เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 154 ผู้หญิงคนนี้
บทที่ 154 ผู้หญิงคนนี้
รอยยิ้มของฉวีหลานชะงักลง เมื่อเขาได้ยินคำพูดที่เย็นชาของจี้จิ่งเชิน เธอก้าวไปข้างหน้าแล้วจับมือเขา
“ตัวเองยังจะพูดอีก ไม่ใช่เพราะเค้าคิดถึงเหรอ? สองวันมานี้ตัวเองไม่มาหาเค้าเลย ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นอย่างรุนแรง เขาอยากจะผลักเธอออกไป
แต่ทันทีที่เขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ด้านใน มือที่เขากำลังจะผลักออกไปก็ดึงกลับมา แล้วโอบเอวของ ฉวีหลาน
เขาจ้องมองที่ เวินเที๋ยนเที๋ยนและพูดกับฉวีหลานเบา ๆ
“ในเมื่อคุณรอผมมานานขนาดนี้แล้วถ้างั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“ค่ะ”
ฉวีหลานซบลงบนไหล่จี้จิ่งเชิน แล้วเดินเข้าไปพร้อมกับเขา
เมื่อเดินผ่านเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็เหมือนกับเมื่อก่อน พวกเขาไม่แม้แต่จะมองเธอแล้วเดินเข้าไปในห้องรับแขก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามหลังพวกเขาไป มองจี้จิ่งเชินกุมมือฉวีหลาน
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอถึงพูดขึ้นมาว่า “จี้จิ่งเชิน ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว”
แต่จี้จิ่งเชินเหมือนกับทำเหมือนไม่ได้ยินที่เธอพูด เขาหันไปพูดคุยกับฉวีหลาน
“วันนี้ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ?”
ฉวีหลานจับมือจี้จิ่งเชินด้วยใบหน้าที่เขินอาย
“ฉันกังวลว่าหลายวันนี้วันนี้คุณทำงานล่วงเวลาจนดึกดื่น ร่างกายจะไม่ค่อยแข็งแรง เลยตุ๋นซุปให้คุณเองกับมือ มาให้คุณบำรุงร่างกาย”
เธอมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นคนรับใช้ สายตาก็ไปหยุดลงที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
“พี่สาว พี่เข้าไปในครัวแล้วเอาซุปของฉันออกมาให้หน่อยได้ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ขยับแต่หันไปมองที่จี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินทำเป็นไม่เหลียวแล ทำเหมือนกับว่าเธอเป็นอากาศ
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พูดกับเธอแล้วจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น แล้วพยักหน้า
“ได้”
ฉวีหลานยิ้มออกมาด้วยความพอใจ “จำไว้นะ ว่าต้องระวังหน่อย ซุปนั้นฉันใช้เวลาเคี่ยวหลายชั่วโมงกว่าจะได้มา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปในห้องครัว
แม่ครัวเห็นเธอ ก็ถามขึ้นมาว่า “คุณผู้ชายกลับมาแล้วหรือยังคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ฉันมาช่วยฉวีหลานเอาซุปที่เธอตุ๋นออกไปให้”
“เธอให้คุณมาเอา?”
แม่ครัวขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร?คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองจริงๆแล้วหรือไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้พูดอะไรออกมา
“คุณหนุ คุณจะยอมให้คนอื่นกลั่นแกล้งคุณอยู่ตลอดแบบนี้ไม่ได้นะคะ”
เธอพูดออกมาแล้วนำซุปขึ้นไปอุ่นบนเตา
“เธอบอกว่าเธอเป็นคนตุ๋นซุปนี้เองเหรอคะ? อย่ามาหลอกกันเลย เห็นอยู่ชัดๆว่าเธอซื้อมาจากร้านอาหาร ฉันเคยชิมมาก่อนแล้วมันเหมือนกันไม่มีผิด เธอจะเป็นคนทำได้ยังไง?”
