เพื่อชดใช้หนี้ 2 ล้าน ฉันจึงเข้าร่วมระบบจอมเวทย์ค่ะ !! - ตอนที่ 27 จอมเวทย์จากจางไห่
# แม่มดอัสนี #
“ยัยเด็กโง่ ! นี่มันใช่เวลามาเดินเล่นรึไง !!! จะประมาทเกินไปแล้ว !!!”
เคียวที่ปักกลางเข้าที่ศีรษะของหมาป่าปีศาจอย่างพอดี ลอยมาจากบุรุษนักผจญภัยผู้ประดับแว่นกันลมไว้บนหน้า
ในตอนที่เอวาเกือบจะโดนอินเฟอร์โน่วูฟขย้ำคอจนถึงแก่ความตาย ไวเบรเนียม เอ็กซ์พลอเรอร์ ก็เข้ามาช่วยเธอเอาไว้ได้ทันอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด
“กรร…..”
เธอมองร่างของหมาป่าขนดำที่ดิ้นชักดิ้นชักงอบนพื้นสลับ กับชายหนุ่มที่วิ่งตรงเข้ามาด้วยใบหน้าซีดผืด
พอเขามายืนข้างๆเธอได้สำเร็จก็จับเข่าและหอบตัวโยนราวกับจะล้มลงไปได้แทบทุกเมื่อ
กว่าที่เอวาจะตั้งสติได้และรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เอ็กซ์พลอเรอร์ ผู้มีสีหน้าอ่อนล้าเต็มทีก็ดึงเคียวขนาดเล็กเท่าต้นแขนออกจากหัวของอินเฟอร์โน่วูฟก่อนจะแทงซ้ำลงไปที่เดิมอีกครั้ง
ร่างของหมาป่าปีศาจที่เคยกระตุกก็พลันแน่นิ่งและตายลง
“คือว่า…..”
เอวาลดมือที่แตะหูฟังลงและจ้องมองเอ็กซ์พลอเรอร์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนอย่างเขาที่เอาแต่อยู่แนวหลังและชอบเคร่งครัดเจ้าระเบียบ ระดับที่เอวาเองยังรู้สึกรำคาญ….เขาคนนี้กลับมาช่วยปกป้องเธอเอาไว้
“คุณ…ช่วย ฉัน ?”
“ก็เอ้อสิ !!! ตาบอดรึไง จะพูดเพื่อ !?”
แม้ว่าจะพูดจาดูหยาบคาย แต่ภาพสะท้อนบนดวงตาของเอวาในตอนนี้มีเพียงภาพของชายหนุ่มซึ่งนอนแผ่ราบอยู่บนพื้นด้วยอาการเหนื่อยหอบหลังออกวิ่งสุดแรงเกิดมาช่วยเธอ
กระนั้นแล้ว ต่อให้เธออยู่สูงกว่า เขาก็ยังว่าเธอได้อยู่ดี
“เธอนี่จะบ้ารึเปล่า ? ถึงจะเป็นกลางคืนก็มีมอนสเตอร์ได้ ไม่รู้รึไง !? เพราะว่างจัด ไม่มีอะไรทำก็เลยจะหาเรื่องเดินไปตายเรอะ ?”
“นั่นมัน…อึก ! ขอโทษค่ะ….”
เอวาอยากจะโต้แย้ง แต่เขาคือคนที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ และ สิ่งที่เอ็กซ์พลอเรอร์พูดคือความจริง
เพราะกำลังอารมณ์ดี เธอเลยประมาทจนลืมไปว่าอินเฟอร์โน่วูฟที่ชำนาญการต่อสู้ในความมืดสามารถโจมตีใส่เธอได้ทุกเมื่อ
“เฮ้อ….ฉันล่ะรำคาญที่จะต้องทำงานกับเด็กอย่างพวกเธอจริงๆ”
เอ็กซ์พลอเรอร์ขยี้ผมด้วยท่าทางหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
“ว่าแต่—-”
แม้สายตาจะไม่ได้หันมามอง แต่คำพูดของเขากลับดูเบาลงอย่างคาดไม่ถึง
“บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า ? เมื่อกี้ไม่โดนลูกหลงอะไรใช่ไหม ?”
“คะ…คือ ไม่ค่ะ”
“หรอ…งั้นก็ดี”
ถึงจะห่างไกล จากความอ่อนโยน แต่น้ำเสียงที่แฝงด้วยความเป็นห่วงนั้น เอวาคิดว่านั่นคงเป็นใจจริงของเอ็กซ์พลอเรอร์
ในฐานะที่ได้รับการช่วยเหลือ เอวา ก็ก้มหัวให้กับเขา
“คือว่า…ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้นะคะ”
ไหล่ของเอ็กซ์พลอเรอร์ ที่หันหลังให้ก็กระตุกเล็กน้อยหลังได้รับคำขอบคุณ
“อย่าเข้าใจผิดไป”
“???”
