ตอนที่ 28 ครบองค์ประชุม
— ย้อนกลับไป 10 นาที ก่อนการหนีตายของเอวาและ เอ็กซ์พลอเรอร์
— ณ ศูนย์บัญชาการ โรงเรียนประถมประจำเมืองคาคุฮอน
# เอนจิ้น ดีเทคเตอร์ #
กึกๆๆๆๆๆ
พื้นดาดฟ้าที่สั่นไหวทำให้ดีเทคเตอร์ยืนไม่ติดพื้น บางสิ่งบางอย่างข้างใต้เท้าของเธอกำลังทำอะไรบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ
แม้ดีเทคเตอร์จะพยายามมองดูหน้าจอมอนิเตอร์ที่กดค้นหาอยู่ แต่เธอก็ไม่พบมอนสเตอร์ตัวไหนอยู่ใกล้กับศูนย์บัญชาการแม้แต่ตัวเดียว
รอบพื้นที่โรงเรียนนั้นขาวโล่งไร้จุดแดง เพราะงั้น ดีเทคเตอร์จึงนึกไม่ออกว่าเหตุใดตรงพื้นที่เธอยืนอยู่มันถึงดูสั่นๆและมีเสียงดังขึ้นมา
“แปลกจัง..แถวนี้ก็ไม่มีมอนสเตอร์อยู่นี่น่า ทำไมถึง—-”
ทว่า เธอยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมาจากเบื้องล่าง
“โฮกกกกกกก”
“—— !!!”
เธอได้แต่มองสลับหน้าจอที่ว่างเปล่ากับพื้นด้างล่างที่มีเสียงคำรามด้วยความตกตะลึง
ทว่า ก่อนที่เธอจะได้เคลื่อนไหวอะไร กระเบื้องปูพื้นก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
มือสีเขียวที่หยาบกระด้างพุ่งขึ้นมาจากบนพื้นแล้วคว้าขาของเธอเอาไว้
“เดี๋ยว !!!”
ความสับสนฉายบนใบหน้าอันอ่อนเยาว์ หญิงสาวถึงกับชะงักไปชั่วขณะเมื่อรู้ว่าตนโดนจู่โจมจากข้างล่าง
“โฮกกกกก”
โครม !
“กรี๊ด !!!”
ยังไม่ทันที่จะได้ตัดสินใจวิ่งหนี ร่างของเธอก็ถูกดึงทะลุลงไปยังพื้นอาคารชั้นสี่อย่างรวดเร็ว
ภาพที่เธอเห็นก่อนจะหล่นตุ๊บลงไป คือ โซนาต้า ที่เบิกตาโพลงด้วยความหวาดกลัว
ในตอนนี้ แฮทเกิลได้ฝากโซนาต้าเอาไว้แล้วตรงไปช่วยพวกแม่มดอัสนี เพราะงั้นที่ศูนย์บัญชาการจึงไม่เหลือจอมเวทย์ที่ต่อสู้ได้แม้แต่คนเดียว
พวกเธอไม่ได้ประมาท เพราะเธอเข้าใจว่าไม่มีมอนสเตอร์รู้ที่ตั้งของศูนย์บัญชาการจากจอมอนิเตอร์
เหตุการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่นอกเหนือสามัญสำนึกมากเกินไป
— ทั้งๆที่กดค้นหาไปแล้ว แต่ทำไมถึงไม่แสดงตำแหน่งพวกมันที่อยู่ตรงนี้ !?
กระนั้น แม้เธอจะตื่นตกใจและเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เธอก็ไม่ลืมที่จะเตือนโซนาต้าที่กำลังทรุดเข่าลงด้วยความหวาดกลัว
“หนีไปซ่ะ !!!”
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เธอตะโกนบอกกับเด็กสาวก่อนจะถูกฉุดกระชากลงไปยังพื้นเบื้องล่าง
โครม !!!
แรงกระแทกทำให้เธอถึงกับกระอักลมออกจากปอด และ ศีรษะก็กระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนสติเริ่มพร่าเรือน
ทั่วร่างรู้สึกปวดระบมไปหมด
แควก !
ชุดหมีที่สวมอยู่ถูกมืออันใหญ่โตฉีกกระซากอย่างป่าเถื่อนจนเผยให้เห็นผิวกายเนียลขาวผุดผ่องไร้ริ้วรอย
แม้เมื่อเทียบกับจอมเวทย์คนอื่นๆ ชุดของเธอจะดูลดทอนความงามของตัวเธอเอง ทว่า ความอ่อนเยาว์และรูปร่างอันงดงามของจอมเวทย์สาวก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีเทคเตอร์พึงพอใจและภาคภูมิใจกับมัน
ถ้าแต่งตัวดีกว่านี้ เธอจะต้องเป็นหญิงสาวผู้งดงามอย่างแน่นอน
“ฮึก !”
