เพื่อชดใช้หนี้ 2 ล้าน ฉันจึงเข้าร่วมระบบจอมเวทย์ค่ะ !! - ตอนที่ 3 พลังของเอ็มเพรส มารีน
- Home
- เพื่อชดใช้หนี้ 2 ล้าน ฉันจึงเข้าร่วมระบบจอมเวทย์ค่ะ !!
- ตอนที่ 3 พลังของเอ็มเพรส มารีน
เมื่อฉันสะบัดตัวอยู่หน้ากระจก กระโปรงที่แหวกขาด้านข้างก็สะบัดพลิ้วจนชวนให้รู้สึกเย็นขานิดหน่อย
เรือนผมสีฟ้าที่เงาวับมีละอองน้ำไหลไปตามเรือนผม ก่อนจะหยดลงไปที่พื้นแล้วระเหยหายไปทุกครั้งที่ขยับตัว
รู้สึกราวกับว่าตัวเองดูมีความอ่อนเยาว์ขึ้น ผิวพรรณดูชุ่มชื่นมากกว่าเมื่อก่อน แถมยังมีออร่าที่ดูเปล่งประกายแผ่ออกมา…อธิบายเป็นคำพูดไม่ค่อยถูก แต่ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองในตอนนี้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนราวกับว่าตัวเองอายุน้อยลงไป 3-4 ปี
“นี่ละคือผลของการเป็นจอมเวทย์ล่ะม่อน เวทมนต์จะช่วยให้ร่างกายกลับมาอ่อนเยาว์และหากฝึกฝนดีๆก็จะมีอายุยืนยาวไปนานหลายร้อยปีโดยไม่แก่”
“แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ”
“แล้วก็เกี่ยวกับการใช้เวทมนต์ ก่อนอื่นเราย้ายไปในที่ๆเหมาะสมกันก่อนดีกว่าม่อน”
“ที่ๆเหมาะสม ?”
“ไปสู่โลกเรพลิก้ากันเถอะม่อน !”
จิบิม่อนสอนให้ฉันใช้แอประบบผู้กล้า
ตรงหน้าจอหลักของแอปจะมีไอคอนรูปประตูอยู่
“กดเข้าไปที่ไอคอนรูปประตูแล้วรอเวลาไม่เกิน 10 วินาที”
จึ้ก !
หลังจากที่ฉันกดไปได้สิบวินาที ทันใดนั้นเองมิติตรงหน้าฉันก็เริ่มบิดเบี้ยว เงารางๆค่อยๆก่อตัวขึ้นมา ก่อนจะกลายเป็นกระจกใสๆที่มองทะลุอีกฟากหนึ่งได้
“ลองเข้าไปในกระจกดูสิม่อน !!!”
“อื้ม !”
ฉันทำตามที่จิบิม่อนบอก
ฉันยื่นมือออกไปข้างหน้าและสัมผัสผิวของกระจกอย่างช้าๆ
ฉันรู้สึกราวกับว่ามือของตัวเองกำลังสัมผัสผิวน้ำอยู่ไม่มีผิด
หลังจากที่กลั้นหายใจเฮือกใหญ่ ฉันก็รีบดันร่างของตัวเองเข้าไปในกระจกใสๆบานใหญ่กว่าสองเมตรนี้
ฟุบ !
สิ้นเสียงกระเพื่อมเบาๆราวกับโยนก้อนหินลงน้ำ ฉันก็มาโผล่ที่ห้องของตัวเองในโลกเรพลิก้า
ห้องของฉันในโลกเรพลิก้านี้หน้าตาเหมือนเดิมไม่มีผิด เพียงแต่ข้าวของเครื่องใช้ที่เคยวางอยู่ เช่นเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ต่างวางในตำแหน่งที่ตรงกันข้ามสลับซ้ายขวากับที่ฉันเคยจัดเอาไว้
เหมือนกับว่าโลกเรพลิก้าคือ โลกกระจกอะไรทำนองงั้น
ทว่า พอมองหน้าตัวเองในกระจกก็ไม่เห็นหน้าของตัวเองสะท้อนอยู่ พอลองบิดลูกบิดประตูดูก็พบว่ามันบิดไม่ได้ราวกับเป็นวัตถุทรงกลมตันๆธรรมดาเฉยๆที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง
กระทั่งประตูบานเลื่อนตรงระเบียงก็เปิดไม่ออกทำให้ฉันถูกขังอยู่ในห้องของตัวเอง
“วัตถุทุกอย่างในโลกใบนี้เป็นแค่สิ่งของปลอมๆที่สร้างจากเวทย์มนต์ ไม่สามารถใช้ได้จริงน่ะม่อน เพราะงั้นมาริก็พังประตูแล้วออกไปข้างนอกได้เลย”
“แบบนั้นจะไม่เป็นไรหรอ ?”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ของจำลองทุกอย่างจะฟื้นคืนสภาพกลับมาเป็นเหมือนเดิม หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไปม่อน ”
“เข้าใจแล้วค่ะ…แต่จะให้พังยังไง ?”
