ตอนที่ 11 เมดสาวฮเยริน
ณ ห้องมืดในตึกร้าง
ใจกลางห้องชั้นบนสุด เป็นสถานที่ที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวอยู่ด้วยกันสองต่อสอง หากแต่สองต่อสองในความหมายอื่นที่โหดร้ายโหดเหี้ยมยิ่งกว่า ชายหนุ่มปริศนากระอักเลือดกองโตออกมา
อาบย้อมพื้นห้องให้กลายเป็นสีแดงสด
“…”
“อ้วกกกก!”
“…”
เส้นผมสีดำทมิฬถูกจิกกระชากบีบบังคับให้เงยหน้ามอง
ผู้ที่ลงมือกระทำโหดเหี้ยมคือหญิงสาวผู้ครอบครองความงดงามเกินกว่ามนุษย์ปรกติธรรมดาจะครอบครอบ หล่อนดึงกระชากเข้ามาใกล้พร้อมกระซิบกล่าวถามถึงของบางสิ่งอย่าง
ของบางสิ่งอย่างที่หล่อนต้องการได้รับจากมัน
“…”
“สกปรกจริง”
“…”
“ดิฉันจะถามอีกครั้ง?”
“…”
“ของอยู่ไหน?”
ชายหนุ่มปริศนาเปิดเผยรอยยิ้มกวนประสาท
มันส่งสัญญาณบอกกล่าวให้เมดสาวฮเยรินขยับเข้าไปใกล้ แน่นอนว่าในเมื่อเชิญชวนขนาดนี้แล้วไม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คงเป็นการเสียมารยาทเสียบรรยากาศ แต่พอหล่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้
เข้าไปใกล้มากพอมันกับลงมือต่ำช้าไม่มีลังเล
“…”
“ถุย!”
“…”
น้ำลายก้อนใหญ่ไหลตามแก้ม
ไหลเป็นสายหยดลงพื้น ชายหนุ่มปริศนายิ้มหัวเราะสะใจเป็นที่สุดหลังจากแผนการเล็กน้อยประสบผลสำเร็จ หญิงสาวทอดถอนหายใจแผ่วเบาความเชื่อใจที่มอบให้กับถูกตอบแทนแบบนี้
ช่างเป็นอะไรที่ชวนให้รู้สึกย่ำแย่เหลือเกิน
“นี่ไงของที่แกต้องการ!”
“ไปตายซะ!”
“นังสารเลว!”
“…”
“คนแบบแก—”
คำพูดยังไม่ทันหลุดจากปาก
ฉากภาพเบื้องหน้าก็แปรเปลี่ยนกะทันหัน มาพร้อมกับความเจ็บปวดใบหน้าซีดซ้าย เป็นหญิงสาวฮเยรินที่ใช้หลังมือฟาดเข้าไปที่ใบหน้า ฟาดเต็มเรี่ยวแรงไม่มีกักเก็บไม่มีโอนอ่อนแม้แต่น้อย
เธอฟาดแรงมากจนฟันของมันกระเด็ดหลุดจากปาก
“…”
“อ๊ากกกกกก!”
“…”
แต่เหมือนครั้งสองครั้งยังไม่สาแก่ใจ
ฮเยรินกำฝ่ามือของตัวเองอีกครั้งและหวดเข้าไปที่ใบหน้าหยาบกร้าน หวดเรื่อย ๆ หวดตามอารมณ์จนฟันหลายต่อหลายซี่้กระเด็นหลุดจากปากจนเกือบหมด จนมันกะอักเลือดก้อนโตออกมา
แต่นั้นก็ไม่ทำให้หล่อนรู้สึกสงสารแม้แต่น้อย
“…”
แต่ก่อนจะได้ลงมือฟาดเพิ่มเติม
สุ้มเสียงสายหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศร้องเจ็บปวดโหยหวน ฮเยรินขมวดคิ้วเหลือบสายตามองต้นกำเนิดเสียง ก่อนจะเห็นเป็นโทรศัพท์ดาวเทียมที่วางอยู่ไม่ห่าง
หัวคิ้วทั้งสองลอบขมวดเป็นปม
“…”
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ขณะใช้หลังมืออีกข้างเช็ดน้ำลายของมัน เช็ดสิ่งสกปรกที่ติดค้างบนใบหน้า และเมื่อเธอกดรับสาย กดรับปลายสายจากอีกฝ่าย สิ่งแรกเริ่มต้นเลยที่ได้ยินกับเป็นคำสั่งถอนตัว
คำสั่งล้มเลิกทุกสิ่งอย่างที่เธอได้กระทำมาตลอดหลายต่อหลายวัน
“…”
“มีคำสั่งเรียกตัวกลับ”
“…”
“คำสั่งเรียกตัวกลับ?”
“ล้มเลิกทุกสิ่งอย่างและกลับมาที่ตระกูล”
“มีงานใหม่ให้ทำ”
“…”
“นี่มันไม่กะทันหันไปหน่อยเหรอ?”
