เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 717 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(3)/ตอนที่718 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(4)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 717 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(3)/ตอนที่718 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(4)
ตอนที่ 717 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา (3)
จนหลังจากนั้นสักพักจึงมีงูเขียวตัวหนึ่งเลื้อยเข้ามาจากนอกประตู มันเอ่ยปากอย่างลังเล “องค์หญิงนางต้องการจะออกจากแคว้นหลิวอวิ๋น ท่านไม่รั้งนางไว้หรือ?”
“ไม่จำเป็น” ปลายนิ้วของหนานเสียนลูบที่ริมฝีปาก สายตาที่เดิมเยือกเย็นกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “นางอยากทำอะไรก็ไม่ต้องห้ามปราม หากนางอยากให้ข้าช่วยจริงนางต้องเอ่ยปากแน่”
“เช่นนั้นหากองค์หญิงไม่ยินยอมเล่า?” ชิงน้อยถามด้วยความสงสัย
“เช่นนั้นนางจะต้องมีเหตุผลที่ไม่อาจพูดออกมาได้”
เขาเชื่อนางและยินดีเคารพนาง
ดังนั้น เขาจะไม่ถามนางให้มากเรื่อง ขอเพียงนางยินดีเอ่ยนางต้องเอ่ยออกมาแน่
“แต่ว่า…ดูเหมือนว่าชิงเอ๋อร์จะยังไม่อาจพึ่งพาอาศัยข้าได้ทั้งกายใจ” หนานเสียนยิ้มบาง “เจ้าไปเตรียมตัว พวกเราควรจะไปได้แล้ว”
ชิงน้อยชะงัก “นายท่าน พวกเราจะไปที่ใด? ไปจวนเทียนเสินหรือ?”
“ตามชิงเอ๋อร์ไป”
เสียงของหนานเสียนชะงัก “เดี๋ยวก่อน ให้ชิงเอ๋อร์ไปได้พันเมตรเสียก่อนพวกเราค่อยตามไป เพื่อไม่ให้ถูกนางพบเข้า”
ชิงน้อย “…”
นายท่าน นี่ท่านจะทำอะไร? ตัดใจจากองค์หญิงไม่ได้ ไม่ให้นางไปก็สิ้นเรื่องแล้ว?
“นายท่าน...” ชิงน้อยลังเลเล็กน้อย “ท่านแน่ใจว่าพวกเราจะติดตามองค์หญิง? ท่านไม่ได้พูดว่าเคารพนาง เชื่อนางหรือ?”
“อื้อ” หนานเสียนเอ่ยนิ่งเรียบ “ดังนั้นข้าจึงไม่ขัดขวางนาง แต่ไม่ได้แปลว่าข้าจะวางใจให้นางอยู่คนเดียวข้างนอก”
“ข้ารู้สึกว่า หากองค์หญิงอยู่ข้างนอกที่อันตรายน่าจะเป็นคนอื่น” ชิงน้อยเอ่ยเสียงแผ่ว
นัยน์ตาเย็นชาของหนานเสียนกวาดมองไปยังชิงน้อย มันตกใจจนตัวสั่นรีบเอ่ยปาก “คนข้างนอกพวกนั้นชั่วร้ายเกินไป องค์หญิงเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งจะให้คนพวกนั้นรังแกได้อย่างไร พวกเราควรจะรีบตามตูดองค์หญิงไป ถุย! อารักขาองค์หญิงอย่างลับๆ !”
“อื้อ” สีหน้าหนานเสียนจึงจะดีขึ้นมา
“แต่ว่า…” ชิงน้อยกะพริบตา “เมื่อวานโอกาสดีเช่นนั้น เหตุใดนายท่านจึงไม่คว้าเอาไว้?”
หนานเสียนไม่ได้พูด
นานกว่าเขาจะเอ่ยถามออกมา “ข้า…รูปงามหรือไม่?”
ชิงน้อยงุนงงไม่เข้าใจว่าคำพูดของหนานเสียนหมายความว่าอย่างไร?
นายท่านกลายเป็นคนหลงตัวเองตั้งแต่เมื่อใดกัน?
อีกอย่างมันเป็นงูตัวหนึ่งจะมองออกว่าเขารูปงามหรือไม่ได้อย่างไร?
