เมียพรหมจรรย์ ชุด ภรรยาของมหาเศรษฐีซาตาน - ตอนที่ 50
เวลาผ่านไปนานเกือบสามชั่วโมง จันทร์เจ้าขาจึงเปิดประตูออกมา และนั่นก็ทำให้หล่อนรู้ว่าผู้ชายคนนั้นได้เดินจากหล่อนไปแล้วจริงๆ เขาจากไปตามความประสงค์ของหล่อน แต่ทำไมนะ ทำไมหัวใจถึงได้เจ็บปวดแบบนี้ น้ำตาก็ยังไหลทะลักออกมาอีก
‘ทำไมไม่จำสักทีนะ หัดจำเสียบ้างสิว่าเขาไม่ได้รัก ไทเลอร์ไม่ได้รักเธอ เขามาเพื่อแก้แค้นที่หล่อนทอดทิ้งเขามาโดยไม่ยอมเอ่ยคำลา และเมื่อสมใจแล้วก็เดินจากไป’
แม้จะบอกตัวเองเช่นนั้น แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้อยู่ดี มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง และเดินตามหามารดาของตัวเองไปทั่วทั้งบ้าน ในห้องที่พ่อนอนหลับพักฟื้นอยู่ก็ไม่มี งั้นก็คงอยู่ในห้องครัวนั่นแหละ หญิงสาวก้าวเท้าตรงไปหา และก็พบว่าท่านอยู่ที่นี่จริงๆ
“แม่…”
จันทราที่กำลังนั่งปลอกยอดฟักทองอยู่หันมายิ้มให้กับหล่อน ไม่เหลือร่องรอยความเศร้าเสียใจอะไรให้หล่อนเห็นอีกเลย คนมองอย่างหล่อนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่ก็คิดไปว่าท่านคงจะเก็บซ่อนมันเอาไว้เพราะไม่อยากซ้ำเติมหล่อนนั่นเอง
“แม่… หนูขอโทษ…”
จันทร์เจ้าขาคุกเข่าและคลานเข้าไปหามารดา พร้อมๆ กับยกมือไหว้ น้ำตาไหลพรากออกมาอาบแก้มไม่ยอมหยุด
“หนู… หนูรู้ว่าตัวเองทำตัวไม่ดี หนูขอโทษ…”
จันทราดึงร่างของบุตรสาวเข้ามากอด จากนั้นก็ลูบศีรษะทุยสวยด้วยความเอ็นดู
“แม่ไม่เห็นว่าหนูจะทำอะไรผิดเลยนี่จ๊ะ หนูทำถูกต้องทุกอย่าง”
ผู้เป็นบุตรสาวส่ายหน้า น้ำตาทะลักแล้วทะลักอีก รู้ดีว่าแม่พยายามปลอบใจ
“แม่อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ หนูรู้ตัวดีว่าทำผิดทำเลว หนูมันไม่รักดี ใจง่ายยอมทอดกายให้กับผู้ชายคนนั้นง่ายๆ หนูจะไม่ทำอีกแล้วค่ะแม่”
จันทราดันร่างสั่นเทาของบุตรสาวให้ออกห่างจากตัว และจ้องดวงหน้างดงามของจันทร์เจ้าขาผู้เป็นธิดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ
“แม่เข้าใจดีว่าความรักมีอานุภาพยิ่งใหญ่แค่ไหน หนูไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดนะเจ้าขา เชื่อแม่เถอะ”
แม้จะกำลังร้องห่มร้องไห้แต่ก็อดที่จะสะดุดหูกับคำว่า ‘อานุภาพแห่งความรัก’ จนต้องเอ่ยถามซ้ำออกไปด้วยความประหลาดใจ
“แม่คะ แม่หมายถึงอะไรคะ ความรัก ความรักอะไรกันคะ”
ผู้เป็นแม่ระบายยิ้มบางๆ จากนั้นควักมือเรียกใครบางคนให้เดินออกมา และเมื่อร่างของเขาปรากฏคนที่ตกใจสุดขีดก็คือหล่อนนั่นเอง
“อาจารย์ไทเลอร์?!”
เรือนร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ทรุดลงนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ข้างๆ มารดาของหล่อน ใบหน้าโคตรหล่อของเขาเต็มไปด้วยสีแดงระเรื่อ บอกให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังประหม่าขัดเขินแค่ไหน
“ผู้ชายคนนี้… บอกว่าลูกกับเขาเป็นคู่รักกัน และเขาก็รักลูกมาก”
“รัก?!”
จันทร์เจ้าขาพูดอะไรไม่ออกอีก อึ้ง และจ้องหน้าไทเลอร์ด้วยสายตาตื่นตระหนก
“ใช่… เขาบอกว่ารักลูกสาวของแม่มาก”
“ไม่จริง… มันจะเป็นไปได้ยังไง หนูไม่มีทางเชื่อ”
จันทร์เจ้าขาผุดลุกขึ้น และวิ่งหนีลงเรือนไปทันที
“รีบตามไปสิจ๊ะพ่อลูกเขย เจ้าขางอนไม่เก่งหรอก ง้อนิดหน่อยก็หายแล้ว”
จันทรารีบหันไปบอกไทเลอร์ที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ข้างกาย
“ครับ ผม… จะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
ไทเลอร์ลุกขึ้นและรีบวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เขาตัวสูงกว่า ขายาวกว่าจึงไปตามกระชากแขนของจันทร์เจ้าขาได้ทันก่อนที่เจ้าหล่อนจะก้าวออกไปพ้นรั้วบ้าน
“ปล่อยนะ บอกให้ปล่อย”
“ไม่ปล่อย จะไม่มีทางปล่อยอีกตลอดชีวิต”
ไทเลอร์ดึงร่างอรชรเข้ามากอดรัดแน่น พลางระดมจูบอย่างต้องการปราบพยศ และมันก็ได้ผลไม่นานสาวน้อยก็ตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนนั่นเอง
“อย่า… อย่ามาทำรุ่มร่ามแบบนี้นะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้อีกแล้ว”
“ฉันจะทำให้ตัวเองมีสิทธิ์ไปตลอดชีวิตจันทร์เจ้าขา เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด จากนั้นก็จดทะเบียนสมรส”
น้ำเสียงของเขาจริงจังมาก แค่จันทร์เจ้าขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี
“นี่คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก ยังทำให้ฉันเสียใจไม่พออีกหรือไง”
“ฉันต้องการเธอไง ต้องการทั้งตัวและหัวใจของเธอ”
จันทร์เจ้าขาน้ำตาไหลพราก มองเขาด้วยหัวใจที่เจ็บปวดทรมาน
“ได้โปรดอย่าหลอก อย่าทำร้ายกันอีกเลย แค่นี้ฉัน… ฉันก็เจ็บจนไม่อยากจะหายใจต่อไปอีกแล้ว นะคะ ปล่อยให้ฉันเจ็บอยู่เงียบๆ คนเดียวเถอะ”
หล่อนมองเขา วิงวอนเขาอย่างขอความเมตตา หล่อนไม่มีทางเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะรักหล่อน ไม่มีทางเป็นไปได้
“สำหรับเธอ… คำพูดของฉันมันเชื่อไม่ได้เลยหรือไง”
“ฉันเชื่อทุกคำพูดของคุณ โดยเฉพาะคำว่าเกลียดที่คุณพูดมันออกมา”
หล่อนร้องไห้คร่ำครวญและเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง ในขณะที่เขานั้นหมดความอดทนลงเสียแล้ว เขาเขย่าตัวหล่อนแรงๆ จนร่างอรชรโยกไปมา พร้อมกับตวาดลั่น
“แล้วไอ้คำที่ฉันบอกว่ารักเธอล่ะ ทำไม?! ทำไมเธอไม่เชื่อ ไม่ฟังฉันบ้าง ทำไมถึงเอาแต่คิดว่าฉันเกลียดเธอนัก…”
“อาจารย์…”
เขาหน้าแดงก่ำ ดวงตาสีเขียวมรกตเองก็อัดแน่นไปด้วยความทุกข์ทรมาน
“ฉันบอกว่ารักเธอ… ก็อยากให้เธอเข้าใจว่าฉันรักเธอจริงๆ ฉันไม่เคยโกหกมาก่อนในชีวิต แต่คำเดียวที่มันตรงกันข้ามกับความคิดของฉัน และฉันได้พูดมันออกไป นั่นก็คือ… ฉันเกลียดเธอ”
หลังจากเขย่าหล่อนจนหัวโยกหัวคลอน แล้วเขาก็ปล่อยหล่อนให้เป็นอิสระ ท่าทางของเขายังคงอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด เมื่อถอยหลังห่างออกไปจากหล่อน
