เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 243 บุคคลที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
บทที่ 243 บุคคลที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
ในระหว่างเหตุการณ์ทั้งหมด จงหลีได้ยืนตะลึงค้างอยู่ข้างหลังเวินเที๋ยนเที๋ยน และมองเวินเที๋ยนเที๋ยนจัดการกับเหล่าคณะกรรมการทั้งหกท่านที่ถูกนับหน้าถือตาให้ถอยไปได้
ในความทรงจำของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนมีนิสัยที่ค่อนข้างอ่อนแอ น้อยมากที่จะเห็นท่าทีที่แข็งแกร่งของเธอ
และไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นท่าทางของจี้จิ่งเชินในตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาอดไม่ได้ที่จะมองอยู่สองสามครั้ง
จากนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันกลับมาและกำชับ " จงหลี ในกลุ่มนี้มีกี่แบบฟอร์มที่ถูกจี้ยี่หยันแย่งชิงไป ? "
จงหลีรีบพลิกดูเอกสารในมือทันที
" ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้มีทั้งหมดหกฉบับ แต่ละฉบับล้วนมีอยู่ไม่น้อย ดูเหมือนพวกเขาจะเตรียมการมาก่อน "
ความจริงแล้วไม่เพียงแต่ตระกูลจี้ที่จ้องจะใช้โอกาสนี้ แต่บริษัทอื่นๆต่างก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวเช่นกัน
แต่มีเพียงตระกูลจี้เท่านั้นที่จะสามารถคุกคามบริษัทเอ็มไอกรุ้ปได้
และก็มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่เคยทำสำเร็จมาก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
" จี้ยี่หยันทำทั้งหมดนี่เหรอ? "
จงหลีพยักหน้า
" ที่จริงหลังจากจี้ยี่หยันได้เริ่มเข้ามาดูแลตระกูลจี้ เขามักจะใช้วิธีการตอบโต้กลับแบบตาต่อตาฟันต่อฟันกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ป แต่เขาไม่สามารถทำมันสำเร็จมาก่อน ตอนนี้จี้จิ่งเชินไม่อยู่แล้ว พวกเขาจึงรีบลงมือทันที "
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดหายใจลึกๆ พร้อมหันกลับไปพูด " จงหลี ฉันไม่ถนัดด้านการบริหารบริษัท ดังนั้นฉันจะให้เธอดูแลกิจการของบริษัทชั่วคราว "
" หากมีใครสงสัยในการตัดสินใจของเธอ ก็มาบอกฉัน ฉันจะจัดการเอง เราจะไม่ยอมถูกใครเอาเปรียบอีกแล้ว "
สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่แบ่งกันจัดการในแต่ละส่วน เรื่องบริษัทมอบให้จงหลี ส่วนเรื่องหาเบาะแสและช่วยจี้จิ่งเชินออกมาเป็นหน้าที่ของเธอเอง
จงหลีมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า
ในมุมมองของเขาตอนนี้ ทั้งเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินต่างก็มีภาวะความเป็นผู้นำด้วยกันทั้งคู่
แต่น้อยครั้งนักที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะเผยด้านนี้ออกมาให้เห็น
เช่นเดียวกับตอนที่จี้จิ่งเชินถูกเผาบาดเจ็บก่อนหน้านี้ เขาจำมันได้เสมอ
ในเวลานั้นทุกการกระทำและคำสั่งของเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำให้ทุกคนล้วนทำตามเธอ
หรือไม่นี่ก็อาจจะเป็นพรสวรรค์ของผู้นำ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำชับอีกสองสามแห่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และหันหลังกลับออกไปข้างนอกในที่สุด
