เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ - ตอนที่ 26 ทิ้งให้โดดเดี่ยว
ตอนที่ 26 ทิ้งให้โดดเดี่ยว
พอพบเห็นสีหน้าอีกฝ่าย
สีหน้ามันเองก็พลันแปรเปลี่ยนอย่างรุนแรง ลางสังหรณ์ยอดเยี่ยมกำลังทำงานเต็มประสิทธิภาพมันรับรู้ได้เลยว่าแนวทางต่อจากนี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้น
และเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันเลยพยายามบ่ายเบี่ยงเต็มที่
“…”
“ฉัน”
“ขอโทษ”
“…”
“ขอโทษทำไม?!”
“ระ เราต้องรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!”
“พวกนายต้องช่วยฉันนะ!”
“พวกเราไปไหนมาไหนไปด้วยกันมาตลอดนิ”
“ครั้งนี้ก็—”
“ขานายหักผิดรูป”
“เสียใจด้วยเพื่อน”
“แต่เราช่วยนายไม่ได้”
ตรงช่วงข้อเท้าหักจนผิดรูป
อย่าว่าแต่ออกเดินมุ่งหน้าหนีไปพร้อมกับพวกมัน แค่ยืนปรกติธรรมดายังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ และด้วยสถานการณ์เฉกเช่นนี้ยังจะต้องทำอะไรต่อไป
คำตอบง่ายมากง่ายจนแทบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“พะ พูดเรื่องบ้าอะไรของนาย?!”
“ขาฉันหัก!”
“ต่อให้นายเป็นเพื่อนฉัน—”
“ไปเถอะ”
“…”
“มะ ไม่!”
“ห้ามไปไหนเด็ดขาด!”
“ฉันยังอยู่ตรงนี้!”
“อย่าทิ้งฉัน!”
“ได้โปรด!”
ชะตากรรมของผู้ถูกทิ้งให้รับกรรม
มันยากเกินกว่าจะแบกรับเอาไว้ได้ ในฐานะเศษเดนสังคมเลวร้ายมันเคยพบเห็นฉากภาพเฉกเช่นนี้เต็มไปหมดเห็นจนเป็นปรกติธรรมดาแต่ไหนจะคิดว่าตัวเองจะต้องโดน
จะต้องกลายเป็นหนึ่งในกระบวนการโหดร้ายแบบนี้ด้วย
สีหน้าทั้งสองผู้จับจ้องมองพลันซีดเซียว
“…”
“ขอโทษ”
“แต่ถ้าพวกเราไม่ไปตอนนี้”
“พวกเราจะถูกจับกันหมด”
“…”
“เราจะไม่ทิ้งนาย”
“ฉันจะกลับมาช่วยทีหลัง”
“นายรอไปก่อนนะ”
“…”
“ไป!”
คำร้องขอไม่เป็นผล
เหนือคำว่าพ้องเพื่อนยังมีคำว่าเห็นแก่ตัว สองเพื่อนหนุ่มออกวิ่งไม่คิดเหลือบมองย้อนกลับมาด้านหลัง รู้กันดีว่าอีกฝ่ายจบเกมไปเรียบร้อยแล้ว
เกิดรั้งอยู่ช่วยจากหนึ่งอาจกลายเป็นสามแทนซึ่งความสุ่มเสี่ยงเฉกเช่นนั้น พวกมันสองคนไม่อาจปล่อยผ่านปล่อยให้เกิดขึ้นได้เด็ดขาดเพราะฉะนั้นทิ้งได้สมควรทิ้ง
อย่าได้เอาตัวถ่วงมาเป็นภาระในการหลบหนี
เจ้าหนุ่มผู้โชคร้ายกรีดร้องดังลั่น
“ไม่!”
“…”
“ขอร้องล่ะ!”
“อย่าทิ้งฉัน!”
“อย่าให้ฉันต้องอยู่คนเดียว!”
