เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 128 ผู้หญิงสองหน้า
บทที่ 128 ผู้หญิงสองหน้า
ทันทีที่อาจารย์หลีปรากฏตัวกล้องที่อยู่บริเวณนั้นก็เริ่มทำงาน
แต่ก็พบว่าอาจารย์หลีปรากฏตัวมาแค่วิดีโอเท่านั้น
ในวิดีโอใบหน้าของเขาซีดและริมฝีปากก็ดูไร้เลือด
ในขณะที่กล้องถ่ายทำนั้นก็เห็นบาดแผลที่มือของเขาได้อย่างชัดเจน
เมื่อวิดีโอเผยแพร่จี้จิ่งเชินก็ไปที่บ้านของตระกูลเจี่ยงด้วยตนเองโดยไม่บอกเวินเที๋ยนเที๋ยน
เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับเวินเที๋ยนเที๋ยนทำให้เขามีความอดทนต่อตระกูลเจี่ยงมากกว่าคนอื่นๆ
แต่คราวนี้เขาก้าวไปในระดับที่ตรงกันข้ามกับที่เคยเป็น
เจี่ยงเนี่ยนเหยาไม่รู้ว่าอาจารย์หลีนั้นเปิดเผยทุกอย่างแล้ว เธอจึงออกมาต้อนรับเขาด้วยความยินดี
“จิ่งเชินคุณมาหาฉันเหรอคะ?”
เมื่อเทียบกับเธอดวงตาของจี้จิ่งเชินดูเย็นชากว่ามาก
เธอยื่นมือมาจับจี้จิ่งเชินแต่ถูกผลักออกไป
เจี่ยงเนี่ยนเหยาถูกเขาผลักลงไปที่เก้าอี้
“คุณผลักฉันทำไม? นี่คุณจะทำอะไรคะ?”
เจี่ยงหงซึ่งและจางม้างหรูได้ยินการเคลื่อนไหวเมื่อครู่จึงเดินออกมา
เมื่อเห็นว่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาเกือบจะล้มลงทั้งสองก็รีบเดินไปและรีบเธอเอาไว้
“จิ่งเชินนี่คุณจะทำอะไร?”
“มีอะไรก็รีบพูดมาซะดีๆว่าเธอทำอะไรไว้?”
ดวงตาของจี้จิ่งเชินมองผ่านไปมาระหว่างสองคนนั้นและวนกลับมาที่เจี่ยงเนี่ยนเหยา
“เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอทำเรื่องอะไรเอาไว้”
เจี่ยงเนี่ยนเหยามองไปข้างหน้าอย่างไม่ยอมรับมัน
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร คุณจะโทษฉันไม่ได้นะ ภรรยาคุณต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด”
ความมืดมนชัดเจนในดวงตาของจี้จิ่งเชินเขาก้าวไปข้างหน้ายืดแขนออกไปแล้วดึงรวบเจี่ยงเนี่ยนเหยาเอาไว้จากด้านหลัง
เขาจับเจี่ยงเนี่ยนเหยาเอาไว้แน่นจนเกือบยกเธอขึ้นจากพื้น
“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะอดทนกับคนอย่างคุณ คุณรู้ไหมว่าผมต้องอดทนกับคุณมากแค่ไหน?”
ดวงตาที่แหลมคมของเขาสะบัดสาดไปที่ทั้งสามคน
“ถ้าไม่ใช่ว่าพวกคุณคือครอบครัวของภรรยาผม พวกคุณไม่มีโอกาสมานั่งคุยกับผมแบบนี้แน่”
เจี่ยงหงซึ่งเมื่อถูกข่มขู่ต่อหน้าแบบนี้สีหน้าเขาก็ดูไม่ได้เลยทีเดียว
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหัวเราะออกมาแล้วมองจี้จิ่งเชินอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“ภรรยาของคุณน่ะ คุณรู้หรือเปล่าว่าเธอ….”
