เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ - ตอนที่ 23 ความสัมพันธ์ระหว่างสองพ่อลูก
ตอนที่ 23 ความสัมพันธ์ระหว่างสองพ่อลูก
บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมากมาย
หนึ่งฝ่ายมากไปด้วยอารมณ์เดือดดาลยากจะหักห้ามความรู้สึกอารมณ์เอาไว้ได้ ส่วนอีกหนึ่งคิดหวังใช้กำลังบีบบังคับให้ชายหนุ่มบอกกล่าวทุกสิ่งอย่างที่หล่อนต้องการ
อาการตื่นตระหนกตกใจในตอนแรกถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นแรงกระตุ้น
กระตุ้นให้หล่อนบีบบังคับให้มากขึ้น
“…”
“อย่ามาบ่ายเบี่ยง!”
“บ่ายเบี่ยง?”
“ผมเปล่าบ่ายเบี่ยงครับ”
“…”
“อีกอย่างด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน”
“คุณยังมีหน้ามาคาดคั้นเอาคำตอบจากผมอีกเหรอ?”
“คุณใช้สิทธิ์อะไรมาบีบบังคับให้ผมตอบคำถาม”
“…”
“สิทธิ์ความเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่”
“เพราะคุณตัดมันทิ้งไปตั้งแต่วันนั้น”
“หรือว่าสิทธิ์คนสำคัญในอดีต”
“นี่ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่”
“เมื่อไม่ใช่เพื่อนไม่ใช่คนสำคัญแล้วคุณมาถามผมด้วยฐานะอะไร?”
ทราเวียร์หรี่ตามองด้วยแววตาแหลมคม
เมื่อครั้งเขาอยู่กับเมญ่าสีหน้าเขาล้วนนิ่งราบเรียบตลอดไม่มีอารมณ์อื่นยุ่งเกี่ยว เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าหมอสมเกียรติสีหน้าเขายังราบเรียบหากยังแอบแฝงห้วงอารมณ์อื่น
ผิดกับสองกรณีก่อนหน้าเมื่อเขาอยู่ต่อหน้ากนกพรหญิงสาวที่เคยกระทำกับเขาอย่างโหดร้ายโหดเหี้ยมสีหน้าเดียวที่แสดงปรากฎออกมาคือเย็นชาจับจิต
แสดงท่วงท่าต่อโต้อย่างแข็งกร้าว
“…” นุชอ้าปากคล้ายคิดจะกล่าวบางอย่าง
หากกับกล่าวออกมาไม่ได้
“ฉะ ฉัน”
“ทางที่ดี”
“แยกกันเดินคนละทางครับ”
“ทางใครทางมัน”
“…”
“คุณอยากทำอะไรก็เชิญเต็มที่”
“อยากจะไปไหนอยากจะทำอะไรมันก็เรื่องของคุณผมไม่ยุ่ง”
“ในเมื่อผมไม่ยุ่งวุ่นวายกับคุณ
“คุณเองก็ห้ามมายุ่งวุ่นวายกับผม”
เส้นแบ่งถูกขีดให้เห็นเต็มสองตา
บุคคลที่อยู่เบื้องหน้าของหล่อนไม่ใช่ชายหนุ่มคนเดิมที่เคยมอบรอยยิ้มให้
กับกลายเป็นคนละคนไปอย่างสิ้นเชิงแปรเปลี่ยนชนิดที่ว่าตัวหล่อนเองก็ยังคาดไม่ถึงเหมือนกัน คำกล่าวทั้งหมดที่เตรียมกล่าวบีบบังคับอีกฝ่ายตามนิสัยสันดานเดิม
จางหายไปหมดไม่มีหลงเหลือ
“…” ทราเวียร์หยิบผ้าเช็ดมือมาเช็ดบริเวณที่โดนจับ
แสดงความรังเกียจให้เห็นอย่างชัดเจน
“ที่สำคัญ”
“อย่ามาแตะต้องตัวผม”
“ผู้ชายกับผู้หญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวเกินจำเป็น”
“โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีแฟนอย่างคุณ”
“…”
“ทำเสียเวลาหมด”
น้ำเสียงราบเรียบเย็นชาจับจิต
นี่ไม่ใช่การแก้ทำเหมือนว่าทำงอนตามประสาเพื่อนต่างเพศ หลายต่อหลายสิ่งอย่างมันมากมายกว่านั้นมากมายจนเอาคำว่า “งอน” มาเทียบไม่ได้เลย
หญิงสาวคล้ายต้องการกล่าวบางสิ่งอย่างออกมา
“…” แต่มันยากเย็นเหลือเกิน
“ฉัน”
“ฉันแค่อยากจะรู้”
“ทะ ทำไมต้องพูดขนาดนั้นด้วย”
หมดสิ้นไม่มีอะไรให้พูดคุย
ชายหนุ่มสวมแว่นเริ่มออกเดินหน้าต่อมุ่งหน้ากลับบ้านของตัวเอง ระหว่างกำลังสวนกับหล่อนสายตาเขายังไม่ออกอาการหวั่นไหวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
เย็นชาเยือกเย็นอย่างกับก้อนหิน
“…” ทุกสิ่งอย่างล้วนไม่เป็นดั่งหวัง
นุชเลยต้องกลับบ้านมือเปล่า แม้จะบอกว่ามือเปล่าหากแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความพยายามของหล่อนล้มเหลวไม่เป็นท่าอย่างน้อยที่สุด
หล่อนก็เห็นเขาก้าวเท้าออกมาจากบ้านของเธอ
“…” ทันทีที่เข้ามาในบ้าน
นุชจดจ้องมองมาที่พ่อของเธอ
คนที่ทราเวียร์มาหาย่อมต้องเป็นบิดาผู้นี้ ทั้งที่ไม่เคยโผล่หน้ามาหานานนับปีแต่ตอนนี้จังหวะนี้ดันโผล่หน้ามาหาแสดงว่าต้องมีเรื่องราวบางอย่างที่หล่อนไม่รู้
และหล่อนต้องรู้มันให้ได้
“…” สมเกียรติเลิกคิ้วมอง
“นุช?”
“ลูก—”
“เขามาทำไม?”
สิ้นเสียงบอกกล่าวสีหน้าของสมเกียรติเยือกเย็นขึ้นมาทันที
ลองได้เปิดปากถามคำถามแบบนี้ออกมาแสดงว่าลูกสาวคนดีของเขาคงได้พบเจออีกฝ่ายเรียบร้อย ส่วนรายละเอียดความเป็นมายังไงพูดคุยแบบไหนอันนี้เขาไม่รู้
แล้วก็ไม่อยากจะรู้ด้วยเพราะดูจากสภาพสีหน้าที่บิดเบี้ยวของลูกสาวตน
แสดงว่าคงโดนเล่นมาไม่น้อย
…‘เจอเขาแล้วสินะ’
“…”
“ลูกหมายถึงใคร?”
“อย่ามาบ่ายเบี่ยง”
“เมื่อกี้หนูพึ่งเดินสวนกับเขามา”
“เขามาที่นี่ทำไม?”
“…”
“มาทำไมสินะ”
“ลูกได้ถามเขาไหมว่ามาทำอะไรที่นี่?”
“ถามแล้วแต่เขาไม่ยอมตอบ”
นอกจากไม่ตอบยังทำเมินเฉยทำเหมือนกับหล่อนไม่มีตัวตน
กล่าวสำหรับหล่อนที่เป็นหญิงงามแม้จะไม่เทียบเท่ากับคุณหนูเมญ่า แต่หล่อนก็มีศักดิ์ศรีมีเกียรติเป็นของตัวเองพอโดนผู้ชายที่เคยสารภาพรักเมินเฉยใส่
ในมุมหนึ่งของจิตใจมันก็ออกอาละวาดทันที
“…” ยิ่งคิดยิ่งนึกถึงยิ่งโมโห
“งั้นเหรอ”
“ในเมื่อเขาไม่ยอมบอกพ่อเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน”
“พ่อ!”
“…”
“ลูกจะขึ้นเสียงทำไม?”
“หนูอยากรู้!”
“อยากรู้เพื่ออะไร?”
“รู้แล้วทำอะไรได้”
“…”
“พ่อถามตรง ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับเวียร์มันเป็นยังไงกันแน่?”
“ไม่ใช่ว่าเลิกขาดกันไปแล้วหรอกเหรอ?”