นิ้วมือทั้งห้ายื่นไปหาเหล่าสหายทั้งหลาย
หวังให้อีกฝ่ายย้อนกลับมาช่วยเหลือ น่าเสียดายที่เพื่อนของตนหาได้ย้อนกลับมามีแต่จะถอยออกห่างมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแผ่นหลังหายลับไปจากสายตา
ตอนนั้นเองที่ฝีเท้าเบาบางดังขึ้นจากด้านหลัง
ดังมาพร้อมกับเสียงหวานจับใจ
“ไม่มีใครทิ้งคุณหรอกค่ะ”
“…” ฮเยรินยิ้มกล่าว
“อีกเดี๋ยวพวกเขาจะกลับมารับคุณเอง”
“เชื่อดิฉันสิค่ะ”
“…”
“ปีศาจ”
รอยยิ้มงดงามที่ไม่ได้งดงามเลยแม้แต่น้อย
กล่าวสำหรับมันและพ้องเพื่อนรอยยิ้มของหล่อนคือรอยยิ้มปีศาจ
เป็นเพราะหญิงสาวตรงหน้าคนเดียวที่ทำให้พวกมันต้องหลบเลี่ยงหลบหนีสุดชีวิต ไม่มีเปิดปากบอกเหตุผลไม่มีกระทั่งสัญญาณแรกเริ่มของปัญหามีเพียงความบ้าคลั่งเท่านั้น
ความบ้าคลั่งเท่านั้นที่เป็นคำตอบ
…‘พวกเราไปทำอะไรให้’
“…”
มันลอบกัดปากตัวเอง
เลือกก้มหน้าตัวเองไม่คิดมอง
แน่นอนว่าเมดสาวฮเยรินเพียงมองนิ่งเงียบอย่างเดียวไม่คิดทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติม เป็นช่วงจังหวะเวลาเดียวกับลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหล่อนก็ยื่นส่งไม้ต่อให้ทันที
ยื่นให้โดยไม่คิดจะถามความสมัครใจของอีกฝ่าย
“…” ฮเยรินยิ้มกล่าวมอบหมาย
“ท่านครับ”
“อย่าปล่อยให้แขกของเรารอนานเกินไปล่ะ”
“อีก 2 คน”
“ไปตามจับมา”
“ครับ”
ฮเยรินก้มหน้ามองลูกนกตัวน้อยที่กำลังสะท้านไปด้วยความกลัวเกรง
โทษอีกฝ่ายไม่ได้โทษไม่ได้เลยแม้แต่น้อยที่จะแสดงท่วงท่าเฉกเช่นนั้นออกมา อย่าว่าแต่ตัวของอันธพาลน้อยตัวเล็ก กระทั่งเหล่าลูกน้อยที่คอยจับจ้องมองตลอดยังหวาดหวั่น
เมดสาวยังกล่าวต่อโดยไม่คิดรับความคิดเห็นของใครทั้งนั้น
“จับมาให้ได้”
“…”
“ส่วนเขา”
“ถ้าหากจำเป็นล่ะก็”
“หักขาอีกข้างซะ”
“เขาจะได้หนีไปไหนไม่รอด”
“…” สีหน้าซีดเซียว
มันพยายามร้องขอเมตตา
“ขะ ขอร้อง”
“ขอ—”
หากแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันช่าง
เป็นอะไรที่ยากเกินกว่าจะตอบสนองได้ทัน
คำขอร้องอีกฝ่ายถูกตอบแทนด้วยฝ่าเท้าเตะเสยปลายคาง
สัมผัสคล้ายน้อยนิดเบาบางแต่มากไปด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล เพียงแค่เตะครั้งเดียวเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก็ดับสติสัมปชัญญะทันทีเรียกได้ว่าไม่เปิดโอกาสให้ดิ้นรนด้วยซ้ำ
ร่างอันธพาลผู้โชคร้ายลอยเหนือพื้นก่อนนอนแน่นิ่งกับพื้น
ปัง!
“…”
“ขอร้องผิดคนค่ะ”
“คนที่คุณควรจะไปขอร้องไม่ใช่ดิฉัน”
“แต่เป็นคนที่คุณเคยไปสร้างเรื่องเอาไว้ต่างหาก”
“ส่วนเป็นใครคนไหน?”
