เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 257 นายผู้หญิงของคฤหาสน์
บทที่257 นายผู้หญิงของคฤหาสน์
จี้คางไม่เคยรู้อะไรเลย ไม่คิดว่าเขาจะเอาหุ้นของบริษัทให้แบบนี้!
“แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ มันก็ยังไม่พออยู่ดี!” จี้ยี่หยันเอ่ยขึ้นเสียงสูง
“ใช่ แต่พวกคุณลืมไปแล้วสินะ ว่าสองสามวันก่อนบริษัทจี้ซือเพื่อที่จะรักษาบริษัทหลักของตัวเอง พวกคุณทำอะไรกันไว้?”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว พวกเขาเบิกตาโตขึ้นมาทันที แล้วถอยหลังออกไป
“เป็นไปไม่ได้!”
“เป็นไปได้อยู่แล้วครับ”
จี้จิ่งเชินยิ้มนิ่งๆออกมา : “คุณใช้หุ้น10%ค้ำประกันเงินกู้ นั่นก็คือผมเองที่ให้พวกคุณยืม”
“ไม่อย่างนั้น คุณคิดว่าบริษัทหลักของบริษัทจี้ซือจะยังคงอยู่ต่อได้อย่างนั้นหรือ?”
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว อาการที่แสดงออกมาของจี้ยี่หยันและจี้หยวนวู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นดูพ่ายแพ้ขึ้นมา
จี้จิ่งเชินลุกขึ้นยืน รอยยิ้มตรงมุมปากหายไป
“วันนี้ผมจะมาบอกพวกคุณ ว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บริษัทจี้ซือได้กลายมาเป็นบริษัทสาขาย่อยในนามของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป พวกคุณไม่มีอำนาจในการขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น”
จี้หยวนวู่ได้ยินประโยคนี้แล้ว พละกำลังที่อยู่ภายในร่างกายของเขานั้นก็รู้สึกโล่งหายไปทันที
เขาก้าวถอยหลัง แล้วล้มลงนั่งลงที่เก้าอี้ ใบหน้าดูเซื่องซึม
จี้จิ่งเชินมองเขาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยพูดขึ้นมา : “ส่วนที่ว่าบริษัทจะมีการจัดการต่ออย่างไร ผมจะให้จงหลีมารับช่วงต่อจากพวกคุณ”
“แต่ว่ายังมีอีกข้อหนึ่ง ในเมื่อพวกคุณกลายมาเป็นบริษัทย่อยของบริษัทจี้ซือ ในส่วนของคนที่จะมาบริหาร ผมจะพิจารณาตามสถานการณ์จัดให้เองเช่นกัน”
“ไม่มีทาง!”
จี้ยี่หยันเดินเข้ามาด้วยความตื่นเต้น อยากที่จะดักหน้าจี้จิ่งเชินเอาไว้ แต่ถูกจงหลีเข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อน
เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างตรงไปตรงมา : “คุณจี้ยี่หยันครับ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณก็ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทจี้ซือแล้วนะครับ”
“วันนี้ก่อนเลิกงาน กรุณาเก็บของของคุณออกไปจากที่นี่ด้วยครับ”
จี้ยี่หยันโดนคำพูดนี้เสียจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงแค่มองดูจี้จิ่งเชินเดินจากไปต่อหน้าต่อตาเช่นนั้น
เขาหันกลับมามองกรรมการบริษัทที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งของตัวเอง กัดฟันแน่น
“บริษัทจี้ซือเป็นของฉัน! ใครหน้าไหนก็จะมาเอาไปไม่ได้ทั้งนั้น!”
พูดเสร็จแล้ว เขาก็หันกลับเดินออกไป
กรรมการบริษัทที่เหลืออยู่ต่างก็พากันมองสีหน้าของจี้หยวนวู่ โดยไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เวลานี้ จงหลีหยิบเอกสารขึ้นมา
“กรรมการบริษัททุกท่านครับ หลังจากที่บริษัทจี้ซือเข้าร่วมกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ปแล้ว เงินปันผลและสวัสดิการของแต่ละปีจะมีการจ่ายให้ตามตัวชี้วัดใหม่ ที่จะต้องดีกว่าเมื่อก่อนอย่างแน่นอนครับ”
เดิมทีคนที่จะคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงนั้น พอได้ยินเงื่อนไขนี้ ก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินตามออกไปกันในทันที แล้วทิ้งจี้หยวนวู่ไว้ตรงด้านหลังเสียอย่างนั้น
สีหน้าที่ดูแย่ของจี้หยวนวู่มองตามบุคคลเหล่านั้นที่อยู่ตรงหน้า แล้วลุกขึ้นยืน
“จี้จิ่งเชินรอฉันก่อนเถอะ!”