“ง่ายๆมากม่อน ชกไปเลยม่อน”
“คะ ?”
“ชกด้วยมือเปล่าไปเลยม่อน”
“เอ๋ !?”
“วัตถุในโลกนี้มีความแข็งน้อยกว่า 50% ของของจริง แถมพลังกายของจอมเวทย์จะมีออร่าที่มองไม่เห็นปกคลุมร่างกาย ทำให้แข็งแรงมากกว่าคนทั่วไปอย่างน้อยก็สองเท่า มาริสามารถใช้มือเปล่าพังประตูแล้วกระโดดลงไปจากชั้นสองได้เลยม่อน”
“อึก !”
แม้จะลังเลนิดหน่อย แต่ลองซักหน่อยก็ไม่เสียหาย
ฉันดึงกำปั้นขวาเข้าหาลำตัว จากนั้นรวบรวมแรงทั้งหมดแล้วต่อยออกไปสุดแรง
โครมมมมมม
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
ประตูเลื่อนระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ทว่า รั้วกั้นระเบียงก็โดนลูกหลงจากแรงระเบิดทำให้ปลิวกระเด็นตกลงไปจากชั้นสองทั้งหมด
แถมแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นยังทำให้เกิดรอยปริร้าวไปตามกำแพงห้อง
“หวา…ทำเกินไปหน่อยนะม่อน แต่ครั้งแรกก็ถือว่าทำได้ดีเลยม่อน”
นี่ขนาดยังไม่ได้ใช้เวทมนต์เลยนะ ยังทำได้ขนาดนี้
อีแบบนี้ โลกยูเฟเซียที่ว่าคงไม่จำเป็นต้องมีนักรบ นักดาบ อะไรทำนองนั้นแล้วล่ะมั้ง ในเมื่อแค่พลังกาย จอมเวทย์ยังแข็งแกร่งขนาดนี้
“เอาล่ะ โดดลงไปเลยม่อน !”
พอมองดูพื้นชั้นล่างที่สูงพอสมควร ฉันก็รู้สึกใจเต้นตึกตักจนเหงื่อตกนิดหน่อย
ถึงจะพูดว่าปลอดภัย แต่ก็หวาดเสียวไม่ใช่น้อยๆ
“ลุยเลย มาริ ม่อน !!!”
“ขะ ขะ เข้าใจแล้วค่ะ” ฮึบ !
กลั้นหายใจแล้วกระโดด
ฟู่ววววววว
รู้สึกได้ถึงลมที่พัดผ่านใบหน้า
แรงดึงดูดดึงร่างของฉันลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแรงลมที่ตีขึ้นก็ทำให้กระโปรงเปิดขึ้นจนฉันต้องรีบเอามือกดกระโปรงลง
ตู้ม !!!
พอรู้สึกตัวอีกที ก็มายืนอยู่บนพื้น ท่ามกลางฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้ง
“ดีมากม่อน !”
พื้นดินที่ฉันยืนอยู่เกิดรอยบุ๋มเป็นรูปรอยเท้าของฉันและพื้นดินโดยรอบก็เกิดรอยแตกกระจายออกไปราวๆหนึ่งเมตรกว่า
“ทีนี้มาลองใช้เวทมนต์กันเถอะม่อน !”
“อื้ม !”