“ฉันก็แค่ไม่อยากเก็บไปฝันร้าย ถ้าปล่อยให้เด็กวัยเดียวกับลูกสาวตัวเองตายไปต่อหน้า มันก็เท่านั้นเอง”
เหนือกว่าเรื่องที่เขาช่วยเธอเอาไว้ คงเป็นเรื่องที่เขามีลูกสาวล่ะมั้งที่ทำให้เอวารู้สึกตกตะลึง
“คนพรรคนี้….มีลูกสาว ?”
“อะไร ? ยัยเปี๊ยกนี่มีปัญหาอะไรนักหนา ? เธอคิดว่าคนอายุปู่นนี้แล้วมีลูกสาว มันแปลกนักรึไง ? หา !?”
“เปล่า…ก็แค่คิดว่าผู้หญิงที่เข้ากับคุณเอ็กซ์พลอเรอร์ได้…คนๆนั้นจะต้องสุดยอดมากแน่ๆเลย”
“ฮึ !”
พอได้ยินที่เอวาเอ่ยด้วยความรู้สึกทึ่ง เอ็กซ์พลอเรอร์ก็กอดอกพลางเหยียดยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“ใช่แล้ว ภรรยาของฉันน่ะสุดยอดมากๆ…แล้วลูกสาวชั้นประถมของฉันก็น่ารักสุดๆไม่เหมือนเด็กเจ้าปัญหาอย่างพวกเธอ”
คำว่า ‘ชั้นประถม’ มันไปกระตุกต่อมบางอย่างในใจของเอวา
“เอ่อ…แต่ฉันไม่ได้อยู่ชั้นประถมซักหน่อย”
“หรอ….แต่ดูจากส่วนสูงแล้วก็ไม่แปลกที่จะคิดแบบนั้นไม่ใช่เรอะ ?”
ถึงจะรู้สึกขอบคุณ แต่อีกใจหนึ่งของเอวาก็รู้สึกกำหมัดที่โดนดูถูกว่าเหมือนเด็กประถม
มันก็จริงที่เธอดูตัวเล็กเมื่อเทียบกับเด็กมัธยมปลายคนอื่นๆ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอตัวเตี้ยนะ !?
“กรรรรรรรร”
ทว่า ก่อนที่เธอจะได้โต้แย้ง เสียงขู่คำรามของอินเฟอร์โน่วูฟก็ดังขึ้นจากทั่วทิศทาง
พอกวาดสายตาดูโดยรอบ ท่ามกลางความมืดมิด เอวาพบว่ามีดวงตาสีแดงหลายสิบคู่กำลังจับจ้องมาที่พวกเธอ
กึก !
เอ็กซ์พลอเรอร์ที่สัมผัสได้ถึงจิตสังหารรอบๆตัวก็กระชับเคียวในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็เคาะหูฟังเบาๆ
เขาเอ่ยกระจายข้อความเสียงออกไปทางช่องทางการสื่อสารกลาง
“ถึงจอมเวทย์ทุกๆคน….ตอนกลางคืน พวกเราเสียเปรียบ กิกันติคขอให้ทุกคนอยู่หลังบาเรียป้องกันแล้วค่อยออกล่าอีกทีตอนรุ่งสาง ย้ำ ! ถอยกลับไปหลังบาเรียป้องกันก่อน…แล้วก็ขณะนี้ฉันและแม่มดอัสนีกำลังตกอยู่กลางวงล้อมของอินเฟอร์โน่วูฟ ที่บริเวณสวนสนุกทางทิศตะวันตก ขอจอมเวทย์สายต่อสู้ระยะใกล้อีกซักคนมาช่วยสนับสนุนที ทราบแล้วเปลี่ยน— ”
ซ่าๆๆๆๆๆ
เสียงคลื่นแทรกสอดดังขึ้นพร้อมๆกับน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยของดีเทคเตอร์
“ทำไมนายไปอยู่ตรงนั้นได้เนี่ย ? ไม่ใช่ว่ากำลังเอาเสบียงไปให้กิกันติคหรอ ?”
“โทษที…พอดีทางนี้เป็นทางผ่าน ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นแหล่งซุกซุมของพวกอินเฟอร์โน่วูฟ ฮ่าๆ สงสัยพวกมันคงจะอยากเที่ยวสวนสนุกเหมือนกัน”
“บ้าจริง ! ฉันกดสแกนดูแล้ว ฝั่งของเธอมีอยู่ประมาณ 20 ตัวได้”
“ชิ ! ถ้าเป็นตอนเช้าก็ดี แต่พอตกกลางคืนแล้ว 20 ตัวนี่ตึงมือเอาเรื่อง”
“ซ่า….. นี่ฉันเอ็มเพรส มารีนนะ ทางนี้รับทราบแล้ว เดี๋ยวจะรีบไป อึก ! อควาคัตเตอร์ !!!”
