เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ - ตอนที่ 13 เป็นคุณอีกแล้ว
ตอนที่ 13 เป็นคุณอีกแล้ว
คำกล่าวสวนทางกับแววตาที่แสดงออกมาให้เห็น
ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนาน เป็นมาตั้งแต่ตอนมัธยมต้นเป็นมาตั้งแต่ยังไม่ย้ายมายังโรงเรียนสถานที่แห่งนี้หล่อนจึงเข้าใจได้เต็มสิบส่วนว่าอีกฝ่ายมีเรื่องให้คิด
ทั้งยังเป็นเรื่องสำคัญมากอีกต่างหาก
“…” เพื่อนสาวยิ้มหัวเราะเบาบาง
ขณะกล่าวหยอกล้อกลับไป
“ถ้าเป็นแค่เรื่องไม่เป็นเรื่องเธอคงไม่ทำหน้าแบบนั้นหรอก”
“หน้าแบบไหนที่ฉันแสดงออกมา?”
“เหมือนคนกำลังหาเงินจ่ายหนี้”
“แบบนี้ไง”
เพื่อนสาวยื่นหน้าเข้าไปใกล้
ต้องบอกว่าพรสวรรค์ด้านการแสดงของเพื่อนสาวช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก มากจนนุชที่กำลังจดจ้องมองถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเนื่องจากใบหน้าที่แสดงออกมา
มันคือใบหน้าของพวกติดเงินขี้พนันอย่างแท้จริง
“…”
“คึ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ทำท่าอะไรของเธอเนี่ย”
“ฉันพูดจริงนะ”
“ไม่เชื่อถามคนอื่นได้”
“เชื่อแล้วฉันยอมเชื่อก็ได้”
“เพราะฉะนั้นขอร้องล่ะ”
“เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที”
“เธออยากให้ฉันหัวเราะขาดใจตายเหรอ?”
“…”
“น่าหัวเราะตรงไหน?”
นุชลอบกัดริมฝีปากพร้อมเหลือบมองด้วยค้อนเล็กน้อย
พอพบเห็นแววตาค้อนจับจ้องมอง เพื่อนสาวเพียงยิ้มหัวเราะเบาบางก่อนรอยยิ้มทั้งหมดจะหวนคืนกลับสู่สภาพเดิมแววตากลายเป็นแววตาเป็นห่วงเป็นใยขั้นสุด
ก่อนกล่าวถามนุชด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“…”
“แล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง?”
“…”
“ก็อย่างที่บอก”
“แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“…” เพื่อนสาวเพียงจับฝ่ามืออีกฝ่ายเอาไว้
หวังว่าความอบอุ่นความเป็นห่วงเป็นใยที่อยู่ในห้วงจิตใจของหล่อนจะสามารถส่งผ่านมอบไปให้อีกฝ่ายหวังให้เพื่อนสาวสุดที่รักของตนรับรู้ว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียว
แต่ยังมีเธออยู่เคียงข้างกาย
“…” นุชกระชับฝ่ามือแน่น
ก่อนกล่าวตอบเบาบาง
“ฉัน”
“ฉันว่าฉันเจอหน้าคนรู้จักเข้า”
“…”
“คนรู้จักแบบไหน?”
“หญิงหรือว่าชาย?”