ทันทีที่เธอจะพูดจางม้างหรูที่ยืนอยู่ข้างกันก็รีบดึงเธอไว้ซะก่อน
เจี่ยงเนี่ยนเหยาต้องหยุดพูดแล้วหันหน้าไปอีกทางอย่างไม่เต็มใจ
จางม้างหรูยิ้มพลางพูดว่า “พวกเขายังเด็กก็หนีไม่พ้นต้องทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาน่ะค่ะ”
จี้จิ่งเชินไม่มีรอยยิ้มประดับใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
เขามองเจี่ยงเนี่ยนเหยาอย่างเย็นชา
“ผมหวังว่าเขาจะรู้นะว่าเรื่องไหนควรเล่นเรื่องไหนไม่ควรเล่นเพราะผมเองก็ล้อ! เขา! เล่น! ได้เหมือนกัน!”
พูดจบก็สะบัดมือหยิบดาบสั้นมาวางไว้บนโต๊ะ
ดาบคมนั้นถูกสอดลึกเข้าไปในโต๊ะไม้มะฮอกกานีในขณะที่บางส่วนยังคงปรากฏรอยเปื้อนเลือดแห้งอยู่
มันคือดาบสั้นอันเดียวกันกับที่แทงมือขวาของอาจารย์หลีเมื่อวานนี้
เจี่ยงเนี่ยนเหยาเหลือบมองมาที่เขา ขาของเธอสั่นด้วยความตกใจในขณะที่เธอทำได้เพียงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างนั้น
ใบหน้าของเจี่ยงหงซึ่งก็ดูไม่ได้เลยเช่นกัน
เมื่อจี้จิ่งเชินจากไป เขาก็ตะโกนขึ้นมาแล้วนั่งลง
“คอยดูสิ่งที่แกไปกวนโมโหเขาได้เลย”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาตกใจและกลัวในตอนแรกแต่เมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยงหงซึ่งเธอก็ไม่พอใจทันที
“ทำไมถึงเรียกว่ากวนโมโห หนูแค่จะเอาสิ่งที่เป็นของหนูคืนมา วันนั้นที่อยู่กันที่ ตระกูลหล่อนทำไมไม่คัดค้านกันล่ะ?”
เจี่ยงหงซึ่งจ้องที่เธอแล้วตบลงบนโต๊ะ
“ฉันคิดว่าแกจะฉลาดกว่านี้ ดูสิ่งที่แกทำสิ ? ไปกวนโมโหเขาซะขนาดนั้น!”
“หนูจะรู้ได้ไงว่าเขาจะเชื่อผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้”
เจี่ยงเนี่ยนเหยากัดฟันกรอดด้วยความโกรธยิ่งคิดถึงมันมากเท่าไรเธอก็ยิ่งทำใจไม่ได้
แต่ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย หากต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆจะไม่สงสัยเลยสักนิดก็คงไม่ใช่หรอก
“ไม่รู้ผู้หญิงคนนั้นมันเอายาอะไรให้จี้จิ่งเชินกิน!”
เจี่ยงหงซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ
“ยังจะมีหน้ามาพูดอีก แกนี่…..”
“พอได้แล้ว”
จางม้างหรูสงบศึกพลางหันไปหาเจี่ยงเนี่ยนเหยาแล้วพูดว่า “เนี่ยนเหยา แม่รู้ว่าลูกน่ะรีบร้อนแต่ถ้าคิดจะลงมือทำอะไรก็อย่าทิ้งหลักฐานไว้สิ”
“แล้วจะให้หนูทำยังไง? ทันทีที่หนูเห็นนังผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ในบ้านที่ควรจะเป็นของหนูอย่างสะดวกสบาย หนูก็อยากจะฆ่ามันให้ตาย!”
จางม้างหรูยกมุมปากขึ้นแล้วพูดช้าๆว่า “ถ้าในเมื่อลูกทำเองไม่ได้ก็หาคนอื่นทำให้แทนยังไงล่ะ”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหันไปมองจางม้างหรูด้วยความประหลาดใจ
“คุณแม่หมายถึง….”
จางม้างหรูวางมือลงบนหลังมือเขา
“ลูกต้องเร่งมือเข้าหน่อยนะอย่าปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นมีลูกกับจี้จิ่งเชินเด็ดขาด มิฉะนั้นเราจะเดือดร้อน”
เจี่ยงเนี่ยนเหยาพยักหน้าปรากฏประกายในแววตา
“เรื่องนั้นหนูรู้ดี”
ออกจากห้องรับแขก เจี่ยงเนี่ยนเหยากำลังคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะจัดการกับเวินเที๋ยนเที๋ยน เพียงเปิดประตูเข้าไปทันใดนั้นก็พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ในห้องของเธอ!
