เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 75 รอใครมาจูบอยู่เหรอ
บทที่75 รอใครมาจูบอยู่เหรอ
“ดีเลย! ”
อาจารย์พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น พร้อมทั้งโบกมือเรียกทุกคนมารวมตัวกัน
“เร็วเข้า นักแสดงนำ รีบเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม”
หมินอันเกอเดินไปตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน และเอามือไปแตะที่บ่าเธอ
“ไม่ต้องกังวลนะ รอจังหวะแล้วพี่จะบอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น หมินอันเกอยิ้ม และจูงมือเธอไป
“จริง ๆ แล้วตอนเด็ก ๆ พี่เคยคิดนะว่าสักวันหนึ่งจะขึ้นเวทีพร้อมกับเธอ ไม่คิดเลยว่าความฝันนั้นมันจะเป็นจริงเร็วขนาดนี้”
ด้านหลังเวทีก็กลับมาชุลมุนกันอีกครั้ง เจียงหยู่เทียนแอบถ่ายรูปเอาไว้ และส่งข้อความหาจี้จิ่งเชินทันที
“พี่จิ่งเชิน ฉันเก็บตั๋วละครเวทีไว้ให้ใบนึง พี่เนี่ยนเหยาแสดงได้ดีมาก ๆ พี่ต้องชอบแน่ ๆ”
และทันใดนั้นเธอก็ส่งรูปที่ถ่ายเก็บไว้ก่อนหน้านี้ส่งไปให้จี้จิ่งเชิน
เมื่อรูปภาพแต่ละรูปส่งสำเร็จ เจียงหยู่เทียนก็ยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ ส่งข้อความไปอีกครั้ง
“อ๋อ แล้วก็ได้ยินมาว่าพระเอกจูบนางเอกด้วยนะคะ”
ณ บริษัทเอ็มไอกรุ้ป
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการประชุมอยู่ แต่สายตาของจี้จิ่งเชินก็ยังมองบนหน้าจอมือถืออยู่
ทำไมถึงไม่ติดต่อเขามานะ?
วันนี้ไม่ใช่วันสถาปนามหาวิทยาลัยเหรอ?
ก่อนหน้านี้จี้จิ่งเชินมีอาการใจร้อนไม่เป็นสุข เดิมทีคิดว่าอย่างน้อยเวินเที๋ยนเที๋ยนการจะชวนเขาไปดูการแสดงละครเวที คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่บอกสักคำ
จนกระทั่งจากที่ไม่ได้รับคำเชิญให้ไปงานสถาปนามหาวิทยาลัย
จนถึงได้รับคำเชิญจากเจียงหยู่เทียน เขาก็ปฏิเสธแล้ว แต่ภรรยาของตัวเองกลับเงียบไม่บอกกันสักคำ
พอนึกถึงเมื่อตอนเช้าบนโต๊ะอาหาร เขาบอกให้รู้เป็นนัย ๆ แล้ว แต่เธอก็ไม่มีทีท่าที่จะตอบโต้อะไรเลย
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น ความโกรธในตัวก็เริ่มกระจัดกระจาย
ผู้จัดการที่กำลังรายงานเกี่ยวกับสภาพการณ์ปัจจุบันของบริษัทตื่นเต้นเล็กน้อย คิดว่าตัวเองรายงานผิดพลาด ตรวจสอบต้นฉบับอีกครั้งด้วยความกลัว
ยิ่งตรวจก็ยิ่งกลัวจนพูดจาตะกุกตะกัก
“……ดูจาก ดูจากการตรวจสอบที่เรา บริษัท……อันนี้……”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น
“พูดภาษาจีนกลางไม่เป็นแล้วหรือไง? ”
ผู้จัดการตกใจกลัวจนตัวสั่น
“เปล่าครับ ประธานจี้”
เมื่อพูดจบเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เสียงอันไพเราะของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นภายในห้องประชุม
“ใครเปิดโทรศัพท์? ”
จี้จิ่งเชินถามขึ้น
ทุกคนในห้องประชุมตกใจจนตัวสั่นทอน ต่างพากันมองดูโทรศัพท์ของตัวเอง ในใจก็ได้แต่ภาวนาให้เป็นของคนอื่น
เปิดโทรศัพท์ในขณะที่กำลังประชุมอยู่ อยากตายหรือยังไง?