“ไม่ไหวหรอก มารีน ! ทางฝั่งเธอเองก็มีอินเฟอร์โน่วูฟอยู่ ระวังตัวเอาไว้ ! จำนวนก็ตั้ง 30 ตัว !!! เยอะกว่าที่ทั้งสองคนนั้นเจออีก ! มีอยู่ 5 ตัวกำลังดักรออยู่ตรงสี่แยกข้างหน้า แล้วก็อีก 8 ตัวรอจังหวะอยู่บนอาคาร— ”
สถานการณ์ฝั่งมารีนที่สิ้นหวังยิ่งกว่าทำให้เอวากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ หลังคิดไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว เธอก็ตัดสินใจเสนอออกไป
“ไม่เป็นไรส่งคนไปช่วยมารีนก่อนเลย—”
“เดี๋ยว !? ไม่ต้องก็ได้ ฉันขอแค่การสนับสนุนจากดีเทคเตอร์ก็พอ”
“รับทราบ นี่วินดี้นะ เดี๋ยวจะรีบบินไปช่วยเดี๋ยวนี้ละ”
“เดี๋ยวก่อน ! ฉันบอกว่าไม่ต้องก็ได้ไง !?”
แม้มารีนจะแย้ง แต่วินดี้ก็กำลังมุ่งหน้าไปหาหญิงสาวเรียบร้อย
ดีเทคเตอร์ที่เฝ้าอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ก็เอ่ยกับทั้งเอวาและเอ็กซ์พลอเรอร์ด้วยน้ำเสียงอันเคร่งเครียด
“ทั้งสองคนช่วยอดทนหน่อยนะ ตอนนี้ แฮทเกิลกำลังมุ่งหน้าไปช่วยอยู่”
“รับทราบ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“ถ้างั้น ระหว่างนี้ ฉันจะประสาน—-”
ดีเทคเตอร์ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเงียบไปพักหนึ่ง
“เอ๋ ?”
กึกๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอวาได้ยินเสียงพื้นที่กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงจากทางฝั่งนั้นและน้ำเสียงของดีเทคเตอร์ซึ่งเต็มไปด้วยความงุนงง
หญิงสาวที่อยู่หน้าจอมอนิเตอร์รีบดูจำนวนมอนสเตอร์รอบๆโรงเรียนอย่างรวดเร็ว เสียงพึมพำกับตัวเองดังผ่านหูฟังไร้สาย
“แปลกจัง..แถวนี้ก็ไม่มีมอนสเตอร์นี่น่า ทำไมถึง—-”
โครม !!!
“เดี๋ยว ! กรี๊ด !!!!”
“โฮกกกกกกกกกกกกกกก”
““——!!!””
ทุกๆคนต่างได้ยินเสียงกรีดร้องของดีเทคเตอร์ รวมถึงเสียงคำรามของออร์คและบางอย่างที่พังทลายอย่างรุนแรงผ่านทางหูฟังสื่อสาร
เกิดเสียงคลื่นแทรกสอดดังแสบแก้วหูมาจากฝั่งของดีเทคเตอร์…
“ดีเทคเตอร์ ตอบด้วย ! ดีเทคเตอร์ ทราบแล้วเปลี่ยน !?”
แม้เอ็กซ์พลอเรอร์จะพยายามเรียกชื่อซ้ำๆ แต่หาได้มีเสียงตอบรับจากปลายสาย
จนกระทั่งสัญญาณของฝั่งหญิงสาวถูกตัดไป
คนอื่นๆต่างกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ด้วยความกังวล ผ่านไปซักพัก แฮทเกิลก็เอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรกท่ามกลางความเงียบ
“เดี๋ยวฉันจะกลับไปดูศูนย์บัญชาการก่อน ขอโทษด้วยนะแม่มดอัสนี…แล้วก็ เอ็กซ์พลอเรอร์”
“รับทราบ ทางนี้จะพยายามยื้อเอาไว้เอง ส่วนทางนั้นก็ระวังตัวด้วย”
ติ๊ด !
สิ้นเสียงสัญญาณที่ตัดการเชื่อมต่อไป เอวาและเอ็กซ์พลอเรอร์ก็มองหน้ากัน
“เหลือแค่เราสองคน ให้พูดกันตามตรง ฉันเหมาะกับงานสนับสนุนมากกว่า”
“ส่วนฉันก็ถนัดโจมตีระยะไกล”
ตึก…ตึก….ตึก…….