โดยไม่ให้ฉันได้พัก จิบิม่อนก็แนะนำให้ฉันยื่น คฑาน้ำตาแห่งสายธาร ในมือออกไปข้างหน้า
แสงแดดปลอมๆส่องกระทบคริสตัลแปดเหลี่ยมสีฟ้าอ่อนบนคฑาจนเปล่งแสงสีฟ้าจางๆ
“เวทมนต์ที่ใช้ได้ในตอนนี้คือ วอเตอร์บอล ! สามารถกดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่แอปได้ม่อน แต่ตอนนี้เพื่อความรวดเร็ว จะขออธิบายรูปแบบการโจมตีไว้เลยว่าเป็นการโจมตีด้วยลูกบอลน้ำ..ลองหลับตาจินตนาการถึงลูกโป่งที่อัดแน่นด้วยน้ำดูสิม่อน ”
ได้ยินดังนั้น ฉันก็ลองนึกภาพตามถึงลูกโป่งน้ำขนาดใหญ่
“จินตนาการให้ใหญ่ขึ้นอีกม่อน !”
ถ้าใหญ่กว่าลูกโป่งก็ต้องบอลลูน ฉันลองนึกถึงบอลลูนที่มีน้ำอัดแน่นเต็มไปหมด
“มากกว่านี้อีกม่อน !!!”
ใหญ่ขึ้น…ใหญ่ขึ้น…ใหญ่มากกว่านี้
ถ้างั้นเป็นดวงอาทิตย์…ดวงอาทิตย์สีฟ้าที่ไม่ได้มีเปลวเพลิงที่ร้อนระอุหากแต่พื้นผิวอัดแน่นด้วยผืนน้ำอันเย็นฉ่ำ
“ อึก !”
ทันใดนั้นเองก็รู้สึกหน้ามืดอย่างกระทันหัน ราวกับบางอย่างในร่างถูกดูดออกไป
“พอแล้ว ! พอแล้วม่อน ! ”
เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาก็พบกับลูกบอลน้ำขนาดใหญ่มหึมาซึ่งมากพอที่จะยัดบ้านเข้าไปได้เป็นสิบๆหลังเหนือหัวของฉันราวๆสิบเมตร
“นี่มัน ฝีมือของฉันงั้นหรอ ?”
ฟู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คฑาในมือของฉันเปล่งแสงสีฟ้าเจิดจ้า พอฉันขยับคฆาไปทางขวา ลูกบอลน้ำก็ขยับขวาตาม
ถ้าขยับไปซ้าย ลูกบอลน้ำก็จะขยับไปทางซ้ายเช่นเดียวกัน
“ลองสะบัดลงมาดูสิม่อน”
“ฮึ่บ !”
เมื่อฉันสะบัดคฑาตามที่บอกพลางจินตาการภาพบอลน้ำที่กระแทกกำแพงจนทะลุเป็นรูโบ๋ พริบตานั้นเองคริสตัลสีฟ้าก็เปล่งแสงมากยิ่งขึ้น พื้นผิวของบอลน้ำสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนจะพุ่งลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็ว
ครืนนนนนนน
บอลน้ำตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว เพียงเสี้ยววิ มันก็ปะทะเข้ากับบ้านของฉันและบ้านหลังอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง
ตู้มมมมมมมม
แรงกระแทกของมวลน้ำปริมาณมหาศาลทำให้บ้านทั้งหลังพังทลายลงมาไล่จากหลังคาที่กระเด็นออกไป กำแพงที่ค่อยๆถล่มลงมาพร้อมๆกับกระจกที่ระเบิดออกมาจากตัวบ้าน
ปริมาณน้ำอันมหาศาลทะลักเข้าไปในบ้านจนบ้านทั้งหลังบวมเป่ง ก่อนกำแพงชั้นล่างจะระเบิดเป็นชิ้นๆพร้อมข้าวของภายในบ้านที่กระจัดกระจายออกมา
“อ๊ะ !”
ชั่วพริบตาคลื่นน้ำจำนวนมหาศาลก็พัดเข้ามาหาฉันจากรอบทิศทาง แถมมวลน้ำที่เหลืออยู่ก็ตกกระแทกใส่ฉันจากด้านบนซ้ำอีกที
ตู้มมมมมม
วิ๊งงๆๆๆๆๆๆ
ในหูอู้อี้ไปหมด จากมวลน้ำที่กลืนกินร่างของฉันเข้าไป แรงกระแทกทำให้จุกทั่วร่างเล็กน้อย
ด้วยบอลน้ำที่เสกออกมาทำให้เกิดน้ำท่วม 2 เมตรในบริเวณรอบๆตัวบ้าน
“ฟุ ฮ่าว์ !!! หายใจในน้ำได้ด้วย !?”
