เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 306 ติดหนึบ
บทที่ 306 ติดหนึบ
จี้จิ่งเชินนั่งยอง ๆ ลงก้มมองด้านใน
ด้านในนั้นมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย
แต่ทันใดนั้นเสียงร้องไห้ดังเข้ามาในหูเขา
เสียงแบบนี้รบกวนเขามาหลายวันแล้วและเขาก็จำเสียงนี้ได้ในทันที
“ได้ยินไหม? ”
พ่อบ้านเอียงหูฟังเสียงที่เขาว่านั้น แต่ก็ส่ายหัว
“อะไรเหรอครับ เสียงอะไรเหรอ”
จี้จิ่งเชินพับแขนเสื้อขึ้น จากนั้นก็ลงเข้าไปในถ้ำนั้นอย่างระมัดระวัง
เมื่อพ่อบ้านเห็นการกระทำของเขาแล้วก็เบิกตาโตด้วยความตกใจขึ้นมาทันที
“คุณผู้ชายจะทำอะไรครับ? ให้ผมลงไปจะดีกว่านะครับ”
จี้จิ่งเชินได้ยินเช่นนี้ก็โบกมือปฏิเสธ
“เฝ้าข้างนอกให้ดี”
พูดจบเขาก็รีบลงไปทันที
ยิ่งเขาเข้าไปลึกเท่าไหร่เสียงร้องก็ดังมากขึ้นเท่านั้น
จี้จิ่งเชินฝ่าพุ่มไม้ใหญ่ไป จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้น
จริง ๆ ตรงนี้มันเป็นทางลาดชัน
อาจเป็นไปได้ว่าคนที่ยืนอยู่ปากถ้ำไม่ระวังก็เลยลื่นพลัดตกลงมา
เมื่อเดินไปทางลาดชันตรงนั้นเขาก็เห็นเงาร่างสองร่าง
จี้จิ่งเชินเอาไฟฉายส่องเข้าไปมองดู
ทันใดนั้นเขาก็เห็นร่างของเด็กสองคนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ด้านล่าง
ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ ทั้งสองคนร้องไห้ไปนานแค่ไหนแล้ว แต่เสียงของทั้งสองนั้นแหบแห้งลงแล้ว เหลือก็เพียงแต่น้ำตาที่ยังคงไหลอยู่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเด็กทั้งสองรู้สึกว่ามีแสงไฟส่องมาที่ร่างของทั้งสอง ทั้งสองก็หันหลังกลับมามองทันที
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินเด็กทั้งสองก็หยุดร้องทันที เหลือก็เพียงแต่น้ำตาที่ยังคงไหลรินอยู่
จี้จิ่งเชินย่างเท้าเดินเข้าไป
พร้อมทั้งถามว่า: “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
แต่เด็กทั้งสองก็ไม่ตอบเขา
จี้จิ่งเชินกำลังจะเอ่ยปากถามเป็นครั้งที่สอง แต่ทันใดนั้นเด็กทั้งสองก็โผเข้าไปกอดเขา
เขาชะงักก้าวเท้าลงทันทีเด็กทั้งสองเหมือนลูกระเบิดลูกเล็ก ๆ ที่โผเข้ามาในอ้อมอกของจี้จิ่งเชิน
เด็ก ๆ ทั้งสองดึงเสื้อเขาเอาไว้พร้อมทั้งร้องไห้อย่างหนัก
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น มองดูเด็กสองคนที่กำลังดึงเสื้อตนเองอยู่เหมือนลิงที่เกาะตัวเขา อีกทั้งยังเช็ดน้ำมูกที่เสื้อเขาอีกด้วย
เป็นเพราะเด็กทั้งสองคนกลัวมากจนลืมไปว่าปกติแล้วจี้จิ่งเชินเคยสยบพวกเขายังไง ตอนนี้เด็กทั้งสองคิดแค่ว่าเขานั้นเป็นผู้ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ และแทบจะปีนขึ้นหัวเขาแล้ว
จี้จิ่งเชินยื่นมือไปโอบเด็กทั้งสองไว้พร้อมทั้งขมวดคิ้ว และพูดว่า: “ห้ามปีนขึ้นมา!เชื่อฟังกันหน่อย และห้ามร้องเด็ดขาด!”
