เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ - ตอนที่ 22 ไม่ใช่คุณที่ตัดสินใจครับ
ตอนที่ 22 ไม่ใช่คุณที่ตัดสินใจครับ
หมอสมเกียรติหลับตาตัวเองแน่น
เหมือนจะเป็นเขาที่ยังไม่อาจหลุดพ้นจากอดีต ยังพยายามขอให้สายสัมพันธ์ที่เคยแตกหักไปแล้วหวนคืนกลับมาตามเดิมช่างเป็นความพยายามที่เปล่าประโยชน์เสียจริง
พอเห็นทราเวียร์ยังนิ่งเงียบไม่คิดกล่าวอะไรเพิ่มเติม เขาก็รู้แล้วว่าคำขอของเขามันเห็นแก่ตัวเกินไปไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น
เจ้าตัวเลยพยายามบ่ายเบี่ยงประเด็นไม่คิดคุยเรื่องเดิม
“…” หันมาคุยเรื่องที่ดูเป็นทางการกว่าเดิม
“สุดท้ายและท้ายสุด”
“ไม่รู้หรอกนะว่าเธอรู้รึเปล่า?”
“แต่ฉันต้องเตือนเธอเอาไว้แม้มันจะไม่จำเป็นก็ตาม”
“เกี่ยวกับพวกโจรปล้นธนาคาร”
“…” แววตาราบเรียบหรี่มอง
หมอสมเกียรติลอบสูดลมหายใจเข้าลึก เริ่มไล่เรียงแนวความคิดของตัวเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนถ่ายทอดออกไปให้ชายหนุ่มสวมแว่นเบื้องหน้าได้รับรู้
ส่วนอีกฝ่ายจะยินยอมโอนอ่อนตามไว้เป็นอีกเรื่อง
“ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง?”
“แต่เรื่องบางเรื่องเราก็ต้องปล่อยวาง”
“เกิดเข้าไปยุ่งวุ่นวายเกินจำเป็น”
“แทนที่จะได้สิ่งที่ตนต้องการกลับมา”
“เธออาจจะต้องสูญเสียทุกสิ่งอย่างเพียงเพราะการเดินหมากครั้งนี้”
“…”
“พักรักษาตัวเถอะ”
“อย่างน้อยที่สุดก็จนกว่าแผลจะหาย”
เป็นคำเตือนเฉพาะเจาะจงแอบแฝงไปด้วยหลากหลายสิ่งอย่าง
ภายใต้แววตาราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์มีประกายแสงสว่างไหลผ่าน เขาพอคาดเดาได้ไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับสถานการณ์เบื้องหน้าที่กำลังเกิดขึ้น
เพื่อยืนยันสมมติฐานเจ้าตัวเลยกล่าวถามกลับไป
…‘ไม่น่าเป็นความคิดของเขา’
“…”
“เธอให้คุณมาเตือนผม?”
