หล่อนตะกุกตะกักและพูดไม่ออก
“เอาล่ะ ถ้าคืนนี้รู้สึกแบบเมื่อกี้นี้อีกล่ะก็ โทรหาฉันได้…”
แล้วนามบัตรของไทเลอร์ก็ถูกยัดใส่มือของหล่อนเอาไว้อย่างเอาแต่ใจ
“ฉันจะรอคอยเธอ รอคอยที่จะได้เลียเธออีก…”
สายตาของเขาลดต่ำลงไปจับจ้องที่ระหว่างขาของหล่อน กลีบสาวที่กำลังหยาดเยิ้มขานรับคำพูดหวามใจของเขาอย่างรุนแรง จนหล่อนต้องพยายามหนีบขาของตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
“ฉันจะคอยก็แล้วกัน”
แล้วคนตัวโตก็เดินผ่านหน้าของหล่อนไป ไม่ช้าประตูห้องเรียนที่เมื่อกี้เกือบจะได้เป็นสวรรค์สำหรับหล่อนอยู่แล้วก็เปิดออก พร้อมๆ กับเสียงเซ็งแซ่ของนักศึกษาสาวเกือบสิบคนโดยมีฟิลิเซียเป็นหัวโจกก็ดังลั่นขึ้น
“อาจารย์… อาจารย์กับแม่เจ้าขาทำอะไรกันคะ…”
“เวลานี้พวกเธอต้องอยู่ในห้องเรียนไม่ใช่หรือ”
“ถ้าป่านนี้ฉันอยู่ในห้องเรียน อาจารย์กับนังนั่นก็คง…”
ฟิลิเซียพูดอย่างโมโหเป็นที่สุด แต่ไทเลอร์ไม่สนใจ เขาเดินผ่านไปด้วยท่าทางทรงอำนาจเช่นเคย
“ดูสิอาจารย์ไม่แก้ตัว งั้นก็แสดงว่าที่พวกเราคิดกัน…”
“นั่นสิ ถ้าไม่มีอะไรกันคงไม่ล็อคห้องหรอก”
เจนี่เอ่ยขึ้นด้วยความชิงชัง และนั่นก็ทำให้ฟิลิเซียปรี่ตรงเข้าไปหาจันทร์เจ้าขาอย่างมาดร้ายทันที
“นังอีตัวจอมร่าน แกทำอะไรอาจารย์ไทเลอร์ของฉัน”
แม้จะอับอายต่อสายตาของคู่สนทนาหลายคนตรงหน้า แต่จันทร์เจ้าขาก็พยายามจะเอาตัวรอด
“ไม่มีอะไร ขอตัวนะ…”
จันทร์เจ้าขาพยายามจะเดินหนีเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่ก็ถูกฟิลิเซียกระชากแขนเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็ถูกผลักแรงๆ จนล้มลงไปกองกับพื้น
“จะไม่มีอะไรได้ยังไง ดูสภาพของแกสิ ปากบวม หัวยุ่งแบบนี้ นังผู้หญิงร่านร้อน”
ฟิลิเซียตวาดลั่นอย่างแค้นจัด
“นั่นสิ ดูสภาพแบบนี้ก็รู้แล้วว่าแกทำอะไรกับอาจารย์ไทเลอร์ในห้องนี้”
เจนี่ช่วยเสริม ขณะที่พวกนักศึกษาสาวๆ ที่เป็นพวกเดียวกันของฟิลิเซีย และต่างหมายปองไทเลอร์เหมือนกันก็พากันยืนห้อมล้อมร่างของหล่อนที่ยังนั่งอยู่กับพื้นเอาไว้อย่างมิดชิด
“พวกเธอกำลังเข้าใจผิด… มันไม่ได้เกิดอะไรขึ้น…”
“นังตอแหล!”