“ไปคิดเองค่ะ”
“…” ฮเยรินเพียงเหลือบมองเล็กน้อย
ก่อนย้ายขยับสายตามองไปยังทิศทางที่สองหนุ่มน้อยเลือกวิ่งหนีหาย เป้าหมายของหล่อนในตอนนี้เสร็จสิ้นไปแล้วหนึ่งยังเหลืออีกสอง ขอแค่อีกสองภารกิจก็จะเสร็จสิ้น
เมดสาวมอบคำสั่งใหม่ให้กับเหล่าลูกน้อง
“เอาขึ้นรถ”
“ครับ”
“…”
“ย้ำอีกครั้ง”
“เผื่อพวกคุณลืมว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
“ภารกิจทั้งหมดที่พวกคุณกำลังรับผิดชอบอยู่”
“ต้องเสร็จสิ้นภายในวันนี้เท่านั้น”
“หากถึงคราวสถานการณ์จำเป็น”
“อนุญาตให้ใช้กำลังเข้าจัดการได้”
“แต่ห้ามลงมือถึงตายเด็ดขาด”
แววตาฮเยรินหรี่มองเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดัน
กลิ่นไอดุร้ายโหดเหี้ยมกำลังกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ
เหล่าลูกน้องทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มออกล่าไล่ตามอันธพาลน้อยทั้งสอง หรือจะเป็นกลุ่มคอยเก็บกวาดลาดตระเวนพวกเขาต่างขนหัวลุกทันทีเมื่อฮเยรินย้ำหนักหน่วง
ลองหัวหน้าได้มอบความคาดหวังเอาไว้ให้หากเกิดทำไม่ได้หรือผิดพลาดขึ้นมา เกรงว่าชีวิตคงไม่อาจรักษาเอาไว้ได้ง่ายดาย
ยิ่งได้ฟังถ้อยคำต่อไปยิ่งรู้สึกหนักหน่วงเข้าไปใหญ่
“…” ฮเยรินกล่าวเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์
“ที่สำคัญ”
“สำคัญที่สุด”
“ภารกิจห้ามผิดพลาด”
“ห้ามขาดตกบกพร่องแม้แต่นิดเดียว”
“เข้าใจไหม?”
“ครับ / ค่ะ”
“…”
ขณะกำลังเตรียมขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังสถานที่ต่อไป
เป็นสถานที่สำหรับนัดรวมตัวหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ
เรือนร่างงดงามยอดเยี่ยมร่างหนึ่งก็ปรากฎข้างกายเมดสาวฮเยริน นอกจากปรากฎตัวข้างกายหล่อนยังมีเอกสารหลายต่อหลายแผ่นแนบชิดติดมาด้วย
ก่อนหญิงสาวผู้มาใหม่จะมอบเอกสารทั้งหมดให้กับฮเยริน
มอบให้ด้วยความนอบน้อม
“ท่านคะ?”
“ข้อมูลที่ท่านต้องการค่ะ”
“…”
ฮเยรินรีบรับมาเปิดดูทันที
สายตาคู่งามไล่เรียงทุกตัวอักขระทุกตัวอักษร กวาดสายตามองชนิดที่ว่าไม่คิดปล่อยผ่านรายละเอียดทั้งหมดไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตามแต่แล้วหลังจากตรวจสอบดูแล้ว
หล่อนกับไม่พบเจอของที่ต้องการ
…‘ของจริงเหรอ?’
“…”
“นี่มันปรกติธรรมดามาก”
“ไม่มีข้อมูลอย่างอื่นเพิ่มเติมใช่ไหมคะ?”
“ไม่มีค่ะ”
“…”
หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน
เมดสาวฮเยรินมองชุดข้อมูลในมือ
สมมติฐานที่เคยวางจัดระเบียบเอาไว้กับพังทลายไม่เป็นท่า พื้นฐานของชายหนุ่มสวมแว่นที่หล่อนเคยครุ่นคิดเอาไว้กับไม่เป็นจริงเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่ใช่ผู้วิเศษไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลเป็นแค่คนปรกติธรรมดาอย่างแท้จริง
…‘หรือว่าเราจะคิดไปเอง’
“…” ฮเยรินถอนหายใจ
“ขอบคุณมากค่ะ”
“คุณกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองเถอะ”
“ค่ะ”
อิสตรีในชุดดำก้มหัวก่อนละไปจากพื้นที่บริเวณ
สถานการณ์ของเมดสาวฮเยรินหาใช่สิ่งน่าสนใจอีกต่อไป
ย้ายหวนคืนกลับมายังอันธพาลน้อยทั้งสอง ทั้งสองต่างพยายามวิ่งหนีเอาตัวรอดวิ่งหนีโดยไม่คิดชีวิตฝีเท้าของพวกมันยังคงเร่งความเร็วเต็มที่ไม่มีตก
หนึ่งในสองพยายามกล่าวถึงบุคคลที่ตนทิ้งเอาไว้
“ไอ้นพ—”
“อย่าได้พูดอะไรทั้งนั้น!”