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นรอบๆตัวทำให้ทั้งสองตัดสินใจหันหลังชนกัน
“ถ้าโดนล้อมแบบนี้ไม่ดีแน่ พวกเราจะต้องเดินกลับไปที่เสาอากาศแล้วหลบอยู่หลังบาเรียป้องกัน จากนั้นค่อยวางแผนกันอีกที”
“เห็นด้วยค่ะ….จากตำแหน่งตอนนี้ เดินขึ้นไปทางทิศ 12 นาฬิกา ประมาณ 300 เมตร…ทางเดินอิฐปูนแดงตรงนั้นโล่งเคลียร์ ไม่น่าจะมีตำแหน่งที่พวกหมาป่าซ่อนตัวอยู่”
“งั้นพอให้สัญญาญก็ออกวิ่งพร้อมกัน ….วิ่งสุดแรงเกิดเลย เข้าใจใช่ไหม ?”
“ค่ะ…ตามนั้น”
พอทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วยกับแผนที่ตกลงกันเรียบร้อย เอ็กซ์พลอเรอร์ก็เริ่มนับเลขให้สัญญาณ
“สาม…..”
กึก !
เสียงฝีเท้าของอินเฟอร์โน่วูฟดังใกล้เข้ามา
“สอง—-”
เกิดแสงไฟปรากฎขึ้นจากรอบตัว แสงสว่างที่เกิดขึ้นทำให้มองเห็นทางข้างหลังชัดเจนมากขึ้น ทว่า พอรู้ว่ามันคือลูกไฟที่อยู่ข้างในปากของอินเฟอร์โน่วูฟนับสิบตัว ทั้งสองที่กำลังตึงเครียดก็ถึงกับเหงื่อซึมทั่วหน้า
“สาม !!! ไปได้ !!!”
“—–!!!”
กึก !!!
ทันทีที่ทั้งสองหันหลังแล้วออกวิ่ง ลูกไฟนับสิบลูกก็ไล่ตามหลังทั้งคู่มา
ตึกๆๆๆๆ
ทั้งเอ็กซ์พลอเรอร์และเอวาสับตีนวิ่งสุดแรงเกิด
ตู้มมมมมม
แสงไฟส่องสว่างมาจากข้างหลัง พร้อมกับคลื่นความร้อนที่ไล่ตามหลังมาติดๆ
ตู้ม !!!!
ครืนนนนน
ทุกครั้งที่ลูกไฟกระแทกพื้น พื้นปูด้วยอิฐแดงก็จะแตกกระจายกลายเป็นหลุมบ่อ
ทั้งสองต่างวิ่งหลบหลุมบ่อที่กำลังลุกไหม้อยู่ข้างหน้า แล้วก็ออกวิ่งสุดฝีเท้าเพื่อเอาชีวิตรอดจากลูกเพลิงยักษ์ที่กำลังไล่หลังมา
ตู้มๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว คลื่นความร้อนแผ่กระจายออกไปทั่ว จอมเวทย์ทั้งสองวิ่งสี่คูณร้อยบนเส้นทางที่ยาวเหยียด ลูกไฟสีแดงสดแต่งแต้มลู่วิ่งให้ลุกท่วมด้วยเปลวเพลิงล้อมหน้าล้อมหลัง
“กรรรรรร !”
ฉัวะ !
เอ็กซ์พลอเรอร์ใช้เคียวปัดกรงเล็บที่ตะปบลงมาจากด้านข้างแล้วออกวิ่งต่อ
“ธันเดอร์โบลท์ !!!”
สายฟ้าพุ่งผ่าใส่ร่างของหมาป่าที่กระโจนสวนจากทางด้านหน้าแล้วแผดเผาร่างของมันจนสุก
ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกท่วมอยู่ด้านหน้า เงารางๆที่ขยายใหญ่ขึ้นก็เผยให้เห็นร่างของหมาป่าขนดำที่พุ่งทะยานฝ่ากองเพลิงเข้าใส่เอ็กซ์พลอเรอร์
“ธันเดอร์โบลท์ !!!”
แม่มดอัสนีเสกสายฟ้าเข้าผ่าร่างของมันจนกระเด็นตกลงไปอยู่ในกองไฟ หมาป่าผู้ห้าวหาญก็ถึงกับดิ้นทุกรนทุรายเพราะโดนเผาทั้งเป็น
ทว่า ในจังหวะที่ทั้งสองกระโดดข้ามกองเพลิงกองนั้น อินเฟอร์โน่วูฟอีกตัวที่ยืนอยู่บนเรือไวกิ้งก็กระโดดลงมาใส่เอวาที่กำลังวิ่งหน้าตั้ง
แควก !
