เมียพรหมจรรย์ ชุด ภรรยาของมหาเศรษฐีซาตาน - ตอนที่ 34
วันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดเรียนของหล่อน แต่ไทเลอร์มีธุระสำคัญต้องออกไปข้างนอกและไม่สามารถนำหล่อนติดตามไปด้วยได้ ดังนั้นหล่อนจึงได้เริ่มต้นช่วยงานในห้องครัวตามคำบัญชาของพ่อเทพบุตรสุดหล่ออย่างที่หวังเอาไว้
“เอ่อ ฉันเข้ามาช่วยงานจ้ะ”
จันทร์เจ้าขารายงานตัวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และหล่อนก็ได้รอยยิ้มที่เป็นมิตรตอบกลับมาจากแม่ครัวและลูกครัวทุกคนอย่างง่ายดาย
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหมจ๊ะ”
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ น่าจะช่วงเย็นๆ น่ะค่ะถึงจะยุ่งนิดหน่อย”
เสียงแม่ครัวร่างท้วมนิดๆ ตอบกลับมา
“งั้นฉันล้างผักให้นะคะ”
“เชิญตามสบายค่ะ”
เสียงของแม่ครัวตอบกลับมาอีกครั้ง จันทร์เจ้าขาจึงยิ้มกว้างและเดินไปหยิบกระจาดใส่ผักเดินไปที่อ่างน้ำ ซึ่งตรงนี้มีผู้หญิงหน้าตาสะสวยมากๆ คนหนึ่งยืนล้างผลไม้อยู่ก่อนหน้าแล้ว
“สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อจันทร์เจ้าขา”
อิงบุญเงยหน้าจากผลแอปเปิ้ลและยิ้มให้กับคู่สนทนา
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันอิงบุญค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”
จันทร์เจ้าขายิ้มตอบ ล้างผักไปด้วยก็ชวนคุยไปด้วยอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะมีคำพูดบางคำของคู่สนทนาที่ทำให้หัวใจของหล่อนพองฟูคับอก
“คุณไทล์ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านมาก่อนเลยนะคะ คุณเจ้าขาเป็นคนแรก”
“เอ่อ…”
หน้าแดงก่ำ และก็ดีใจจนเนื้อเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน
“จริง… จริงเหรอจ๊ะ”
อิงบุญพยักหน้ารับ และยืนยันเสียงหนักแน่น
“จริงที่สุดเลยค่ะ ถ้าคุณเจ้าขาไม่เชื่อลองถามป้าแม่ครัวกับคนอื่นๆ ดูก็ได้ คุณไทล์น่ะคบผู้หญิงมากหน้าหลายตาก็จริง แต่คุณไทล์จะให้สิทธิ์แค่อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ในเมืองเท่านั้น ไม่เคยพามาที่นี่สักคน คุณเจ้าขาต้องเป็นคนสำคัญมากๆ แน่คุณไทล์ถึงได้พามาที่นี่”
อยากจะดีใจให้มากกว่านี้ แต่เสียงหนึ่งในสมองก็ร้องค้านเสียก่อน และนั่นก็ทำให้หัวใจของหล่อนห่อเหี่ยวลงทันควัน
“ก็แค่ผู้หญิงที่เจ้านายของอิงบุญยังไม่เบื่อเท่านั้นแหละ”
“บางที… คุณเจ้าขาอาจจะเป็นมากกว่านั้นก็ได้นะคะ”
“เธอหมายถึงอะไรเหรออิงบุญ ฉันไม่เข้าใจเลย”
อิงบุญระบายยิ้มน้อยๆ และพูดในสิ่งที่ตัวเองมองเห็นออกไป
“สายตาที่คุณไทล์มอง และความห่วงใยที่คุณไทล์มีให้กับคุณเจ้าขา มันมีความหมายนะคะ”
แม้จะคิดว่ามันเหลือเชื่อและไม่น่าเป็นไปได้ แต่จันทร์เจ้าขาก็อดหวังไม่ได้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
“บางที… เจ้านายของอิงบุญอาจจะซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะเข้าใจก็ได้นะ”
อิงบุญอมยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา แม้จะมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นมันคือความเป็นจริงที่ไทเลอร์พยายามซ่อนเร้นเอาไว้ก็ตาม
จันทร์เจ้าขายืนเงียบๆ ครุ่นคิดคำพูดของอิงบุญอยู่จนล้างผักเสร็จก็ขอตัวออกไปนอกห้องครัว ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ไทเลอร์กลับเข้ามาในบ้านพอดี หล่อนเห็นรถของเขาจอดอยู่ ก็จะรีบเดินไปหา แต่ก็พบว่าคนที่หล่อนคิดถึงทุกลมหายใจกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก และสนทนาอยู่กับนิโคไลน้องชายคนสุดท้องอยู่ด้วยท่าทางหงุดหงิด