“…”
“เป็นผู้ชาย”
“แถมยังเป็นคนที่ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก”
แววตาหล่อนเลือนลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง
ทำเอาเพื่อนสาวที่พบเห็นมึนงงสับสนหนักหน่วงหนักแน่นกว่าเดิมไปอีกหลายเท่าตัว สุดท้ายปลายทางก็ทำได้แค่ทอดถอนหายใจเลือกปล่อยผ่านไปตามระเบียบ
ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก
เป็นห้องเรียนของทราเวียร์ห้องเรียนที่อัดแน่นไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะของชายหนุ่มหญิงสาวทั้งหลาย เขาล้วงมือไปหยิบข้าวกล่องของตัวเองขึ้นมาเตรียมพร้อมย้ายที่
ย้ายออกไปหาพื้นที่สงบเหมาะสำหรับพักทานอาหารกลางวัน
…‘เราเองก็ไปมั้งดีกว่า’
“…” ทราเวียร์ลุกขึ้นยืน
พร้อมหยิบข้าวกล่องก่อนก้าวเท้าออกจากห้อง
ตามเส้นทางระหว่างทางเดินมีผู้คนไม่น้อยที่จับจ้องมองทราเวียร์ ไม่สิต้องบอกว่าจับจ้องมองมาที่ข้าวกล่องในมือเขาต่างหาก เนื่องจากข้าวกล่องทำเองค่อนข้างเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งในโรงเรียน และด้วยเพราะหายากจึงเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนอื่นได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่ามีหญิงสาวบางกลุ่มที่เปิดปากซุบซิบนินทาให้ได้ยิน
“…”
“เอาข้าวกล่องมาด้วย”
“น่ารักอะ”
“ครั้งหน้าฉันเอาบ้างดีกว่า”
เหล่าหญิงสาวทั้งหลายต่างยิ้มหัวเราะสนุกสนานนินทาสนุกปาก
หลังจากผ่านพ้นสายตาเหล่านักเรียนขี้สงสัย ชายหนุ่มสวมแว่นที่เคยเดินตรงมาตลอดก็เริ่มแนบชิดติดกำแพงก่อนลมหายใจจะเริ่มถี่ขึ้นเริ่มหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด
ตามโครงหน้าของเขาในตอนนี้มีแต่เม็ดเหงื่อเกาะเต็มไปหมด นอกจากเม็ดเหงื่อที่เกาะตามใบหน้า นอกจากสภาพภายนอกที่ดูย่ำแย่จนเกือบหมดสติทุกเมื่อตลอดเวลา
ความเจ็บปวดตามบาดแผลยังเพิ่มเติมเพิ่มพูนไปอีกหลายเท่าตัว ไม่ต้องบอกหรือครุ่นคิดให้เหนื่อยเปล่า ต้นสายปลายเหตุก็มาจากเมญ่าที่พุ่งกระแทกเขาทั้งยังคว้าจับแขนในตอนท้ายสุด ซึ่งผลลัพธ์จากการกระทำบาดแผลคงไม่พ้นต้องฉีกขาด
ส่วนจะใหญ่หนักหนาขนาดไหนคงต้องไปรอตรวจตอนเย็นแทน ถ้าหากใบเฟิร์นไม่ติดธุระจนหายตัวไม่อยู่โรงเรียนเขาคงมุ่งหน้าไปหาหล่อนทันที
น่าเสียดายโอกาสไม่เป็นใจจำต้องรอคอยตอนเย็นอย่างเดียว
…‘เจ็บ!’
“…”
“อึก!”
“ฝีมือหล่อนอีกแล้ว”
“เมื่อไหร่จะถึงตอนเย็นวะ” ทราเวียร์ลอบกัดปากตัวเองแน่น
พยายามข่มความเจ็บปวดที่กำลังพุ่งทะยานแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
หลังจากพยายามก้าวเท้าอยู่นานในที่สุดชายหนุ่มสวมแว่นก็มาถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นสถานที่เพียงหนึ่งเดียวที่เขาพักทานอาหารนานนับเดือนนับตั้งแต่ที่เข้าเรียน
แต่เหมือนวันนี้จะแปลกแยกออกไป
…‘มีใครคนอื่นอยู่ในห้อง?’
“…” แววตาหรี่มองผ้าเช็ดเท้าที่ไม่คิดอยู่มุมเดิม
“เป็นใครที่แอบเข้ามา”
“นี่มันห้องคหกรรมเก่านะ”
“ไม่น่าจะมีใครรู้จัก” หัวคิ้วชายหนุ่มเริ่มขมวดเข้าหากัน
ทุกครั้งที่เขาเข้ามาในห้องหรือออกไปจากห้องล้วนวางผ้าเช็ดเท้าในรูปแบบเดิมตลอด นั่นก็เพื่อตรวจเช็ดว่ามีใครคนอื่นเข้ามายุ่งวุ่นวายกับสถานที่ส่วนตัวของเขารึเปล่า
นอกจากผ้าเช็ดเท้าที่ขยับไม่ได้มุมไม่ได้สัดส่วน ยังมีเสียงขยับสิ่งของเล็กน้อยตามมาไม่ขาดสาย หลักฐานบ่งบอกชัดเจนว่ามีใครคนอื่นอยู่ในห้อง
ทราเวียร์เลือกนิ่งเงียบช่างใจกับตัวเอง
…‘เข้าหรือไม่เข้า?’