โชคดีที่มันกัดโดนหมวกของเธอ เอวาจึงรอดไปได้ กระนั้นร่างหนักหลายสิบกิโลที่ถาโถมเข้าใส่อย่างกระทันหันก็ทำเอาเอวาเซจนล้มลง
หมาป่าปีศาจเคี้ยวหมวกแม่มดอยู่ตรงกลางระหว่างชายหนุ่มและเด็กสาว ก่อนจะคายหมวกทิ้งและหันคมเขี้ยวเข้าหาเอวา
เอ็กซ์พลอเรอร์เห็นดังนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปแทงเคียวเข้าที่คอของมัน
“กรร !?”
หมาป่าปีศาจสะดุ้งด้วยความทรมาน ก่อนจะสิ้นลม เอ็กซ์พลอเรอร์รีบยื่นมือไปดึงเอวาขึ้นมาโดยไม่รอช้า
“รีบลุกขึ้นมาเร็ว !!!!”
“อึก ! ค่ะ !!!”
แรงกระแทกจากความสูงสี่เมตรของอินเฟอร์โน่วูฟ แม้จะไม่ทำให้เอวาถึงตาย แต่ตอนที่กรงเล็บของมันตะปบเข้าที่ไหล่ขวาของเธอพอดี มันก็ทำให้เกิดรอยเฉือนลึกลงไปเป็นแนวยาวจนเธอถึงกับเบ้ปากทุกครั้งด้วยความทรมานยามขยับแขน
เมื่อเอวากลับมาวิ่งต่อตามที่เอ็กซ์พลอเรอร์บอก เธอก็ถึงกับกัดฟันแน่นด้วยความตึงเครียด
“““กรรรรรรรรรรร”””
อินเฟอร์โน่วูฟสามตัวกำลังดักรอทั้งคู่อยู่ข้างหน้า
ในขณะที่ด้านหลังเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของอินเฟอร์โน่วูฟกองเป็นขโยงดังใกล้เข้ามา
ระยะห่างระหว่างพวกเธอและชิงช้าสวรรค์เหลืออีกแค่ 50 เมตร
เอวาและเอ็กซ์พลอเรอร์มองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่าย
ตายเป็นตาย
ถ้าหันหลังคือตาย ถ้าเดินหน้าคือร่อแร่
เพราะงั้นการวิ่งต่อไปคือทางเลือกที่ดีที่สุด
“โอ้วววววววว”
เอ็กซ์พลอเรอร์ขู่คำรามแล้วสับตีนหมา เช่นเดียวกับเอวาที่ส่งเสียงฮึดแล้ววิ่งสุดฝีเท้า
“กรรรรรรรรรรรร”
พวกอินเฟอร์โน่วูฟเองก็กระโจนพุ่งเข้ามาจากทางด้านหน้า
“ธันเดอร์โบลท์ !!!”
สายฟ้าของเอวาพุ่งเข้าปะทะกับบอลเพลิงที่อินเฟอร์โน่วูฟตัวหนึ่งยิงมาที่เอ็กซ์พลอเรอร์
ตู้ม !
การปะทะระหว่างสายฟ้าและเปลวเพลิงก่อเกิดแรงระเบิดที่สร้างควันสีเทาเข้าคั่นกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย
ทว่า อินเฟอร์โน่วูฟที่ฝีเท้าเร็วกว่าก็กระโจนฝ่ากลุ่มควันเข้ามาโรมรันกับพวกเด็กสาว
ฟุบ !
ตัวแรกเอ็กซ์พลอเรอร์ก้มหลบ มันเลยพุ่งผ่านเขาไปได้อย่างฉิวเฉียด ทว่า อีกตัวที่รู้ว่าเขาอ่อนแอสุดก็พุ่งกระแทกใส่ที่กลางลำตัวก่อนอ้าปากฝังเขี้ยวเข้าที่กลางลำตัว
“อั่ก !”
เอ็กซ์พลอเรอร์ที่กระอักด้วยความเจ็บปวดก็เค้นแรงทั้งหมดใช้กำปั้นต่อยเข้าที่หน้าของมันทั้งตาและจมูกกระนั้นมันก็ไม่ยอมปล่อยจนเขาหน้าซีด ทว่าเป็นจังหวะนั้นเองที่เอวาซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งก็หยิบมีดที่มารีนเคยให้ไว้ในไอเท็มบอกซ์ขึ้นมา
ชั่วพริบตาที่หมาป่าตัวหนึ่งกระโจนมาขย้ำคอของเธอ เอวาก็ย่อตัวหลบแล้วชูใบมีดสีเงินขึ้นฟ้า
แควก !!!
