ตอนที่ 17 อุบัติเหตุร้อนรุ่ม
บรรยากาศเงียบสงบไม่มีใครคิดเปิดปากพูดคุยกับอีกฝ่าย
ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวให้เหนื่อยเปล่า หลังจากยกเก้าอี้ขึ้นจนหมดทั่วทั้งห้องหล่อนก็มุ่งหน้าไปทำงานการต่อไปแทน
ซึ่งนั้นก็คือกวาดพื้นทำความสะอาดพื้นห้อง
“ยังสกปรกอยู่เลย”
“…”
“ถังขยะ?”
“เจอล่ะ”
“…”
หล่อนหยิบเจ้าเศษกระดาษชิ้นใหญ่เข้าถังขยะ
แต่พอหยิบเสร็จแล้วแทนที่หล่อนจะมุ่งหน้าไปกวาดพื้นตามที่ใจมุ่งหวังเอาไว้ตอนแรกกับเลือกนิ่งชะงักค้างไม่ไปไหนยิ่งไม่ต้องพูดถึงหัวคิ้วหล่อนที่กระตุกหลายต่อหลายครั้ง
ซึ่งต้นสายปลายเหตุล้วนมาจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังจดจ้องมองมาที่หล่อน ทั้งยังมองด้วยสายตาแปลกประหลาดคล้ายไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
มองจนหล่อนเริ่มรู้สึกอดทนอดกลั้นต่อไปไม่ไหว
“คือเห็นมองมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว”
“มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“…”
“หมายถึงผม?”
“ค่ะ”
“…”
“เปล่าครับ”
“แค่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย”
“ที่เห็นคุณทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่คิด”
“…”
“หมายถึงเรื่องที่ดิฉันจับไม้กวาดกวาดพื้น?”
“ประมาณนั้น”
“…”
“แปลกตรงไหน?”
“ก็ทั้งที่เป็นคุณหนูรวยล้นฟ้า”
“ทั้งที่มีทางเลือกเยอะแยกมากมายให้เลือกเดิน”
“แต่คุณกับเลือกมาช่วยเหลือผม”
“มากวาดพื้นมาเก็บขยะให้กับคนอื่น”
“…”
“โลกนี่มันแปลกดีนะครับ”
ทราเวียรเผยรอยยิ้มปรกติธรรมดาตอบคืน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีปัญหากับแนวทางการใช้ชีวิตของหล่อน ยิ่งไม่ได้มีปัญหากับการที่ใครสักคนอยากจะทำอะไรโดยไม่เกี่ยวข้องกับสถานภาพของตน
เขาเพียงแค่อยากจะแซะกลับไปเท่านั้น
“…” เมญ่าหรี่ตามองไม่สบอารมณ์
“โลกไม่ได้แปลกสักหน่อย”
“แนวความคิดของคนต่างหากที่แปลกแยก”
“โดยเฉพาะแนวคิดเมื่อครู่ที่คุณแสดงออกมา”
“…”
“ความคิดผมมันมีปัญหาตรงไหน?”
“มีสิค่ะ!”
“มันแปลกเสียยิ่งกว่าแปลกอีก”
“แปลกจนดิฉันยังคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะหลุดออกมาจากปากของคุณ”
“แปลกตรงไหน?”
“นี่แหละคือแนวคิดของคนปรกติธรรมดา”
“ไม่ว่าใครหากมาเจอสถานการณ์เดียวกับผม”
“ล้วนต้องคิดแบบเดียวกันหมดแหละ”
ถ้อยคำของชายหนุ่มสวมแว่นไม่ได้ผิดไปจากที่พูด
แต่ในขณะเดียวกับแนวความคิดของหล่อนของคุณหนูสาวที่แสดงออกมาให้เห็นก็ไม่ได้ผิดเฉกเช่นเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายเพียงแค่คิดเห็นไปคนละแบบคนละเส้นทาง
จึงยากจะพูดคุยกันได้โดยไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน
“…” เมญ่ายังคงกล่าวต่อไม่ยอมความ
“คุณนั่นแหละที่แปลก”
“หัวสมองก็แปลกความคิดยังแปลกอีกต่างหาก”
“…”
“อีกอย่างไม่ว่าจะรวยหรือจนมันก็กวาดพื้นทำสะอาดได้ทั้งนั้น”
“คุณเอาอะไรมาตัดสินใจ”
“ว่าใครคนไหนสมควรกวาดพื้น”
“ใครคนไหนสมควรนั่งมองดูคนอื่นทำงานขณะตัวเองสุขสบาย”
“คุณเอาอะไรมาตัดสินคะ?!”