ทันทีที่ออกมาจากบริษัท ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอพบและขออัดเสียงคำให้การของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองตำรวจสองนายที่อยู่ตรงหน้าอย่างสงบนิ่ง
" ฉันไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเรื่องในวันนั้น สิ่งที่ฉันเห็นมันก็พอๆกับพวกคุณนั่นแหละ "
" แต่ฉันยืนยันได้ ว่าฉันไม่เห็นจี้จิ่งเชินลงมือทำร้ายเจี่ยงเนี่ยนเหยา "
" และฉันก็เคยเห็นศพของเจี่ยงเนี่ยนเหยามาก่อน ศพของเธอไม่ค่อยปกติ ไม่เหมือนกับถูกฆ่าหลังผ่านการต่อสู้ "
ตำรวจทั้งสองนายมองหน้ากันพลางพยักหน้า " ใช่แล้ว มันมีข้อน่าสงสัยบางอย่าง และเรากำลังตรวจสอบมันอยู่ "
" พวกคุณเชื่อ? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ เธอคิดว่าวันนี้จะมีการเข้าใจผิดและการใส่ร้ายซะอีก คาดไม่ถึงว่าตำรวจจะตรวจพบต้นตอปัญหาแล้ว
เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเธอก็โล่งอก จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง
" ในเมื่อเรื่องมันเป็นอย่างนี้แล้ว ทำไมพวกคุณถึงยังได้พาตัวจี้จิ่งเชินไปอีกล่ะ ? "
" จากสถานการณ์ปัจจุบัน จี้จิ่งเชินถูกพบตัวในที่เกิดเหตุพร้อมกับคราบเลือดบนตัวเขา กริชที่ฆ่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาก็มีรอยนิ้วมือของเขาติดอยู่เช่นกัน "
" จากเบาะแสเหล่านี้ ตามระเบียบเราต้องนำตัวเขาไปกักขังไว้ จนกว่าจะสอบปากคำเขา และไขข้อสงสัยเสร็จ "
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า พลางคิดอะไรบางอย่างออกอย่างกะทันหัน
" สิ่งที่ฉันอยากรู้คือ พวกคุณรู้เรื่องและมาที่โรงงานเก่าแห่งนั้นได้ยังไง? "
แต่ตำรวจทั้งสองนายกลับส่ายหน้า
" ขอโทษด้วย นี่เป็นความลับ พวกผมไม่สามารถบอกคุณได้ "
หลังพูดจบพวกเขาก็ลุกขึ้นพลางพูด " หากไม่พบเบาะแสอะไรเพิ่มสามวันหลังจากนี้ เห็นทีจี้จิ่งเชินคงจะต้องถูกกล่าวหาในชั้นศาล "
เวินเที๋ยนเที๋ยนหายใจเฮือกหนึ่ง
" ฉันเข้าใจ "
หลังจากส่งตำรวจทั้งสอง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้กลับไปปักเส้นไหมพรมอีกครั้ง แต่ก็กลับไม่ได้มีไอเดียใดๆเลย
พยานหลายคนพบเห็นเจี่ยงเนี่ยนเหยาและจี้จิ่งเชิน ปรากฏตัวที่ลานจอดรถในเวลาเดียวกัน
เจี่ยงเนี่ยนเหยาได้ตายไปแล้ว และบนร่างของจี้จิ่งเชินก็เปื้อนไปด้วยเลือดของเจี่ยงเนี่ยนเหยา……
ซ้ำยังมีลายนิ้วมืออีก……
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพาคนไปตามหาหลักฐานทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งสามวันให้หลัง คดีของจี้จิ่งเชินก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในขณะนั้นชายที่ยืนอยู่ข้างจำเลย เขาใส่สูทสีดำ มีใบหน้าที่ไร้อารมณ์ และสายตาที่เยือกเย็นยิ่งกว่าใคร
ราวกับว่าเขาไม่ได้กำลังยืนอยู่ในศาล แต่ยืนอยู่ต่อหน้าวงการธุรกิจของตัวเอง
ไม่ว่าผู้พิพากษาจะถามอะไร เขาก็สามารถตอบได้อย่างทันทีและมีเหตุผลสนับสนุน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองจากข้างล่างด้วยความเป็นกังวล
นี่เป็นครั้งที่สองของเธอที่มาในสถานที่แบบนี้
ครั้งแรกไม่ค่อยราบรื่นนัก ซ้ำยังปล่อยให้เจี่ยงเนี่ยนเหยาหลบหนีไปได้