แรงกระแทกอันรุนแรงผสานเข้ากับใบมีดอันคมกริบแล้วผ่าผิวหนังบริเวณลำตัวของหมาป่าอย่างง่ายดาย
เลือดสดๆโปรยลงมาใส่ใบหน้าของเธอ อินเฟอร์โน่วูฟกลิ้งไปบนพื้นพร้อมกับอวัยวะภายในที่กระจัดกระจายออกมาจากรูกว้างที่ช่องท้อง
เด็กสาวไม่ต้องเสียแรงในการฆ่ามัน
เธอที่มีแรงเหลือเฟือ แม้จะเป็นแขนข้างซ้ายที่ไม่ถนัด แต่เอวาก็สามารถโยนมีดส่งไปหาเอ็กซ์พลอเรอร์ที่กำลังฟัดกับอินเฟอร์โน่วูฟอยู่
หมับ !
เขารับมีดที่อียฝ่ายส่งมาให้ด้วยความขอบคุณ ก่อนจะปักลงไปที่กลางหัวของอินเฟอ์โน่วูฟ
ฉึก !
ทันทีที่สมองถูกทำลาย ร่างของมันก็แน่นิ่งไม่ไหวติง
เขารีบแงะฟันของมันออกมาจากท้องจนเลือดจำนวนมากไหลทะลักออกมาจากบาดแผล
“อั่ก !”
“เอ็กซ์พลอเรอร์ !!!”
แม้จะเจ็บเจียนตายและเลือดไหลออกมาไม่หยุด แต่เอวาก็รีบพยุงเอ็กซ์พลอเรอร์ที่หน้าซีดไปตามทาง
— ระยะห่างเหลืออีกเพียงแค่ 10 เมตร
แง่ง !
ทว่า อินเฟอร์โน่วูฟก็ได้กระชั้นชิดกับทั้งสองเรียบร้อย หมาป่าตัวหนึ่งกระโดดงับเท้าของทั้งคู่แต่มันก็คลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย กระนั้นหมาป่าอีกตัวก็พุ่งมางับข้อเท้าของทั้งคู่ต่อในทันที แต่สุดท้ายมันก็ทำได้แค่เฉี่ยวข้อเท้าของเอวาจนสร้างได้เพียงแผลถลอก
“กรรรรรรรรรรร”
หมาป่าตัวหนึ่งจึงกระโจนเข้าใส่หัวของเอวาสุดแรงเกิด มองยังไงเอวาก็คงไม่รอดแร้ว
ตู้มมม
“กรร !?”
ทว่า ลูกบอลเพลิงจากหมาป่านรกอีกตัวก็ดันไปโดนร่างของมันเข้าอย่างจัง จนหมาป่าที่ตั้งใจตะปบหัวเอวาถึงกับตาเหลือก่อนกระเด็นเข้าไปกระแทกกับร่างของทั้งสอง
“อั่ก !”
“กรอด !!!”
แรงปะทะที่กลางหลังทำให้ทั้งคู่หมุนกลิ้งไปข้างหน้า
จากระยะ 10 เมตร เหลือเพียง 1 เมตร ในชั่วอึดใจ
“เอ็กซ์พลอเรอร์ !!!”
เอวากลิ้งตัวไปข้างหน้าจนอยู่ในบาเรีย
เธอรีบยื่นมือไปหาเอ็กซ์พลอเรอร์ทันทีที่ปลอดภัย
“แฮ่กๆๆ”
เอ็กซ์พลอเรอร์ที่ใบหน้าทุกข์ทรมานแสนสาหัสก็พยายามคลานมาข้างหน้าทีละก้าวสองก้าว
ทว่า ทุก 1 วินาที หมาป่านรกพวกนั้นก็จะเข้ามาใกล้มากขึ้นถึง 5 เมตร
ระยะห่างของเขาและพวกมันเหลือแค่เพียงข้อศอกเดียว !!!
“ย้ากกกกก”
“กรอด !!!”
เอ็กซ์พลอเรอร์ทุ่มแรงทั้งหมดที่มือดันร่างไปข้างหน้าแล้วคว้ามือของเอวาเอาไว้
หมับ !!!
เอวาที่จับมือของอีกฝ่ายแน่นก็ฉุดร่างของเอ็กซ์พลอเรอร์เข้ามาสุดแรงเกิด
กึกๆๆๆๆๆ
ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย ร่างของเอ็กซ์พลอเรอร์ก็ค่อยๆถูกดึงเข้าไปอยู่ในบาเรีย เริ่มจากหัว ลำตัว แล้วก็ขา
ทว่า ตอนนั้นเอง อินเฟอร์โน่วูฟตัวหนึ่งก็อ้าปากง้างฟันข้าใส่เท้าของเอ็กซ์พลอเรอร์—-
ตึ้ง !!!!
แต่แล้วเสียงกระแทกที่ดังสนั่นหวั่นไหวก็ทำให้ทุกฝ่ายตะลึงงันไปชั่วขณะ
คมเขี้ยวที่ควรจะฝังลงไปกลับปะทะเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น
ในขณะที่ปลายขาซึ่งควรจะถูกกัดจนขาดกลับยังติดอยู่กับเจ้าของร่างเฉกเช่นเดิม
“แฮ่กๆๆๆ”
“ฟุฮ่าว์ !”