ไม่มีท่วงท่ายินยอมโอนอ่อนปรากฎให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
ทั้งที่เกิดมาเป็นคุณหนูสาวมีอำนาจเหนือฟ้าอยากจะทำอะไรก็ได้ ทั้งที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีพร้อมหมดทุกสิ่งอย่างแต่แนวคิดการใช้ชีวิตกับเหมือนคนธรรมดา
ทราเวียร์ที่ได้ยินเผลอหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย
“…”
“แปลกคนจริง ๆ นั่นแหละ”
“…”
“คุณต่างหากที่แปลก”
“แปลกแล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก”
“…”
“ครับ”
“แปลกก็แปลก”
“พอใจรึยัง?”
ทราเวียร์ยิ้มพลางส่ายหน้า
แม้ว่าชายหนุ่มสวมแว่นจะยินยอมโอนอ่อนให้กับหล่อน แต่คุณหนูสาวก็ยังไม่เลิกรายังหน้าบูดเหมือนเดิมไม่มีแปรเปลี่ยนทั้งยังเหลือบมองด้วยสายตาแง่งอนอีกต่างหาก
หลังจากหยอกล้อไปตามอารมณ์เสร็จสิ้นก็ถึงเวลาต้องเร่งทำเวรให้เสร็จสิ้น อย่าลืมว่าช่วงเวลา 5 โมงเย็นเป็นต้นไปเขายังต้องไปหาใครบางคนอีก
หลังจากชายหนุ่มมุ่งหน้ากลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ กลับไปโดยไม่รู้สึกอะไรมากนักกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาไม่รู้สึกใช่ว่าอีกคนจะไม่รู้สึกตามไปด้วย
เมญ่าเริ่มไม่กล้าขยับไหนเอาแต่จมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตน
…‘ขะ เขาจะโกรธไหม?’
“…”
“ไม่โกรธหรอกมั้ง?”
“มั้งนะ”
ครุ่นคิดสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นต่อไปก็เปล่าประโยชน์
คุณหนูสาวตระกูลเอมเมอริซเลือกโยนแนวคิดไร้สาระเปล่าประโยชน์ออกจากหัวสมอง สิ่งที่หล่อนต้องกระทำในเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดก็คืองานการเบื้องหน้า
ยิ่งปล่อยผ่านปล่อยให้เนิ่นนานเข้า งานการที่ควรเสร็จสิ้นในระยะเวลาอันสั้น มันอาจลากพาไปถึงมืดถึงดึกและเมื่อมืดดึกขึ้นมาเมื่อไหร่สถานการณ์ตรงหน้า
มันอาจชวนให้รู้สึกสับสนกว่าเดิมก็ได้
…‘ต้องรีบจัดการให้เสร็จ’
“…” เมื่อตัดสินใจได้
เมญ่าเดินเข้าไปหยิบถังน้ำที่บรรจุน้ำเอาไว้เต็มเปี่ยม เตรียมเอาไปไปเติมตู้กดน้ำหน้าห้องซึ่งมันไม่ใช่งานการที่ชายหนุ่มบาดเจ็บแขนจะสามารถทำได้
เพราะฉะนั้นหล่อนเลยต้องทำแทนแต่มันก็มีปัญหาอยู่
เนื่องจากมันหนักมาก
“หนัก”
“นี่มันออกจะหนักเกินไปแล้วนะคะ”
“ให้ผมช่วย”
“คะ ค่ะ”
“…” ปากยินยอมให้ช่วยเหลือ
แต่มือยังกรอบกุมพื้นที่ส่วนใหญ่เอาไว้
จนทราเวียร์ไม่อาจแทรกแซงเข้าไปช่วยเหลือ
หัวคิ้วทั้งสองของเขาเลยขมวดเข้าหากัน
“นี่คุณ”
“อยากจะผมให้ช่วยไหมเนี่ย?”
“ถ้าไม่อยากให้ผมช่วยผมจะได้ปล่อยให้คุณยกเอง”
“ช่วยค่ะ!”