“มีผู้หญิงมากมายเห็นนายท่านแล้วอยากจะพุ่งเข้าหา…” ชิงน้อยตอบกลับ “ดังนั้นก็น่าจะรูปงาม”
“หากมีวันหนึ่ง…ใบหน้านี้ของข้าเสียโฉม ชิงเอ๋อร์นาง…จะยังอยากกดข้าอยู่หรือไม่?”
“…” ชิงน้อยตาโตอ้าปากค้าง
นายท่านผู้เยือกเย็นสูงส่งกลายเป็นคนวิตกกังวลกับผลได้ผลเสียของตัวเองตั้งแต่เมื่อใดกัน?
นึกไม่ถึงว่าเขาจะกังวลเรื่ององค์หญิงต้องการกดเขาเพราะหน้าตารูปงามของเขา?
“นายท่าน เพราะเรื่องนี้ท่านจึง…ไม่ได้คว้าโอกาสเมื่อคืนหรือ?”
“ไม่ใช่” หนานเสียนยกยิ้มบาง “เมื่อคืนวานที่ข้าพูดกับชิงเอ๋อร์ทั้งหมดล้วนเป็นความจริง ข้าจะต้องสู่ขอนางเป็นภรรยา หลังจากนั้นไม่ว่าจะมีลูกสาวลูกชายกี่คนก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่าก่อนหน้านั้น…ข้าไม่ยอมให้มีเสียงดูหมิ่นนางใดๆ เกิดขึ้นแน่”
“เช่นนั้นความหมายที่ท่านถามเช่นนี้ก็คือ…”
“อื้อ ข้าอยากจะเตรียมตัวให้พร้อมเสียก่อน หากชิงเอ๋อร์อยากกดข้าเพราะหน้าตาของข้า เช่นนั้นวันหนึ่งข้าเสียโฉมขึ้นมาจริงๆ …ข้าก็จะทำให้คนที่เข้าใกล้นางทุกคนเสียโฉมให้หมด ถึงตอนนั้นข้าก็รูปงามที่สุดดังเดิม”
ชิงน้อยถอยห่างออกไปเงียบๆ
มันรู้สึกว่าตั้งแต่นายท่านรู้จักองค์หญิงก็เปลี่ยนไปน่ากลัวขึ้นทุกวัน…
เกิดถึงเวลานายท่านเสียโฉมก่อนจะทำอย่างไร? มันยังไม่เคยหางูสาวเลยนะ
…….
ตอนที่ 718 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา (4)
ราวกับหนานเสียนสังเกตได้ถึงความคิดของชิงน้อย กวาดตามองมันนิ่งเรียบ “นางไม่ชอบมนุษย์สัตว์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง…เจ้าขี้เหล่ยิ่งนัก”
เจ้าขี้เหล่ยิ่งนัก…
ไม่กี่คำนี้ราวกับดาบสามเล่มแทงทะลุตัวชิงน้อยพร้อมๆ กัน
มันเจ็บจนอยากจะกระอักเลือด น้ำตาไหลออกมา
“นายท่าน ข้าก็ต้องการความเคารพ ข้าเป็นงูที่หน้าตาดีที่สุดในเผ่างู ท่านดูหมิ่นข้าได้แต่จะดูหมิ่นเผ่างูของข้าไม่ได้!”
“อื้อ…” หนานเสียนสีหน้าไร้ความรู้สึก “เช่นนั้นหลังจากนี้เปลี่ยนสัตว์วิเศษรอบกายนางให้เป็นงูให้หมด ข้าก็วางใจแล้ว”
“…”
เดี๋ยวก่อน นายท่านหมายความว่าอย่างไร?
ดูถูกเผ่างูของมันงั้นหรือ?
