เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 212 ความครอบครอง
บทที่ 212 ความครอบครอง
ไม่ถูกต้องนัก
เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้คำได้ดีมาก นั่นคือสิ่งที่คนรู้กาลเทศะจะพูด
พูดแบบนี้จะไม่ทำให้คนอื่นเสียหน้า และยังดูเจียมเนื้อเจียมตัวและสุภาพ ไม่ทำให้ตัวเองโดดเด่นเกินไปด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น อาจารย์ทั้งสองคนก็ยังไม่พอใจอย่างมากอยู่ดี
พวกเขาหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วพูดด้วยความโกรธ
“ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!อย่าพูดอะไรไร้สาระ!ไม่มีหลักฐานก็อย่าพูดอะไรออกมาส่งเดช!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูเครื่องเคลือบดินเผาที่อยู่ใต้แสงไฟไม่ว่ามองจากมุมไหน มันก็สอดคล้องกับลักษณะของราชวงศ์หมิงเป็นอย่างมาก
แต่มีข้อบกพร่องจุดใหญ่อยู่ที่หนึ่ง …
แต่ก็พูดได้ว่าทำเลียนแบบได้สุดยอดมาก
เธอค่อยๆพูดขึ้นมาว่า “รูปแบบและลักษณะของโถลายครามสีฟ้าและสีขาวใบนี้ เห็นได้ชัดว่ามาจากราชวงศ์หมิงตอนต้น”
“แจกันทั้งใบถูกทาสีฟ้า อธิบายถึงความเรียบง่ายและสง่างามเคลือบสีสดใสแพรวพราว รอบๆวาดเป็นรูปรวงข้าว
มันคงจะถูกเผาขึ้นมาเพื่ออธิษฐานขอให้การเก็บเกี่ยวได้ผลผลิตที่ดี”
หลังจากอาจารย์อีกสองคนฟังแล้ว พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีทักษะบางอย่าง
“ใช่แล้ว ในช่วงต้นราชวงศ์หมิงมีความอดอยากเกิดขึ้นมากมาย ฉันเดาว่ามันเกิดขึ้นในสมัยหงหวู่เนื่องจากภัยธรรมชาติและการขาดแคลนอาหารบางคนจึงอธิษฐานขอให้มีการเก็บเกี่ยวที่ดี”
“แต่ในเมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกต้อง คุณจะบอกว่ามันมีปัญหาได้อย่างไร? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณช่วยเอาโถนั้นมาให้ฉันดูได้ไหม?”
ตามกฎของรายการ กรรมการผู้ประเมินสามารถดูวัตถุโบราณได้เพียงครั้งเดียว
แต่ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนเสนอให้มีการดูซ้ำเป็นครั้งที่สองทำให้ทีมงานของรายการรู้สึกลำบากใจในทันที
ผู้ชมที่ยืนอยู่ด้านล่างเริ่มไม่พอใจ
“สาวน้อย คุณมาก็เล่นตัวแบบนี้ แล้วยังจะขอดูอีกรอบอีกเหรอ คุณจะดูอีกได้ยังไง?”
“ฉันดูแล้วคงจงใจละสิ ยังเป็นเด็กเป็นเล็ก ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ยังเป็นสาวตัวน้อย ยังกล้าจะมาเรียกร้องกับอาจารย์ทั้งสองท่าน”
“ชัดเจนว่าเธอต้องการอวดเก่งเอาหน้า!”
เมื่ออาจารย์อีกสองคนได้ยินคำพูดนี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนพวกเขาก็ทำหน้านิ่งขรึม ไม่พูดไม่จา
พิธีกรยิ้มและรีบลุกขึ้นเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่น่าลำบากใจนี้
“วัตถุโบราณเป็นสิ่งที่ควรสังเกตอย่างใกล้ชิดถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น นั่นมันก็ไม่ดีแล้ว ทั้งหมดที่เราต้องทำคือการตรวจดูของปลอมและการแสวงหาของจริง”
พูดไป แล้วให้คนถือโถลายครามสีฟ้าและสีขาวอย่างระมัดระวังไปไว้ข้างหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนสวมถุงมือและดูอย่างระมัดระวัง
ผู้คนรอบข้างเริ่มเงียบลงและจ้องมาที่เธอ
คนที่นั่งข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนเหล่มองเธอ
ต้องดูว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนสาวตัวน้อยคนนี้จะมีความสามารถแค่ไหน!
เวินเที๋ยนเที๋ยนตรวจสอบสิ่งที่เธอพบว่าไม่ถูกต้อง เธอตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนที่จะพยักหน้า
“ได้ผลแล้ว”
ทุกคนรีบมองไปที่เธออย่างสนใจ “คุณเวิน คุณเห็นอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อ “การวิเคราะห์แจกันรามสีฟ้าและสีขาวของอาจารย์ทั้งสองก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองก็ตะโกนขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่สนใจพวกเขา แต่พูดต่อไป
“แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมองเห็นได้ชัด คือตรงมุมด้านข้างของแจกัน เห็นได้ชัดว่ามีรูปถั่วลิสงเม็ดเล็กๆประดับอยู่ไม่กี่จุด”
“ทุกคนคงรู้ดีว่าถั่วลิสงถูกนำเข้ามาในประเทศหลังช่วงกลางของราชวงศ์หมิง เป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏในช่วงต้น”
ก่อนที่จะพูดจบ อาจารย์ทั้งสองท่านก็ชะงักไป
พวกเขารีบไปดูโถลายครามสีฟ้าและสีขาวในมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน
แน่นอนว่าพบว่ามีต้นไม้เล็กๆ สองสามต้นอยู่ตรงมุมที่ไม่เด่นมากของแจกัน
ดูจากลักษณะรูปร่างแล้ว ก็คือถั่วลิสง!
