เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวแสนสวย - ตอนที่ 14 เดินห้างซื้อของกับคุณหนูสาว
ตอนที่ 14 เดินห้างซื้อของกับคุณหนูสาว
ทราเวียร์กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ
กวาดสายตามองหาข้าวของจำเป็น มองหาของบางสิ่งอย่าง ที่จะมาเป็นวัตถุดิบองค์ประกอบสำหรับทำอาหารมื้อเช้าของเขา ขณะกำลังเดินกวาดสายตาไปตามอารมณ์เขายังดันเข็นรถไปด้วย
เรียกได้ว่าในรถเข็นของเขาตอนนี้ล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยเครื่องเทศมากมาย มีแต่ของสำหรับประกอบทำอาหาร ไม่มีขนมทานเล่นติดกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว
คุณหนูสาวหรี่ตามองเขาเหมือนเป็นคนประหลาด
“…”
ก่อนจะเหลือบมองไปชั้นวางขนม
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินยอมหยิบขนมทานเล่นติดมือกลับบ้าน งั้นหล่อนในฐานะคุณหนูสาวผู้นิยมชมชอบช่วยเหลือผู้อื่นคงไม่พ้นต้องหยิบขนมติดมือกลับไปแทนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รอยยิ้มหอมหวานปรากฏบนใบหน้า
“…”
“อือ~”
“…”
ขณะหยิบถุงขนมหลายต่อหลายถุงใส่ตะกร้า
ดวงตาคู่งามก็พลันกะพริบตามองด้วยความสงสัยใคร่รู้ยากจะหักห้ามต่อไปได้ไหว สุดท้ายปลายทางด้วยความสงสัยที่มันเกินเลยเกินควร คุณหนูสาวก็เลือกเปิดปากกล่าวถามออกไปตามตรง
ถามออกไปว่ามื้อเช้าที่เขาต้องการทำด้วยมือตัวเองมันคืออะไรกันแน่
“…”
“ว่าแต่จะทำอะไรเหรอคะ?”
“…”
“อาหารมื้อเช้าที่คุณต้องการจะทำ?”
“…”
“คุณคะ?”
“…”
“โจ๊กหมู”
“…”
“โจ๊กหมู?”
คุณหนูสาวเมญ่าเอียงคอมองของในรถเข็นอีกฝ่าย
บอกกล่าวตามตรงเธอค่อนข้างรู้สึกแปลกใจอยู่พอสมควร ที่อีกฝ่ายดันทำอาหารกินเองเป็นประจำ มองจากภายนอกอย่างเดียวน่าจะเป็นพวกกินแต่อาหารแช่แข็งเสียมากกว่า
แต่เรื่องพวกนั้นช่างมันเถอะ ยังมีเรื่องอื่นอีกที่ต้องจัดการ คุณหนูสาวไม่มีรีรอรอช้าเริ่มกล่าวถามประเด็นต่อไปทันที นั้นก็คือข้าวกล่องของเธอที่เตรียมการเอาไว้ให้ เกิดเขาไม่ยอมทานขึ้นมา
งั้นข้าวกล่องที่ว่าจะต้องจัดการยังไงต่อ จะทิ้งหรือให้เก็บ
“…”
“แล้วข้าวกล่องที่ดิฉันเตรียมมา”
“…”
“จะให้ทำยังไง?”
“แล้วแต่เลยครับ”
“อยากทำอะไรก็เรื่องของคุณ”
“ไม่ใช่เรื่องของผม”
“…”
“หรือจะต้องให้ผมช่วยคิดให้?”
