เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 23
“นายน้อย” เซอร์เกก้มศีรษะให้กับเจ้านายของตัวเองด้วยความเคารพ เมื่อเห็นหนุ่มหล่อเดินลงมาจากหอพัก
“เมื่อคืนพวกนายทำบ้าอะไรกัน!”
คอร์เนลตวาดใส่คนสนิทและเหล่าบอดี้การ์ดเสียงดังลั่นด้วยความเดือดดาล มือใหญ่กำเข้าหากันแน่น อยากจะชกหน้าใครสักคนให้หายเจ็บใจนัก
“เมื่อคืนหรือครับ?”
“ใช่ พวกนายมาส่งยาหยีที่นี่ แล้วทำไมไม่ดูเวลาว่ามันกี่ทุ่มกันแล้ว หอพักปิดหรือยัง ทำไมให้เธอนอนตากน้ำค้างอยู่ที่นี่”
ความเกรี้ยวกราดของเจ้านายเข้าขั้นร้ายแรงจนผิดสังเกต ปกติคอร์เนลไม่เคยดูดำดูดีผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต หลังจากใช้บริการจบ ทุกอย่างก็จบลงด้วยเช่นกัน นายน้อยของเขาไม่เคยจดจำหน้าของสตรีเหล่านั้นได้เลย
“ผมไม่ทราบว่าหอปิดแล้วครับ และคุณยาหยีก็ไม่ได้บอก…” เซอร์เกพยายามจะอธิบายแต่คอร์เนลก็โกรธเกรี้ยวเกินกว่าจะรับฟัง
“ฉันจะตัดเงินเดือนของพวกนายทุกคนโทษฐานที่ทำให้ยาหยีไม่สบาย” คอร์เนลคำรามเล็ดลอดไรฟันขาวสะอาดของตัวเองออกไป ก่อนจะก้าวหายเข้าไปในรถลีมูซีนสีดำ โดยไม่สนใจรถสปอร์ตที่ตัวเองเป็นคนขับมาอีกเลย
เซอร์เกถอนใจออกมากับความผิดปกติของเจ้านาย ก่อนจะพยักหน้าให้อีวานไปขับรถสปอร์ต จากนั้นตัวเองก็ยืนรอยาหยีอยู่ข้างรถ และเพียงไม่นานหญิงสาวก็เดินโซเซลงมา มือบางมีเป้ใบย่อมติดมือมาด้วยหนึ่งใบ
“เชิญครับ”
ยาหยีเม้มปากแน่น ไม่มองเซอร์เกแม้แต่หางตาขณะก้าวขึ้นรถคันยาวที่เปิดประตูรออยู่ รถคันงามที่ตกแต่งสไตล์ยุโรปอย่างหรูหราแล่นทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง ความเงียบเชียบกัดกินไปทั่วทุกเซลล์ประสาทเมื่อพ่อมัจจุราชจอมโหดที่นั่งขนาบข้างอยู่ไม่คิดจะปริปากทำลายความเงียบสงัดออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
หญิงสาวลอบมองเสี้ยวหน้าคมสันในความสลัวนั้นอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความหล่อเหลาที่สะท้อนออกมาจนคนมองอย่างหล่อนต้องแสบตา
‘ผู้ชายอะไรแม้แต่อยู่ในความมืดก็ยังมีเสน่ห์ถึงเพียงนี้’
หญิงสาวเผลอชื่นชมคอร์เนลอยู่ภายในใจด้วยความลุ่มหลง ขณะลอบมองพ่อเทพบุตรสุดหล่อไม่วางตาไปตลอดทาง
คฤหาสน์หลังนี้ยังงามจับตาเช่นเดิม ยาหยีชื่นชมอยู่ภายในอก ขณะก้าวลงจากรถคันงามที่พึ่งจะจอดสนิทลง ร่างสูงใหญ่ของคอร์เนลเดินมาหยุดใกล้ๆ กลิ่นกายแข็งแกร่งดุจชายชาตินักรบของเขามีผลทำให้สมองของหล่อนมึนเมาได้อย่างง่ายดาย
‘ผิวกายของเขาเรียบตึง สีแทนเนียนไม่ผิดจากสีของน้ำผึ้ง แถมรสชาติก็ยัง…’
แก้มสาวแดงระเรื่อขึ้นมาเมื่อหวนนึกไปถึงยามที่ลิ้นเล็กของตัวเองตวัดเลียผิวหนุ่มในค่ำคืนเร่าร้อนที่ผ่านมา สาวน้อยรีบสลัดศีรษะของตัวเองแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิดที่น่าอับอายให้กระเด็นออกไปจากสมอง แต่ยิ่งพยายามเท่าไร มันก็ยิ่งจมลึกและฝังแน่นลงไปเสียทุกที
“เดี๋ยวเชอรี่จะพาคุณขึ้นไปพักผ่อน”