“…” หัวคิ้วสมเกียรติกระตุก
พอเห็นว่าเปล่าประโยชน์เขาเลยตอบกลับตามตรง
“ไม่ใช่แค่หล่อนคนเดียว”
“ฉันเองก็อยากเตือนเหมือนกัน”
“จบได้สมควรจบสิ้นนะ”
“อย่าไปทำอะไรเกินตัวเลย”
“มันไม่คุ้มค่าหรอก”
สีหน้าแววตาเรียกได้ว่าจริงจังขั้นสุด
ชายหนุ่มสวนแว่นเพียงเปิดเผยรอยยิ้มเบาบางยากจะเข้าใจ ทันทีที่เห็นสีหน้าตั้งแต่นั่งทำแผลเขาก็รู้แล้วว่าประเด็นนี้ต้องถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย
น่าเสียดายที่แนวความคิดของเขายังคงเดิมไม่มีแปรเปลี่ยน
“…” ทราเวียร์ยังคงยึดมั่นตามเดิม
“ขอบคุณครับ”
“เอาไว้คราวหลังผมจะมารบกวนใหม่”
“เดินทางปลอดภัย”
“รักษาสุขภาพด้วยครับ”
“…”
ทราเวียร์ก้มหัวขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
ก่อนเปิดประตูออกไปจากคลินิกทิ้งให้หมอวัยกลางคนนั่งอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายนั่งอยู่คนเดียวไม่มีใครคนอื่น เจ้าตัวพอเห็นชายหนุ่มสวมแว่นเปิดประตูออกไปเรียบร้อย
ก็เลือกทอดถอนหายใจออกมา
“ชัดเจน”
“นอกจากไม่ได้ผลยังทำให้อึดอัดอีกต่างหาก”
“…”
“เห็นทีคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่หล่อนแล้วล่ะนะ”
คงต้องฝากให้เป็นหน้าที่ของใบเฟิร์น
ลำพังเขาคนเดียวคงไม่อาจหยุดยั้งความต้องการของทราเวียร์ได้ นอกจากหยุดยั้งไม่ได้ยังไม่สมควรหยุดยั้งอีกต่างหาก เพียงแค่นี้เขาก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว
เกิดต้องไปขัดขวางความต้องการแรงกล้าของทราเวียร์ ทั้งที่ตัวเองยังไม่สามารถรักษาบาดแผลระหว่างความสัมพันธ์ทั้งสอง หากดึงดันต่อไปเกรงว่ามีแต่จะเจ็บปวดกันทั้งคู่
ทราเวียร์ปิดประตูเสร็จเจ้าตัวนิ่งเงียบไม่ขยับไปไหน
“…” เอาแต่ยืนอยู่หน้าคลินิกพยายามครุ่นคิดคำพูดเมื่อครู่ของหมอสมเกียรติ
ในส่วนข้อเสนอที่หมอสมเกียรติบอกกล่าวให้เขาหวนคืนกลับมาอีกครั้ง มันช่างเป็นอะไรยากเหลือเกินมันยากเกินไปเกินกว่าเขาจะยินยอมรับได้
ปัญหาในส่วนนี้มันไม่ได้อยู่ที่ตัวเขาเพียงคนเดียวแต่มันอยู่กับอีกคนด้วย ทั้งยังเป็นคนที่ไล่เขาไม่อยากพานพบเจอหน้าเขาอีกเป็นครั้งที่สอง
แววตาของเขาเจือปนเต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์มากมาย
“…”
“ทำเหมือนบ้านของตัวเอง”
“พูดมันง่ายแต่ทำสิมันยาก”
รอยยิ้มเหนื่อยล้าเหนื่อยอ่อนปรากฎบนใบหน้า
อีกทั้งความยากของมันยังไม่ใช่ความยากปรกติธรรมดาสามารถกระทำได้ง่ายดาย มันยากจนเขาไม่คิดอยากจะหวนนึกถึงด้วยซ้ำ นอกจากความยากของมันที่ต้องครุ่นคิด
ยังมีเรื่องอื่นให้คิดด้วยสุดท้ายปลายทางเมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างผลเสียกับผลดีที่จะได้ตามมาเขาเลือกถอยห่างดีกว่าสถานการณ์ในตอนนี้เองใช่ว่าจะเลวร้าย
อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ทำให้เขาต้องเสียใจล่ะนะ
…‘ต่อให้เราทำจริงยอมกลับไปตามที่อีกฝ่ายบอก’
“…”
“หล่อนคงไม่ยอมอยู่ดี”
สายตาทราเวียร์หวนคืนจากประตู
กลับมามองถนนกลับมามองเส้นทางที่ตนกำลังเดินผ่านมา แต่เส้นทางเดิมที่เขาก้าวเท้าผ่านมาตอนนี้มันได้เพิ่มเติมอิสตรีนางหนึ่งเข้ามา
ดวงตาหล่อนเบิกกว้างแสดงอาการตื่นตระหนกตกใจเต็มที่
“…” พร้อมกล่าวร้องเรียกชื่อเขาเบาบาง
“เวียร์?”