ชายคนนั้นตัวสูง สวมแจ็คเก็ตหนังสีดำกับใบหน้าที่หยาบกร้านของเขา
เมื่อเจี่ยงเนี่ยนเหยาเห็นดังนั้นแล้วหัวใจของเธอสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวและคิดจะหนีขึ้นมาทันที
“เนี่ยนเหยา ลูกของเราล่ะ?”
คนที่นั่งข้างๆพูดขึ้นมาช้าๆ
เจี่ยงเนี่ยนเหยากลัวมากจนร่างสั่นเทาไปหมด
เฟิงจี้นยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วดึงเจี่ยงเนี่ยนเหยาที่กำลังจะหลบหนีกดเข้าไว้กับผนัง
เขาเหยียดมือออกมาแล้ววางไปบนหน้าท้องของเจี่ยงเนี่ยนเหยา
“คุณทำอะไรกับเขา?”
เขากัดฟันกรอดดวงตาแดงก่ำและมีความบ้าคลั่งอยู่ในนั้น
นัยน์ตาของเจี่ยงเนี่ยนเหยาสั่นกะพริบ
เธอทำแท้งเด็กคนนั้นไปแล้ว
ท้องกลับมาแบบนั้น เธอจะกลับมาได้อย่างไร?
จะรับตำแหน่งคุณนายจี้ได้อย่างไร?
เธอหลบสายตาของเฟิงจี้น
“คุณรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เฟิงจี้นตกตะลึง ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
“ทำไมล่ะ? คุณไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดเหรอ?”
เขายกกำปั้นขึ้นแล้วชกไปที่กำแพงในระยะที่ถัดจากหูของเจี่ยงเนี่ยนเหยาไปเพียงนิด
เจี่ยงเนี่ยนเหยากลัวมากจนเธอรีบหลับตาสนิทครู่หนึ่งจึงค่อยลืมตาขึ้น
เมื่อเห็นว่าเฟิงจี้นมองเธอด้วยสายตาคาดคั้นรุนแรง เธอก็กลัวขึ้นมาทันที
เฟิงจี้นได้แต่มองหน้าเธอแต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
เขาหันกลับมาโยนเก้าอี้กระแทกกำแพงด้วยมือของเขา เก้าอี้แตกออกเป็นชิ้นๆทันที
เจี่ยงเนี่ยนเหยารู้สึกกลัวและรีบเดินหนีไปที่ประตูอย่างเงียบ ๆพยายามหาคนมาไล่เขาออกไป
แต่ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงประตูเฟิงจี้นก็หันกลับไปคว้าตัวเธอไว้แล้วโยนเธอขึ้นบนเตียง
เจี่ยงเนี่ยนเหยากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ทำไม? ผมทำอะไรผิดตรงไหน? ทำไมคุณถึงได้โหดร้ายขนาดนี้?”
เขาง้างมือขึ้นกำลังจะตบลงไป
เจี่ยงเนี่ยนเหยาหลับตาอย่างรวดเร็วและพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “ฉันไม่ได้ทำแท้ง!”
การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายหยุดชะงักกลางอากาศทันที
เจี่ยงเนี่ยนเหยาลืมตาขึ้นมาอย่างกลัวที่จะพูดความจริงกังวลว่าเฟิงจี้นจะตบเธอจริงๆ
“ใช่….ทั้งหมดเป็นเพราะพ่อแม่ของฉัน เขาบังคับให้ฉันทำแล้วฉันก็ไม่มีทางเลือก!”
เฟิงจี้นวางมือลงพลางขมวดคิ้ว “พวกเขาเจอคุณได้อย่างไร?”
“พวกเขาเจอฉันตั้งนานแล้ว”
เจี่ยงเนี่ยนเหยายืนขึ้นและพูดความจริงกึ่งโกหกว่า “พวกเขาไม่ให้ฉันบอกคุณ วันนั้นที่คุณไม่อยู่พวกเขาจับฉันมัดไว้พาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลเมื่อฉันตื่นขึ้นมามันก็…..”
“ฉันรู้ว่าคุณต้องโกรธแต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นพ่อแม่ของฉัน”