“ทำไมนายถึงถามพี่แบบนั้นนิค”
สุ้มเสียงของไทเลอร์กระด้างจนหล่อนไม่อาจจะตัดใจเดินจากไปได้ หล่อนหยุดยืนเงียบและแอบฟังอยู่ตรงนั้นด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความห่วงใย บางทีไทเลอร์อาจจะกำลังไม่สบายใจอยู่ก็เป็นได้ หล่อนควรจะรู้หัวข้อการสนทนานี้เพื่อคอยช่วยเขาแก้ปัญหาและปลอบใจเขา
“ก็เพราะสองตาของผมเห็นยังไงล่ะครับ”
“นายเห็นอะไร นิโคไล”
ผู้เป็นน้องชายไม่สะทกสะท้านกับความเดือดดาลของพี่ชายเลยแม้แต่นิดเดียว
“ก็ผมเห็นว่าพี่ไทล์กำลังหลงผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อย่างหัวปรักหัวปรำน่ะสิครับ”
“ไม่ใช่”
“แต่ผมเห็นว่ามันใช่ พี่ไทล์ไม่เคยพาคู่นอนคนไหนเข้ามาที่นี่มาก่อน แต่พี่พาผู้หญิงคนนี้เข้ามา งั้นก็แสดงว่าผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญกับพี่ไทล์มาก”
ไทเลอร์ผุดลุกขึ้นยืน หน้าตาแดงก่ำไปด้วยโทสะร้าย ให้ตายเถอะ แค่เรื่องปัญหาของพ่อฟิลิเซียก็มากเกินพอแล้ว นี่เขายังต้องมานั่งตอบคำถามน้องชายกับปัญหาโลกแตกแบบนี้อีกหรือ บัดซบที่สุด เขาไม่เคยสมเพชตัวเองมากเท่านี้มาก่อนเลย
“ไม่ใช่… เจ้าขาก็แค่คู่นอนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”
นิโคไลหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ความจริงเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพี่ชายหรอก แต่ประวัติของจันทร์เจ้าขามันน่าขยะแขยงไม่ต่างจากอิงบุญแม้แต่นิดเดียว เขาไม่ต้องการให้พี่ชายของเขาถูกหลอก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันการเสียแล้ว
“แต่ผมคิดว่าเธอเป็นมากกว่านั้น”
“นั่นก็แล้วแต่นายจะคิดนิโคไล เพราะยังไงซะในสายตาของพี่จันทร์เจ้าขาก็เป็นเพียงแค่คู่นอนเหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา ไม่ได้มีค่า ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับพี่เลย”
“ถ้าพี่ไทล์ยืนกรานแบบนั้น งั้นก็เขี่ยเธอทิ้งไปสิ”
“พี่ยังไม่เบื่อ”
นิโคไลเหยียดยิ้มมองอย่างรู้ทัน
“งั้นผมก็คิดว่าพี่ไทล์จะไม่มีวันเบื่อผู้หญิงคนนี้ลงได้อีกเลยชั่วชีวิต”
คำพูดของน้องชายเขย่าหัวใจของเขาอย่างรุนแรง ใช่… นิโคไลพูดถูกต้องทุกอย่าง แต่เขาก็ยังยืนกรานที่จะไม่ยอมรับมันต่อไป
“ในอีกไม่ช้า เจ้านิค นายคอยดูก็แล้วกัน”
“แล้วผมจะคอยดูครับ”
นิโคไลก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องรับแขก ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีของจันทร์เจ้าขาที่ฉากตัวหลบที่มุมเสาได้ทันเวลา นิโคไลไม่ทันเห็นหล่อน ก็เหมือนๆ กับไทเลอร์ที่ก้าวตามออกมาแล้วมองไม่เห็นหล่อนนั่นแหละ ทั้งสองคนเดินจากไปแล้ว ในขณะที่หล่อนยังยืนยกมือขึ้นอุดปากของตัวเองเอาไว้เพื่อสะกดกั้นเสียงสะอื้นไห้ มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลพรากออกมาไม่ขาดสาย
สิ่งที่อิงบุญพูดมันผิดทั้งเพ เพราะในสายตาของไทเลอร์ หล่อนก็เป็นได้แค่เพียงคู่นอนธรรมดาคนหนึ่งของเขาเท่านั้น ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรต่อเขาเลย หญิงสาวคิดอย่างเจ็บปวด และทั้งๆ ที่เตรียมตัวเตรียมใจต่อความชอกช้ำนี้เอาไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ หล่อนกลับทนมันไม่ได้ หัวใจแทบจะแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี