เมียพรหมจรรย์ ชุด ภรรยาของมหาเศรษฐีซาตาน - ตอนที่ 40
ขับรถออกมาได้ไม่นานไทเลอร์ก็ไม่สามารถขับมันต่อไปได้อีก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในหัวใจบีบคั้นอย่างรุนแรง ก้อนเนื้อนั้นมันเจ็บ มันทรมาน อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต ตอนนี้รู้แล้วล่ะว่าจันทร์เจ้าขาไม่ใช่แค่นางบำเรอของตัวเองเพียงเท่านั้น แต่หล่อนเป็น… เป็นมากกว่านั้น หล่อนเป็น… ชายหนุ่มกัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำไปด้วยโทสะร้าย สองมือกำเป็นหมัดและทุบลงกับพวงมาลัยรถของตัวเองหลายครั้งติดเพื่อบรรเทาอาการคลั่งภายในหัวใจ
แต่มันไม่ลดลงเลย!
“ยายเด็กบ้า ยายผู้หญิงจอมหลอกลวง ทำไมจะต้องทิ้งกันไปแบบนี้ ทำไมไม่บอกลากันสักคำ ใจร้าย เธอใจร้ายที่สุดเลยรู้ไหมจันทร์เจ้าขา!”
เสียงตะโกนก้องของคนที่กำลังถูกความเจ็บปวดห้อมล้อมรอบกายเอาไว้อย่างแน่นหนาดังกึกก้อง หัวใจเกิดรอยแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตน เขาไม่เคยรู้สึกทุกข์ทรมานแบบนี้มาก่อนเลย เขาไม่เคยลิ้มรสชาติของการสูญเสียมาก่อน แต่จันทร์เจ้าขากำลังทำให้หัวใจของเขาร้าวราน หล่อนทรยศความไว้ใจของเขาอย่างน่ารังเกียจ
ความเจ็บปวด ขมขื่นค่อยๆ กลายร่างเป็นความคลั่งแค้นและต้องการเอาชนะ
“ฉันจะต้องลากเธอกลับมารับโทษให้ได้ จันทร์เจ้าขา และรับรองได้เลยว่า เธอจะเจ็บ… เจ็บกว่าที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่เป็นร้อยเป็นพันเท่า!”
รถสปอร์ตกลับมาแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง มุ่งหน้ากลับสู่ คฤหาสน์ Demon’s Palace ด้วยความเร็วสูงเช่นเดิม
ศัตรูของเขาเคยย่อยยับคามือมาแล้วยังไง จันทร์เจ้าขาก็จะมีสภาพไม่แตกต่างจากพวกมันเลยแม้แต่นิดเดียว
“เธอจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำเอาไว้กับฉัน จันทร์เจ้าขา!”
ขณะที่คนๆ หนึ่งกำลังจมอยู่กับความรู้สึกทั้งรักทั้งแค้น คนอีกคนหนึ่งที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าห่างไกลออกมาแสนไกลก็กำลังคร่ำครวญหาเจ้าของดวงใจเช่นกัน
“ฉันขอโทษ… อาจารย์ไทเลอร์ ฉันขอโทษ…”
ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วสินะที่หล่อนกลับมาอยู่ที่นี่ บ้านเกิดเมืองนอนของหล่อน ประเทศไทย พ่อของหล่อนรอดตายมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ หลังจากที่หล่อนกับแม่กอดคอกันร้องไห้มานานเกือบสิบวัน สุดท้ายพ่อก็ฟื้นขึ้นมา พ่อโชคดีมากที่จำเรื่องราวทุกอย่างได้หลังจากผ่านการผ่าตัดสมองถึงสองครั้ง และตอนนี้คุณหมอเจ้าของไข้ก็ได้ให้พ่อของหล่อนกลับมาพักฟื้นรักษาตัวอยู่ที่บ้าน พอถึงวันที่คุณหมอนัดก็ต้องไปที่โรงพยาบาลอีกเพื่อติดตามอาการ
แม่ของหล่อนมีความสุขมาก หล่อนเองก็เช่นกัน หล่อนยิ้มได้ หัวเราะได้ แม้ว่าลึกๆ แล้วภายในหัวใจจะยังคงเต็มไปด้วยบาดแผลร้ายก็ตาม
หล่อนคิดถึงมหาวิทยาลัย และที่สำคัญหล่อนกำลังคิดถึงเขา ไทเลอร์ อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ ผู้ชายที่หล่อนเดินจากมากะทันหันจนไม่มีโอกาสได้เอ่ยแม้แต่คำลาสักคำ ป่านนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ ป่านนี้เขาจะยังคงคิดถึงหล่อนอยู่ไหม เหมือนๆ กับที่หล่อนคิดถึงเขาในทุกๆ ลมหายใจ
หญิงสาวยิ้มเศร้าหมองให้กับดวงจันทร์ดวงกลมโตเบื้องหน้า เพราะรู้ดีว่าไทเลอร์จะไม่คิดถึงหล่อน ในชีวิตของเขามีผู้หญิงมากมายให้เลือกสรร ขาดหล่อนไปสักคนหนึ่งก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับผู้ชายหล่อเลือกได้อย่างเขาหรอก