ทว่า ในตอนนี้ ร่างของเธอกำลังถูกนิ้วมือสีเขียวที่หยาบโลนจำนวนมากเข้าคุกคามทุกซอกทุกมุม
หยดน้ำลายไหลยืดท่วมท้องของเธอจากเหล่าออร์คที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างหิวกระหาย
พวกออร์คต่างกดแขนขาของเธอไว้กับพื้นจนขยับไปไหนไม่ได้
“ไม่เอานะ—”
เธอถึงกับน้ำตาคลอด้วยความหวาดกลัว เมื่อรู้ว่าวาระสุดท้ายของตัวเองจะต้องตายเพราะถูกพวกมันย่ำยี
ทั้งๆที่เธอมาอยู่แนวหลังเพื่อความปลอดภัย
ทั้งๆที่เธอคิดว่าหากอยู่ในบาเรียจะไม่มีทางตายแล้วแท้ๆ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ?
“ไม่นะ !!!”
หญิงสาวกรีดร้องด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่พวกออร์คนับสิบตัวพุ่งเข้ามาสนุกสนานกับร่างกายของเธอ
ดีเทคเตอร์ทำได้เพียงหลับตาลงและคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน
พอพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมา กิกันติคจะมาเรียกเธอไปร่วมอีเว้นท์กำจัดออร์ค
เธอจะหลบอยู่ข้างหลังอย่างปลอดภัย แล้วคอยเฝ้าดูแผ่นหลังอันกว้างใหญ่นั่นปกป้องเธอเหมือนกับทุกครั้ง
ใช่แล้ว…นี่จะต้องเป็นความฝันแน่ๆ
ความรู้สึกนี่ไม่ใช่ของจริง
ลืมตาตื่นขึ้นสิ
พรุ่งนี้จะต้องไปช่วยสนับสนุนกิกันติคไม่ใช่หรอ ?
ทว่า สิ่งที่ฉายอยู่บนดวงตาอันสิ้นหวังอีกครั้งกลับมีเพียงออร์คนับสิบตัวที่เนืองแน่นกันเต็มระเบียงทางเดิน
ร่างของเธอค่อยๆถูกกลืนเข้าไปในคลื่นของออร์ค
แม้จะพยายามยื่นมือออกไปก็เปล่าประโยชน์
แม้จะพยายามกรีดร้องออกมาก็เท่านั้น
มันจบแล้วล่ะ…
ในตอนที่ประกายแสงแห่งความหวังหายไปจากดวงตาของเธอ
ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาก็ดังขึ้นบนไหล่ของออร์คตนหนึ่งที่กดร่างของเธอเอาไว้
เมื่อดีเทคเตอร์เงยหน้าขึ้นไป เธอก็พบร่างของเด็กสาวผมเงินหน้าตาจิ้มลิ้ม หากพิจารณาจากส่วนสูงแล้ว อายุน่าจะราวๆเด็กอนุบาล
เรือนผมสีเงินงามถักเป็นเปียสองข้าง ดวงตาที่หรี่เล็กเผยให้เห็นดวงเนตรสีเขียวอ่อนน่าหลงใหล แก้มดูนุ่มนิ่ม ส่วนแขนขาที่ดูเล็กสั้นก็โผล่พ้นขอบชายเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวและกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีกรมท่า บนเรือนร่างที่บอบบางถูกคลุมไว้ด้วยผ้ากั้นเปื้อนปักลายลูกหมีอีกชั้นหนึ่ง
พวกออร์คต่างมองไปยังร่างของเด็กสาวชั้นอนุบาลคนนั้นด้วยความสับสน
ทว่า ก่อนที่พวกมันจะได้เคลื่อนไหวอะไร เด็กสาวก็ปรบมือเบาๆ
แป๊ะๆๆ
“ฝากด้วยเน้อซิสเซอร์จาง~ ”
ทันใดนั้นเอง เงาสีม่วงก็โฉบลงมาข้างล่างและกวาดขาพลางฟาดฟันเหล่าอสูรกายร่างเขียวด้วยกรรไกรยักษ์อย่างคล่องแคล่ว
เพียงไม่นาน ออร์คก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนครึ่งซีกทีละตัวสองตัว
จนกระทั่งรู้ตัวอีกทีก็มีซากศพออร์คนอนเกลื่อนกลาดเต็มทางเดิน
แผล่ะ !