จี้ยี่หยันกลับไปยังตระกูลจี้ด้วยความโมโห
เขาเดินเข้าไปแล้วนั่งลงบนโซฟา เห็นของที่อยู่บนโต๊ะนั้นสะดุดหูสะดุดตา ก็เตะโต๊ะล้มลงไป
แจกัน แก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะนั้นตกแตก ส่งเสียงดังขึ้นมา
ฉวีช่วยฉินได้ยินเสียง จึงรีบเดินเข้ามาด้านในห้อง
เห็นข้าวของเรี่ยราดเกลื่อนพื้น จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจ : “ยี่หยัน นี่แกเป็นอะไร?”
จี้ยี่หยันมองเธอ ยิ่งรู้สึกวุ่นวายใจ
“เป็นอะไร? ผมถูกคนไล่ออกมาจากบริษัทจี้ซือแล้ว!”
ฉวีช่วยฉินขมวดคิ้วขึ้น เอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ : “จะเป็นไปได้อย่างไร? แกไม่ได้เป็นผู้จัดการใหญ่หรอกหรือ?”
“จะเป็นไปไม่ได้ได้อย่างไรล่ะแม่? ตอนนี้บริษัทจี้ซือไม่ใช่ของตระกูลจี้ของพวกเราแล้ว แต่เป็นทรัพย์สินของจี้จิ่งเชิน!”
ใบหน้าเคร่งขรึมของเขา มองไม่เห็นรอยยิ้มบางๆที่ดูสง่างามที่อยู่บนใบหน้าอีกเลย ความมืดมิดในใจก็ได้ระเบิดออกมาด้วยเช่นกัน
“พวกเราไม่มีอะไรแล้ว!”
ฉวีช่วยฉินได้ยินประโยคนี้แล้ว ตกใจเสียจนสีหน้าเปลี่ยน จึงรีบเดินเข้ามา
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ก็ยังดีๆอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ยังดีอยู่ ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นเพราะแม่ทำใจไม่ได้ที่จะเอาของสิ่งนั้นออกมา จะกลายเป็นแบบนี้ไหม?”
จี้ยี่หยันหันกลับมามองฉวีช่วยฉิน เอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ : “ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่รับปากผมแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะทำ?”
ฉวีช่วยฉินได้ยินแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างลำบากใจ : “ของสิ่งนั้นเอาออกมาไม่ได้จริงๆ…..”
“แม่ไม่เอาออกมา ตอนนี้บริษัทก็ไม่มีแล้วนี่ไง มาถึงตอนนี้แล้ว แม่จะยังมีอะไรให้กังวลอีก? แม่จะไม่เอาออกมา ถ้าอย่างนั้นก็เอามาให้ผม ผมจะไปหาเขาเอง”
ฉวีช่วยฉินได้ยินประโยคนี้แล้วจึงกัดฟันขึ้น
“ได้! ในเมื่อจี้จิ่งเชินบีบพวกเรามาจนถึงทางตันแล้ว แม่เองก็ไม่อยากจะทนอีกต่อไปแล้วเหมือนกัน!”
พูดจบแล้วนั้น เธอก็หลังกลับไปด้านใน
และเพิ่งจะเดินไปได้เพียงสองก้าวนั้น จู่ๆจี้ยี่หยันก็ดึงเธอเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนแม่ ของชิ้นนั้นมีเพียงแค่ชิ้นเดียว”
“ในเมื่อจะทำแล้ว ต้องคิดให้ดีก่อน ว่าจะเอาของที่พวกเราสูญเสียไปทั้งหมดกลับมาอย่างไร”
“ผมไม่เพียงแค่ต้องการบริษัทจี้ซือกลับมาเท่านั้น ผมยังต้องการบริษัทเอ็มไอกรุ้ปด้วย!”
ฉวีช่วยฉินรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
“แต่เขาจะยอมหรือ?”
จี้ยี่หยันยิ้มออกมาอย่างเย็นชา : “ความรู้สึกที่เขามีต่อแม่ ถึงเขาไม่อยากจะยอม แต่ก็ต้องยอม!”
ฉวีช่วยฉินพยักหน้า พลางเอ่ยขึ้น : “ได้ แม่ไปเตรียมก่อนแล้วกัน”
รอจนเธอออกไปแล้ว จี้ยี่หยันจึงหัวเราะออกมา ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่ดูสง่างามนั่นขึ้นมาอีกครั้ง
มีเพียงแต่สองมือของเขา ที่กำแน่น แววตาดูมืดมนขึ้นมา
“จี้จิ่งเชิน อย่าเพิ่งรีบดีใจไป!”