เสียงห้าวของผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยลืมได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวดังขึ้นใกล้ๆ และมันก็ช่วยดึงหล่อนให้ขึ้นมาจากหลุมเสน่หาได้สำเร็จ หญิงสาวเบิกตากว้าง เงยหน้าขึ้นมองเขา สายตาประสานกันนิ่ง เหมือนหลงเข้าไปอยู่ในสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังแรงสูง ปฏิกิริยาทางเพศที่หล่อนกับเขามีต่อกันนั้นมันรุนแรงจนน่าตกใจ
สาวน้อยยกมือขึ้นทาบอก ขณะก้าวถอยหลังหนี
“ฉะ…ฉัน…”
“ไม่ต้องค้านอะไรทั้งนั้น ผมจะไม่ฟังคุณพล่ามอีกแล้วล่ะ”
เขาพูดเสียงกระด้างใส่หน้าหล่อน ก่อนที่ใบหน้าหล่อเข้มจะหันไปมองสาวใช้วัยกลางคนร่างท้วมที่พึ่งปรากฏตัวขึ้น
“พาคุณยาหยีไปพักที่ห้องนอนฝั่งตะวันออก”
จบคำสั่งเอาแต่ใจ คนตัวโตก็ก้าวยาวๆ หายเข้าไปในตัวตึกใหญ่เบื้องหน้าในพริบตา ยาหยีกัดปากแน่นกับท่าทางไม่แยแสที่เขาแสดงต่อตัวเอง
“ไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากเห็นหน้า แล้วไปลากฉันมาด้วยทำไม”
บ่นออกมาด้วยความน้อยใจ ขณะยังยืนนิ่งอยู่กับที่ จนมีมือของใครบางคนมาแตะที่แขนนั่นแหละ หญิงสาวถึงรู้สึกตัว
“เชิญค่ะคุณยาหยี”
รอยยิ้มอย่างมีไมตรีของแม่บ้านวัยกลางคนทำให้ยาหยีใจชื้นขึ้นมาบ้าง หญิงสาวระบายยิ้มออกมาแม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่ไม่สดใสนักก็ตาม
“ฉันจำป้าได้”
เชอรี่ยิ้มกว้างขณะเดินพาสาวน้อยที่ตัวเองถูกชะตาด้วยมุ่งหน้าไปยังห้องพักแขกห้องหนึ่งที่ฝั่งตะวันออก ซึ่งมันอยู่คนละทิศกันเลยกับห้องนอนของคอร์เนล ความจริงหล่อนก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่นายน้อยของตัวเองไม่ยอมให้ยาหยีไปพักอยู่ห้องเดียวกันด้วย แต่บ่าวอย่างหล่อนไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้หากนายไม่ต้องการจะบอก
“ป้าอยู่ที่นี่มานานแล้วหรือคะ”
“ปกติป้าอยู่ที่คฤหาสน์ซีร์ยานอฟในกรุงมอสโกน่ะจ้ะ แต่พอดีนายน้อยมีธุระต้องมาทำที่เมืองไทย พอเธอซื้อคฤหาสน์หลังนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน ป้าก็ได้รับคำสั่งให้บินมาดูแลเธอที่นี่”
คำอธิบายของเชอรี่ที่เอื้อนเอ่ยขณะก้าวเท้าพายาหยีผ่านระเบียงไม้ร่มรื่น เรียกคิ้วเรียวสวยให้เลิกขึ้นสูง
“นี่แสดงว่านายน้อยของป้านิสัยเอาแต่ใจที่สุด อยากได้อะไรก็ต้องได้”
“นายน้อยเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่เคยถูกขัดใจมาก่อน เธออยากได้อะไร ทุกอย่างก็ต้องมากองอยู่ตรงหน้า อย่างคฤหาสน์หลังนี้นายน้อยถูกใจก็ทุ่มเงินไม่อั้นเลยทีเดียวเพื่อให้เจ้าของเก่ายอมขายมันให้กับเธอ”
“พวกมาเฟียก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ”
คนเดินนำหน้าหยุดการก้าวเท้ากะทันหัน พร้อมๆ กับหันมาจ้องหน้าหล่อนเขม็ง
“นายน้อยไม่ได้เป็นมาเฟียนะคะ เธอไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมายเลยแม้แต่อย่างเดียว” น้ำเสียงของคู่สนทนาที่เคยเป็นมิตรตอนนี้แข็งกร้าวขึ้นบอกให้หล่อนรู้ว่าเชอรี่กำลังไม่พอใจเป็นอย่างมากที่หล่อนบังอาจไปสบประมาทนายน้อยผู้แสนดีของตัวเอง
‘เชอะ แสนดี…แสนร้ายล่ะมากกว่า’ หญิงสาวคิดด้วยความหมั่นไส้ แต่การพูดออกไปตรงๆ คงจะทำให้ทาสผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกล้างสมองด้วยเม็ดเงินของคอร์เนลอย่างเชอรี่ไม่พอใจแน่ๆ หล่อนคงต้องค่อยๆ หว่านล้อม
