ตอนที่ 14 ห้องคหกรรมเก่า
“…”
“บังเอิญค่ะ”
“แค่บังเอิญเท่านั้น”
“บังเอิญ?”
“พูดง่ายดีนะครับ”
ทราเวียร์ยิ้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
หากหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของหล่อนก็คงต้องไปตรวจเช็คสมองก็บ้างแล้วล่ะ
หากเป็นสถานที่อื่นเขาอาจหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของหล่อน แต่ด้วยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่อยู่ในจุดมุมอับสายตาของผู้คน เป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่ถูกบูรณะขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวโดยเฉพาะ
กระทั่งคณะอาจารย์ส่วนใหญ่ยังไม่อาจล่วงรู้ด้วยซ้ำว่ามีสถานที่แห่งความลับแอบหลบซ่อนอยู่ในมุมมืดของโรงเรียน กระทั่งตัวเขาเองหากหมอสาวใบเฟิร์นไม่บอกกล่าวก็ไม่อาจล่วงรู้ว่ามีสถานที่เฉกเช่นนี้อยู่ในโรงเรียนด้วยเช่นกัน
แต่หล่อนกับออกมาบอกหน้าตาเฉยว่าบังเอิญเข้ามาพานพบเจอ ทั้งที่ตลอดระยะเวลาตลอดหลายต่อหลายเดือนเขาไม่เคยพบเห็นใครคนอื่นเข้ามาเหยียบย่าง
แต่พอหลังจากเหตุการณ์นั้น
…‘หล่อนก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นทันที’
“…”
ทราเวียร์เลือกไม่โต้ตอบเขาเพียงจัดเตรียมข้าวของ
เตรียมพร้อมสำหรับรับประทานอาหารมื้อกลางวัน มีตั้งแต่เครื่องมือขั้นพื้นฐานช้อนกับส้อม มีดหั่นเนื้อรวมถึงกระดาษทิชชู่เช็ดปาก ทุกสิ่งอย่างล้วนวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อย
ขณะกำลังจัดเตรียมข้าวของเขายังคงกล่าวเรื่อยเปื่อยไปตามอารมณ์
กล่าวไปโดยไม่มีอารมณ์ไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝง
เพียงแค่อยากจะกล่าวออกไปเท่านั้น
“ในจำนวนสถานที่เยอะแยะมากมายที่ผมเคยไปนั่งเล่นมา”
“สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
“จัดได้ว่าเป็นที่ประจำของผมเลย”
“…”
“แต่เหมือนวันนี้จะไม่ใช่ที่ของผมแค่คนเดียว”
“นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย”
“น่าเสียดายมาก”
“…” เมญ่ายิ้มพยักหน้าเห็นด้วย
“เห็นด้วยค่ะ”
“หากเทียบที่นี่กับที่อื่นที่นี่ดีกว่าเยอะ”
“ดีจนไม่กล้าเอามาเปรียบเทียบ”
เมญ่ายิ้มขณะกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ
เมื่อเทียบที่นี่กับสถานที่อื่นสถานที่ที่หล่อนเคยไปนั่งเล่นฆ่าเวลาในช่วงเวลาพักกลางวัน สถานที่ตรงหน้าดีกว่าเยอะไม่มีใครคนอื่นมายุ่งวุ่นวายไม่มีกระทั่งสายตาจดจ้องมอง
ไม่มีอะไรเลยนอกจากคนสองคนในห้องเปล่าเปลี่ยว
…‘ดีจนเทียบไม่ติด’
“…”
“หายากนะคะ”
“ที่จะเห็นใครสักคนเอาข้าวกล่องมาโรงเรียน”
“ดิฉันพึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก”
เมญ่าเหลือบมองไปยังข้าวกล่องเบื้องหน้า
ส่วนใหญ่ที่คุณหนูสาวพบเห็นล้วนเป็นนักเรียนหญิงสาวเสียเป็นส่วนใหญ่ที่จะเอาข้าวกล่องมาทานอาหารที่โรงเรียน ส่วนผู้ชายที่เอาข้าวกล่องมาหล่อนพึ่งจะเคยพบเจอ
ทราเวียร์ตอบขณะใช้มีดหั่นเนื้อหมู
“…” หั่นไปด้วยตอบคำถามไปด้วย
“แปลกเหรอครับ?”