ทั้งสองที่เหงื่อไหลท่วมหน้ามองใบหน้าของอินเฟอร์โน่วูฟที่เบียดเข้ากับบาเรียป้องกันจนเห็นเป็นภาพตลกราวกับหมาที่เอาหน้าไปแนบชิดกระจก
ทว่า พอเห็นระยะห่างเพียงหนึ่งข้อนิ้วระหว่างฟันอันแหลมคมและเท้าของเอ็กซ์พลอเรอร์ มันก็ทำให้ทั้งสองถึงกับหน้าซีดไปตามๆกัน ก่อนที่วินาทีถัดมาจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแทน
“ฮ่าๆๆ”
“แฮ่กๆ นะ นึกว่าจะตายซ่ะแล้ว”
เอวาเอนหลังล้มลง ส่วนเอ็กซ์พลอเรอร์ที่ปกติทำหน้าบึ้งตึงก็พลันหัวเราะร่า
ทั้งสองได้ฝ่าฝูงหมาป่าเวรพวกนั้นมาด้วยกันแล้วรอดได้โดยที่ไม่เสียใครไปเลย
“กรรรรรร”
ทว่า มันยังไม่จบ
ตึ้ง !
พวกหมาป่านรกเริ่มทำลายบาเรียใสๆที่ป้องกันไม่ให้พวกมันเข้ามาทำร้ายจอมเวทย์ทั้งสองคน
แรงกระแทกและบอลเพลิงที่พุ่งเข้าใส่ทำให้เกิดเสียงแจ้งเตือนถึงระดับความเสียหายของบาเรียบนเมจิคัลโฟน
หากปล่อยให้ถึง 0 บาเรียคงจะถูกทำลาย เช่นนั้น เอวาจะต้องรีบโจมตีพวกมันจากข้างหลังบาเรีย
ช่างเป็นความขี้โกงอะไรเช่นนี้ พวกมันทำอะไรเธอไม่ได้ แต่เวทมนต์ของเธอสามารถทะลุผ่านบาเรียไปทำร้ายพวกมันได้
กระนั้นแล้ว เพียงยกมือขวาขึ้นมา เอวาก็รู้สึกปวดแขนจนถึงกับกุมไหล่ด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว
ส่วนเอ็กซ์พลอเรอร์ที่เคยนั่งอยู่ก็ล้มลงกับพื้นแล้วแหงนหน้ามองฟ้า
เขาพยายามใช้นิ้วมือที่สั่นระริกกดลงไปยังเมจิคัลโฟนเพื่อหยิบน้ำยารักษาและผ้าพันแผลออกมา
เอวาที่เห็นพวกพ้องของเธอเริ่มไม่ไหวก็ฝืนร่างกายลุกขึ้นมาแล้วชูแขนขวาไปข้างหน้า
“โทษที..เดี๋ยวจะรีบจัดการให้เสร็จแล้วมาช่วย”
“อ่า…ทำงานของเธอไปเถอะ..ฉันดูแลตัวเองได้”
“รู้แล้วน่า วางใจฉันเถอะ”
ประกายแสงก่อตัวขึ้นที่วงแหวนในนิ้วชี้ พลังเวทย์ควบแน่นที่จุดเดียวก่อนจะค่อยๆขยายออก
เอวาจินตนาการถึงสายฟ้าอันทรงอานุภาพ เธอฝืนความเจ็บปวดเหนือต้นแขนแล้วตะโกนออกมา
“ธันเดอร์—-”
“มาช่วยแล้วค่า !!! ”
ทว่า ก่อนที่เธอจะได้ร่ายเวทย์ออกมา เสียงตะโกนอันสดใสร่าเริงก็ดังขึ้นมาจากด้านบน
หญิงสาวผู้หนึ่งได้หย่อนตัวลงมาจากบนฟ้าอย่างสง่างามและยืนขวางระหว่างเอวาและพวกอินเฟอร์โน่วูฟ
“กรรรร”
เหล่าหมาป่านรกมองมาที่หญิงสาวด้วยสายตาหวาดระแวง ในขณะที่หญิงสาวคนนั้นกลับหันมาหาเอวาโดยไม่กลัวเหล่ามอนสเตอร์ที่จ้องจะจู่โจ่มแผ่นหลังอันไร้ซึ่งการป้องกันแม้แต่น้อย
“ไม่ทราบว่า พวกคุณคือ แม่มดอัสนี และ ไวเบรเนียม เอ็กซ์พลอเรอร์ ใช่ไหมคะ ?”