แต่คาดไม่ถึงว่าจากนั้นไม่นานจะต้องมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็กลับกลายเป็นจี้จิ่งเชิน
หลักฐานที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพบเมื่อไม่กี่วันนี้มีไม่มากนัก
สิ่งเดียวที่เธอสามารถยึดถือได้ ก็มีเพียงการคำนวณเวลาเสียชีวิตของเจี่ยงเนี่ยนเหยาสิ่งเดียวเท่านั้น จี้จิ่งเชินไม่มีเวลาลงมือก่ออาชญากรรมได้อย่างแน่นอน
ทนายความที่คุณนายหล่อนเชิญมาด้วยตัวเองแสดงหลักฐานออกมา พร้อมอธิบายอย่างชัดเจน
การพิจารณาตัดสินคดีในวันนี้ เกือบจะดึงดูดความสนใจของผู้มีอำนาจจากทั่วทั้งเมือง
แม้แต่คุณนายหล่อนและเวินหงหยู้ก็ยังสละเวลามา
เมื่อเห็นท่าทีกระวนกระวายของเวินเที๋ยนเที๋ยน คุณนายหล่อนจึงเอื้อมมือไปแตะที่หลังมือของเธอ
" ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก "
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แต่ในใจกลับอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล ว่าจะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็คิดว่าเรื่องราวจะต้องดำเนินไปได้ด้วยดี
ในขณะเดียวกันตำรวจก็ได้เอาหลักฐานทั้งหมดออกมา
ตามการวินิจฉัยของแพทย์นิติเวช ในช่วงเวลาการเสียชีวิตของเจี่ยงเนี่ยนเหยา มีความจำเป็นต้องคำนวณเวลาล่วงหน้าสองชั่วโมงจากการพบศพ
สิ่งเดียวที่ต้องทำคือ พิสูจน์ว่าจี้จิ่งเชินไม่ได้อยู่ที่นั่นในเวลานั้น
ในขณะนี้จงหลีก็ได้รีบวิ่งเข้ามา และยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้กับผู้พิพากษา
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาด้วยความประหลาดใจ
" นายเอาอะไรมา "
จงหลีจึงพูดเบาๆ " เมื่อวานฉันไปพบประธานจี้ เขาให้ผมรวบรวมกล้องวงจรปิดทุกตัวในปราสาท เพื่อเป็นหลักฐานว่าเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ "
" เขาสั่งให้นายทำเหรอ ? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนถามกลับ พลางแหงนหน้ามองไปยังศาล
ไม่เพียงแค่กล้องวงจรปิด แม้แต่พ่อบ้านและแม่ครัวก็ได้ถูกเชิญมาที่นี่เพื่อเป็นพยาน
ช่วงบ่ายเต็มๆกว่าที่คดีที่ทุกคนจับตามองนี้ ใกล้จะถึงเวลาสิ้นสุด
เมื่อเห็นว่าหลักฐานยิ่งมีเยอะขึ้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เบาใจได้ในท้ายที่สุด
ผู้พิพากษาเคาะค้อนในมือ และรอให้ทุกอย่างเงียบสงบลงจึงเอ่ยปากพูดอย่างช้าๆ
" ตามหลักฐานปัจจุบัน จี้จิ่งเชินไม่มีเวลาเพียงพอในการก่ออาชญากรรม และหลักฐานไม่เพียงพอที่จะตัดสินโทษ "
เมื่อได้ฟังดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม และมองไปทางจี้จิ่งเชิน
ผู้พิพากษากล่าวต่อ " ตอนนี้ฉันขอตัดสินว่าจี้จิ่งเชินไม่มีความผิด "
ทันทีที่สิ้นเสียง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยืนขึ้นด้วยความดีใจ และอดไม่ได้ที่จะเดินไปหาจี้จิ่งเชิน
เธอมีหลายอย่างที่อยากจะพูดกับเขา แต่พอถึงตอนนี้เธอกลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี
จี้จิ่งเชินมองเธอ พลางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
" ขอบคุณ "
" รอเดี๋ยว! "
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ก็มีเสียงอันแข็งแกร่งและทรงพลังดังขึ้นมาจากประตูศาล