เมื่อเด็กทั้งสองได้ยินเช่นนี้แล้วก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง และไม่กล้าร้องไห้ออกมา แต่น้ำตาก็ยังคงไหลอยู่อย่างต่อเนื่อง
แต่ต่อให้กลัวมากขนาดไหนทั้งสองก็ไม่กล้าที่จะปล่อยมือออกจากเสื้อของจี้จิ่งเชิน อีกทั้งยังเอาหน้าซบตรงที่อกของเขาอีกด้วย
จี้จิ่งเชินมองทั้งสองด้วยความกลัดกลุ้มใจ
ตอนนี้เขามีเด็กทั้งสองที่เกาะติดตัวเขาแน่นแบบนี้ทำให้เขาไม่สามารถกลับทางเดิมได้ เขาต้องหาเส้นทางใหม่เพื่อที่จะกลับออกไป
เขาอุ้มเด็กทั้งสองไว้ และเดินไปที่หลังพุ่มไม้ พร้อมทั้งตะโกนขึ้นไปบอกพ่อบ้านว่า: “บอกให้ทุกคนกลับไปได้ ตอนนี้ฉันเจอเด็กทั้งสองแล้ว กำลังจะหาทางออกอีกทางหนึ่ง”
พ่อบ้านที่รออยู่ด้านนอกด้วยความร้อนใจเมื่อได้ยินเสียงก็รีบพูดทันทีว่า: “คุณผู้ชาย คุณผู้ชายจะไปไหน? ให้ผมลงไปช่วยนะครับ?”
“ไม่ต้อง กลับไปก่อนเลย”
ทางตรงนี้ไม่ค่อยดีนัก หากพ่อบ้านลงมาแล้วลื่นล้มมาอีกคน เขาจะแบกสามคนไม่ไหว
เขาก้มหน้ามองเด็กน้อยสองคนที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยสายตาที่ทอดถอนใจ จากนั้นก็เอาไฟฉายยัดเข้าในมือของเด็ก
“ถือไว้ ไม่ต้องพูดอะไร”
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขานั้นจะฟังดูแล้วโหดไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยตัวทั้งสองลง เขากลับอุ้มทั้งสองไว้พร้อมทั้งหาทางเดินออกไปด้านนอก
ถึงแม้ว่าทั้งสองไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่น้ำตาของทั้งสองนั้นก็ยังคงไหลพรากอยู่อย่างต่อเนื่อง
ดูเหมือนว่าพวกเขากลัวจนตกใจไป จะร้องไห้ก็กลัวจี้จิ่งเชินด่า พวกเขาจึงได้แต่เอาหน้าซบที่อกของจี้จิ่งเชินไว้ อีกทั้งยังเช็ดน้ำมูก และน้ำตาที่เสื้อของเขาอีกด้วย
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินไม่พอใจมากนัก
“ห้ามเช็ดน้ำมูกที่เสื้อฉัน! ”
ทั้งสองชะงักไป และเงยหน้าขึ้น พวกเขามองจี้จิ่งเชินพร้อมทั้งน้ำตาที่กำลังไหลพรากอยู่
ไม่รู้ทำไมเมื่อเห็นท่าทางของเด็กน้อยทั้งสองคนนี้แล้ว จี้จิ่งเชินจึงนึกถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาทันที ในใจก็รู้สึกไม่พอในใจ
เขาขมวดปมคิ้วแน่น
“เช็ดน้ำตาได้ แต่อย่าเช็ดน้ำมูกนะ”เขายอมประนีประนอมเล็กน้อย
เด็กทั้งสองตอบรับพร้อมทั้งโน้มตัวซบเขาอีกครั้ง
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินแสดงความรังเกียจผ่านสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเด็กทั้งสองลง แต่กลับกอดทั้งสองไว้แน่นพร้อมทั้งเดินไป
เดินอ้อมผ่านพุ่มไม้ไปในที่สุดก็หาทางออกเจอจนได้
ยังไม่ทันได้ออกจากป่า เขาก็มองเห็นพ่อบ้าน และคนอื่น ๆ ยืนรออยู่ด้านนอก
เมื่อพ่อบ้านเห็นจี้จิ่งเชินอุ้มเด็กทั้งสองเดินออกมา เขาก็ตกใจ และรีบวิ่งเข้าไปในทันที
“คุณผู้ชาย ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ? ”
ทันทีที่เขาหันไปใกล้ก็เห็นว่าเสื้อของจี้จิ่งเชินนั้นเต็มไปด้วยน้ำมูก และน้ำตาของเด็กทั้งสอง และแสงไฟก็ส่งมาทันที!