“บางที……จี้จิ่งเชินอาจจะเชื่อเธอก็ได้”
ไม่ค่อยได้ยินเธอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วส่งซุปให้เธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนนำซุปออกมาวางไว้หน้าจี้จิ่งเชิน
ฉวีหลานรู้สึกพอใจขึ้นมา เธอหยิบถ้วยซุปกับช้อนขึ้นมาให้จี้จิ่งเชินอย่างเอาใจใส่
แต่ทันทีที่เปิดฝาถ้วยออก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เห็นว่าในถ้วยนั้นเป็นซุปปลา
เมื่อมองไปที่ถ้วยซุป จี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ไม่ได้รับถ้วยซุปมาจากมือฉวีหลาน
ฉวีหลานเห็นเขาไม่กินก็ยิ้มอย่างไม่ค่อยพอใจแล้วถามว่า “ประธานจี้ คุณไม่อยากกินหรอคะ?อร่อยมากเลยนะคะ”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ตอบ แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ด้านหลังกลับเข้าใจอย่างชัดเจน
เป็นเพราะว่าจี้จิ่งเชินไม่กินปลา เหมือนกับที่แม่ครัวเคยบอกเธอก่อนหน้านี้
แต่ว่า……
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ เธอยังจำได้แม่น จี้จิ่งเชินจะกินซุปปลาที่เธอทำทุกครั้ง
เหมือนมีระลอกคลื่นเกิดขึ้นในหัวใจที่นิ่งสงบของเธออีกครั้ง เธอยืนอยู่ข้างหลัง มองตามหลังของจี้จิ่งเชินไป แววตาค่อยๆปรากฏความคิดถึงออกมา
ฉวีหลานยังพยายามที่จะป้อนจี้จิ่งเชิน เธอหยิบชามกับช้อนขึ้นมายื่นไปที่ปากของเขา
ที่จริงความสนใจของจี้จิ่งเชินอยู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยน พอได้กลิ่นคาวของซุปปลา เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เขายกมือขึ้นผลักออกเธอไป
ถ้วยซุปในมือฉวีหลานตกไปบนพื้นครึ่งหนึ่ง แล้วซุปปลาก็หกออกมา
เธอมองชามกับช้อนที่หกเลอะเทอะบนพื้น แล้วหันไปสั่งเวินเที๋ยนเที๋ยน
“พี่สาว พี่ช่วยฉันทำความสะอาดตรงนี้ที วันนี้ฉันเพิ่งทำเล็บมาใหม่ ไม่สะดวกที่จะทำ”
จี้จิ่งเชินได้ยินคำพูดนั้น ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นมากกว่าเดิม
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไป แล้วคุกเข่าลงเก็บเศษถ้วยที่พื้น
ทันทีที่เธอเอื้อมมือออกมา จู่ๆฉวีหลานก็ร้องขึ้นมา
“ตายแล้ว ฉันลืมไปเลย”
เธอหันไปหาจี้จิ่งเชิน “ประธานจี้ ตอนที่ฉันมาถึงที่นี่ฉันให้คนขับรถกลับไปก่อน ตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว เขาน่าจะหลับไปแล้วแน่ๆเลย”
ฉวีหลานเอื้อมมือไปโอบแขนตระกูลจี้จี้จิ่งเชิน
“คืนนี้ให้ฉันพักอยู่ที่นี่ ดีไหมคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดนี้ มือของเธอก็สั่นขึ้นมา เธอไม่ทันได้ระวังไปจับเศษถ้วยที่แตก เลือดก็ไหลออกมาทันที
ร่างกายของจี้จิ่งเชินเกร็งขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่ามือของเธอเลือดออก รู้สึกแน่นไปทั้งหัวใจ
แล้วเขาอยากจะเข้าไปดูเธอใกล้ๆ
จี้จิ่งเชินจ้องเขม็งไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน เขากำหมัดแน่น เขาพยายามอย่างหนัก แล้วบอกตัวเองว่าอย่าไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหยดเลือดที่มือของเธอเอง แต่เธอไม่ได้รอท่าทีตอบสนองของจี้จิ่งเชิน
หัวใจเธอรู้สึกดิ่งลง เธอก้มหน้าแล้วเก็บเศษกระเบื้องที่แตกอยู่บนพื้นต่อไป
แต่ฉวีหลานยังคงตอแยจี้จิ่งเชินไม่เลิก เธอจับมือของเขาแกว่งไปมา
“ดีไหมคะ ดีไหม คืนนี้คุณให้ฉันค้างที่นี่ดีไหมคะ?เค้ายังเตรียมเสื้อผ้าดีๆมาเป็นพิเศษเลยนะ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วอย่างเบื่อหน่าย ถ้าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้อยู่ที่นี่เขาคงจะผลักผู้หญิงคนนี้ออกไปแล้ว
แม้แต่การสัมผัสของเธอก็ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียน
เสียงดังทำให้จี้จิ่งเชินปวดหัว และเมื่อเขาเห็นเลือดสีแดงสดบนมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น
ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจหรือไม่?
ฉันต้องการเรียกร้องความสนใจจากเขา?
ให้ตายเถอะ!
เขาจะถูกหลอกอีกครั้งได้ยังไง?
ในใจของเขาคิดแบบนี้ แต่สายตาของจี้จิ่งเชินกลับยังคงมองไปที่นิ้วมือของเธอ
เลือดออกแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจมันเลย?
หรือจะรอให้เลือดไหลออกมาหมดหรือไง?
ใบหน้าของเขายิ่งดูยิ่งน่าเกลียด แล้วก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
“พ่อบ้าน”
จี้จิ่งเชินอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมา “ให้คนมาเก็บกวาดให้เรียบร้อย”
เขาพูดแล้วมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน เราจงใจพูดขึ้นว่า “ซุ่มซ่ามจริงๆ ทำให้ห้องนี้เละเทะไปหมดแล้ว”
พูดจบเขาก็หันหลังไปแล้วดึงมือของฉวีหลานขึ้นมา
“ไสหัวไป!”
เขาโยนฉวีหลานออกไป แล้วพูดอย่างเย็นชา
ฉวีหลานตกตะลึง เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เธอฝืนยิ้มออกมาแทบไม่ไหว
“แต่คนขับรถของฉันกลับไปแล้ว คืนนี้ให้ฉันอยู่ที่นี่จะได้ไหม?”
เธอพูดอย่างน่าสงสาร แล้วยกมือขึ้นพยายามจะดึงแขนจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“ผมบอก ให้ใส่หัวไป!ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก”
ฉวีหลานมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าสีหน้าของจี้จิ่งเชินจะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้
เธอพูดยังไม่เข้าใจว่า “ประธานจี้ คุณล้อฉันเล่นเหรอ?เมื่อกี้ยังดีๆกันอยู่เลย?”
แต่ดวงตาของจี้จิ่งเชินเย็นชามาก ใครที่มองก็หวาดกลัวจนตัวสั่น