“ฉันอาจจะเข้าใจผิดไป”
“ใช่ค่ะ คุณเข้าใจผิดอย่างมาก นายน้อยเป็นคนดี แม้จะเอาแต่ใจและเผด็จการไปบ้าง แต่นายน้อยก็ไม่เคยเข่นฆ่าใคร เธอไม่เคยแม้แต่จะใช้กำลังทำร้ายใครด้วยซ้ำ”
“แต่นายน้อยของป้ากำลังจะฆ่าพ่อของฉัน และที่สำคัญเขาก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฉัน”
‘เล่ห์เหลี่ยมเหรอ เมื่อคืนนี้คอร์เนลแทบไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรกับหล่อนเลยสักนิด แค่ความเชี่ยวชาญในเชิงรักของเขาอย่างเดียวก็ทำให้หล่อนคล้อยตามได้อย่างง่ายดายแล้ว เสียงร้องอ้อนวอนที่หล่อนพร่ำเพ้อออกไปยังติดตรึงอยู่ในสมอง หล่อนวิงวอนให้เขาครอบครองอย่างหน้าไม่อาย และหากมีใครสักคนหนึ่งที่สมควรตายในตอนนี้ ก็ควรจะเป็นหล่อน หล่อนคนเดียวเท่านั้น’ สาวน้อยคิดอย่างอดสู กลีบปากสาวที่ยังบวมช้ำเม้มเข้าหากันแน่น
“พ่อของคุณทำผิด แต่เรื่องของคุณ ป้าเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน” คนพูดเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง ยาหยีก้าวตามหลังไป
“ป้ากำลังจะบอกหรือคะว่าปกตินายน้อยคนดีของป้าไม่เคยฉุดคร่าผู้หญิงมาบำเรอบนเตียงมาก่อน” นึกว่าคู่สนทนาต่างวัยจะปฏิเสธออกมา แต่ตรงกันข้ามกลับพยักหน้าหงึกๆ ซะงั้น
“นายน้อยจะทำไปทำไมล่ะคะ ในเมื่อมีผู้หญิงมายืนต่อแถวยาวเป็นพันๆ หมื่นๆ กิโลเมตรเพื่อรอให้นายน้อยเรียกใช้ แม่สาวๆ พวกนั้นทุกคนล้วนแต่อยากมาอยู่บนเตียงนอนของนายน้อยทั้งนั้น แม้จะรู้ว่าแค่คืนเดียวก็ตาม”
“คืนเดียวหรือคะ” ยาหยีร้องถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ค่ะ แค่คืนเดียวทุกคน”
เป็นอีกครั้งที่เชอรี่หยุดเดินและหันกลับมาจ้องหน้าหล่อนเขม็ง จ้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์จนหล่อนอดรู้สึกขัดเขินไม่ได้
“คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่นายน้อยเรียกให้กลับมารับใช้ซ้ำ แถมยังไปรับด้วยตัวเองอีกต่างหาก นี่คุณรู้ไหมคะว่าปกตินายน้อยแทบจะไม่เคยพูดคุยกับผู้หญิงเลยเวลาที่ไม่ได้อยู่บนเตียง”
สายตาแปลกประหลาดใจของเชอรี่ทำให้หัวใจของยาหยีพองโตได้อย่างประหลาด หล่อนจะไม่หลอกตัวเองหรอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ความน้อยใจกับท่าทางห่างเหินของอีกฝ่ายก็ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะเก็บซ่อนความพึงพอใจนั้นเอาไว้ในอก และพูดแดกดันพ่อเทพบุตรสุดหล่อคอร์เนลออกมา
“นายน้อยของป้าเห็นฉันเป็นตัวประกันยังไงล่ะคะ เขายังไม่มีทางปล่อยฉันหรอก หากยังหาตัวพ่อไม่พบ”
“ใครว่าหายังไม่พบล่ะคะ นายน้อยรู้ที่ซ่อนตัวของพ่อคุณตั้งนานแล้วล่ะ แต่ที่ยังไม่ให้คนเข้าไปจับตัวมาก็เพราะจะใช้มันต่อรองเพื่อให้ได้ตัวของคุณยังไงล่ะ”
เชอรี่เผลอพูดออกมาแล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยท่าทางตื่นตกใจ กำลังจะรีบเดินหนี แต่ยาหยีก็คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน
“ป้าหมายความว่ายังไงคะ”
สาวน้อยคาดคั้นเสียงจริงจัง เชอรี่หน้าซีดเผือด รู้ดีว่าหากคอร์เนลรู้ว่าเรื่องนี้หลุดออกมาจากปากของหล่อน มีหวังถูกไล่ออกจากงานอย่างแน่นอน