ดีเทคเตอร์ที่เป็นอิสระก็เอามือปิดบังหน้าอกและช่วงล่างใต้สะดือพลางหันซ้ายมองขวาด้วยร่างอันสั่นเทา
เมื่อกี้เธอเกือบจะตายไปแล้ว
เธอเกือบจะถูกพวกมันย่ำยีอย่างป่าเถื่อน
แม้จะรอดมาได้ แต่ความรู้สึกสิ้นหวังที่นิ้วมืออันหยาบโลนลูบไล้ไปตามผิวกายของเธอ มันก็ฝั่งใจจนดีเทคเตอร์กอดร่างด้วยความหวาดกลัว
ทว่า ในตอนที่รู้สึกแย่จนอยากจะอาเจียน ร่างอันนุ่มนิ่มก็โอบกอดเธอจากด้านหน้า
มือเล็กๆของเด็กอนุบาลลูบหลังของเธออย่างอ่อนโยน
ความรู้สึกอบอุ่นที่สัมผัสได้ทำให้เธอถึงกับสะกดอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่แล้วหลั่งน้ำตาออกมา
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลของเด็กสาวตรงหน้าทำให้หัวใจที่เย็นยะเยือกได้รับการปลดปล่อยจากความทุกข์ทรมาน
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรแล้วนะ…หลานปลอดภัยแล้ว ”
แม้จะเรียกตนเองด้วยวลีแปลกๆ แต่หัวใจของเธอก็โอนอ่อนพึ่งพิงเด็กสาวตรงหน้าด้วยความยินดี
“อยู่กับยายที่นี่ทุกอย่างจะปลอดภัยเอง…เพราะงั้นถ้าจะร้องไห้ก็ร้องออกมาได้เลยเน้อ”
หลังจากนั้น ดีเทคเตอร์ ก็ร้องไห้ออกมายกใหญ่ราวกับเด็กๆ
.
.
.
.
.
.
“ยินดีที่ได้รู้จักเน้อ ยายคือ บาบะ นาน่ะ จากจางไห่ที่อยู่เมืองใกล้เคียง ต้องขอโทษจริงๆที่มาช้า หลานเลยต้องเจอเรื่องแย่ๆเข้าจนได้ ”
“ส่วนฉันชื่อ บลูเบอรี่ ซิสเซอร์ ! ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ เพราะฉันลืมดูตารางวันแท้ๆ ก็เลยมาสายจนเกือบจะหมดเวลา !!! ”
เด็กสาวผมเงินแนะนำตัวว่าชื่อ บาบา นาน่ะ ส่วนหญิงสาวผมม่วงท่าทางร่าเริงผู้ถือกรรไกรยักษ์คนนั้นมีนามว่า บลูเบอรี่ ซิสเซอร์
ทั้งคู่เป็นจอมเวทย์ที่เหลืออยู่จากเมืองจางไห่
ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึง เพียงเท่านี้จำนวนจอมเวทย์ทั้งหมดก็ครบเสียที
ถึงจะไม่เข้าใจวิธีพูดที่ดูสูงวัยของบาบะ แต่ดีเทคเตอร์ก็เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ฟัง
หลังจากที่ทั้งสองฟังจบ บาบะ และ ซิสเซอร์ก็พยักหน้าให้กันและกัน
“งั้นหนูของตัวไปก่อนนะคะคุณยาย”
“จ้า— ไปดีมาดีเน้อหลาน~”
เด็กสาวผมเงินโบกมือลาด้วยเสียงยานคาง ก่อนที่หญิงสาวผมม่วงจะพุ่งกระโดดออกไปทางหน้าต่างแล้ววิ่งตรงไปช่วยพวกเอวา
บัดนี้ ภายในโถงทางเดินอันเงียบสงบจึงเหลือเพียงแค่ดีเทคเตอร์และบาบะ
ในระหว่างที่กำลังคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อ บาบะก็หันมาหาดีเทคเตอร์และลูบหัวเบาๆ
“ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม ? พอยืนไหวรึเปล่า ?”
พอรู้ว่าโดนเด็กตัวเล็กๆลูบหัวและแสดงท่าทางน่าสมเพชให้เห็น เธอก็รีบลุกขึ้นยืน
โชคดีที่บาบะยื่นชุดวันพีชสีขาวมาให้ยืม ตอนนี้ดีเทคเตอร์จึงไม่เปลือยร่างและกลับไปทำงานได้ต่อ
ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอทำให้ดีเทคเตอร์พยายามกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันขอกลับไปจัดการกับงานข้างบนก่อน”
“จ้า—- งั้นยายขอจัดการด้านล่างละกันเน้อ~”
แม้จะไม่เข้าใจว่า มีอะไรด้านล่างให้ต้องจัดการ แต่ดีเทคเตอร์ก็รู้ดีว่างานบัญชาการของตนคือหัวใจหลักของอีเว้นท์ เธอจึงไม่สาวความยาวต่อความยืดและกระโดดขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าพลางหลบตาจากบาบะด้วยความเขินอาย
พอเห็นดีเทคเตอร์จากไปแล้ว บาบะก็ทุบหลังตัวเองเบาๆราวกับคนแก่
“ไม่ไหวเลยเน้อ ดันมารังแกเด็กสาวที่น่ารักแบบนี้ซ่ะได้”
ตึก….