“…”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่พอใจ”
“ทั้งที่งานเดิมก็ใกล้จะเสร็จแล้ว”
“แต่ว่านะ”
“…”
“คำสั่งครั้งนี้ออกโดยคุณหนูเมญ่า”
ฮเยรินขมวดคิ้วทันทีหลังจากได้ยินคำกล่าวอีกฝ่าย
คำสั่งเรียกตัวกลับ ช่างเป็นอะไรที่รวดเร็วเหลือเกิน ทั้งที่งานการของหล่อนใกล้จะมาถึงเส้นทางแยกสำคัญแท้ ๆ หากเป็นใครคนอื่นออกคำสั่งเธอคิดอยากจะแย้งสักครั้ง แต่คนที่ออกคำสั่ง
ดันเป็นคุณหนูเมญ่านี่สิด้วยความสงสัยเธอเลยถามกลับไป
“…”
“คุณหนูเมญ่าเป็นคนออกคำสั่ง?”
“…”
“คุณหนูระบุตัวเธอชัดเจน”
“ทั้งยังบอกให้กลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย”
“…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วงานที่ค้างไว้จะให้ทำยังไง?”
“…”
“จะมีคนมารับช่วงต่อแทน”
“ตอนนี้ให้ความสำคัญกับความต้องการของคุณหนูเป็นหลักก่อน”
“ลองคุณหนูได้ระบุเจาะจงให้เธอกลับไป”
“…”
“แสดงว่าต้องมีงานอื่นที่สำคัญกว่า”
“…”
“เข้าใจที่ฉันกำลังจะบอกใช่ไหม?”
ฮเยรินเข้าใจดีถึงความเป็นกังวลที่อีกฝ่ายรู้สึก
ถึงอีกฝ่ายไม่บอกกล่าว ไม่พูดออกมาให้ได้ยิน เธอก็จะปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น ก่อนจะไปถึงเรื่องราวในอนาคตยังมีเรื่องอื่นต้องจัดการ
เมดสาวเหลือบสายตามองชายปริศนาที่กำลังนั่งหอบบนเก้าอี้
“…”
“หนูที่หลุดออกมาให้ทำไง?”
“…”
“เก็บกวาดให้เรียบร้อย”
“…”
“หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อย”
“ฉันจะส่งคนไปรับ”
“อย่าได้ทำพลาดเด็ดขาด”
ปลายสายพยายามกล่าวเน้นย้ำไม่อยากให้ปล่อยผ่าน
นอกจากหลายต่อหลายเรื่องที่พูดคุยไปเมื่อครู่ ฮเยรินยังถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดที่เธอได้มาในระยะเวลา 2 – 3 วันที่ผ่านมา เธอหวังว่าข้อมูลพวกนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครคนอื่น
ใครคนอื่นที่จะมารับช่วงต่อจากเธอ
“…”
—
หลังจากพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดให้ผู้ที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ฮเยรินก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ และหยิบของบางสิ่งอย่างขึ้นมา หยิบขึ้นมาก่อนจะเดินมุ่งหน้าตรงเข้าไปหาชายหนุ่มปริศนา
ด้วยความสงสัยใคร่รู้ตามสัญชาตญาณ อยากจะรู้ท่วงท่าท่าทีของหญิงสาวว่าจะทำยังไงกับมันต่อ แต่เหมือนคำตอบที่ได้รับกลับมา มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมายไปไกลลิบ
พอมันเงยหน้ามองก็มีของบางสิ่งอย่างกระแทกเข้ากลางหน้าผากทันที
“…”
“!!!”
“…”
ความรู้สึกเย็นเฉียบจากปากกระบอกปืน
เป็นตัวบ่งบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้อย่างชัดเจน ว่าสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้มันร้ายแรงหนักหน่วงมากมายขนาดไหน ก่อนปากกระบอกปืนจะกดกระแทกเข้าที่หน้าผากอีกครั้ง
ตามมาด้วยสุ้มเสียงเย็นชาจับจิต
“…”
“พอดีมีงานอื่นเข้ามาแทน”
“…”
“ช่วง 2 – 3 ที่ผ่านมา”
“รบกวนคุณเอาไว้มาก”
“ดิฉันไม่รบกวนต่อแล้วค่ะ”
“…”
“ขอให้เดินทางปลอดภัย”
ปากกระบอกปืนจ่อเข้ากลางหน้าผาก
ชายหนุ่มอ้าปากคล้ายต้องการกล่าวบางสิ่งอย่าง ต้องการกล่าวถ้อยคำส่วนจะเป็นถ้อยคำแบบไหนลักษณะเฉกเช่นใด ล้วนแล้วแต่ไม่มีใครทราบชัดเจน รู้เพียงแต่ว่านิ้วเรียวยาวกดลั่นไกเรียบร้อย
ลั่นไกส่งกระสุนเจาะทะลวงหน้าผาก
ดับชีวิตอีกฝ่ายไปในทันที
ปัง!
“…”
MANGA DISCUSSION