เมื่อฉันลอยตัวขึ้นมา ฉันก็พึ่งรู้สึกตัวว่าเมื่อกี้ฉันสามารถหายใจในน้ำได้และไม่สำลักน้ำเลยแม้แต่น้อย
“ยังไม่จบนะม่อน ลองจินตนาการถึงพื้นดินดูสิ มาริสามารถเดินบนน้ำได้นะม่อน !”
“จริงหรอ !”
ว่าแล้ว ฉันก็ลองนึกภาพสระว่ายน้ำ….
ตอนนี้ฉันกำลังลอยน้ำอยู่ แต่หลังจากนี้ฉันกำลังจะกลับขึ้นไปบนฝั่ง
ฉันวางมือลงบนพื้นดิน จากนั้นก็ค่อยๆดันร่างขึ้นมาจากผืนน้ำ
ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่บนพื้น…ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่บนพื้น
“สำเร็จแล้วม่อน !”
พอมองไปที่พื้นในตอนนี้ ฉันก็พบว่าฉันกำลังยืนอยู่บนน้ำจริงๆด้วย
แถมยังใส่รองเท้าส้นสูงไม่ใช่เท้าเปล่าๆ ยืนอยู่บนน้ำเลยละ สุดยอดไปเลย !
“นี่มันอันตรายไม่ใช่น้อยๆเลยนะเนี่ย”
แต่พอมองดูโดยรอบ ขณะที่ปริมาณน้ำกำลังลดลงอย่างช้าๆ ฉันก็พบกับบ้านเรือนนับสิบหลังที่พังทลายลงมามีน้ำท่วมที่กินพื้นที่ออกไปหลายตารางเมตร
ภาพที่เห็นราวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดจากสึนามิไม่มีผิด
“ดีมากม่อน เพื่อเป็นรางวัล จิบิม่อนจะให้เจ้านี้ล่ะกัน ลองกดรับที่ช่องจดหมายดูสิม่อน”
ติ้งๆๆๆ
เสียงริงโทนดังขึ้นจากเมจิคัลโฟน
มีตัวเลข 1 ขึ้นบนไอคอนจดหมาย
พอฉันกดเปิดดูก็เห็นข้อความแสดงความยินดี และ มีปุ่มให้กดรับไอเท็มที่ส่งมาพร้อมกันอยู่ด้วย
ติ้ง !
หลังจากที่กดรับของที่ส่งมา ก็มีตัวอักษรแจ้งเตือนปรากฎขึ้นบนหน้าจอของเมจิคัลโฟน
‘ได้รับ ไอเท็มตำราเวทย์ ส่งเข้าไอเท็มบอกซ์เรียบร้อย’
“ไอเท็มบอกซ์ คือ เวทย์มิติที่อำนวยความสะดวกในการจัดเก็บสิ่งของต่างๆ แต่เนื้อที่ของมันมีจำกัด ถ้าอยากใส่ของได้เยอะๆก็ต้องจ่ายเงินเพื่อทำการขยาดขนาดไอเท็มบอกซ์…มาริสามารถกดที่ไอคอนกระเป๋าเพื่อหยิบของที่จิบิม่อนให้มาได้ม่อน แล้วถ้าอยากเก็บกลับไปก็แค่วางวัตถุตรงหน้าและทำการถ่ายรูปเพื่อให้ไอเท็มบอกซ์ดูดกลืนของสิ่งนั้นเข้าไปม่อน”
ปุ๊ง !
