เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 254 ขู่
บทที่254 ขู่
พ่อบ้านรีบเดินมายังด้านหน้า แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรนั้น ก็ถูกฉวีช่วยฉินผลักออก
เธอมองพิจารณาทั้งสองคนที่อยู่บนเตียง แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา
“กลางวันแสกๆแบบนี้ พวกเธอสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ? ทำตัวไม่อยู่ในกฎระเบียบประเพณี! ฉันล่ะอายแทนพวกเธอจริงๆ!”
สายตาของจี้จิ่งเชินนั้นเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที ขี้เกียจที่จะพูดกับฉวีช่วยฉินที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้นด้วยเสียงที่สูงขึ้นกว่าเดิม
“พ่อบ้าน ไปเรียกบอดี้การ์ดข้างนอกมา บอกพวกเขาว่าต่อไปอย่าให้ใครหน้าไหนได้เข้ามาได้ทั้งนั้น ถ้าทำไม่ได้ ต่อไปก็ไม่ต้องมาแล้ว!”
ฉวีช่วยฉินได้ยินคำพูดนี้แล้ว ยังคิดอยากจะเอะอะโวยวายขึ้นมาอีก แต่กลับถูกจี้คางที่ยืนอยู่ข้างๆดึงเอาไว้
“พอได้แล้ว พวกเรามาครั้งนี้ก็เพราะจะมาเยี่ยมจิ่งเชิน อย่ามาทำให้ยุ่งวุ่นวาย”
ฉวีช่วยฉินได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ
“จี้คาง! นี่คุณอยู่ข้างใครกันแน่? เป็นฉันที่ไปยุ่งวุ่นวายกับเขา หรือว่าเขามายุ่งวุ่นวายกับพวกเรากันแน่?”
จี้คางขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
ตอนนี้ฉวีช่วยฉินมีจี้หยวนวู่ที่คอยหนุนหลังอยู่ ก็ไม่ได้สนใจจี้คางอยู่แล้ว
“คุณอยู่ในฐานะอะไรอย่างนั้นหรือ? ถึงได้มาบอกให้ฉันหยุดพูดน่ะ!”
พูดจบแล้ว ก็ไม่ได้สนใจสีหน้าที่ดูแย่ลงของจี้คางเลย เธอหันกลับมามองจี้จิ่งเชิน
“จี้จิ่งเชิน เธอเองก็ไม่ต้องมาเสียงดังใส่ฉัน รีบรักษาตัวเองจะดีกว่านะ”
“ไม่นานหรอก เธอก็จะถูกขังไว้ในโรงพยาบาลประสาท ความรู้สึกนั้น คงจะไม่เลวเลยใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ เธอเองก็เคยถามจี้จิ่งเชินเกี่ยวกับปัญหานี้
แต่จี้จิ่งเชินกลับบอกว่า เขามีวิธีของเขา
เวลานี้ได้ยินฉวีช่วยฉินพูดมาแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
ราวกับว่าจี้จิ่งเชินมองออกถึงความกังวลนี้ของเธอ จึงยื่นมือออกไปโอบเอวของเธอเอาไว้ แต่สายตากลับมองไปยังฉวีช่วยฉิน
“ผมมีความสามารถที่จะออกมาจากโรงพยาบาลนั้นเองได้ โดยที่ไม่ต้องกลับไปอีกแน่ๆ”
“คุณคิดว่า ใครๆก็จะเป็นเหมือนจี้หยวนวู่อย่างนั้นหรือ ที่ต้องแกล้งบ้าเพื่อซ่อนตัวเป็นเวลาห้าปีแบบนั้น?”
สีหน้าของฉวีช่วยฉินนั้นดูแย่ขึ้นมาทันที เธอหันกลับมามองจี้ยี่หยัน
ราวกับว่ากำลังขอความคิดเห็นจากเขาอยู่
เวลานี้เองจี้คางถึงได้มีโอกาสเดินเข้ามา
“จิ่งเชิน แผลของเธอฟื้นฟูได้เป็นอย่างไรบ้าง?”