บนบันไดยาวที่ห่างออกไปราวๆ 10 เมตร ทั้งด้านหน้าและด้านหลังสองข้างทาง ปรากฎร่างของออร์คจำนวนนับโขยงที่ค่อยๆเดินขึ้นมาล้อมหน้าล้อมหลังของบาบะ
กระนั้นแล้ว แม้จะอยู่กลางวงล้อมของศัตรู บาบะก็หาได้หวาดกลัว เธอเอามือไขว้หลังและชูนิ้วชึ้ขึ้นมาแตะริมฝีปากสีชมพูดูนุ่มนิ่ม
พอเห็นเด็กสาวผู้มีท่าทางอันบอบบาง พวกออร์คก็หาได้หวาดระแวง
พวกมันฉีกยิ้มกว้างพลางเดินเข้ามาตรงๆอย่างสบายๆ
ต่อให้เป็นเด็กสาวร่างเล็กตัวแค่นี้ มันก็ชอบที่จะสนุกกับร่างกายที่แสนจะบอบบาง
แม้จะหักและพังง่ายไปบ้าง แต่ออร์คหลายตัวก็ชอบที่จะเล่นสนุกกับร่างกายของเด็กๆ
กระนั้น พวกมันก็ไม่รู้เลยว่าในชั่วพริบตาที่พวกมันประมาท เหตุการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในชั่วอึดใจ
แผล่ะ !
ชั่วพริบตาที่บาบะเคลื่อนตัวออกไป
กระจกข้างอาคารก็เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดเลือดที่สาดกระเซ็นจนย้อมกระจกทุกบานกลายเป็นสีแดง
เพราะไม่รู้ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ ออร์คทุกตัวจึงตายจากไปโดยไม่รู้ว่าพวกมันถูกบาบะฆ่าเช่นเดียวกัน
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
# เอ็มเพรส มารีน #
“นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย !?”
ในขณะที่ฉันยืนอยู่ท่ามกลางซากของอาคารขนาดใหญ่ วินดี้ก็บินโฉบลงมาในสภาพที่กำลังอุ้มสวิมอยู่
ทั้งสองมีเหงื่อไหลท่วมตัว แถมยังมีใบหน้าที่เจือด้วยสีแดงระเรื่อ
ดูท่าทางนั้นเองก็คงจะต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์อย่างตึงมือมาแน่ๆ
“ทั้งสองคนไหวรึเปล่าคะ ดูเหนื่อยๆนะ”
มันเลยกลายเป็นฉันแทนที่ถามทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง
“อะ อะ อื๊อ ไม่มีอะไรหรอก ?”
สวิมรีบผล่ะออกมาจากอ้อมแขนของวินดี้และทำสายตาล่อกแลก ? ราวกับว่ากำลังปิดบังอะไรจากฉันอยู่
“ฉันรู้สึกว่า มอนสเตอร์ ช่วงกลางคืนจะเน้นไปที่พวกอินเฟอร์โน่วูฟเป็นพิเศษ ไม่ทราบว่าบนท้องฟ้าตอนนี้มีพวกไวเวิร์นอยู่บ้างไหมคะ ?”
“ไม่มีเลย ตอนนี้ท้องฟ้าโล่งสงบดี !!!”
วินดี้ตอบฉันด้วยเสียงสูงพลางเช็ดเหงื่อบนใบหน้า
ท่าทางของทั้งคู่ดูลุกลี้ลุกลนฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย
ในเมื่อรวมตัวกับวินดี้ได้แล้ว ฉันก็เคาะไปบนหูฟังสองสามที
“ศูนย์บัญชาการทราบแล้วเปลี่ยน—”
“ซ่า….นี่ ดีเทคเตอร์เอง ตอนนี้ศูนยบัญชาการปลอดภัยแล้ว พวกเราได้จอมเวทย์จากเมืองจางไห่ทั้งสองคนมาช่วยเอาไว้”
ดีเทคเตอร์ได้อธิบายว่า ตอนนี้ จอมเวทย์ที่เหลืออีกสองคนได้มาสบทบล่าช้าเพราะดูวันที่จัดอีเว้นท์ผิด แต่พวกเธอก็มาปรากฎตัวได้ทันพอดีตอนที่พวกเรากำลังคับขัน
“ทางนี้ แม่มดอัสนีและฉันก็ได้บลูเบอรี่ ซิสเซอร์ช่วยเอาไว้”
เอ็กซ์พลอเรอร์ช่วยอธิบายเสริม ขณะที่กำลังเคลื่อนย้ายกลับไปรวมตัวกับพวกดีเทคเตอร์