“คุณคะ ได้โปรดอย่าบอกนายน้อยเลยนะคะ ได้โปรด…” เชอรี่อ้อนวอนสาวน้อยตรงหน้า
“งั้นก็บอกความจริงมาก่อนสิคะว่าสิ่งที่ป้าพูดเมื่อกี้มันหมายความว่ายังไง”
ยาหยียังคาดคั้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว มองสตรีวัยกลางคนตรงหน้าเขม็ง เชอรี่ไม่มีทางเลือกอื่นใดจึงต้องเอ่ยปากเล่าออกมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแม่สาวน้อยตรงหน้าจะยอมปิดเป็นความลับ
“ป้าได้ยินมาโดยบังเอิญน่ะค่ะ”
หญิงสาวเม้มปากแน่น สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคอร์เนลจะร้ายกาจและไร้หัวใจเช่นนี้
“งั้นสิ่งที่ป้าพูดก็คือเรื่องจริงใช่ไหมคะ”
เชอรี่ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องพยักหน้ารับออกไป
“ค่ะ เรื่องจริง นายน้อยต้องการตัวคุณมากกว่าต้องการเพชรสีทองคืนเสียอีก”
“คนเจ้าเล่ห์!” ยาหยีกำมือแน่น
“นั่นคุณจะไปไหนคะ”
เชอรี่ร้องถามเมื่อเห็นสาวน้อยกำลังจะเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เอื้อมมือไปคว้าเอาไว้แต่ยาหยีสะบัดแรงๆ จนหลุด
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้ป้าเดือดร้อน แต่ตอนนี้ช่วยพาฉันไปหานายน้อยของป้าทีเถอะ ฉันอยากจะตบหน้าเขาสักฉาด” น้ำเสียงของยาหยีอัดแน่นไปด้วยโทสะ
“ไม่ได้นะคะ อย่าได้ริอ่านคิดทำร้ายนายน้อยเด็ดขาด”
เชอรี่ร้องห้ามด้วยท่าทางตื่นตกใจสุดขีด จนคนมองอย่างหล่อนต้องเลิกคิ้วถามกับท่าทางตื่นกลัวเกินเหตุของคู่สนทนา
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเขาสมควรจะโดน แค่ตบหน้ายังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ หากเทียบกับความเจ้าเล่ห์เลวร้ายของเขา”
“ถ้าคุณตบนายน้อย คุณอาจจะไม่เหลือลมหายใจ ถ้าเซอร์เกหรือว่าบอดี้การ์ดเห็นละก็ พวกเขาจะฆ่าคุณทันที”
น้ำเสียงของเชอรี่เต็มไปด้วยความหวั่นเกรง แต่ยาหยีกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด ทำไมหล่อนต้องกลัวด้วยล่ะ ก็ในเมื่อตอนนี้ผู้ชายใจทมิฬคนนั้นทำให้หล่อนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว เขาขังหล่อนไว้ในนรกพร้อมๆ กับมอบตำแหน่งอีตัวให้
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านายน้อยของป้าจะมีคนรักเคารพถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่นิสัยก็แสนจะร้ายกาจ หาความดีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
“นายน้อยมีดีกว่าที่คุณคิดเอาไว้เยอะ นายน้อยเป็นเทพบุตรสำหรับพวกเรา และสักวันคุณจะตกหลุมรักนายน้อยจนโงหัวไม่ขึ้น จำคำของป้าเอาไว้ให้ดีๆ ก็แล้วกัน”
แล้วเชอรี่ก็เดินสะบัดก้นหนีไปด้วยท่าทางขุ่นเคือง ยาหยีอ้าปากค้างกับท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจแทนคอร์เนลของคู่สนทนานัก แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนรักและเทิดทูนผู้ชายเลือดเย็นคนนั้นได้มากถึงเพียงนี้
“ต่อให้ใครๆ ยอมก้มหัวให้คุณ แต่ไม่ใช่ฉันแน่!”
หญิงสาวกัดฟันจนเจ็บ ก้าวยาวๆ มุ่งหน้าไปยังห้องนอนใหญ่ของคอร์เนลที่หล่อนคลับคล้ายคลับคลาจะจำได้ว่ามันอยู่ตรงส่วนไหนของคฤหาสน์อันกว้างขวางหลังนี้