“…”
“คือ ดิฉันจัดการเองได้ค่ะ”
คุณหนูสาวเมญ่าขบริมฝีปากตัวเองแน่น
ขณะในห้วงจิตใจล้วนรู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่ได้ทำลงไป
ข้าวกล่องที่หล่อนร้องขอให้เมดสาวจัดการหวังเอามาให้เขา กับเป็นอันต้องล้มเลิกไปกลางคัน เอาเถอะเรื่องนี้จะโทษอีกฝ่ายก็ไม่ได้ เพราะเป็นฝ่ายเธอเองที่ทำอะไรตามใจชอบเอง
ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นความผิดของหล่อนก็เถอะแต่ว่านะ
“…”
“เฮ้อ!~”
“…”
…‘จะไม่เย็นชาไปหน่อยเหรอ’
“…”
—
ในระหว่างกำลังเดินเลือกซื้อของ
หญิงสาวแสนสวยดูจะไม่ได้สนใจสิ่งของอื่นในตะกร้าเท่าที่ควร เรียกได้ว่าห้วงสมาธิ สตินึกคิดทั้งหมดล้วนจดจ่ออยู่กับสภาพแวดล้อมรอบกาย จดจ่ออยู่กับบรรยากาศรอบตัวที่เริ่มแปรเปลี่ยน
ทั้งยังแปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่หล่อนไม่ต้องการอีกต่างหาก โดยเฉพาะกับสายตาชายหนุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหลายที่กวาดมองตลอดทั่วทั้งเรือนร่างของหล่อน กวาดมองกำเริบเสิบสานเหลือเกิน
ช่างเป็นอะไรที่ชวนให้รู้สึกขยะแขยงยิ่งนัก
“สวยจังวะ”
“อย่างกับดารา”
“หุ่นดีอีกต่างหาก”
“…”
“เข้าไปขอเบอร์ดีไหมนะ?”
“…”
“น่าลองดูเหมือนกัน~”
พ่อหนุ่มหัวทองนิสัยสันดานเจ้าชู้
เลียริมฝีปากตัวเอง ตลอดลำคอของมันคล้ายกำลังกระหายอยากบางสิ่งอย่าง ในสายตาของมันคุณหนูสาวผู้ครอบครองเรือนร่างยอดเยี่ยม ได้ตกกลายเป็นของมันไปแล้วเรียบร้อย
มันจัดแต่งเนื้อตัวให้เข้าที่ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหา
เดินเข้าไปทักทายหวังใช้เสน่ห์เข้าพิชิต
“…”
“คือว่า”
“…”
คุณหนูสาวที่เห็นอีกฝ่ายก้าวเท้าเดินเข้ามา
หล่อนเพียงมอบรอยยิ้มมารยาทขั้นพื้นฐานให้ มอบโดยไม่มีท่วงท่ายินยอมโอนอ่อนเปิดช่องว่างให้เห็น ซึ่งคงไม่ต้องบอกหรอกนะ ว่าผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางที่ออกมามันจะออกมาเป็นแบบไหน
เรียกได้ว่าสีหน้าถึงกับแปรเปลี่ยนไปในทันทีหลังจากได้ยินโต้กลับ
“…”
“ขอโทษนะคะ แต่ดิฉันมีธุระค่ะ”
“…”
เจ้าหนุ่มหัวทองพลันยิ้มแข็งค้าง
เมื่อหญิงสาวผู้ครอบครองเรือนร่างงดงามปานเทพธิดาเลือกเมินเฉยปล่อยผ่าน ปล่อยให้มันหยุดยืนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น มันที่ยังไม่ละความพยายามคิดก่อกวนหล่อนต่อก็เป็นอันต้องหยุดชะงัก
เมื่อมีสายตาใครคนหนึ่งที่กำลังจับจ้องมองจากมุมมืด แม้หัวสมองของมันจะไม่ได้ชาญฉลาดมากนัก แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดกับสูงจนน่าตกใจ มันรับรู้ได้เลยทันทีว่าถ้ายังไม่เลิกรา
บางทีบางสิ่งอย่างที่เลวร้ายยิ่งกว่าอาจบุกเข้าประชิดถึงตัว
“…”
“เวร!”