“จะว่าแปลกก็แปลก”
“…”
“แค่ประหลาดใจนิดหน่อยค่ะ”
“ยิ่งเป็นผู้ชายแบบคุณด้วย”
“ผู้ชายแบบผมมันทำไม?”
“…”
“ก่อนจะกล่าวถึงผม”
“คุณควรจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนนะ”
“คะ?”
“ขนมปังที่อยู่ในมือของคุณไง?”
“ขนมปังของดิฉันมันทำไม?”
เมญ่ากะพริบตามองขนมปังในมือ
แน่นอนว่าสำหรับหล่อนคงไม่ครุ่นคิดอะไรให้มากความ แต่สำหรับคนนอกอย่างเขาที่พบเห็นคุณหนูสาวหยิบขนมปังราคาถูกกัดกินอย่างเอร็ดอร่อยมันช่างเป็นอะไรที่
ยากจะทำความเข้าใจเสียจริง
…‘คุณหนูสาวกับขนมปัง?’
“…”
“เปล่าครับแค่”
“…” หลังจากช่างใจอยู่นาน
เขาก็เลือกเปลี่ยนถ้อยคำของตัวเองให้เบาบางลง
“ช่างเถอะ”
“แค่อยากจะบอกว่า”
“ทานขนมปังเป็นอาหารหลักระวังจะขาดสารอาหารนะครับ”
“…” เมญ่านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนร้องถามกลับมา
“รู้ด้วยเหรอคะว่าดิฉันชอบทานขนมปังเป็นหลัก?”
“…”
“ทำไมถึงคิดว่าผมจะไม่รู้ล่ะครับ”
“ขอแค่มีตาสักหน่อยก็น่าจะรู้ครับ”
“อีกอย่างข้อมูลสาวงามอันดับ 1 ของโรงเรียนไม่ว่าจะเล็กน้อยขนาดไหน”
“ผู้คนล้วนอยากได้กันหมดแหละ”
“อย่าว่าแต่เรื่องขนมปังที่อยู่ในมือของคุณเลย”
“ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนขอแค่คุณแสดงออกมาให้เห็น”
“ข่าวสารย่อมแพร่กระจายรวดเร็วเหมือนกับโยนหินลงน้ำ”
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่คำกล่าวอ้างไร้สาระจับต้องไม่ได้
ในบรรดาเหล่าผู้ที่คอยจับตามองคุณหนูสาว ยังมีคนบางจำพวกที่เป็นแฟนคลับเดนตายคนที่พยายามเก็บรวบรวมข้อมูลของหล่อนไม่ว่าจะเล็กน้อยขนาดไหน
เรื่องที่หล่อนนิยมชมชอบขนมปังราคาถูกมากกว่าข้าวจานในโรงอาหารก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ใครคนอื่นล่วงรู้มาตลอดกระทั่งตัวเขาที่ไม่เคยคิดยุ่งเกี่ยวยังรู้เลย
เนื่องจากประเด็นนี้เคยถูกหยิบยกมาถกเถียงหลายต่อหลายครั้ง
…‘ถ้าเป็นเราคงอึดอัดแย่’
“…”
“เป็นคนดังนี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย”
“จริงค่ะ”
เมญ่ายิ้มหัวเราะตอบกลับขณะแววตายังเหมือนเดิมไม่มีแปรเปลี่ยน
หลังจากยิ้มหัวเสร็จสิ้น
บทสนทนาหมดสิ้นไม่มีหลงเหลือไม่มีอะไรให้กล่าวเพิ่มเติม หากแต่หล่อนไม่อาจปล่อยผ่านปล่อยให้บรรยากาศนิ่งเงียบได้หล่อนจึงพยายามหาหยิบเอาหัวข้ออื่นเข้ามาพูดคุย
สุดท้ายปลายหล่อนก็หวนคืนกลับมาเล่นประเด็นข้าวกล่องอีกครั้ง
“…” เมญ่ากล่าวขณะกัดขนมปังไปพลาง
“ดิฉันไม่เข้าใจ”
“ทำไมคุณต้องเหนื่อยทำอาหารเองทั้งที่ก็ซื้อกินจากข้างนอกเอาก็ได้”
“ถ้าเป็นดิฉัน”
“ดิฉันเลือกซื้อกินดีกว่า”
“ประหยัดแถมยังสะดวกกว่าด้วย”
“…”
“เหตุผลต่างกันครับ”
“กล่าวสำหรับผมแล้วอาหารในโรงอาหารมันไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไหร่”
“อีกอย่างเราจะเสียเงินซื้อข้าวปลาไปทำไม?”