หญิงสาวเอ่ยถามด้วยเสียงใสๆ
เธอคือจอมเวทย์ผู้ประดับเรือนร่างด้วยสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า เรือนผมสีม่วงเป็นลอนยาวถึงกลางหลังติดกิ๊ฟรูปลูกเบอรี่ขนาดเท่ากำปั้นเอาไว้ข้างหลัง ชุดที่เธอใส่คือชุดกระโปรงสีม่วงยาวเลยเข่าซึ่งจับจีบด้วยผ้าขาวสีโปร่ง
ดวงเนตรสีเหลืองทองกวาดดูทั้งสองคนอย่างร่าเริง และ เอียงหัวเล็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู
ทว่า จุดเด่นที่สุดของหญิงสาวก็คงเป็นกรรไกรยักษ์ขนาดเท่าส่วนสูงเอวาที่ถูกปักลงบนพื้น
หลังจากเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังถามตนอยู่ เอวาที่กำลังงุนงงก็พยักหัวอย่างว่างาย
“กรรรร !!!”
ทว่า พวกมอนสเตอร์ก็ไม่ใจดีถึงขนาดปล่อยให้หญิงสาวแนะนำตัว พวกมันสามตัวกระโจนเข้าใส่หญิงสาวชุดม่วงอย่างรวดเร็ว
“ระวัง !!!”
เอวาตะโกนเรียกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอันตื่นกลัว
ภาพของกรงเล็บที่ตะปบลงมายังร่างของเธอทำให้เอวารีบยื่นมือออกไปข้างหน้าหมายจะดึงตัวหญิงสาวเข้ามาในเขตปลอดภัย
กระนั้นในชั่วพริบตาที่คิดว่าชีวิตของผู้หญิงคนนั้นจะถูกแย่งชิงไป หญิงสาวชุดม่วงคนนั้นกลับเอียงหัวอย่างว่องไวและย่อตัวหลบ
ฝ่ามืออันบอบบาง ควงด้ามจับกรรไกรอย่างคล่องแคล่วราวกับไร้น้ำหนัก ปลายแหลมที่ถูกอ้าออกจนสะท้อนแววตาอันดุร้ายของหมาป่านรกเคลื่อนไหวดัง ฉับ ! ในชั่วพริบตา
ยังไม่ทันที่เอวาจะสัมผัสร่างของหญิงสาว กรรไกรของเธอก็ตวัดอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับดวงเนตรสีทองที่เปล่งแสงเรืองรองท่ามกลางความมืดมิด
แผล่ะ !!!
ร่างของอินเฟอร์โน่วูฟสามตัวที่ถูกผ่าร่างออกเป็นครึ่งซีกตามแนวยาวลื่นไถลเข้ามาในบาเรียก่อนจะไปชนเข้ากับเท้าของเอวา
เอวามองศพของอินเฟอร์โน่ด้วยใบหน้าตกตะลึงก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า
ฉับๆๆๆๆๆ ฉับ !!! ฉับ !!!
เสียงตวัดกรรไกรดังตามหลังแสงสีเงินที่สะบัดโค้งไปมา
ท่ามกลางความมืดมิด ร่างของหมาป่านรกตัวแล้วตัวเล่าก็ถูกผ่าแยกออกเป็นสองซีกอย่างเนียนกริบ
หยดเลือดไหลนองไปทั่วพื้น ทุกครั้งที่หญิงสาวก้าวเดินจนกระโปรงสะบัดพริ้ว จะต้องมีหมาป่าผู้โชคร้ายกลายเป็นเหยื่อสังเวยอย่างน้อยหนึ่งตัว
หลังจากผ่านไปไม่เกิน 5 นาที สตรีสีม่วงที่แก้มขาวผ่องเปรอะเปื้อนหยาดเลือดก็หันกลับมายิ้มให้กับเอวาอย่างร่าเริง
“ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็ขออภัยที่มาช้านะคะทั้งสองคน —-”
กึก !
กรรไกรชุ่มเลือดถูกปักลงบนพื้น รอบกายของเธอรายล้อมไปด้วยซากศพของอินเฟอร์โน่วูฟกองเป็นพะเนิน
“ฉัน บลูเบอรี่ ซิสเซอร์ จากเมือง จางไห่ ขออภัยที่มาช้าค่ะ !!!”
บลูเบอรี่ ซิสเซอร์ จอมเวทย์ ไร้ธาตุ ระยะใกล้ ระดับโกล จากเมืองจางไห่
ทาเล้นท์ของเธอคือ กรรไกรยักษ์ประจำตัวที่สามารถตัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ขาดออกจากกันได้
ณ บัดนี้ 1 ใน 2 จอมเวทย์ที่หายไปได้มาเข้าร่วมอีเว้นท์เป็นที่เรียบร้อย