“ฉันห้ามตัวเองเสมอว่าอย่ารักเธอ ห้ามว่าอย่าคิดอะไรกับเธอเกินว่าคู่นอนทั่วไป”
น้ำเสียงของเขานั้นแสนขมขื่นจนหล่อนสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน
“แต่ฉันทำได้ที่ไหนกันล่ะ ฉันติดใจเธอ ลุ่มหลงรักเธอจนเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่เห็นหรือไงว่าฉันปล้ำเธอทุกที่ที่มีโอกาส แม้แต่ในห้องเรียน ห้องเก็บของฉันก็ทำ ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยมีเซ็กซ์นอกห้องนอนมาก่อนเลยสักครั้ง แต่กับเธอฉันห้ามตัวเองไม่ได้ ห้ามมือไม่ได้ ฉันมีอารมณ์ทุกครั้งที่เห็นเธอ…”
ไทเลอร์ยอมรับอย่างเจ็บปวด
“อาจารย์…”
“ตอนแรกฉันคิดว่าเพราะเธอยังใหม่ ฉันจึงติดใจเธอมากกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ดังนั้นฉันจึงพยายามนอนกับเธอให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้เวลาเบื่อหน่ายมันใกล้เข้ามา แต่เธอรู้ไหม… ยิ่งได้จูบเธอ ยิ่งได้สัมผัสเนื้อตัวของเธอ ฉันก็ยิ่งเต็มไปด้วยความหวงแหน ความเบื่อหน่ายที่ฉันแสนจะต้องการมันไม่โผล่หัวมาให้เห็นสักนิด และนั่นมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกดึงให้ตกลงไปในหลุมแห่งหายนะ…”
เขาหัวเราะแต่นัยน์ตาสีเขียวมรกตนั้นกลับให้ความรู้สึกตรงกันข้ามเป็นที่สุด
“แม้จะอยู่ในเฮือกสุดท้าย แต่ฉันก็ยังไม่ยอมรับความจริงว่าฉันรักเธอเข้าให้แล้ว ฉันยังปฏิเสธความรู้สึกตัวเองอย่างรุนแรง บ้าคลั่ง ฉันบอกทุกคนรอบตัวว่าเธอไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับฉัน แต่ทุกคนรอบข้างกลับลงความเห็นว่าเธอเป็นยิ่งกว่าสิ่งสำคัญของฉันเสียอีก…”
“เพราะอย่างนี้ใช่ไหมคะ… อาจารย์ถึงได้บอกกับคุณนิคว่าฉันมีค่าแค่นางบำเรอของคุณเท่านั้น”
คิ้วเข้มของไทเลอร์เลิกขึ้นสูง และถามออกมา
“เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ได้ยินหรือ”
จันทร์เจ้าขาพยักหน้ารับ พลางตอบออกมา
“ฉันแอบได้ยินอาจารย์คุยกับคุณนิคในห้องรับแขก และนั่น… ก็ทำให้ฉันทำเย็นชาใส่อาจารย์”
ไทเลอร์แค่นยิ้มเมื่อได้รู้ความจริง
“มันไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่พอใจฉัน”
ไหล่กว้างที่เคยสง่าผ่าเผยตอนนี้ห่อลู่จนผิดหูผิดตา กระนั้นเขาก็ยังฝืนระบายยิ้มให้กับหล่อน
“เอาล่ะ ในเมื่อฉันก็ได้บอกความจริงทุกอย่างไปหมดแล้ว ฉันก็คงต้องกลับไปเสียที”
จันทร์เจ้าขายืนอึ้งเพราะไม่คิดว่าไทเลอร์ผู้ชายที่พึ่งจะบอกว่ารักหล่อนเมื่อครู่ที่ผ่านมาจะถอดใจกลับไปง่ายๆ แบบนี้
“ขอให้เธอโชคดีนะ”
“อาจารย์…”
ร่างสูงใหญ่หมุนตัวและก้าวเดินจากไปทีละน้อย
“บ้านหลังนี้ฉันซื้อเอาไว้แล้ว และฉันยกมันให้เธอ”
เขายังคงเดินต่อไปอีก ห่างออกไปทุกขณะ น้ำตาของจันทร์เจ้าขาร่วงหล่น หัวใจเหมือนถูกบีบเค้นด้วยอุ้งมือของซาตานเต็มแรง
“อาจารย์…”
“ลาก่อน ฉันจะกลับรัสเซียในคืนนี้”
“ไหนบอกว่ารักฉันไง ถ้ารักฉันทำไมถึงจะจากไปง่ายๆ แบบนี้ล่ะ”