พรุ่งนี้ไม่อยากมาทำงานกันแล้วใช่ไหม?
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น กลับหันไปเห็นหน้าจอมือถือของจี้จิ่งเชินสว่างขึ้น
ทุกคนหยุดชะงักลง เบิกตาโต กิริยาท่าทางตกใจเหมือนกลืนแมลงวันเข้าไป
สีหน้าของจี้จิ่งเชินเคร่งขรึม สายตาจ้องมองไปที่ทุกคน
“ประชุมต่อ! ”
จากนั้นทุกคนก็รีบละสายตากลับมาที่ตัวเอง ในใจรู้สึกโล่งใจ
คิดไม่ถึงเลยทีเดียวว่าประธานจี้ที่เคร่งขรึมกับคนอื่นคนนี้จะลืมปิดโทรศัพท์ก่อนเข้าห้องประชุม
จี้จิ่งเชินมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น ในใจก็ได้แต่รอ
ผู้หญิงนั้นไม่คิดจะติดต่อเขามาเลยเหรอ?
เขาปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ แต่กลับเห็นข้อความที่เจียงหยู่เทียนส่งมา เขาขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเห็นภาพสองภาพนั้น……
ปัง!
เสียงมือถือกระทบบนโต๊ะอย่างแรง จนกระทั่งฟิล์มหน้าจอแตก
ทุกคนในห้องประชุมต่างพากันตกใจขึ้น และเห็นจี้จิ่งเชินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สายตาที่โหดเหี้ยมเหมือนจะฆ่าคนได้!
ผู้คนในห้องประชุมไม่ทันมีท่าทีตอบโต้อะไร เขาก็ลุกยืนขึ้น และเดินออกจากห้องประชุมไป
ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงงว่าจริง ๆ แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น
“ผู้ช่วยจง วันนี้ประธานจี้เป็นอะไรไปเหรอ? ”
ผู้ช่วยจงเปิดโทรศัพท์ดู จากนั้นก็พยักหน้า
“วันนี้เป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยลืบซาน ประชุมต่อเถอะ”
แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี งานสถาปนามหาวิทยาลัยลืบซานเกี่ยวอะไรกับจี้จิ่งเชิน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ด้านหลังเวที ถูกอาจารย์ตามให้ไปเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ
เธอเพิ่งจะเดินไป และรีบออกมาจากห้องแต่งหน้า
เธอวิ่งเหยาะ ๆ ออกมาจากหลังเวทีมายืนด้านหน้าข้าง ๆ เจียงหยู่เทียน
เจียงหยู่เทียนถามขึ้นเบา ๆ ว่า: “เป็นยังไงบ้าง?”