เขาตกใจจนหน้าซีดเซียวเพราะกลัวว่าจี้จิ่งเชินจะโกรธ เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า: “คุณผู้ชาย ให้ผมอุ้มทั้งสองกลับไปเถอะครับ”
จี้จิ่งเชินส่งเด็กทั้งสองคนให้กับพ่อบ้าน
แต่เด็กทั้งสองกลับจับเสื้อของจี้จิ่งเชินไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินก็เคร่งขรึมขึ้นในทันที แต่เขาก็ไม่มีทางอื่น ทำได้เพียงแต่อุ้มทั้งสองเอาไว้ต่อไป
“งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันอุ้มเข้าไปเอง”
พ่อบ้านเดินตามหลังเขาไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ กลัวว่าจี้จิ่งเชินนั้นทนไม่ไหวจะทิ้งเด็กทั้งสองลงพื้น
เขาเดินตามหลังจี้จิ่งเชินไปด้วยความกระวนกระวายใจ แต่คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินจะไม่ทิ้งเด็กทั้งสองลง แถมยังอุ้มทั้งสองเขาไปด้านในอีกด้วย
เมื่อมาถึงห้องเด็กทั้งสองก็หยุดร้องไห้แล้ว แต่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไป และนั่งบนเตียง เขาจะวางตัวเด็กทั้งสองคนไว้บนเตียง
แต่ทั้งสองยังคงจับมือจี้จิ่งเชินไว้แน่นไม่ยอมปล่อยติดหนึบเหมือนพลาสเตอร์ยา
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน โดยปกติแล้วเวลาที่เห็นหน้าจี้จิ่งเชินพวกเขาก็กลัวจนอกสั่นขวัญหาย
แต่มาวันนี้พวกเขากลับไม่ยอมปล่อยจี้จิ่งเชินไป
จี้จิ่งเชินไม่มีทางเลือกอื่นเลย เขาจึงทำได้แค่เอามือตบไหล่ทั้งสองเบา ๆ เพื่อปลอบขวัญ และคิดว่าต้องปลอบทั้งสองให้ดีขึ้นก่อนเขาถึงจะออกไป
เขาอุ้มทั้งสองปลอบอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นทั้งสองก็สงบลง
จี้จิ่งเชินถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็คิดว่าจะออกไปได้แล้ว
เขาจะวางร่างของเด็กน้อยทั้งสองลงบนเตียง แต่เมื่อก้มหน้ามองดูกลับพบว่าทั้งสองนั้นได้หลับไปแล้ว
จะนอนก็นอนเถอะ ทำไมมือต้องจับเสื้อเขาไว้ด้วย
แค่จี้จิ่งเชินขยับ ปากของเด็กน้อยทั้งสองก็กระตุกขึ้น ดูเหมือนจะร้องไห้ เขาตกใจจนไม่กล้าขยับมือเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นพ่อบ้านก็ค่อย ๆ ย่องเข้ามาด้านใน
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินกำลังอุ้มเด็กทั้งสองอยู่ พ่อบ้านกำลังจะเอ่ยปากพูดขึ้น แต่จี้จิ่งเชินนั้นส่ายหน้าไปยังเขาเพื่อห้ามเอาไว้
การที่ปลอบเด็กทั้งสองให้หลับนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากพ่อบ้านส่งเสียงขึ้นมา เด็กทั้งสองอาจจะตื่นขึ้นมาได้ หากเป็นเช่นนั้นไม่ซวยเอาเหรอ?
พ่อบ้านพยักหน้า และค่อย ๆ ย่องเข้ามาเบา ๆ
จี้จิ่งเชินพูดเบา ๆ ว่า: “หาวิธีให้พวกเขาปล่อยฉันให้หน่อย?”
พ่อบ้านมองดูท่าทางของทั้งสามคนแล้วก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไป
หลังจากนั้นไม่นานพ่อบ้านก็กลับมาพร้อมกับถือกรรไกรเข้ามาด้วย
พ่อบ้านยิ้มเล็กน้อย และในขณะที่จี้จิ่งเชินกำลังแปลกใจอยู่นั้นพ่อบ้านก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งตัดเสื้อของจี้จิ่งเชินที่เด็กทั้งสองกำลังจับไว้ออก