“…”
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
เมญ่าเลือกปล่อยผ่านปล่อยให้ทราเวียร์เข้ามาช่วยเหลือ
ทั้งสองต่างแบ่งพื้นที่สัดส่วนเรียบร้อยเตรียมพร้อมยกถังน้ำขนาดใหญ่มุ่งหน้าตรงไปยังตู้กดน้ำที่อยู่หน้าห้องเรียนของตนในระหว่างนั้นเองระหว่างกำลังเตรียมการ
คุณหนูสาวก็เอ่ยขึ้นมาเบาบาง
“ขอโทษค่ะ”
“…”
“ขอโทษผมทำไม?”
“ก็เรื่องเมื่อกี้ที่ดิฉันเผลอ”
“เผลอเอาความคิดของตัวเองไปยัดเยียดให้กับคุณ”
“…”
“ปล่อยผ่านไปแล้วครับ”
“อีกอย่างเรื่องเล็กน้อยพวกนั้นผมไม่เก็บมาใส่หัวสมองหรอก”
“คุณน่ะคิดมากเกินไปแล้ว”
“งะ งั้นเหรอคะ”
“…”
“ยกพร้อมกันครับ”
“ค่ะ”
“…3…2…1…”
“ยก”
“หนัก?!”
เมญ่าหัวคิ้วขมวดชนกัน
สัมผัสแรกเริ่มเลยที่สัมผัสได้คือน้ำหนักของมันช่างมากมายเหลือเกิน บวกด้วยบาดแผลตามลำแขนและลำตัวเขาเลยออกแรงได้ไม่มากนัก
เพราะฉะนั้นน้ำหนักส่วนใหญ่เลยไปตกที่คุณหนูสาวตระกูลใหญ่แทน ตลอดสถานการณ์ล้วนดำเนินไปได้ตามสะดวกไม่มีปัญหาติดขัดจนกระทั่งก่อนไปถึงจุดหมายปลายทาง
เหมือนโลกหล้าไม่ต้องการให้ทุกสิ่งอย่างมันง่ายดายเกินไป ด้วยน้ำหนักของถังน้ำบวกกับพื้นที่เปียกอยู่แล้วสองสิ่งอย่างเมื่อหลอมรวมกันจึงนำไปสู่อีกหนึ่งเหตุการณ์
มุมมองสายตาของคุณหนูสาวเกิดเอียงเอนกะทันหัน
ดวงตาหญิงสาวก็เบิกกว้างขั้นสุด
…‘พื้นมัน’
“…”
“เดี๋ยว—”
“กรี๊ด!!”
“อึก!”
ต่างฝ่ายต่างส่งเสียงร้องแตกต่างกันออกไป
เหตุการณ์ทุกสิ่งอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก รวดเร็วเกินกว่าจะตอบสนองได้ทัน ก่อนหล่อนจะล้มหัวฟาดพื้นร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาคว้าหล่อนเอาไว้ได้
และด้วยการพุ่งหน้าเข้ามาคว้าตัวหล่อนเอาไว้ จึงทำให้ใบหน้างดงามปานเทพธิดาแนบชิดติดแผงอกอีกฝ่ายยังไม่รวมเรียวแขนทั้งสองที่โอบเอวเอาไว้แนบแน่น
ตอนนี้ใบหน้าทั้งสองล้วนใกล้ยิ่งกว่าใกล้
หมับ!
“…”
“คุณ!—”
“อย่าขยับ!”
ด้วยความตกใจเมญ่าเลยพยายามผลักอีกฝ่ายไปให้พ้นทาง
ด้วยเรี่ยวแรงที่ผลักมันคือเรี่ยวแรงเต็มสิบส่วนไม่มีกักเก็บไม่มีอ่อนแรง จึงทำให้ชายหนุ่มสวมแว่นที่บาดเจ็บอยู่แล้วเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมไปอีกหลายเท่าตัว
แต่แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองกระเด็นไปตามเรี่ยวแรง ทราเวียร์กับเลือกกระทำตรงกันข้ามเขากอดรัดอีกฝ่ายแนบแน่นกว่าเดิม เนื่องจากด้านหลังเขาคือเสาปูนมากไปด้วยสิ่งของ
เกิดปล่อยให้กระเด็นไปตามเรี่ยวแรง แขนที่เต็มไปด้วยบาดแผลคงไม่พ้นต้องถูกสิ่งของปลายแหลมทั้งหลายเสียบแทงแน่นอน และผลลัพธ์ที่ตามมาคงยากจะจินตนาการ
ฉะนั้นกอดเอาไว้ดูจะเป็นทางเลือกที่่ดีที่สุด
“…” ทราเวียร์กัดปากสุดแรงกล่าวกลับไป
“อย่าพึ่งขยับไปไหน!”