เขาเอ่ยถามติดๆกันหลายครั้ง แต่จี้จิ่งเชินมองเขา และไม่ยอมพูดด้วยแม้แต่ประโยคเดียว มองเห็นเขาเป็นอากาศไปเสียอย่างนั้น
จี้จิ่งเชินหันมามองยังพ่อบ้าน
“ไล่พวกเขาออกไปซะ ต่อไปอย่าให้ฉันได้เห็นพวกเขาอีก”
พ่อบ้านพยักหน้า แล้วรีบเดินเข้ามา
“เชิญออกไปได้แล้วครับ พวกคุณ”
ฉวีช่วยฉินมองจี้จิ่งเชินด้วยความไม่พอใจ แล้วมองไปที่จี้คางแวบหนึ่ง
“เห็นรึยังล่ะ? ว่าตอนนี้แม้แต่คุณที่เป็นพ่อเขายังไม่รู้จักเลย ยังจะไปประจบเขาอีก”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว สีหน้าของจี้คางนั้นยิ่งดูแย่ลงมาก แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา
พ่อบ้านเห็นว่าพวกเขายังคงไม่ยอมออกไปนั้น จึงเรียกบอดี้การ์ดที่อยู่ทางด้านนอกเข้ามา
บอดี้การ์ดสองสามคนนั้นล้อมพวกเขาทั้งสามคนไว้ เพื่อที่จะพาพวกเขาออกไป
ส่วนจี้ยี่หยันที่ตั้งแต่เข้ามา สายตาของเขาก็มองไปที่จี้จิ่งเชินอยู่ตลอด กำลังสำรวจอาการบาดเจ็บของเขา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรนั้น แววตาก็ปรากฏความโหดร้ายออกมา
บอดี้การ์ดเดินเข้ามา ฉวีช่วยฉินมองแล้วจะทะเลาะกับพวกเขาขึ้นมาอีก จี้ยี่หยันถึงได้ยื่นมือออกมาดึงเธอไว้
“พอแล้วแม่ พวกเรากลับกันเถอะ”
ตอนนี้ฉวีช่วยฉินฟังคำพูดของจี้ยี่หยันมากที่สุดแล้ว ในที่สุดเธอก็พยักหน้าลง
เธอสะบัดมือออก แล้วเตรียมจะตีคนที่เข้ามาดึงเธอ
“จะมาแตะเนื้อต้องตัวฉันทำไม? ฉันเดินเองได้!”
ว่าจบแล้วนั้น เธอก็หันกลับมาทางจี้จิ่งเชินอีกครั้ง พลางเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความเกลียดชัง “ไม่เห็นความหวังดีของคนอื่นจริงๆสินะ! ต่อไปถ้าเธอตาย ฉันก็จะไม่มีทางมาหาเธออีกแน่!”
ว่าแล้วนั้นก็ดึงเสื้อผ้าของตัวเอง หันกลับเดินออกไป
จี้คางยังอยากจะพูดอะไรออกมาอีก แต่เห็นจี้จิ่งเชินที่ไม่ได้สนใจตัวเขาเลยนั้น จึงทำได้เพียงต้องเก็บคำพูดของตัวเองกลับไป
เขาหันหลังกลับแล้วออกไปพร้อมกับสองคนนั้น ฉวีช่วยฉินและจี้ยี่หยัน
ทั้งสามคนเพิ่งจะออกไปจากห้องพักผู้ป่วย ฉวีช่วยฉินก็ด่าว่าสาปแช่งขึ้นมาอีก
ก่อนหน้านี้เธอไม่คิดเลยว่าจี้จิ่งเชินจะไม่เป็นอะไรมากเช่นนี้ ทั้งยังสามารถฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ถ้าหากเขาไม่ต้องกลับไปที่โรงพยาบาลอีกจริงๆ จะทำอย่างไรดี?
จี้ยี่หยันรับปากจี้หยวนวู่เอาไว้ ว่าจะยึดเอาบริษัทเอ็มไอกรุ้ปมาให้ได้ภายในระยะเวลาสามเดือน
ตอนนี้จี้จิ่งเชินกลับมาแล้ว นั่นก็เท่ากับว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยเช่นกัน
“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? ถ้าหากทำให้ตาแก่นั่นผิดหวัง แม้แต่บริษัทจี้ซือ ก็อาจจะไม่สามารถตกมาอยู่ในมือของแกได้นะ”
จี้ยี่หยันเองก็รู้ดี ดังนั้นวันนี้ถึงได้มาดูสถานการณ์ของจี้จิ่งเชินด้วยตัวเอง
แต่จากที่เขาสำรวจเมื่อครู่นี้ จี้จิ่งเชินมั่นใจว่าจะต้องออกจากโรงพยาบาลได้จริงๆ อีกทั้งวิธีของเขานั้นยังร้ายกาจมาเสมอ จะประมาทไม่ได้
จี้ยี่หยันเองก็ส่ายหน้าออกมาด้วยความกังวล
ฉวีช่วยฉินเอ่ยขึ้นมาด้วยความร้อนใจ “แกไม่มีวิธีอะไรเลยรึไง?”