สิ่งที่เข้ามาหลังราชวงศ์หมิงตอนกลางจะปรากฏบนแจกันที่ทำขึ้นในช่วงต้นราชวงศ์หมิงได้อย่างไร?
โถลายครามสีฟ้าและสีขาวนี้เป็นของปลอม!
พวกเขาสองคนมองไปที่หลักฐานที่แน่นหนาที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาต่างก็ตกตะลึงแล้วก้าวถอยหลังไป
“มีอยู่จริง……”
เสียงของเขาไม่ดังมาก แต่ทุกคนก็ได้ยิน
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าสับสน
แจกันใบนี้ทำให้อาจารย์นักวัตถุโบราณทั้งสองคนเหมือนคนตาบอด แต่สุดท้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับชี้ให้เห็น!
มันคือความอัปยศมากที่สุดสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณ!
สาบานได้เลยว่าที่พวกเขาพูดเมื่อกี้มันเป็นเรื่องจริง
ตอนนี้โดนเวินเที๋ยนเที๋ยนตอกต่อหน้าคนมากมาย
สีหน้าพวกเขาก็ดูแย่มากขึ้นมาทันที
พวกเขาไม่ได้หันกลับไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ขมวดคิ้วแล้วกลับไปประจำที่เดิม
สถานการณ์ในรายการค่อนข้างตึงเครียด พิธีกรจึงรีบลุกขึ้นยืน
แต่ตอนนี้ทุกคนต่างมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่น่าเชื่อ
เด็กสาวคนนี้เก่งกว่าอาจารย์นักวัตถุโบราณทั้งสองคนอีก!
ถ้าวันนี้เธอไม่มาที่นี่ บางทีของปลอมอาจจะถูกขายเป็นของแท้ก็ได้!
ไม่อย่างนั้นจะต้องพลาดเสียเงินไปเท่าไหร่?
ผู้คนที่นั่งอยู่ข้างล่างไม่ได้พูดอะไร แต่คนที่เพิ่งส่งวัตถุโบราณมาตรวจสอบมีสีหน้าไม่พอใจ
“นี้อาจจะประเมินผิดก็ได้?”
“รายการของคุณไม่ได้บอกว่ามีอัตราความสำเร็จหนึ่งร้อยเปอเซ็นเหรอ? โชคดีที่ฉันยังไม่ได้ซื้อสินค้าชิ้นนี้ ฉันเอาประเมินก่อน ถ้าหากว่าฉันซื้อก่อนที่จะได้ฟังพวกคุณพูด ฉันก็คงจะสูญเสียครั้งใหญ่”
เขาชี้ไปที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองแล้วพูดว่า “พวกคุณเป็นอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องวัตถุโบราณ ที่แท้พวกคุณไม่ได้รู้ดีไปกว่าเด็กสาวคนหนึ่งเลย! ยังจะเรื่องว่าอาจารย์ได้ยังไง”
คนคนนั้นจ้องไปที่ปรมาจารย์ทั้งสอง แล้วหันออกไปพร้อมกับแจกันโบราณในมือ
หลังจากได้ยินคำพูดของเขาผู้คนด้านล่างต่างก็ค่อยๆพยักหน้า
แต่เดิมทั้งสองคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการของเก่า แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้
ทันทีที่รายการวันนี้จบลง ผู้ช่วยผู้กำกับก็มาหาเวินเที๋ยนเที๋ยน
แล้วจับมือเธออย่างสุดซึ้ง
“คุณเวิน ขอบคุณมากสำหรับวันนี้ โชคดีที่คุณอยู่ที่นี่ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรนี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”
ของที่ส่งเข้าร่วมการประเมินในครั้งนี้ สุดท้ายกลายเป็นของปลอม
ถ้าแจกันใบเมื่อกี้ได้ไปในราคาสูง พวกเขาก็คงไม่ต้องทำรายการนี้กันแล้ว
เขาถึงได้รู้ว่าคนที่เขาเชิญมาประเมินแจกัน คิดไม่ถึงว่าจะช่วยพวกเขาไว้ตั้งแต่วันแรก!
อายุยังน้อย แต่ไม่ธรรมดา
ในขณะที่เขากำลังพูด จู่ๆก็มีมือมาโอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนจากด้านหลังเธอ
จี้จิ่งเชินมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเขา แต่สายตาของเขามองไปที่มือทั้งสองข้างราวกับมีดคม
“พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ?”
ผู้ช่วยผู้กำกับเห็นสายตาที่เขาจ้องมาก็สั่นสะท้าน เหมือนพลังงานเย็นบางอย่างลอยมาจากด้านหลังของเขา เขาก็ค่อยๆดึงมือตัวเองกลับมา
“สวัสดีครับ คุณจี้”
“อืม”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นมาเบาๆ และหันไปมองที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
“เสร็จแล้วเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ตัวว่าเขามีบางอย่างผิดปกติไป เธอพยักหน้า
“เสร็จแล้ว”
เธอหยิบข้าวของของเธอและเดินออกไปพร้อมกับจี้จิ่งเชิน
หลังจากเดินไปได้สองก้าว จี้จิ่งเชินก็หันกลับมา สายตาจ้องไปที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนแวบหนึ่ง
“พวกเขาไม่ได้ทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“เปล่า”
จี้จิ่งเชินกำลังจะหันหน้ากลับมา แต่ก็เจอสายตาของผู้ช่วยผู้กำกับที่จ้องมาที่เขา
วันรุ่งขึ้นเวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงสตูดิโอก็พบว่าผู้ช่วยผู้กำกับที่ดูแลถูกเปลี่ยนคน