“ให้ผมอยู่แบบนี้ไปก่อน”
ตอนแรกคุณหนูสาวไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
จนกระทั่งพบเห็นผ้าพันแผลที่เริ่มเปียกชุ่มไปด้วยเลือดอีกครั้ง หล่อนจึงเข้าใจได้ทันทีว่าการที่หล่อนได้กระทำลงไปตามสัญชาตญาณมันกำลังทำร้ายผู้มีพระคุณของตัวเอง
พอรู้แบบนั้นแล้วอาการต่อต้านทั้งหมดล้วนจางหายไม่มีหลงเหลือ
แม้รอยเลือดจะเล็กน้อยแต่มันก็คือผลจากการกระทำของหล่อน
“…” แววตาหล่อนเจือปนไปด้วยห้วงความรู้สึกผิด
ก่อนยินยอมโอนอ่อนง่ายดาย
“ค่ะ”
ทั้งสองต่างอยู่ในท่าเดิมซึ่งเป็นท่วงท่าโอนกอดซึ่งกันและกัน
ผ่านพ้นไปเกือบนาที ในที่สุดสีหน้าชายหนุ่มที่ซีดเซียวแอบแฝงไปด้วยความเจ็บปวดมากมายก็เริ่มเบาบางเขาเริ่มเปิดฝ่ายทอดถอนตัวเองออกมา
ก่อนปล่อยให้อิสตรีในอ้อมแขนเป็นอิสระ แน่นอนว่ากระบวนดังกล่าวหาใช่เกิดขึ้นรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแต่มันเชื่องช้ากว่านั่นมาก
แต่คุณหนูสาวก็หาได้บ่นว่ากล่าวตักเตือน
มีเพียงสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยเท่านั้นในตอนนี้
“เป็นเพราะดิฉัน”
“…”
“เล็กน้อยครับ”
“อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอ”
“ผมก็แค่”
“ดวงซวยกว่าชาวบ้าน”
ทราเวียร์ตอบพลางส่ายหน้าไม่เอาความ
หากเขาไปเอาผิดหล่อนทั้งที่หล่อนคอยออกหน้าช่วยเหลือทำสิ่งที่หล่อนไม่จำเป็นต้องทำด้วยซ้ำ เกรงว่านอกจากไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมันอาจทำให้ย่ำแย่หนักกว่าเดิมอีก
เมญ่าลอบกัดปากตัวเองเข้าไปหยิบกวาดไม้ของเขา
“…”
“ดิฉันจะจัดการส่วนที่เหลือให้”
“คุณไปนั่งพักเถอะค่ะ”
หลังจากกล่าวเสร็จสิ้นครบถ้วนกระบวนความ
คุณหนูสาวก็ละจากไปปล่อยให้ทราเวียร์ยืนนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น
แม้จะผ่านพ้นไปแล้วแต่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมอง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คุณหนูสาวอย่างหล่อนได้ใกล้ชิดกับใครสักคนขนาดนี้ยิ่งคิดยิ่งนึกถึงยิ่งหวนคำนึง
ห้วงความรู้สึกแปลกประหลาดยิ่งปรากฎทิ้งร่องรอยบนจิตใจ
…‘เกือบไปแล้วไหมละ?’
“…” เมญ่ากอดแขนทั้งสองข้าง
ก่อนริ้วแดงจะปรากฎบนแก้มทั้งสอง หากใครคนอื่นมาพบเห็นคงไม่พ้นต้องตกหลุมรักหล่อนจนถอนตัวไม่ขึ้น เป็นอันน่าเสียดายที่ไม่มีใครพบเห็นอาการเมื่อครู่ของหล่อน
กระทั่งทราเวียร์เองก็ยังไม่อาจพบเห็น
“…” ริมฝีปากอวบอิ่มขบแน่น
ก่อนกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเบาบาง
ยากจะมีใครเข้าใจ
“แบบนี้”
“แบบนี้ไม่ดีเลย”
MANGA DISCUSSION