“…”
สุดท้ายปลายทางก็ต้องยินยอมโอนอ่อนไปตามระเบียบ
แม้จะนึกเสียดายไม่น้อยที่พลาดเหยื่อชั้นยอดแบบนี้ไป แต่หากการเข้าหาคุณหนูสาวเบื้องหน้ามันต้องแลกมาด้วยความสุ่มเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มันเองก็รับไม่ไหวเหมือนกัน
แน่นอนว่าเหตุการณ์สถานการณ์เฉกเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวสองครั้งเท่านั้น นอกจากเจ้าหนุ่มหัวทองที่เสนอหน้ามาตอนแรก ก็ยังมีใครคนอื่นอีกเพียบที่เข้ามาหวังได้รับโอกาสยอดเยี่ยม
แต่ไม่ว่าจะใครคนไหน จะกี่ครั้งกี่ทีที่เสนอหน้าเข้ามา ทุกสิ่งอย่างก็ล้วนแล้วแต่เปล่าประโยชน์ ไม่มีใครได้รับชนะกลับไปเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความเย็นชาไม่มีเหลือบมองเท่านั้นที่ได้รับกลับไป
คุณหนูเมญ่าเผยรอยยิ้มเบาบางก่อนจะตามทราเวียร์ต่อ
“…”
—
ระหว่างกำลังหยิบของ
เดินเลือกซื้อของไปตามแบบแผนที่วางไว้
ชายหนุ่มร่างสูงทราเวียร์ก็นึกเหนื่อยหน่ายกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับตน ทั้งที่ออกปากไล่ไปตั้งแต่ตอนแรก ปฏิเสธไปก็หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายปลายทางหล่อนก็ยังตามมาเหมือนเดิม
ตามติดเสียยิ่งกว่าปลิงอีก
“…”
“เฮ้อ!~”
“…”
ขณะกำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิด
ดวงตาแหลมคมดันเหลือบไปเห็นบางสิ่งอย่างที่วางบนชั้น
ก่อนจะนึกได้ว่าน้ำปลาที่บ้านหมดพอดีเลยคิดหยิบยื่นเข้าไปคว้าจับ ซึ่งเป็นจังหวะเวลาเดียวกับที่ฝ่ามือขาวเนียนของหญิงสาวใครคนหนึ่งยื่นมือเข้าไปคว้าจับ ผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางที่ออกมา
ก็จบลงที่ฝ่ามือทั้งสองแตะสัมผัสโดยไม่มีเจตนา
“…”
“!!!”
“…”
สองสายตามองสอดผสาน
ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไม่มีใครฝ่ายใดเปิดปากบอกกล่าวออกมา ก่อนจะเป็นทราเวียร์คนแรกเริ่มเลยที่ขมวดคิ้วแน่น พยายามบอกกล่าว บอกให้คุณหนูสาวเอามือของหล่อนออกไป
ออกไปจากฝ่ามือของเขา
“…”
“เอามือออก”
“…”
“บอกให้เอามือออกไป”
“…”
“!!!”
เหมือนคุณหนูสาวจะรู้สึกตัว
ก่อนจะเปิดเผยรอยยิ้มหวานช่ำ ใครคนอื่นที่เห็นเป็นอันต้องยินยอมสยบง่ายดาย แต่ไม่ใช่สำหรับทราเวียร์เขายังคงสีหน้าเบื่อหน่ายหงุดหงิดไม่ชอบใจเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
แน่นอนว่าหล่อนไม่พลาดโอกาสที่จะกล่าวหยอกล้อกลับไป
“อะไรกันคะ? หรือว่าเขิน”
“เขิน? พูดอะไรของเธอ”
“ถ้ายังพูดไม่เข้าเรื่องอีก”
“…”
“ถ้าพูดไม่เข้าเรื่องอีก?”
“…”
“จะทำอะไรเหรอคะ?”
“…”
“น่ารำคาญจริง”
ทราเวียร์เดาะลิ้นไม่ชอบใจ
จะให้โต้เถียงกลับไปก็เปล่าประโยชน์ นอกจากเปล่าประโยชน์ยังเหนื่อยเปล่าอีกต่างหาก สุดท้ายปลายทางเขาก็เลยเลือกปล่อยผ่าน เลือกเป็นฝ่ายชักดึงมือตัวเองกลับมา
ก่อนจะออกเดินหน้าตามหาสิ่งของจำเป็นของเขาต่อไป ส่วนทางด้านคุณหนูสาวพอเห็นอีกฝ่ายเลือกถอยห่างไม่กล่าวอะไรเพิ่มเติม หล่อนก็ลอบทอดถอนหายใจก่อนจะยกมือวางทาบอก
ริ้วแดงปรากฏบนแก้มเนียนทั้งสองข้าง
“…”
“ตกใจหมด”
“…”