น้ำตาไหลซึมออกมาและก็ต้องปาดเช็ดออกไปทันที เมื่อมีมือของใครบางคนมาแตะที่บ่าบอบบางด้านหลัง
“ยังไม่นอนอีกเหรอเจ้าขา”
จันทร์เจ้าขาหันกลับมายิ้มให้กับมารดา แต่รอยยิ้มนั้นช่างเศร้าหมองจนผู้ให้กำเนิดอดสงสารไม่ได้
“เดี๋ยวจะไปนอนแล้วจ้ะแม่ ว่าแต่พ่อหลับไปแล้วเหรอคะ”
จันทราพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง
“หนูแน่ใจนะว่าสบายดีเจ้าขา แม่เห็นหนูทำหน้าเศร้าๆ แบบนี้ทุกครั้งที่ลืมตัว มีอะไรก็บอกแม่ได้นะ”
“เอ่อ… หนูไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะแม่ หนูสบายดี”
ฝืนยิ้ม แต่รอยยิ้มก็เต็มไปด้วยความเศร้าหมองอยู่ดี
“ลูกของแม่เหมือนกับคนที่ไม่มีหัวใจ หนูไม่ได้ลืมหัวใจเอาไว้กับใครบางคนที่รัสเซียหรอกนะ”
คนฟังหน้าซีดเผือด อึ้งไปพักใหญ่กับคำพูดแทงใจดำของมารดา ใช่… หล่อนลืมหัวใจเอาไว้กับไทเลอร์ที่รัสเซีย แต่หล่อนก็คงบอกเรื่องนี้กับใครไม่ได้ แม้แต่แม่ของตัวเอง
“ไม่… ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ คือหนูแค่…”
“อย่าโกหกแม่เลยเจ้าขา แม่เลี้ยงหนูมากับมือนะ ทำไมแม่จะมองไม่ออกว่าลูกสาวของแม่คนนี้กำลังรู้สึกยังไง”
คนที่พยายามซ่อนน้ำตาเอาไว้ปล่อยโฮออกมาทันที จากนั้นก็โผเข้ากอดและซบหน้าลงกับอกมารดาของตัวเองอย่างต้องการที่พึ่ง
“แม่จ๋า… แม่อย่าโกรธหนูเลยนะ หนู… หนูพยายามแล้วที่จะตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่ว่า… แต่หนูต้านทานเขาไม่ได้เลย หัวใจของหนูเต้นแรงทุกครั้งที่เจอเขา”
“แม่จะไปโกรธลูกได้อย่างไรกันล่ะเจ้าขา ผู้หญิงเราจะมีความรักมันก็เป็นเรื่องปกติ”
“แต่เขาไม่ได้รักหนูค่ะแม่”
“อะไรทำให้หนูคิดแบบนั้นล่ะเจ้าขา…”
จันทราดันร่างสั่นเทิ้มของบุตรสาวออกห่างตัวเล็กน้อย พร้อมทั้งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“บางทีหนูอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะ ความรักน่ะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นหรอก”
“แต่หนูรู้ดีค่ะแม่ รู้ดีว่าเขาไม่ได้รักหนู หนูก็เป็นแค่ทางผ่านของเขาเท่านั้นแหละ แต่หัวใจของหนูมันก็ยังไม่รักดี มันเจ็บไม่เคยจำ ยังเอาแต่คิดถึงเขาเสมอ ทุกค่ำคืน ทุกลมหายใจ”
ผู้เป็นแม่ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของบุตรสาว และเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะยิ้มให้กำลังใจ
“เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่บุพเพสันนิวาส ถ้าลูกกับเขาคือคู่แท้ของกันและกัน ไม่นานก็ต้องได้เจอกันอีก และไม่นานก็จะต้องได้อยู่ด้วยกัน”
บุพเพสันนิวาสเหรอ จันทร์เจ้าขาคิดอย่างเจ็บปวด เพราะรู้ดีว่าไม่มีทางได้เป็นคู่แท้ของไทเลอร์ได้ ผู้ชายคนนี้เกิดมาเพื่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ต้องการแต่อิสรภาพเท่านั้น
“อย่าคิดมากนะเจ้าขา… เข้านอนซะ แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
จันทร์เจ้าขาฝืนยิ้มให้กับมารดาทั้งๆ ที่น้ำตายังคงนองหน้า
“ค่ะแม่ หนูจะไปนอนเดี๋ยวนี้ แม่ก็ไปพักผ่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องพาพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลแต่เช้า”
แล้วสองแม่ลูกก็แยกย้ายกันเข้าที่พัก คนเป็นแม่หลับปุ๋ยไปอย่างง่ายดายเพราะเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตรงกันข้ามกับผู้เป็นบุตรสาวที่นอนไม่หลับพลิกตัวกระสับกระส่ายอยู่ตลอดทั้งคืน กว่าจะข่มตาให้หลับลงได้เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบรุ่งสาง