หลังจากที่ฉันกดตกลง หนังสือปกหนังเล่มหนาๆสีฟ้าที่มีลายมือหวัดๆเขียนไว้บนหน้าปกว่า ‘อควาคัตเตอร์’ ก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ
“อุหวาาา”
ฉันรีบคว้ามันเอาไว้ได้ทันก่อนที่มันจะตกพื้น
จากนั้นฉันก็ลองเปิดหน้ากระดาษเพื่อดูเนื้อหาข้างใน
ภายในนั้นมีรูปวาดของสายน้ำที่มีรูปร่างคล้ายกับใบมีดกำลังพุ่งเข้าไปหาต้นไม้แล้วหั่นต้นไม้ออกเป็นสองท่อน
ระหว่างนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาในหัวของฉันเอง มันได้บอกให้ฉันรู้ถึงข้อมูลรายละเอียดต่างๆของเวทย์บทนี้
ฟู่ววววววว
หลังจากที่ฉันเปิดอ่านไปได้ไม่ถึง 10 นาที หนังสือเวทย์ที่อยู่ในมือของฉันก็สลายไปกลายเป็นฝุ่น
ทว่า ช่างน่าแปลกที่ภายในหัวของฉันกลับจดจำภาพที่เห็นเมื่อกี้และข้อมูลต่างๆได้ชัดเจนทั้งหมด ระดับที่ราวกับว่าฉันกำลังเปิดหนังสืออ่านเองไม่มีผิด
“สำเร็จแล้วม่อน เพียงเท่านี้มาริก็จะใช้เวทย์บทใหม่ได้แล้วม่อน”
ชื่อ : มาริซ่า ไฮแลนเดีย
เพศ : หญิง
อายุ : 21 ปี
อาชีพ : จอมเวทย์แห่งวารี
ธาตุที่ชำนาญ : ธาตุน้ำ
LV. 88
พลังชีวิต : 10/10
พลังเวทย์ : 9,500/11,000
พลังป้องกัน 4,900/5,000
อุปกรณ์สวมใส่ : ชุดราตรีขององค์หญิงแห่งท้องทะเล, คฑาน้ำตาแห่งสายธาร
สกิล : วอเตอร์บอล,อควาคัตเตอร์
จิบิม่อนอธิบายว่า พลังป้องกันของฉันและพลังเวทย์ลดลง เพราะใช้เวทย์วอเตอร์บอลโดนตัวเองไปเมื่อกี้
ส่วนค่าความจุพลังเวทย์ที่เพิ่มขึ้นมาจากการฝึกฝนใช้เวทมนต์ ถ้าฉันใช้บ่อยๆโดยเฉพาะยิ่งใช้ถึงขีดจำกัดเลยยิ่งดี ค่าความจุพลังเวทย์ของฉันจะเพิ่มมากขึ้น
“โดยคร่าวๆก็ประมาณนี้ม่อน เอาล่ะไว้วันหลัง เราค่อยมาสู้—”
กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ก่อนที่จิบิม่อนจะพูดจบ อยู่ๆเมจิคัลโฟนก็สั่นรัวๆและสัมผัสได่ว่ามันร้อนขึ้น
วู้ๆๆๆๆๆๆ
เสียงไซเร็นซ์ราวกับเสียงรถพยาบาลดังขึ้นมา
หน้าจอกลายเป็นสีแดง เกิดแถบแจ้งเตือนสีแดงขึ้นมาบนหน้าจอ
‘ประกาศแจ้งเตือน ภัยภิบัติมอนสเตอร์ที่ศูนย์การค้านิจิเซ็น เมืองมาซากุระ ’
‘LV. ขั้นต่ำ 45’
‘ศัตรู : ไวเวิร์น 5 ตัว,ออร์คระดับกลาง 30 ตัว’
‘รบกวนจอมเวทย์ที่อยู่ใกล้เคียง ขอความร่วมมือกำจัดเป้าหมายโดยด่วน’
‘อัตราฟูลซิงโคร 10 %’
“เกิดเรื่องพอดีเลยม่อน ! ถ้างั้นวันนี้เรามาดูพวกรุ่นพี่ต่อสู้กันดีกว่านะม่อน !!!”
“อะ อะ อื้ม เข้าใจแล้ว !”
หลังจากนั้น ฉันก็มองหาสถานที่เกิดเหตุตามแผนที่
พอรู้พิกัดแล้วก็ออกวิ่งไปบนหลังคาบ้าน แรงกระโดดที่เหนือมนุษย์ทำให้ฉันสามารถกระโดดข้ามบ้านแต่ละหลังได้เลยทีเดียว
จอมเวทย์นี่สุดยอดไปเลยค่ะ !