“ในเมื่อตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน”
“…” ทราเวียร์ยัดเนื้อเข้าไปในปาก
“นอกจากปลอดภัยยังประหยัดกว่าที่ซื้อกินอีก”
“เป็นแนวคิดที่น้อยคนจะคิดได้”
“อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ดิฉัน”
เมญ่าเผยรอยยิ้มแห้งทำอะไรไม่ถูกออกมา
เนิ่นนานแค่ไหนแล้วที่หล่อนไม่ได้หยิบจับเครื่องมือเข้าครัวทำอาหารกินเอง อาจหลายต่อหลายเดือนหรืออาจนานหลายต่อหลายปีก็ได้
พอมาพบเห็นทราเวียร์มาเห็นเขานั่งรับประทานอาหารกลางวันฝีมือตัวเอง หล่อนก็เริ่มเกิดแนวความคิดอยากลองเอาเองบ้างเหมือนกัน
ยิ่งมองยิ่งอยากหนักหน่วงเข้าไปใหญ่
…‘ดูน่ากินมาก’
“…”
“เทียบกันแล้ว”
“ขนมปังกับข้าวกล่อง”
“…” เมญ่าก้มมองขนมปังในมือ
ยิ่งเปรียบเทียบยิ่งรู้สึกด้อยค่าหนักหน่วงเข้าไปใหญ่
ขนมปังที่เคยหอมอร่อยตอนนี้กับไม่เพียงพอต่อความต้องการของหล่อนอีกต่อไป ช่วงจังหวะเวลานี้สายตาคู่งามล้วนจับจ้องมองอยู่ที่เดียว
นั่นก็คือข้าวกล่องของบุรุษเพศเบื้องหน้า
…‘น่ากิน’
“…”
เมญ่าสาวงามยอดเยี่ยมลอบกัดปากตัวเอง
พยายามเปลี่ยนเรื่องกันไม่ให้ตัวเองจมจ่อมไปกับกลิ่นหอมอร่อย ผิดกับชายหนุ่มสวมแว่นอีกฝ่ายหาได้สนใจกระทั่งเงยหน้ามองคู่สนทนาเขายังขี้คร้านจะทำด้วยซ้ำ
ซึ่งหญิงสาวก็หาได้เปิดปากว่ากล่าวเอาเข้าจริงต้องขอบคุณเขาที่ไม่เงยหน้ามอง ไม่งั้นคงได้พบเห็นสีหน้าแปลกประหลาดของหล่อนเป็นแน่
“คือ” หล่อนเปิดปากถามกลับไป
“มันประหยัดจริงเหรอ?”
“ประหยัดครับ”
“อย่างน้อยที่สุดก็ในความคิดของผม”
ทราเวียร์เก็บกวาดทุกสิ่งอย่างบนโต๊ะ
ก่อนลุกเดินเอาอุปกรณ์ส่วนตัวทั้งหลายไปล้างทำความสะอาด ด้วยเพราะเป็นห้องคหกรรมเก่าที่ถูกบูรณะมาเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวทุกสิ่งอย่างเลยยังใช้งานได้ตามปรกติ
ระหว่างทราเวียร์กำลังล้างทำความสะอาดกล่องข้าว คุณหนูสาวในชุดนักเรียนไม่พลาดมองเก็บรายละเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดคล้ายกลัวว่าจะพลาดรายละเอียดสำคัญ
แน่นอนว่าชายหนุ่มสวมแว่นก็เลือกปล่อยผ่านเมินเฉยตามเดิม
“…” หล่อนอยากทำอะไรก็เชิญกระทำได้ตามสบาย
ขอแค่ไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเขาเป็นพอ
“ล้างกล่องเองด้วย”
“สุดยอด”
เมญ่ายิ้มพยักหน้าคล้ายพบเห็นสิ่งแปลกใหม่
ชายหนุ่มสวมแว่นเพียงทำในสิ่งที่ตนต้องกระทำไปตามปรกติธรรมดา ไม่มีเหลือบมองหรือหันมาให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อยราวกับหล่อนเป็นเพียงอากาศธาตุ
ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณหนูสาวแปลกประหลาดใจยังไม่หมดสิ้น ยังมีอย่างอื่นเพิ่มเติมอีกเนื่องจากทราเวียร์เลือกก้าวเท้าเดินไปหยิบจับหนังสือหยิบจับมันออกมาพร้อมกับสมุด
หยิบทั้งสองสิ่งอย่างออกมาจากชั้นวางหนังสือก่อนย่างเท้าก้าวเข้ามานั่งเบื้องหน้าหล่อนพร้อมลงมือกระทำขั้นตอนสุดท้าย
มือล้วงปากกาขึ้นมาก่อนเปิดสมุดหนังสือ
“…” เมญ่าร้องถามด้วยความสงสัย
“งานค้าง?”