ทว่าหนานเสียนไม่ให้โอกาสมันได้พูดก็เดินออกนอกกระท่อมไปเสียแล้ว
ในตอนที่เขาเพิ่งจะเดินออกจะกระท่อม กลิ่นไอพัดมาจากไกลๆ ทำให้นัยน์ตาของเขาฉายแสงเย็นยะเยือก ชุดขาวยิ่งกว่าหิมะนั่นหายไปจากใต้ท้องฟ้าแห่งนี้อย่างรวดเร็ว…
…
บนถนนที่คึกคักซู่อียืนอย่างสงบนิ่ง มองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ คิ้วและตามีแต่ความเย็นยะเยือก
“ซู่อี…” มู่หลิงได้พบซู่อีอีกครั้งลำคอของเขาก็สะอื้นน้อยๆ อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปกุมมือซู่อีเอาไว้
ซู่อีชักมือกลับหลบสัมผัสจากเขา
มือที่ยื่นออกไปของมู่หลิงแข็งค้างกลางอากาศสักพักจึงจะค่อยๆ วางลง
“เจ้าเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ปกติอยู่ในเขาก็ช่างมันเถอะ โลกมนุษย์นี้มีคนเลวร้ายมากมายนับไม่ถ้วน เจ้าอยู่ที่นี่…ข้าก็ไม่วางใจ…”
มุมปากซู่อีมีรอยยิ้มเย็น
คนที่มีใจเลวร้ายตรงหน้านางก็มีคนหนึ่ง
“ซู่อี…” มู่หลิงเห็นซู่อีไม่เอ่ยปากก็ถามต่อ “เมื่อใดเจ้าจะตามข้ากลับไป? อีกไม่กี่เดือนก็จะเป็นงานวันคล้ายวันเกิดของท่านผู้เฒ่าแล้ว เขาบ่นถึงเจ้ามาตลอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพื่อเจ้าข้าให้ชิงเยียนย้ายออกไปพักที่อื่นแล้ว”
เขาจริงใจต่อซู่อีมาโดยตลอด ทว่าเขาติดค้างซู่อีมากเหลือเกินจนไม่อาจรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับชิงเยียนได้
ตอนนี้ให้ชิงเยียนแต่งเป็นอนุเขาก็เพียงเพื่อคืนคำสัญญาก็เท่านั้น
“อ้อ”
ซู่อีตอบรับนิ่งเรียบคำหนึ่ง “วันคล้ายวันเกิดของท่านผู้เฒ่าข้าย่อมกลับไป ตอนนี้เจ้าก็ไปได้แล้วข้าไม่อยากให้เจ้ามารบกวนชีวิตของครอบครัวพวกเราสามคน”
ครอบครัวพวกเราสามคน…
มุมปากมู่หลิงมีรอยยิ้มขมขื่น ดูเหมือนว่าซู่อีจะชอบนางหนูนั่นจริงๆ
หากแค่นางหนูนั่นมีฐานะเสียหน่อย เขาก็จะยอมไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุดก็เลือกที่รองลงมา และยินยอมให้นางเป็นภรรยาหลัก
แต่ว่านางเป็นเพียงคนที่ไม่มีฐานะหรือภูมิหลังอะไรเลย
คนเช่นนี้จะสามารถนำพาความช่วยเหลือมาให้หนานเสียนได้อย่างไร?
“ซู่อี เจ้าก็รู้ว่าข้าคิดถึงเจ้ามาโดยตลอด หรือว่าเจ้าจะไม่เข้าใจ ใจของข้าจริงๆ?
ครั้งนี้เขาฉลาดไม่เอ่ยเรื่องเฟิงหรูชิงขึ้นมาอีก แต่กลับใช้แววตาที่เต็มไปด้วยความเสน่หามองนาง
คิ้วซู่อีขมวดขึ้น
การฝึกอบรมมาหลายปีทำให้ซู่อีไม่ยินดีที่จะทำเรื่องที่ทำให้สภาพแวดล้อมแปดเปื้อน มิเช่นนั้นนางคงจะอาเจียนออกมาแล้ว
กดความรู้สึกคลื่นไส้เอาไว้ สายตานิ่งเรียบของซู่อีกกวาดมองใบหน้ามู่หลิง
“ใจของเจ้า? ในใจของเจ้าไม่ได้มีเพียงชิงเยียนหรือ?”
เคยเป็นเช่นนี้ ต่อมาก็เป็นเช่นนี้
สีหน้ามู่หลิงเปลี่ยนไป กำลังคิดจะโกรธเกรี้ยวเหมือนที่ผ่านมา ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็สะกดกั้นเอาไว้ ใช้น้ำเสียงที่ใกล้เคียงกับอ้อนวอนเอ่ยขึ้น
“ซู่อี เจ้าก็รู้หากข้าไม่รักเจ้าไม่มีทางสู่ขาเจ้าเป็นภรรยา อย่างไรเสียฐานะของเจ้าในตอนนั้นก็เป็นเพียงหญิงกำพร้าคนหนึ่งเท่านั้น”
……….