“…”
“นุช”
แววตาชายหนุ่มออกอาการหวั่นไหว
ทุกสิ่งที่ดำเนินมาด้วยดีตอนนี้ราวกับโชคชะตาต้องการเล่นตลก
สองเส้นทางที่ไม่ควรพานพบเจอไม่ควรมาบรรจบกันตอนนี้กับต้องมาพบเจอหน้ากันอีกครั้ง ทราเวียร์ลอบกัดปากตัวเองก่อนเดินหน้าต่อพยายามหลบเลี่ยงเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่คิดยินยอมง่ายดาย
“…”
“นายมาทำอะไรที่นี่?!”
ปราศจากสุ้มเสียงตอบกลับมา
มีเพียงความเงียบงันเท่านั้นที่เป็นคำตอบ
ถึงแม้ทราเวียร์จะพยายามเดินผ่านหล่อนมุ่งหน้าตรงบ้าน
แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่คิดยินยอมปล่อยผ่านง่ายดาย กนกพรพุ่งฝ่ามือตรงเข้าจับข้อมือของชายหนุ่มสวมแว่นจับแนบแน่นไม่คิดปล่อยให้อีกฝ่ายหลบหนีไปไหน
ก่อนพยายามร้องถามเสียงดังหวังเค้นเอาคำตอบ
หมับ!
“เวียร์!”
“ฉันกำลังถามนายอยู่นะ!”
“…”
ไม่มีคำตอบตอบกลับมาเหมือนเดิม
ช่วงจังหวะเวลานี้สมควรเปิดปากตอบคำถามหรือไม่ก็แสดงท่วงท่าอาการออกไปจะมากจะน้อยก็ถึงอยู่กับห้วงอารมณ์ของอีกฝ่ายแต่ทราเวียร์กับกระทำตรงกันข้าม
เขาเงียบอย่างเดียวราวกับหล่อนเป็นเพียงอากาศธาตุ
ตรงจุดนี้เลยทำให้หล่อนดุดันกว่าเดิมหลายเท่าตัว
“นาย?!”
“ปากอมอะไรอยู่!”
“ฉันถามทำไมถึงไม่ตอบ!”
สองสายตามองสอดผสาน
ต่างฝ่ายต่างจดจ้องมองซึ่งกันและกัน ทราเวียร์เป็นฝ่ายละสายตาออกเป็นคนแรกก่อนก้มมองฝ่ามือของเขาที่กำลังถูกจับเอาไว้แนบแน่นเหลือเกิน
ทราเวียร์ถอนหายใจเบื่อหน่าย
“…” ก่อนกล่าวบอกเสียงเรียบ
“คุณกำลังจับมือผมอยู่”
“ปล่อยครับ”
“…”
“ไม่ปล่อย!”
“ฉันจะไม่ปล่อยนายไปไหนทั้งนั้น”
“จนกว่านาย”
“จนกว่านายจะบอกฉัน”
“นายมาที่นี่ทำไมมาหาฉันหรือว่ามาหาพ่อ?”
“…” ทราเวียร์หรี่ตามอง
“มาด้วยเหตุผลอะไรมันก็เป็นเรื่องของผมครับ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“คุณเกี่ยวอะไรด้วย”
“ต้องเกี่ยวสิ—”
“เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวไม่ใช่คุณเป็นคนกำหนดเป็นคนตัดสินใจครับ”
“เป็นผมครับที่ตัดสินใจ”
“แค่ผมคนเดียวเท่านั้น”
เย็นชามากเย็นชาจนกนกพรตื่นตระหนกตกใจ
แม้ว่าตอนเย็นหลังจากพบเจอตรงบันไดอีกฝ่ายจะมีท่วงท่าเย็นชาให้เห็น แต่ครั้งนี้ช่วงจังหวะเวลานี้มันหนักหน่วงหนักแน่นกว่าเดิมไม่รู้ตั้งกี่เท่าตัว
กนกพรที่ได้ยินถึงกับละปล่อยมือโดยไม่ทันรู้ตัว
“…” เรียกได้ว่าตื่นตกใจไปอย่างสมบูรณ์