“…”
“ห้ามพูดถึงเด็ดขาด!”
“…”
สีหน้าเจ็บปวดพลันปรากฏให้เห็น
ที่เขาเลือกทิ้งเพื่อนทิ้งโดยไม่อาจรับรู้ชะตากรรมสุดท้ายปลายทาง หาใช่เพราะต้องการจะทำหาใช่เพราะต้องการเอาตัวรอดเป็นหลัก แต่เป็นเพราะไม่มีทางเลือกต่างหาก
เพื่อนที่ถามก็รับรู้เหตุผล
เลยเลือกสบถออกมา
“บัดซบ!”
“…”
“ฉันรู้ว่าแกอึดอัด”
“ฉันเองก็อึดอัดไม่แพ้กัน”
“แต่ตอนนี้เราต้องไปหาพี่ใหญ่ก่อน”
“ถ้าเรื่องนี้ถึงมือพี่ใหญ่”
“พวกเราทุกคนก็จะปลอดภัย”
“รวมถึงไอ้ศร—”
รวดเร็วเกินกว่าจะตอบสนองได้ทันท่วงที
ฝีมือผู้มาใหม่ลงเด็ดขาดไม่มีเปิดช่องว่างให้หลบหนี และด้วยการลงมือรวดเร็วเกินกว่าจะตอบสนองได้ทันท่วงทีมันก็พัดพาเอาสติเล็กน้อยของอีกฝ่ายหลุดลอยไปในทันที
ผู้มาใหม่ฟาดท่อนไม้ใส่หัวเพื่อนของมัน
ทั้งยังลงมือต่อหน้าต่อตา
ปัง!
“…”
“เก่ง—”
ฉากภาพเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขเบื้องหน้าโดนเล่นงาน
เขาเห็นมันเต็มสองตา แต่ก่อนจะได้ทำอะไรก่อนจะได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางเดิน ภายใต้มุมมองเดิมที่เขากำลังมองเห็นก็มีสิ่งอื่นแปลกปลอมแทรกแซงเข้ามา
นั่นก็คือท่อนไม้หยาบหนากว่าจะรู้สึกตัวมันก็สายเกินไปแล้ว
ตึง!
“…”
มุมมองทั้งหมดดับวูบไปพร้อมกับสติ
ผู้ลงมือจับกระชับท่อนไม้เปื้อนเลือดในมือก่อนโยนทิ้งลงพื้นเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
สามสหายที่พยายามหลบหนีหลบเลี่ยงอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายปลายทางก็หนีไปไหนไม่รอดแน่นอนว่าไม่ใช่พวกมันที่ไม่มีฝีมือในการหลบหนี
เพียงแต่ว่าคู่ต่อสู้ครั้งนี้มันเป็นอะไรที่เหนือล้ำเกินกว่าระดับพวกมันจะทำอะไรได้ สุดท้ายปลายทุกสิ่งอย่างที่กระทำมาตลอดล้วนเปล่าประโยชน์
กลุ่มคนชุดดำปรากฎตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“…” พร้อมเข้าตรวจสอบสถานการณ์ทันที
“ยืนยัน”
“เป้าหมายหมดสติ”
“ทั้งหมดหมดสติเรียบร้อย”
“พื้นที่ทั้งหมดปลอดภัยครับ”
“ปลอดภัยค่ะ”
ยืนยันพื้นที่ทั่วบริเวณทั้งหมดปลอดภัยหายห่วง
ปราศจากสายตาใครคนอื่น ปราศจากผู้พบเห็นร่างชายหนุ่มทั้งสองนอนสลบไร้สตินึกคิด เมื่อแผนการแรกเริ่มเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาต้องเก็บกวาดร่องรอยทั้งหมดไม่ให้หลงเหลือ
ไม่ให้หลงเหลือตามรอยแม้แต่นิดเดียว
“เริ่มเก็บกวาด—”