอบเพื่อนสนิทอยู่พักใหญ่ก็ขอตัวออกไปทำธุระข้างนอก
“ฉันมีนัดกับโกวิทน่ะลูกหยี อาจจะกลับดึกสักหน่อยนะ แต่รับรองไม่เกินเวลาที่หอปิดแน่ เพราะฉันไม่มีวันยอมนอนตากน้ำค้างหน้าหอแบบเธอหรอก” ร่างอรชรในชุดสวยลุกขึ้นยืน ยิ้มให้กับยาหยีอย่างให้กำลังใจ
“นอนซะนะ พักผ่อนซะ อย่าคิดมาก เดี๋ยวฉันกลับมา”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอกลินดา เธอไปเที่ยวกับโกวิทให้สบายใจเถอะ” ยาหยีฝืนยิ้มให้กับคู่สนทนาทั้งน้ำตา ความขมขื่นที่เกิดจากความไม่แยแสของคอร์เนลยังคงมีอานุภาพรุนแรงต่อหัวใจของหล่อนมากมายเช่นเดิม
“งั้นฉันไปนะลูกหยี”
“จ้ะ ขอให้สนุกนะ”
ยาหยีโบกมือให้กับเพื่อนรัก มองจนลินดาหายวับไปกับบานประตูแล้วจึงล้มตัวลงนอนหงายบนเตียงนอน ร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนตัวโยน เจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
เสียตัว มันยังไม่เจ็บปวดรวดร้าวเท่ากับการที่ต้องเสียหัวใจให้กับผู้ชายที่มองไม่เห็นค่าของมันเลยแม้แต่นิดเดียว