จอมเวทย์ที่ชื่อ บาบะ นาน่ะ คุ้มกันศูนย์บัญชาการ ส่วน บลูเบอรี่ ซิสเซอร์ ก็ไปช่วยเอวาและเอ็กซ์พลอเรอร์
ทั้งสองคนคงจะแข็งแกร่งน่าดู เพราะ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถคุมสถานการณ์ทั้งสองจุดเอาไว้ได้
พวกเราได้พรรคพวกที่แข็งแกร่งเพิ่มมาอีกแล้ว เท่านี้อีเว้นท์ก็จะเคลียได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
“รับทราบ หลังจากนี้ พวกฉันสามคนจะกลับไปที่ศูนย์บัญชาการ”
ติ๊ด…
หลังตัดการสื่อสารเสร็จ ฉันก็มองไปที่วินดี้และสวิม
“ก็ตามนั้นค่ะ…เดี๋ยวพวกเราจะกลับกันแล้ว”
“ได้สิ ! เดี๋ยวฉันจะช่วยหิ้วปีกเธอไปให้เอง ว่าแต่—”
วินดี้กวาดสายตาไปรอบๆตัวฉัน
ภาพที่เธอเห็นคืออดีตตึกสูงสิบชั้นที่บัดนี้กลายสภาพเป็นซากอาคารที่ทับถมกองเป็นพะเนิน
สายตาของเธอที่จ้องมองมาราวกับจะถามฉันว่า มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง
“ทำไมแถวนี้ถึงได้เละเทะขนาดนั้น พวกอินเฟอร์โน่วูฟหายไปไหนหมดแล้ว ?”
ได้ยินดังนั้น ฉันก็ชี้ลงไปข้างล่าง
“อยู่ใต้เท้าของฉันค่ะ”
“หา !?”
“พวกมันทุกตัวโดนตึกถล่มทับตายไปหมดแล้ว”
“เอ๋ ?”
พออีกฝ่ายทำสีหน้าทำนองว่าช่วยอธิบายให้ละเอียดกว่านี้ทีสิ ฉันก็ถอนหายใจเบาๆด้วยความหัวเสีย ก่อนจะกอดอกมองทั้งสองคน
ฉันเลือกที่จะอธิบายให้ฟังแบบรวดรัดจะได้ไม่เสียเวลา
“เริ่มแรก ฉันก็มุ่งเข้าไปในอาคารค่ะ หลังจากที่หลบอยู่ตรงประตูเทางเข้า ฉันก็ยิงวอเตอร์บอลสกัดพวกมันเอาไว้ ด้วยลักษณะนิสัยของอินเฟอร์โน่วูฟที่ไม่ถูกกับน้ำทำให้การเคลื่อนทัพของมันที่มีจำนวนถึง 30 ตัวล่าช้าลง เพราะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เหยียบย่ำบนพื้นน้ำ แถมทางเข้าที่แคบก็ทำให้อีกฝ่ายเข้ามาได้แค่ทีละตัว ฉันเลยเล็งเป้าอีกฝ่ายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”
พอฉันสกัดพวกมันให้มายืนอออยู่ตรงทางเข้าได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ฉันก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวอาคาร พร้อมกับใช้เวลาไม่นานกวาดตามองหาเสาของอาคารที่กระจายอยู่ทั่วโถงทางเดินชั้นแรก
ฉันใช้อควาคัตเตอร์ ทำลายเสาเกือบทั้งหมด จากนั้นก็หยิบระเบิดจับเวลารุ่นพิเศษที่ติดตั้งได้ง่ายภายใน 3 วินาทีออกมาจากไอเท็มบอกซ์ พอติดตั้งระเบิดตามเสาที่เหลือเสร็จก็วิ่งหนีขึ้นไปทางบันไดหนีไฟ
ด้วยทางเดินที่แคบ ฉันสามารถสกัดการเคลื่อนพลของพวกมันได้ง่ายๆ วอเตอร์บอลที่ยิงออกไปทำให้พวกมันตัวหนึ่งกลิ้งตกบันไดไปโดนพวกพ้องของมันเองที่อยู่ต่ำกว่า หลังจากนั้นพวกมันก็พากันทยอยล้มต่อๆกันเป็นโดมิโน่ไล่จากตัวที่อยู่บนสุดไปล่างสุด
ฉันทำแบบนั้นซ้ำๆหลายครั้ง จนพวกมันระแวงแล้วเปลี่ยเส้นทางมาอ้อมดักฉันผ่านทางบันไดปกติ
ทว่า ฉันก็จับเวลามาโดยตลอดตั้งแต่ติดตั้งระเบิดเวลา
พอสู้ถ่วงเวลาจนครบกำหนด ฉันก็ไปยืนอยู่บนชั้นดาดฟ้าพอดี
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นจากอาคารชั้นแรกทำให้รู้ว่า บัดนี้อาคารไม่มีเสาคำยั้นตัวอาคารอยู่อีกต่อไป