“เรียบร้อยแล้ว” เธอยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ “ฉันรับรองว่าการแสดงที่จะถึงนี้ต้องมีสีสันเป็นอย่างมากแน่ ๆ! ”
เจียงหยู่เทียนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า: “เอ่อ ไม่มีใครมาดูเธอเหรอ? ”
“ไม่มี”
“งั้นก็ดี”
เจียงหยู่เทียนเหลือบไปมองหน้าจอโทรศัพท์ ตอนนี้ก็ขาดแค่จี้จิ่งเชินคนเดียวแล้ว
เวลาบ่ายสามโมง ผ้าม่านบนเวทีถูกเปิดขึ้น หมินอันเกอยืนอยู่บนเวที
แสงไฟสาดส่องที่ตัวเขา รอบ ๆ ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว และปราสาทสูงมองเห็นจากระยะไกล
การแสดงนี้เป็นไฮไลท์ของงานสถาปนามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยลงทุนด้วยเงินจำนวนมากเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ดื่มด่ำ
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงการแต่งกายของหมินอันเกอเลย แค่นี้ก็สามารถทำให้ผู้คนกรี๊ดกร้าดแล้ว
นี่คือเทพนิยายที่เก่าแก่มาก เจ้าชายผู้กล้าหาญได้ผ่านภัยอันตรายทั้งปวงมา ตื่นมาพร้อมกับเจ้าหญิงที่นอนหลับใหลอยู่ในปราสาท นี่ก็เพื่อเป็นความนิยมของหมินอันเกอ ทำให้เขาคือพระเอกเพียงคนเดียว
ถึงแม้ว่าจะเป็นเทพนิยายที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี แต่หากเขาแสดงยังไงก็ยังดูใหม่อยู่ดี
ในไม่ช้า เจ้าชายที่แสดงโดยหมินอันเกอก็มาถึงปราสาท
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอนตัวอยู่บนเตียงด้วยความตื่นเต้น ในใจคิดบทที่ตัวเองจะพูด
หมินอันเกอเคยบอกว่ารอฉากจูบ จากนั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไร
หลังจากที่ตื่นจากการหลับใหล แล้วก็มีฉากเต้นรำ แต่โชคดีที่จี้จิ่งเชินเคยสอนเธอมาก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกได้ว่าตอนนี้หมินอันเกอเดินเข้ามาคุกเข่าที่ข้าง ๆ เตียงแล้ว
เธอที่นอนอยู่บนเตียงปิดตา ขนตางอนสั่นเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น คล้ายกับปีกผีเสื้อที่กำลังจะบินอยู่ตลอดเวลา
บนหัวสวมมงกุฎเพชร ผมหยิกเหมือนผ้าไหมอยู่ด้านหลัง กระโปรงยาวสีฟ้าอ่อนทำให้เธอสดใสเหมือนตุ๊กตา
หมินอันเกอจับใบหน้าของเธอ เดิมทีแค่คิดว่าจะจูบมุมกล้อง แต่ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนใจทันที
สายตาของเขาจ้องมองปากสีแดงที่สวยสดงดงามของเวินเที๋ยนเที๋ยน และเข้าไปใกล้อย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้……
ใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ……
ทุกคนที่ชมอยู่หน้าเวทีก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นเพื่อลุ้น สายตาจ้องมองไปที่ทั้งสอง
ขณะนี้เสียงดังขึ้น “โครม! ”
ประตูโรงละครถูกถีบ และเปิดขึ้น ผู้คนก็หันไปมอง เงาสะท้อนที่ยืนอยู่ที่ประตูนั้นคือจี้จิ่งเชิน
สีหน้าของเขาเคร่งขรึม สายตาจ้องมองไปบนเวทีอย่างโหดเหี้ยม และดุเดือด
เมื่อเจียงหยู่เทียนเห็นเขา สีหน้าของเธอก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทันที
“ในที่สุดก็มาสักที! ”
เธอยืนขึ้น และเดินไปที่จี้จิ่งเชิน
“พี่จิ่งเชิน ฉัน……”
เธอไม่ทันพูดจบ สายตาของจี้จิ่งเชินไม่ได้มองเธอเลยแม้แต่น้อย และผลักมือเธอออก
เขาพุ่งไปที่บนเวทีท่ามกลางเสียงฮือฮาของผู้ชมด้านล่าง และดึงตัวหมินอันเกอออกจากร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนปิดตาอยู่ครู่ใหญ่ แต่ก็ยังไม่ได้ยินบทพูดของหมินอันเกอสักที
ผู้ชมด้านล่างเวทีตะโกนโหวกเหวกโวยวาย เธอสงสัยเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเปิดตาขึ้นก็มีเสียงที่เคร่งขรึมดังขึ้นในหูเธอ
กัดฟันแน่น
“รอใครมาจูบอยู่เหรอ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนิ่งอึ้งไป
จี้จิ่งเชิน?
เธอรีบลืมตาขึ้น และในวินาทีต่อมาก็ถูกจี้จิ่งเชินกดทับตัวบนเตียง จากนั้นก็ใช้อำนาจบาตรใหญ่จูบเธออย่างหยาบคาย