“ไม่ใช่ครับ”
“หรือว่างานคนอื่น?”
“…”
“อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น?”
ทราเวียร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ถามกลับไปยังคุณหนูสาวผู้เปิดฉากเปิดประเด็นดังกล่าวขึ้นมา
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้หล่อนครุ่นคิดไปเป็นแบบนั้นได้ จะด้วยข่าวลือที่หล่อนได้รับมาด้วยกรรมวิธีบางอย่าง หรือจะเป็นการประเมินส่วนตัวครุ่นคิดไปเอง
ไม่ว่าจะด้วยทิศทางแนวคิดแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงการคาดการณ์ผิดหลักผิดแนวทั้งยังห่างไกลไปจากความเป็นจริงยิ่งนัก ทราเวียร์ถอนหายใจส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย
คุณหนูสาวกะพริบตามองด้วยแววตาสีฟ้าคู่งาม
…‘ไม่ใช่เหรอ?’
“…”
“การบ้านครับ”
“นั่งทำการบ้านในช่วงเวลาพักกลางวัน?”
รอยยิ้มแห้งปรากฏบนใบหน้าสาวงามอันดับหนึ่งของโรงเรียน
ไอ้ที่หล่อนครุ่นคิดเอาไว้ ว่าเป็นการโยนงานอาศัยกำลังบีบบังคับให้จำยอม ดันผิดพลาดไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงทั้งยังห่างไกลชนิดที่ว่าไปคนละเส้นทางกันเลย
ว่าแต่การบ้านที่ควรนำกลับไปทำที่บ้านตามชื่อ
เขากับเลือกมานั่งทำในสถานที่ห่างไกล
“…” เมญ่ารู้สึกแปลกประหลาดมากที่เห็นอีกฝ่ายเอางานเอาการ
กระทั่งตัวหล่อนเองยังไม่ขยันถึงขนาดนี้ด้วยซ้ำ
“เหลือเชื่อ”
“ทำไมไม่เอาเวลาว่างไปพักเหมือนกับใครคนอื่นเขาล่ะคะ?”
“…”
“คนอื่นที่ว่านี่หมายถึงใครครับ?”
“ก็บรรดาเพื่อนของคุณ”
“เพื่อนร่วมห้อง เพื่อนสนิท หรือเพื่อนต่างเพศ”
“เพื่อน”
ทราเวียร์ชะงักนิ่งแข็งค้างไปครู่หนึ่ง
แม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาเพียงพริบตาเดียว รวดเร็วเกินกว่าจะจับจ้องได้ทันแต่หญิงสาวผู้งดงามกับสังเกตเห็นสังเกตเห็นอาการแปลกประหลาดที่อีกฝ่ายแสดงออกมา
เมญ่าถึงกับสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที
“…” เหมือนตัวเองจะเผลอเหยียบกับระเบิดเข้าให้อย่างจัง
“หรือว่าดิฉันพูดอะไรผิดไป?”
“ไม่ครับ”
“ไม่มีเลย”
ทราเวียร์เพียงส่ายหน้าปฏิเสธไม่คิดต่อประเด็น
กล่าวสำหรับเขาแล้วปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่ามีหรือไม่มีปัญหา ต่อให้มีจริงเขาก็ไม่คิดเปิดเผยให้อีกฝ่ายได้ล่วงรู้ เรื่องบางเรื่องปัญหาบางปัญหา
สมควรเก็บนิ่งเงียบไว้กับตนเป็นการดีที่สุด ดีกว่าเอาไปเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นเอาไปเปิดเผยกับใครคนอื่นโดยเฉพาะกับอิสตรีเบื้องหน้า
ทราเวียร์เงยหน้ามองหญิงสาวผู้งดงามปานเทพธิดา
ก่อนเลือกตัดเข้าประเด็นทันที
“แล้วมีธุระอะไรรึเปล่าครับ?”