“…”
หลังจากไตร่ตรองอยู่นาน
ในที่สุดชายหนุ่มสวมแว่นก็พ่ายแพ้ให้กับความอยากรู้อยากเห็นของตน เขาเลือกเปิดประตูเปิดเข้าไปในห้อง หวังดูว่าเป็นใครหน้าไหนที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของตน
และแล้วคำตอบที่ต้องการก็ปรากฏให้เห็น ทั้งยังปรากฏให้เห็นเบื้องหน้าเต็มสองตา สิ่งแรกเริ่มที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกเลยคือแววตาคู่งามมาพร้อมเรือนร่างอันเป็นเอกลักษณ์
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโครงหน้าที่คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้น
“…” ใบหน้าทราเวียร์นิ่งแข็งค้าง
ก่อนอีกฝ่ายจะเปิดปากทักทายเขา
ทักทายด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้”
“สวัสดีอีกครั้งค่ะ”
“คุณนักเรียน” หล่อนเปิดเผยรอยยิ้มงดงามทรงเสน่ห์ต้อนรับทราเวียร์
และก็เป็นไปอย่างที่ครุ่นคิดเอาไว้ไม่มีผิดผู้บุกรุกครั้งนี้เป็นอิสตรีผู้งดงามปานเทพธิดา
ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยชื่อเสียงและเบื้องหลังอันยอดเยี่ยมเกินกว่ามนุษย์ปรกติธรรมดาจะเข้าถึง แต่ตอนนี้ ณ ห้วงจังหวะเวลานี้หล่อนกับมาปรากฏให้เขาเห็นอีกครั้ง
นอกจากปรากฏให้เห็นยังกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ไม่มีสะดุดหรือเกิดห้วงรู้สึกผิดแปลกเข้ามาแทรกแซงคล้ายรับรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใครคนไหน
เหมือนเป็นหล่อนที่กำลังรอคอยเขาให้ปรากฏตัว
ดูท่าเขาจะอยู่ในกำมือหล่อนเสียแล้ว
…‘ให้มันได้อย่างงี้สิ’
“…”
“เป็นคุณอีกแล้ว”
หัวคิ้วชายหนุ่มสวมแว่นขมวดเข้าหากัน
ห้องคหกรรมสถานที่รับประทานอาหารส่วนตัวของเขา จัดได้ว่าเป็นสถานที่ร้างห่างไกลจากผู้คนกระทั่งมดตัวเดียวยังไม่มีปรากฎให้เห็นแต่ตอนนี้ช่วงจังหวะเวลานี้
กับมีแขกอื่นปรากฏตัวย่างเท้าก้าวเข้ามา อีกทั้งคนที่ย่างเท้าก้าวเข้ามายังเป็นสาวอันดับหนึ่งของโรงเรียนเป็นคุณหนูสาวผู้เปี่ยมไปด้วยหน้าตาและชื่อเสียงยอดเยี่ยม
แววตาหล่อนเหลือบมองไปทั่วทั้งตัว
“…”
“สวัสดีครับ”
“แปลกใจรึเปล่าคะที่เห็นหน้าดิฉัน?”
“…”
“แปลกใจสิครับ”
“บอกว่าแปลกใจแต่สีหน้าคุณไม่เปลี่ยนเลยนิ”
“แปลกใจจริงหรือหลอก?”
“แล้วแต่คุณจะคิดครับ”
“…” แววตาราบเรียบไม่ได้ทำให้หล่อนตื่นตระหนกตกใจ
หล่อนเพียงเคลื่อนสายตาย้ายไปยังข้าวกล่องในมืออีกฝ่าย มองด้วยแววตาแปลกประหลาดคล้ายกำลังพบเห็นอะไรที่มันเหนือล้ำเกินกว่าจะจินตนาการถึง
มือชายหนุ่มย้ายข้าวกล่องหลบเลี่ยงสายตาหญิงสาว
“…” เมญ่าที่เห็นจึงกล่าวทักทันที
“ไม่ใช่ข้าวจากโรงอาหาร?”
“ข้าวกล่อง?”
“หรือว่ามาทานอาหารกลางวันที่นี่?”
เมญ่าเผยรอยยิ้มเบาบางขณะกล่าวถาม
แม้รอยยิ้มจากหญิงสาวผู้งดงามปานเทพธิดาจะยอดเยี่ยมเพียงใด หากแต่สำหรับชายหนุ่มสวมแว่นแล้วเขากับรู้สึกน่ารำคาญเหลือเกินคล้ายมดตัวเล็กตัวน้อยไต่ตามตัว
ยิ่งมองยิ่งรู้สึกคันยุบยิบ
“…” ทราเวียร์หรี่ตามอง
“ไม่ใช่ว่าคุณรู้อยู่แล้วหรอกเหรอ?”
“ถึงได้มาดักรอผมที่นี่”