อีกทางด้านหนึ่ง จี้จิ่งเชินทำแผนการรับซื้อบริษัทจี้ซือได้สำเร็จแล้ว จึงกลับมายังคฤหาสน์ของเขา
และเมื่อเพิ่งจะเข้ามานั้น ก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความปีติยินดี
พ่อบ้านยืนอยู่ตรงหน้าประตู เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาแล้ว จึงยื่นมือไปรับเสื้อคลุมมาจากจี้จิ่งเชิน แล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“คุณเวินเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วครับ เธอกำลังรอคุณอยู่”
ตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาว อากาศจึงหนาวเย็น หิมะที่ท่วมก่อนหน้านี้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตกลงมาบนพื้นเลยเสียด้วยซ้ำ
แต่ในคฤหาสน์นั้นอบอุ่น ทำให้รู้สึกสบายยิ่งนัก
จี้จิ่งเชินเดินเข้ามา แล้วมองคนจำนวนไม่น้อยที่ยืนอยู่ภายในห้องรับแขก มองเขาด้วยรอยยิ้ม ดูแล้วเหมือนจะดีใจมากกว่าเขาเสียอีก
หลังจากที่พวกเขาได้รับข่าวของจี้จิ่งเชินวันนี้แล้ว ก็ตระเตรียมขึ้นมาด้วยความดีใจ
จี้จิ่งเชินเดินมาในห้องรับแขก และขณะที่เพิ่งจะนั่งลงนั้น พ่อบ้านก็เดินเข้ามาข้างๆเขา แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย
“คุณผู้ชายครับ คุณเวินลงมาแล้วนะครับ”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว จี้จิ่งเชินจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เดินลงมาจากทางบันได
ชุดเดรสยาวสีขาว มีผ้าขนอ่อนหนาๆสีเดียวกันคลุมไหล่ แล้วปล่อยยาวไปทางด้านหลัง
และตรงคอของเธอนั้นก็สวมใส่ผ้าพันคอสีขาวเอาไว้ ทำให้ขลับผิวขาวๆที่ดูอมชมพูของเธอ ราวกับดอกซากุระที่กำลังเบ่งบานอย่างไรอย่างนั้น
จี้จิ่งเชินเงยหน้ามองเธอ
ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้หญิงคนนี้ยังมีเสน่ห์อีกเท่าไหร่กันเชียวที่ยังไม่ปรากฏออกมาให้เห็น แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้เช่นกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินลงมาอย่างช้าๆ เอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น : “เป็นอย่างไรบ้างคะ?”
แม้แต่เธอเองก็ไม่รู้เช่นเดียวกันว่าทั้งที่เป็นเพียงแค่ออกไปกินข้าวข้างนอก พวกพ่อบ้านกลับทำให้ดูยุ่งยากซับซ้อน ให้เธอเตรียมตัวเอาไว้ดีๆแบบนี้
จี้จิ่งเชินจับมือเธอขึ้นมา แล้วประทับริมฝีปากลงเบาๆบนหลังมือของเธอ
“ผมไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้มาก่อนเลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง ยิ่งกินใจมากขึ้นไปอีก
จี้จิ่งเชินจูงมือเธอ แล้วหันตัวเดินไปทางด้านนอก
ประตูใหญ่เปิดออก ลมหนาวพัดเข้ามา
จี้จิ่งเชินจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้แน่น
ความอบอุ่นจากฝ่ามือถูกส่งมาจากแขน และส่งไปถึงหัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอหันไปส่งยิ้มให้จี้จิ่งเชิน แล้วจับมือกันเดินออกไป
พ่อบ้าน แม่ครัวและคนอื่นๆยืนกันอยู่ตรงหน้าประตู มองดูรถของพวกเขาที่ขับออกไปอย่างช้าๆ
แม่ครัวถึงได้เอ่ยถามขึ้น : “แหวนของคุณผู้ชายเตรียมเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”
พ่อบ้านเอ่ยขึ้นอย่างไม่ละสายตา
“เตรียมเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วร้านอาหารล่ะ? จองแล้วใช่ไหม?”
“จองเรียบร้อยแล้ว”
“แล้ว…..”
แม่ครัวยังคงไม่วางใจ พ่อบ้านจึงหันหน้ามาพลางเอ่ยขึ้น : “เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกคนเตรียมต้อนรับนายหญิงของคฤหาสน์เราได้เลย!”