เพราะไม่มีเสาเหล่านั้น อาคารทั้งหลังก็ค่อยๆถล่มลงมา
ตัวฉันที่อยู่บนดาดฟ้าก็ไถลลงไปตามพื้นปูนซึ่งหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วง
ระหว่างที่ลอยคว้างกลางอากาศก็ไล่เก็บพวกอินเฟอร์โน่วูฟส่วนน้อยที่ตามขึ้นมาบนดาดฟ้าทัน ในขณะที่ส่วนใหญ่ถูกทับถมอยู่ใต้ซากอาคาร
แน่นอนว่า ฉันก็ไม่ลืมที่จะกระโดดไปตามเศษปูนที่ถล่มลงมา เพื่อรักษาระดับให้ตัวฉันอยู่ลอยด้านบน ไม่งั้นจะหล่นลงไปข้างล่างแล้วถูกซากอาคารหล่นทับใส่เอาได้
ผลลัพธ์ก็ตามที่เห็น อินเฟอร์โน่วูฟทั้งหมดที่แห่กันเข้ามาถูกขังอยู่ในกับดักที่ฉันวางเอาไว้แล้วก็ตายเรียบไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว
หลังจากที่ ฉันเล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบเสร็จ สวิมก็กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนหันหน้าไปถามวินดี้
“นี่วินดี้จัง ถ้าเราเข้าใจไม่ผิดจอมเวทย์ธาตุน้ำจะเป็นพวกสายสนับสนุนไม่ใช่หรอ…ถ้าอย่างงั้นทำไมถึง—”
“อ่า…ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนตรรกะนั่นจะใช้กับเอ็มเพรส มารีนไม่ได้แฮะ”
วินดี้ถอนหายใจก่อนจะประดับรอยยิ้มแห้งๆไว้บนใบหน้าที่เปียกชุ่ม
“เป็นแผนการที่สุดยอดไปเลย ถ้าทำได้ถึงขนาดนี้ พวกเราก็คงไม่จำเป็นต้องมาช่วยตั้งแต่แรกแล้วล่ะสิ ”
“เฮ้อ…ฉันก็บอกไปแล้วไงคะ ว่าให้ไปช่วยทางฝั่งแม่มดอัสนีก่อน”
พวกเราทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้จะพูดอะไรกันอีก เพราะตอนนี้สวิมและวินดี้ต่างก็อ่อนล้ากันเต็มที ส่วนฉันก็อยากกลับไปตรวจสอบสถานการณ์ของศูนย์บัญชาการให้เร็วที่สุด เพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีมอนสเตอร์หลุดรอดเข้าไปได้
“มานี่สิ —”
วินดี้ยื่นมือมาให้ฉันจับ เธอคงจะพาฉันบินขึ้นไปบนฟ้า
แฉะ !
“???”
ทว่า พอฉันสัมผัสกับมือของวินดี้ ฉันก็รู้สึกว่ามือของเธอดูชุ่มชื้นแปลกๆ
“อ๊ะ ! เดี๋ยว !!!”
ก่อนที่วินดี้จะทันได้ห้ามอะไร ฉันก็ลองยื่นจมูกไปดมฝ่ามือของเธอเบาๆ
“ทะ ทะ ทำอะไรของเธอนะ !?”
“มารีน ! ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ !!! ”
วินดี้รีบชักมือกลับ ส่วนสวิมที่แก้มป่องเล็กน้อยก็ออกมายืนขวางระหว่างเราสองคน
แต่กลิ่นที่ติดจมูกมาเล็กน้อยก็ทำให้ฉันรู้สึกระเหี่ยใจซ่ะเหลือเกิน
“………………….”
“ทำไมมองมาด้วยสายตาแบบนั้นละ มีอะไรรึเปล่า ?”
“เอ่อ…มารีน…มาดมมือคนอื่นโดยไม่ขออนุญาติ มันไม่ดีนะคะ !”
ฉันมองตาขวางใส่ วินดี้ที่ทำหน้างงและสวิมที่ทำหน้าไม่พอใจ
ทว่า ฉันก็ไม่อยากจะพูดมากให้เสียเวลา
คฑาในมือขวาสะบัดไปหนึ่งที พร้อมเสกบอลน้ำราดลงไปบนหัวของทั้งคู่
ซ่า !!!
เพราะอยู่ๆก็โดนจู่โจมซึ่งๆหน้าโดยไม่คาดคิด ทั้งสองที่ตัวเปียกปอนเพราะเวทมนต์ของฉันก็พากันโวยวายยกใหญ่
“จู่ๆก็ทำอะไรเนี่ย !?”
“แค่กๆ จะเกินไปแล้วนะคะ !”
