เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ - ตอนที่ 19 จากลาด้วยความอึดอัด
ตอนที่ 19 จากลาด้วยความอึดอัด
ตลอดเส้นทางล้วนนิ่งเงียบไม่มีใครกล่าวอะไรเพิ่มเติม
เป็นความเงียบที่ไม่ได้เกิดด้วยความสมัครใจ แม้ใจต้องการกล่าวถามรายละเอียดหวังอยากรู้แต่คุณหนูสาวก็เลือกปิดปากไม่คิดทำให้อารมณ์ชายหนุ่มเดือดดาลไปมากกว่านี้
พอถึงห้องเรียนของตนชายหนุ่มสวมแว่นก็กล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ”
“ได้คุณมาช่วยงาน ทำให้งานของผมมันง่ายขึ้นเยอะเลย”
“ขอบคุณครับ”
“…” เมญ่าส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เรื่องเล็กน้อย”
“อีกอย่างแค่ได้ช่วยเหลือคุณ ดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ”
“คำขอบคุณอะไรพวกนั้นไม่ต้องหรอก”
กลับกันเป็นฝ่ายหล่อนมากกว่าที่ต้องขอบคุณ
แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยแต่คุณหนูสาวเมญ่าก็ได้ตอบแทนบุญคุณกลับคืน เพราะฉะนั้นการรับคำขอบคุณในสิ่งที่หล่อนสมควรกระทำอยู่แล้ว
จึงดูเป็นอะไรที่ชวนให้กระอักระอ่วมเหลือเกิน
“…” ทราเวียร์มองหล่อนก่อนก้มหัวเล็กน้อย
ก้มหัวพอเป็นพิธีตามมารยาท
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
“กลับบ้านก็ระมัดระวังตัวด้วยค่ะ”
“…” เมญ่ามองส่งท้าย
มองแผ่นหลังของเขาหายลับไปจากสายตา
ในเมื่อชายหนุ่มสวมแว่นผู้เป็นต้นสายปลายเหตุที่ทำให้หล่อนเลือกอยู่ต่อกลับบ้านไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณหนูสาวอย่างหล่อนต้องกลับบ้าง
หน้าโรงเรียนมีรถหรูสีดำมาจอดเทียบท่า
“…” ก่อนหล่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง
ตอนนั้นเองที่เสียงหญิงสาวดังขึ้น
“กลับบ้านเหมือนเดิมหรือว่าไปสถานที่อื่นคะ?”
“สถานที่อื่นค่ะ”
“นาน ๆ ที เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีเหมือนกัน”
“รับทราบค่ะ”
ตัวรถขยับเคลื่อนไปข้างหน้า
ทิ้งให้โรงเรียนสถานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวชวนปวดหัวมากมายเอาไว้ด้านหลัง เมญ่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมใช้นิ้วเรียวกดหาหมายเลขโทรศัพท์
เป็นหมายเลขาที่หล่อนจะสามารถหาสิ่งของที่ต้องการได้
[ คุณเมญ่าที่รัก ]
[ ผมส่งข้อความมาหาคุณ—]
“…” หล่อนปัดข้อความทั้งหมดทิ้ง
พร้อมจดจ้องมองเบอร์คุ้นตา
…‘ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์นี่มันน่ากลัวชะมัด’
“…”
“สุดท้ายปลายทางจะออกมาเป็นแบบไหน”
“ก็ปล่อยให้โชคชะตานำทางก็แล้วกัน”
นิ้วเรียวกดโทรออก
ระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนปลายสายจะกดรับ ไม่มีสุ้มเสียงอื่นกล่าวทักทายไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมหายใจมีเพียงความเงียบงันเท่านั้นที่คงอยู่
เมญ่าหาได้สนใจเนื่องจากชินชาเสียแล้ว
“…” หล่อนเลือกตัดเข้าประเด็นทันที
ไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า
“ฉันเอง”
“ใช่”
“มีเรื่องอยากให้ตรวจสอบสักหน่อย”
“ไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมคนที่ฉันให้ไปหาข้อมูล”
“…”
“ครั้งนี้เป็นผู้หญิง”
เมญ่าเผยรอยยิ้มยากจะคาดเดา
หากถึงมืออีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแบบไหนก็ล้วนมาหาได้หมดหากเงินถึง เมื่อตอนของทราเวียร์หล่อนเองก็ใช้บริการจากอีกฝ่ายถึงได้รวบรวมข้อมูลได้รวดแบบนี้
ด้วยความสามารถอีกบวกกับความง่ายดายของข้อมูลอีกฝ่ายเกรงว่าคงใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีไม่กี่ชั่วโมง แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าใช่จ่ายที่มหาศาล
อย่างว่าละนะเงินยิ่งมางานยิ่งเดิน ต่อให้จ่ายเพิ่มมากกว่าปรกติหลายเท่าตัวคุณหนูสาวผู้มั่นคั่งก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้วขอเพียงให้ได้สิ่งหล่อนต้องการเป็นพอ
ใช่ขอแค่ให้ได้สิ่งที่ต้องการ
“…” เมญ่ายิ้มกล่าวส่งท้าย
“ฉันจะรอที่เดิม”
พอได้ทำสิ่งที่ต้องการเสร็จสิ้นเรียบร้อย
หัวสมองพลันว่างเปล่าปราศจากแนวคิดอื่นเข้ามาแทรกแซง และด้วยความที่มันว่างเปล่าไม่มีเรื่องอื่นมาให้ครุ่นคิดต่อ หัวสมองจึงดึงลากพาเรื่องเก่าเข้ามาครุ่นคิดแทน
ดึงพาฉากทราเวียร์กล่าวปฏิเสธไม่ต้องการให้หล่อนเข้ามาช่วยเหลือ
“…” เธอถอนหายใจเหนื่อยอ่อน
“ทั้งที่หลักฐานมันออกจะชัดเจนขนาดนั้น”
“แต่คุณก็ยังดึงดันปฏิเสธ”
“ทั้งยังพยายามผลักไสให้ฉันออกไปให้พ้นทางอีก”
“ไม่เข้าใจ”
“ไม่ว่าจะพยายามครุ่นคิดยังไงมันก็แปลกประหลาดอยู่”
“…”
“แต่ผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางที่ออกมาก็ยังถือว่าไม่เลว”
“อย่างน้อยก็ได้ทำงานร่วมกัน”
“นอกจากได้ทำความสะอาดร่วมกันยัง”
ฉากหล่อนอยู่ในอ้อมกอดของทราเวียร์
แม้หล่อนจะรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องร้องเจ็บปวดอยู่นานนับนาที แต่เรื่องบางเรื่องมันก็ยากจะหักห้ามหัวใจตัวเองเหลือเกิน ริ้วแดงเริ่มปรากฎบนใบหน้าขาวเนียน
เมญ่ารีบส่ายหน้าไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัวสมองทันที
…‘ระ ไร้ยางอายสิ้นดี’
“…”
ผ่านมาประมาณ 10 นาที
ข้อความที่รอคอยก็เด้งขึ้นมาเป็นข้อความสั้นกระชับไม่มีอะไรเพิ่มเติมให้รู้สึกมึนงงสับสนไม่เข้าใจ อีกทั้งยังมีไฟล์เอกสารส่งแนบติดมาให้อีกต่างหาก
เมญ่าเผยรอยยิ้มสง่างามออกมาทันทีที่พบเห็น
[ ข้อมูลเบื้องต้นค่ะ ]
ความคาดหวังในตอนแรกไม่มีมากมายนัก หวังเพียงอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ใช้อ้างอิงเหตุการณ์ในอนาคตเพียงแค่อยากจะใช้อ้างอิงเท่านั้น
แววตาคุณหนูสาวหรี่มองหลังจากอ่านพอสังเขป
…‘ใกล้ตัวจนน่าขนลุก’
“…”
“หญิงสาวอันดับ 2 ของโรงเรียน”
“กนกพร แสงส่องอรุณ”
“เป็นเธอนี่เอง”
“ก็ว่าอยู่ทำไมถึงคุ้นหน้าคุ้นตาอีกฝ่ายนัก”
สายตาหล่อนไล่เรียงทุกตัวอักษร
กับกลายเป็นว่าบุคคลหญิงสาวที่มีประเด็นกับทราเวียร์ผู้มีพระคุณของหล่อน ดันกลายเป็นสาวงามอันดับสองของโรงเรียนอิสตรีผู้ครอบครองใจชายทั่วโรงเรียน
แม้อีกฝ่ายจะไม่งดงามงามสง่าเหมือนกับหล่อน แต่ก็ยังมีบ้างด้านบ้างมุมที่เหนือกว่าจนเทียบไม่ติด นั่นก็คือการเข้าไปมีส่วนร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรมของโรงเรียนผิดกับคุณหนูสาวเมญ่าที่เลือกเน้นด้านการเรียนเป็นหลักมากกว่า
เมญ่าละสายตาจากโทรศัพท์ก่อนถอนหายใจ
…‘น่าสนใจมาก’
“…”
“กนกพร แสงส่องอรุณ”
“ไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นใครมาจากไหน?”