ฟิลิเซียกระชากร่างของจันทร์เจ้าขาขึ้นมา และกำลังจะตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของหญิงสาว แต่สุดท้ายก็ต้องค้างเติ่งอยู่ในอากาศเมื่อถูกมือหนาที่แข็งยิ่งกว่าคีมเหล็กรั้งเอาไว้
“ที่นี่มหาลัย ไม่ใช่สนามมวย”
“อาจารย์ไทเลอร์…”
ทุกๆ คนอุทานขึ้นมาพร้อมๆ กัน ก่อนที่จะวงแตกแยกย้ายกันออกไปจะเหลือก็แค่เพียงฟิลิเซียเพียงคนเดียวเท่านั้น
“อาจารย์ทำอย่างนี้ได้ยังไงกันคะ”
“ฉันทำอะไร”
ฟิลิเซียกัดปากแน่น มองชายหนุ่มที่ตัวเองเฝ้ารักทั้งน้ำตา
“ก็อาจารย์กับมันมีเซ็กซ์กันในนี้ อาจารย์ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“ฟิลิเซีย เธอไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายชีวิตของฉันแม้แต่น้อย บารมีพ่อของเธอไม่ได้ช่วยให้เธอสามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้หรอกนะ ถ้าฉันเอ่ยปากไล่เธอออกน่ะ”
เจ้าของชื่อหน้าซีดเผือด สมองสั่งให้ยอมอ่อนข้อไปก่อน เพราะสู้ไปตอนนี้ก็มีแต่จะแพ้
“เอ่อ อย่านะคะอาจารย์… ฉัน… ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ จะไปแล้ว”
ฟิลิเซียหันมาจ้องหน้าจันทร์เจ้าขาอย่างอาฆาต ก่อนจะรีบวิ่งออกไป
จันทร์เจ้าขาถอนใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก ก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณผู้ชายตัวโตที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันเวลา
“เอ่อ… ขอบคุณ… นะคะที่ช่วยฉัน”
ไทเลอร์ที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องเรียนชะงักเท้า ก่อนจะหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ช่วยเธอ แต่ฉันกลัวเธอจะช้ำจนคืนนี้ดิ้นบนเตียงของฉันไม่ได้ต่างหากล่ะ”
คำเหยียดหยามของเขาทำให้หล่อนมีโทสะขึ้นทันควัน
“ฉันจะไม่มีวันนอนกับคุณ จำเอาไว้ อาจารย์ไทเลอร์ อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ..”
คนตัวโตไหวไหล่กว้างน้อยๆ ขณะค่อยๆ เดินเข้ามาหา จนสุดท้ายก็มาหยุดตรงหน้า
“แม้ว่าฉันจะใช้ลิ้นได้เก่งฉกาจน่ะหรือ”
คนฟังหน้าแดงก่ำ ร้อนฉ่าไปทั้งตัว คนบ้า นี่ทำไมเขาถึงได้หยาบคายแบบนี้นะ
“ฉันเกลียดคุณ… คนหยาบคาย คนต่ำช้า…”
แล้วหญิงสาวก็ผลักไหล่กว้างเต็มแรง จากนั้นก็เบี่ยงตัวเดินหนีออกมา แต่ยังไม่ทันจะก้าวครบสองก้าวก็ถูกดึงกลับไปเหมือนเดิม
“จะรีบไปไหนล่ะ”
“ฉันจะไปเรียน…”
หล่อนดิ้น แต่เขาก็ลากเข้ามากอดรัดแน่นเสียก่อน
“อย่าพึ่งไปสิ จูบกับฉันก่อน”
คนฟังเบิกตากว้าง หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก
“อย่านะ อย่าบ้านะ…”
แม้จะขัดขืนยังไงแต่คนจอมเผด็จการก็ปล้นจูบหล่อนอีกครั้งจนได้ เขาขยี้ เคล้าคลึง บดเคล้าอย่างหนักหน่วง สอดแทรกปลายลิ้นแกร่งเข้าไปรัดรึงลิ้นเล็กอย่างหิวกระหาย นานเท่านานเลยทีเดียวกว่าเขาจะปล่อยหล่อนให้เป็นอิสระ
“ฉันชอบ…”
เขาระบายยิ้มหิวกระหาย ขณะดันร่างของหล่อนให้ออกห่าง
“บนเตียง… ฉันจะจูบเธอทั้งคืน”
ดวงตาสีเขียวจัดของเขาเป็นประกายชวนวาบหวาม
“และทั้งตัว จันทร์เจ้าขา…”
หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ในมนต์สะกดของพ่อเทพบุตรมัจจุราชอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว เพราะแม้เขาจะเดินจากไปแล้ว แต่ปากของหล่อนก็ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสดุดันแต่หวานล้ำของเขาได้อย่างชัดเจน มันตราตรึง และวาบหวามเป็นที่สุด
หล่อนต้านทานผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย… ทั้งร่างกาย ทั้งหัวใจ…
MANGA DISCUSSION