ฉันรีบหาของในเมจิคัลโฟนจนกระทั่งไปเจอของที่ต้องการ
“รับไปค่ะ—”
ฉันโยนขวดแชมพูกลิ่นสตอเบอรี่ให้วินดี้ วินดี้ก็เผลอแบมือรับอย่างงงๆ
“เอ่อ…เจ้านี่คือ ?”
“แชมพูไงคะ”
“แล้วทำไมถึง ?”
ชู่ว…….
ฉันวางนิ้วลงบนริมฝีปากตัวเองและหรี่ตามองทั้งสองคน
“นอกจากไปลาดตระเวนบนท้องฟ้าแล้วทั้งสองคนแอบไปทำอะไรกันมารึเปล่าคะ ?”
“อึก !”
สวิมถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่ ในขณะที่ วินดี้ก็ผงะถอยหลังเพราะคาดไม่ถึงว่าฉันจะถามออกมาตรงๆ
“คือ…เรื่องนั้น”
“คงไม่ได้ประมาท คิดว่า ไม่มีมอนสเตอร์บนฟ้าแล้วจะพักผ่อนยังไงก็ได้ใช่ไหมคะ ?”
“อึก !”
สีหน้าที่ดูอึดอัดของทั้งสองให้คำตอบเกี่ยวกับข้อสงสัยของฉันเรียบร้อยค่ะ
“ฉันไม่ได้มีอารมณ์จะไปยุ่มยามหรือสั่งสอนคนอื่นโดยไม่จำเป็นหรอกค่ะ เพราะงั้นก็รีบๆเทแชมพูลงไปแล้วก็รับวอเตอร์บอลเน้นๆไปอีกซักลูก..ถือซ่ะว่า เป็นความห่วงใยของเพื่อนร่วมวิชาชีพละกัน…ส่วนเรื่องเสื้อผ้าก็ใช้สายลมของคุณวินดี้พัดให้แห้งเอาเองคงได้ใช่ไหมคะ ?”
“อะ..อะ..อ่อ อืม”
“เอ่อ…ขอบคุณค่ะ”
ทั้งสองที่เริ่มมีท่าทางเคอะเขินก็ค่อยๆหยดสบู่ลงบนฝ่ามือ
“คุณสวิม—”
แต่ก่อนที่สวิมจะรับแชมพูต่อมาจากวินดี้ ฉันก็โยนขวดแชมพูกลิ่นโรสเบอรี่ไปให้เธอจนสวิมรีบยื่นมือมารับอย่างร้อนรน
“นี่คือ ?”
“แชมพูกลิ่นโรสเบอรี่ค่ะ…พวกคุณควรใช้แชมพูคนล่ะกลิ่นกัน ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวจะมีคนจับสังเกตุเอาได้”
“เอ่อ…ขอบคุณนะ”
พอฉันหลังให้ทั้งสองคนจนกว่าที่ทั้งคู่จะเทสบู่ลงไปบนจุดสำคัญเสร็จ วินดี้และสวิมก็กระซิบกระซาบกัน แต่เพราะเสียงวินดี้ดัง ฉันก็พอจะได้ยินบทสนาทนาของพวกเธออยู่บ้าง
“จอมเวทย์ธาตุน้ำเป็นสายซัพพอร์ตจริงๆด้วย ไม่อยากจะเชื่อ ! มีใครที่ไหนพกแชมพูติดตัวไว้ด้วยกันเนี่ย !?”
“ถึงจะดูประหลาด แต่ก็เป็นคนดีผิดคาดเลยแฮะ”
มีคำพูดบางประโยคที่ไม่อยากได้ยิน แต่จะหันกลับไปบอกให้ว่าเบาเสียงหน่อย มันก็ใช่ที่
หลังจากที่ทั้งสองฟอกสบู่จนพอใจ ฉันก็หันกลับไปราดน้ำลงบนหัวของทั้งคู่
เสร็จแล้ววินดี้และสวิมก็ขอตัวไปบินรอบเมืองอีกซักรอบเพื่อใช้สายลมพัดให้เสื้อผ้าแห้ง ส่วนฉันเองที่ไม่อยากเป็นก้างขวางคอก็เสนอเองเลยว่าจะกลับไปคนเดียว
ระหว่างที่กำลังวิ่งกลับไปยังศูนย์บัญชาการ ท่ามกลางความมืดที่เงียบสงบ ฉันก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
ทว่า ฉันก็นึกไม่ออกว่ามันคือเรื่องอะไร
นี่มันแปลกจริงๆค่ะ รู้สึกทะแม่งๆ
ฉันสังหรณ์ว่ามันต้องมีอะไรที่ผิดเพี้ยนไป แต่ฉันกลับตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร
ความรู้สึกที่ราวกับมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี
ฉันพยายามนึกย้อนเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มการต่อสู่จนถึงตอนที่เจอกับสวิมและวินดี้เมื่อกี้นี้
ราวกับว่าอีกแค่นิดเดียวก็จะถึงจุดหมาย ขอแค่ฉันนึกย้อนซ้ำๆและแกะข้อมูลทุกอย่างดีๆ ฉันก็จะรู้ว่าตัวเองกำลังสงสัยอะไรอยู่
ทว่า ตอนที่ฉันคิดไม่ตกอยู่ในใจ มันก็มีอินเฟอร์โน่วูฟปรากฎตัวขึ้นมา
ฉันเลยต้องล้มเลิกความคิดทั้งหมดแล้วหันไปจัดการพวกอินเฟอร์โน่วูฟที่ดักโจมตีเป็นระยะๆจนกระทั่งไปถึงจุดหมายแทน
บางทีการที่ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังสงสัยอะไรอยู่ นั่นคงเป็นเพราะว่าเรื่องที่สงสัยไม่สำคัญ..ล่ะมั้งเนอะ ?