“แต่ตอนนี้ช่วงเวลาต่อจากนี้เป็นต้นไป”
“ดิฉันมั่นใจว่าพวกเราจะได้เจอหน้ากันอีก”
“ต้องได้เจอกันอีกแน่นอน”
“…”
แววตาคุณหนูสาวเปล่งประกายขั้นสุด
ข้อมูลเบื้องต้นที่เมดสาวหามาให้เป็นเพียงข้อมูลปรกติธรรมดาพื้นฐานไม่มีลงเบื้องลึกเบื้องหลังไม่มีข้อมูลส่วนสำคัญที่เมญ่าต้องการค้นหา
เฉกเช่นเพราะอะไรหญิงสาวอันดับสองของโรงเรียนถึงได้ยึดติดกับทราเวียร์ ทำไมชายหนุ่มสวมแว่นผู้มีพระคุณของหล่อนถึงได้พยายามถอยห่างเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่ในข้อมูลที่รับมามันค่อนข้างมีจุดน่าสนใจไม่น้อยโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างทราเวียร์กับกนกพร เหมือนทั้งสองจะเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันมาก่อนในช่วงมัธยมต้น
ส่วนต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ ผู้ขายข่าวไม่มีข้อมูลในส่วนนั้น หากคุณหนูสาวต้องการจริงคงต้องหยิบจับจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อค้นหาอดีตนานนับปี
รถขับมุ่งหน้าไปยังสถานที่อื่นตามที่คุณหนูสาวต้องการ ตลอดเส้นทางคุณหนูสาวเพียงนิ่งเงียบคล้ายกำลังครุ่นคิดไตร่ตรองบางสิ่งอย่าง อย่างเงียบงันไม่มีกล่าวเพิ่มเติม
ผิดกับคุณหนูเมญ่าที่ชื่นมื่นกับผลประกอบการครั้งนี้ ชายหนุ่มสวมแว่นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกับตกอยู่ในห้วงอารมณ์จมดิ่งยากจะหวนคืนกลับมา
…“หน้าตาก็ธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น!”
…“ส่วนสูงก็เตี้ยอย่างกับเสาบอกหลักกิโล!”
…“จะสารภาพรักกับฉันยังเร็วไปร้อยปี!”
“…”
“แม้จะผ่านมาหลายปี”
“แต่บาดแผลก็ยังเป็นบาดแผลสินะ”
ทราเวียร์ยิ้มไม่ออกทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเท่านั้น
แม้จะผ่านไปเนิ่นนานหลายต่อหลายปีแต่พอมาพบเห็นใบหน้าอีกฝ่าย ได้ยินน้ำเสียงที่ไม่ได้ยินมานานนับปี ห้วงความทรงจำมากมายที่ปิดผนึกเอาไว้ก็ระเบิดออกมา
ทั้งยังออกมาไม่มีหยุดหย่อนอีกต่างหาก
…‘กระทั่งที่นี่ก็ยังเหมือนเดิม’
“…”
“เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน”
เบื้องหน้าของเขาเป็นคลินิกสูง 3 ชั้น
สถานที่ตรงตามแผนที่ที่ใบเฟิร์นพยายามร้องขอบอกให้เขามา สายตาเขาในช่วงจังหวะเวลานี้เต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์มากมายนับไม่ถ้วน
ก่อนเขาจะเปิดประตูเข้าไป
“สวัสดีครับคุณหมอ”
“ดูสิว่าใครมา?”
“เข้ามาก่อนสิ”
“ครับ”
“…” คุณหมอชายวัยกลางคนหรือหมอ ‘สมเกียรติ’ ยิ้มดีใจ
เขาดีใจมากที่พบเห็นทราเวียร์ยินยอมก้าวเท้าเดินเข้ามาในบ้านของตัวเอง แววตากระจ่างใสมองตั้งแต่หัวจรดเท้าหวังเทียบเคียงภาพเก่าก่อนกับภาพปัจจุบัน
หมอสมเกียรติกล่าวถามเปิดประเด็นพูดคุยหลังจากไม่ได้คุยมานาน
“รู้สึกยังไงบ้าง?”
“หลังจากหายหน้าหายตาไปนานนับปี”
“แปลกประหลาดมั้งครับ”
“แปลกประหลาด?”
“ครับ”
“เหมือนตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงก็ไม่รู้”
ทราเวียร์ยิ้มขณะกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ
สภาพคลินิกยังเหมือนเดิมเป็นมายังไงก็เป็นมาอย่างนั้นตลอด ทั้งที่ควรจะรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านแต่ชายหนุ่มสวมแว่นกับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น
สมเกียรติที่ได้ยินถึงกับแววตาหวั่นไหว
…‘ผิดที่ผิดทางเหรอ?’
“…”
“นั่นสินะ”