“…”
“ไม่มีมาไม่ได้?”
“มาได้สิครับ”
“เพียงแต่ว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นหรือธุระเป็นกิจลักษณะ”
“ไม่ต้องมาจะดีกว่าครับ”
“ไม่ต้องมาแหละดีแล้ว”
“…”
“ออกปากไล่กันแบบนี้ดิฉันน้อยใจนะคะ”
“ไม่ได้ไล่ครับ”
“แค่ทำให้อะไรมันชัดเจนขึ้นก็เท่านั้น”
“…” เมญ่ากะพริบตามอง
ภายใต้แววตาราบเรียบไม่มีอารมณ์อื่นแอบแฝง ถ้อยคำทั้งหมดที่ออกมาจากปากชายหนุ่มสวมแว่นล้วนแล้วแต่เป็นความจริง ไม่มีส่วนเพิ่มเติมเสริมเติมแต่งเลยแม้แต่น้อย
ทั้งที่ปรกติธรรมดาหากเป็นใครคนอื่นโดยเฉพาะกับผู้ชายอายุไล่เลี่ยกัน หากได้พานพบเห็นได้พูดคุยกับหล่อนล้วนเป็นอันต้องหวั่นไหวจนทำอะไรไม่ถูก
แต่อีกฝ่ายกับเลือกนิ่งเงียบเลือกเมินเฉย
ทั้งยังแสดงออกให้เห็นชัดเจนว่ารำคาญหล่อนอย่างแท้จริง
…‘เป็นผู้ชายที่แปลกประหลาดเหลือเกิน’
“…” เอาเถอะในเมื่ออยากให้เข้าประเด็น
หล่อนก็พร้อมตอบสนองให้
“เข้าประเด็นรวดเร็วแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ”
“จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย”
“งั้นดิฉันขออนุญาตค่ะ”
หลังจากสาวงามกล่าวจบครบถ้วนกระบวนความ
หล่อนก็เลือกพุ่งฝ่ามือขาวเนียนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
พุ่งเข้าไปคว้าจับแขนของชายหนุ่มเบื้องหน้า คว้าจับแขนข้างที่ถูกพันแผลเอาไว้แนบแน่นนอกจากคว้าจับเรียบร้อยหล่อนยังเลิกเสื้อกันหนาวขึ้นสูง
ก่อนพบเห็นผ้าพันแผลพันยาวตั้งแต่ฝ่ามือจนไปถึงข้อศอกและอาจยาวไปถึงหัวไหล่ นอกจากผ้าพันแผลที่พบเห็นยังมีรอยเลือดประดับเยอะแยะเต็มไปหมด
บ่งบอกว่าแผลยังคงสดใหม่ยังไม่ทันหายดีด้วยซ้ำ
“…” แววตาหญิงสาวออกอาการหวั่นไหว
ก่อนกล่าวพึมพำกับตัวเอง
“อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด”
“บาดแผลใหญ่โตขนาดนี้คุณไปได้มาจากไหน?”
“ไม่สิ ดิฉันขอเปลี่ยนคำถาม”
แววตาเมญ่าแปรเปลี่ยนกลายเป็นจริงจังขั้นสุด
ละทิ้งท่วงท่าหยอกล้อทั้งหมด ก่อนเลือกกล่าวถามตามตรง กล่าวถามโดยไม่คิดกักเก็บความในใจแน่นอนทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจุดประสงค์เดียวเพื่อยืนยันว่าเป็นเขาไม่ใช่คนอื่น
เป็นเขาคนที่เลือกช่วยเหลือหล่อนจนมีสภาพบาดเจ็บเฉกเช่นนี้
“…” แววตาแน่วแน่จดจ้องมองไปที่ทราเวียร์
ก่อนคำถามจะถูกส่งมอบให้กับอีกฝ่าย
“เป็นคุณใช่ไหม?”
“คนที่ช่วยเหลือดิฉันในตอนแรกสุด”
MANGA DISCUSSION