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
# ??? #
ไม่คิดเลยว่าออร์คพวกนั้นจะโจมตีเข้าศูนย์บัญชาการโดยตรง
แย่ชะมัด ไอ้พวกออร์คโง่นั่นทำให้แผนของพวกเราตกอยู่ในความเสี่ยง ทั้งๆที่อีกไม่นานแผนการก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วแท้ๆเชียว
มีจอมเวทย์คนหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังเอาไว้เป็นพิเศษ รู้แล้วใช่ไหม ?
จับตามันเอาไว้….ถ้าเกิดความแตกล่ะก็…ให้ฆ่ามันทิ้งซ่ะ
หลังจากที่วางสายเมจิคัลโฟนเรียบร้อย ข้าก็รีบไปแจ้งให้นายท่านทราบว่าแผนของพวกเรายังไม่มีใครล่วงรู้
Chapters
Comments
- ตอนที่ 29 ผู้ที่หายไป กันยายน 6, 2023
- ตอนที่ 28 ครบองค์ประชุม สิงหาคม 30, 2023
- ตอนที่ 27 จอมเวทย์จากจางไห่ สิงหาคม 30, 2023
- ตอนที่ 26 ประมาท สิงหาคม 20, 2023
- ตอนที่ 25 พลังเเห่งเสียงเพลง สิงหาคม 12, 2023
- ตอนที่ 24 การป้องกันเขตเเดน สิงหาคม 8, 2023
- ตอนที่ 23 พวกพ้องเเละสงคราม สิงหาคม 4, 2023
- ตอนที่ 22 ออกเดินทาง สิงหาคม 4, 2023
- ตอนที่ 21 สิงหาคม 4, 2023
- ตอนที่ 20 สิงหาคม 2, 2023
- ตอนที่ 19 สิงหาคม 2, 2023
- ตอนที่ 18 บทนำเเห่งจุดจบ สิงหาคม 2, 2023
- ตอนที่ 17 ความลับอันดำมืด กรกฎาคม 31, 2023
- ตอนที่ 16 สิ่งที่พวกเราปกป้องเอาไว้ได้ !!! กรกฎาคม 31, 2023
- ตอนที่ 15 ตายซ้ำตายซาก กรกฎาคม 31, 2023
- ตอนที่ 14 การฝึกซ้อมรากเลือด กรกฎาคม 29, 2023
- ตอนที่ 13 ความรู้สึก กรกฎาคม 29, 2023
- ตอนที่ 12 ออร์คที่หายไป กรกฎาคม 29, 2023
- ตอนที่ 11 การร่วมทีมครั้งเเรก กรกฎาคม 29, 2023
- ตอนที่ 10 เยี่ยมเยือนผู้ป่วย กรกฎาคม 26, 2023
- ตอนที่ 9 ผลลัพธ์ของการขมขู่ กรกฎาคม 25, 2023
- ตอนที่ 8 ความล้มเหลว กรกฎาคม 25, 2023
- ตอนที่ 7 ภารกิจปราบไวเวิร์น กรกฎาคม 24, 2023
- ตอนที่ 6 ดินเเดนเเห่งจอมเวทย์ กรกฎาคม 23, 2023
- ตอนที่ 5 ประสบการณ์ต่อสู้ครั้งเเรก กรกฎาคม 23, 2023
- ตอนที่ 4 การต่อสู้ของเหล่าจอมเวทย์ กรกฎาคม 22, 2023
- ตอนที่ 3 พลังของเอ็มเพรส มารีน กรกฎาคม 22, 2023
- ตอนที่ 2 ฉันกลายเป็นจอมเวทย์เเล้วค่ะ กรกฎาคม 22, 2023
- ตอนที่ 1 หนี้ 2 ล้านเเละการเริ่มต้นใหม่ กรกฎาคม 22, 2023
MANGA DISCUSSION