จี้ยี่หยันขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วคิดอย่างละเอียด จู่ๆแววตาก็ปรากฏแสงวาววับขึ้นมา
“จี้จิ่งเชินสามารถกลับไปบริษัทได้ แต่จะต้องไม่ให้มาต่อต้านพวกเรา”
“แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
ฉวีช่วยฉินเบิกตากว้าง “เขาไม่ฆ่าพวกเราก็นับว่าดีเท่าไหร่แล้ว”
จี้ยี่หยันหันกลับมาหาเธอ แล้วเอ่ยด้วยเสียงต่ำ “แม่ไม่ได้มีของอีกอย่างนึงอยู่หรอกหรือ?”
“ของอะไร?”
และเมื่อเพิ่งจะถามออกไปนั้น แต่เมื่อเห็นท่าทางของจี้ยี่หยันแล้ว ฉวีช่วยฉินก็เข้าใจขึ้นมาในทันที
เธอร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ใช่ว่าแก จะให้แม่ใช้ของสิ่งนั้นมาขู่จี้จิ่งเชินหรอกใช่ไหม?”
“นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ใช้ตอนนี้แล้วจะใช้ตอนไหนล่ะแม่?”
ฉวีช่วยฉินขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง “แต่ของคนที่ตายไปแล้ว มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่…..”
จี้ยี่หยันเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “เมื่อก่อนก็ใช่ว่าแม่จะไม่เคยใช้นี่! ตอนนั้นที่บีบมันกับตระกูลเจี่ยงให้แต่งงานกัน แม่ก็ใช้สร้อยคอของแม่เขาออกมาขู่ไม่ใช่หรือ?”
“ใช่ แต่นั่นมันไม่เหมือนกัน….”
“ไม่เหมือนกันยังไง?”
จี้ยี่หยันเอ่ยพูดเสียงสูงขึ้น “ถ้าแม่ไม่ช่วยผม คุณปู่ผิดหวังเพราะผม พวกเราก็จะไม่ได้อะไรเลยนะ!”
ฉวีช่วยฉินหยุดคิด แล้วสุดท้ายจึงกัดฟันขึ้น
“ได้! เพราะยังไงของสิ่งนั้นเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว”
จี้คางยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “ของอะไร? พวกคุณจะทำอะไรกัน?”
ฉวีช่วยฉินหันกลับมามองเขาด้วยความไม่พอใจ
“เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”
ว่าแล้วทั้งสองคนก็จะหันหลังกลับออกไป
จี้คางพอจะเดาได้ว่าพวกเขาจะต้องลงมือกับจี้จิ่งเชิน จึงรีบดึงมือของจี้ยี่หยันไว้
“ยี่หยัน เขาเป็นพี่ชายของแกนะ แกจะทำแบบนี้ไม่ได้”
จี้ยี่หยันหันกลับมา หัวเราะ แต่รอยยิ้มนี้ไม่ได้ออกมาจากก้นบึ้งของแววตาเขาเลย
“เขาเห็นผมเป็นน้องชายหรือ?”
พูดจบแล้ว เขาก็สะบัดมือของจี้คางออก แล้วเดินออกไปด้านนอกแทน
นับตั้งแต่ที่จี้หยวนวู่กลับมาแล้ว ฉวีช่วยฉินและจี้ยี่หยันก็รู้ ว่าจี้คางไม่ได้มีตำแหน่งใดๆอยู่ในตระกูลจี้แล้ว เพียงแค่ทำให้จี้หยวนวู่พอใจ ตระกูลจี้นี้ก็จะเป็นของจี้ยี่หยัน
ตอนนี้ แม้แต่จี้ยี่หยันก็ยังไม่เห็นจี้คางอยู่ในสายตา
เขามองตามเบื้องหลังของทั้งสองคนไป กัดฟันแน่น แล้วหันกลับมามองห้องพักผู้ป่วย การทำสงครามระหว่างกัน
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาถึงได้ถอนหายใจออกมา แล้วออกไปจากโรงพยาบาล