“พ่ออย่ามาบ่ายเบี่ยง”
เป็นอีกครั้งที่หล่อนบังคับตัวเองไม่ได้
สิ่งที่หล่อนต้องการรับรู้มากที่สุดคืออีกฝ่ายมาทำอะไรที่บ้าน มีอะไรที่ทั้งสองกระทำเอาไว้แล้วเลือกปกปิดกับหล่อน หล่อนอยากรู้มากถึงมากที่สุด
ส่วนเหตุผลที่อยากรู้กระทั่งตัวหล่อนเองก็ยังไม่เข้าใจ
“…” หมอสมเกียรติส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ใช่บ่ายเบี่ยง”
“พ่อแค่อยากจะเตือน”
“…”
“ความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับเขาไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเดิมอีกต่อไป”
“ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นมาแบบไหน”
“แต่ตอนนี้ก็เป็นได้แค่คนแปลกหน้าเท่านั้น”
“ฉะนั้นจะทำอะไรก็ระมัดระวังให้มาก”
“อย่าไปก้าวก่ายเกินจำเป็น”
“…”
“ถึงอย่างนั้น—”
“ลูกไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขา”
“กระทั่งพูดคุยปรกติธรรมดายังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องบีบบังคับให้เขายอมเปิดปาก”
อาศัยอะไรมาบีบบังคับให้ทราเวียร์ยอมเปิดปาก
อย่าได้หลงลืมเด็ดขาดว่านุชเป็นฝ่ายบดขยี้หัวใจอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยมจนทำให้ทุกความสัมพันธ์ทุกสิ่งอย่างที่เคยกระทำร่วมกันมาตลอดต้องขาดสะบั้น
พอตอนนี้พอหวนคืนกลับมาเจอหน้ากันในรอบหลายปี หล่อนกับพยายามบีบคั้นให้เขากลับมาคุยด้วยพยายามบีบบังคับให้เขากระทำในสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำ
ช่างเอาแต่ใจจนเกินคำพอดี
นุชเริ่มตัดพ้อให้ได้ยิน
“ทำไมต้องถึงเก็บเงียบ”
“หนูก็แค่อยากรู้”
“…”
“ดูจากสีหน้า”
“พ่อก็รู้ว่าลูกลองมาแล้ว”
“และผลลัพธ์ที่ได้กลับมาคงไม่พ้นล้มเหลวไม่เป็นท่า”
“หรือไม่จริง?”
“…” นุชลอบกัดปากตัวเองแน่น
ก่อนยังโต้เถียงกลับไป
“ไม่ว่าเขาจะมาด้วยเหตุผลอะไร?”
“หนูไม่สนใจ”
“หนูแค่ไม่ชอบให้เขามาที่บ้านของเรา”
“พ่อเองก็ไม่ชอบให้หนูพามันเข้ามาในบ้านเหมือนกัน”
“พ่อ!”
นุชกัดปากตัวเองก่อนร้องตะโกนกลับไป
หากเป็นครั้งก่อนหน้าเมื่อหลายปีก่อน สมเกียรติอาจปล่อยผ่านไม่คิดขึ้นเสียงกับลูก แต่ตอนนี้อะไรต่อมิอะไรมันได้แปรเปลี่ยนไปหมดแล้วเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่ลูกสาวตัวดีก่อเรื่อง
เพราะฉะนั้นเพื่อประโยชน์สุขของครอบครัวเขาเองก็พร้อมเล่นบทโหด
“…” แววตากร้านโลกจดจ้องมองสวนกลับ
ก่อนกล่าวเบาบางหนักแน่นเป็นที่สุด
“ลูกทำตามใจได้”
“พ่อเองก็ทำตามใจได้”
“…”
“ที่สำคัญลืมไปได้เลยเรื่องคำถามเมื่อครู่”
“พ่อจะไม่เปิดปากบอกลูกเด็ดขาด”
“เว้นแต่เขาจะยอมเปิดปากบอกด้วยตัวเอง”
หลังจากถ่ายทอดความรู้สึกเสร็จสิ้น
หมอชายวัยกลางคนผู้เป็นพ่อก็เดินขึ้นห้องปล่อยให้นุชยืนตื่นตะลึงอยู่กับที่ไปทั้งแบบนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่แนวความคิดของสองพ่อลูกไม่เห็นตรงกันอย่างรุนแรง
รุนแรงกระทั่งหล่อนยังตั้งตัวไม่ทัน
…‘นะ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น’
“…”