ฉันมีชื่อเล่นว่า มินท์ และฉันรู้จักกับแก้มมาตั้งแต่เมื่อตอนเด็กๆ เราเป็นเพื่อนบ้านกันจึงได้เล่นด้วยกันบ่อยๆ
แก้มเป็นลูกสาวคนโตของบ้าน
ฉันก็เป็นลูกคนเดียว
ฉันเชื่อว่าฉันเคยเป็นเด็กร่าเริง ชอบการพูดคุย ชอบเข้าถึงเนื้อถึงตัวคนอื่นและนั่นทำให้คนมองฉันแปลกๆ ก็ไม่เข้าใจพฤติกรรมของตัวเองเหมือนกัน
พยายามห้ามตัวเองก็แล้ว สิ่งนี้มันผิดแน่ๆ และไม่มีทางถูก ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมทุกคนถึงเกลียดฉันล่ะ ตอนแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่พอผ่านไปฉันก็เริ่มรู้สึกว่าบางอย่างในตัวฉันมันหายไป…มันคือตัวตนของฉัน
แต่ถึงอย่างไรเราทั้ง 2 คนก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทำให้ฉันไม่เหงา ฉันเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
วันหนึ่ง แก้มมาหาฉันที่บ้าน เรายืนคุยกันที่ประตูหน้าบ้าน
“ดูแมวตัวนี้สิ น่ารักไหม~ ฉันเก็บมาเลี้ยงได้หลายวันแล้ว” แก้มกอดแมวอยู่ตัวหนึ่ง
“มันดูขี้เซานะ”
“ฮ่าๆ ก็อย่างนี้แหละ ฉันเลยชอบมัน อยากลองอุ้มไหม”
“อยากลองสัมผัสมาตลอดเลย ขอลองนะ” ฉันอยากลองสัมผัสขนฟูฟ่องนั่นสักครั้ง
“อื้อ”
รู้สึกเหมือนกับได้เปิดโลกใหม่เลยล่ะ
มันให้ผิวสัมผัสที่นุ่มฟูและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
ดูกี่ทีหน้ามันก็ขี้เซาจริงๆ
“น่าหมั่นไส้จังเลยอะ”
“ก็จริงนะ ฮ่าๆ”
บางทีมันอาจจะหลับอยู่จริงๆก็ได้ เพราะหลังจากมันลืมตาก็พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนฉันด้วยท่าทางตื่นตระหนก พอหลุดออกไปมันก็วิ่งหนีจากฉัน
“อ๊ะ” แก้มส่งเสียงร้องแล้ววิ่งตามไป
ฉันสังเกตเห็นบางสิ่งเคลื่อนมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“อย่าไปนะ!” ฉันคว้าแขนแก้มไว้เสี้ยววินาทีสุดท้าย
เผละ!
โครม!
เป็นรถยนต์คันหนึ่งเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าใกล้ๆ หลังจากเหยียบกับอะไรบางอย่าง ดูเหมือนจะคนขับจะหลับใน ข่าวออกมาแบบนั้น
แต่สิ่งที่ยังติดตาฉันอยู่ไม่ใช่รถคันนั้น เป็นเจ้าแมวตัวนั้นต่างหาก สภาพเละไม่มีชิ้นดี พร้อมกับแก้มที่นั้นร้องไห้อยู่ข้างๆ หลังจากได้เห็นภาพนั้นเหมือนกัน หลังจากนั้นเธอก็กลัวเลือดมาตลอด ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน นั่นเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกของเธอ
ขณะที่เราช่วยกันฝังศพแมวตัวนั้น
“ฉันขอโทษนะ” ฉันยังรู้สึกผิดไม่หาย
“อย่าพูดได้ไหม ถ้าเธอจับมันไว้แน่นกว่านั้นล่ะก็” แก้มมีท่าทีโกรธไม่หาย
ด้วยความเป็นเด็กเราก็โทษกันไปกันมา ทะเลาะกันใหญ่โต เราปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังไปหลายวัน
วันหนึ่งฉันเห็นแก้มกับแม่มาที่หน้าบ้านของฉันในขณะที่น้ำตาคลอเบ้าพร้อมกับแม่ของเธอยืนกำชับอยู่ข้างๆ
“ฮึก!…”
“เอ้า ขอโทษซะสิ”
“ข…ขอโทษนะที่พูดแบบนั้น!”
ฉันดีใจแทบแย่ เราร้องไห้กอดกันพูดไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนเธอจะถือขนมมาด้วย แต่ฉันแค่อยากเจอเธอเท่านั้น สุดท้ายการทะเลาะกันของเด็กๆ ก็จบลงด้วยดี
จนถึงวันที่เราได้เข้าโรงเรียนมัธยมต้นด้วยกัน เราก็ได้รู้จักกับเมฆที่อยู่ห้องเดียวกัน
เมฆเป็นคนเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียว เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มเด็กอันธพาลก็ก่อตัวและแกล้งเมฆซึ่งไม่ตอบโต้อยู่บ่อยๆ
แก้มมักจะเข้าไปช่วยเหลือเขาเสมอ พอฉันเห็นบ่อยๆ ก็ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องเข้าช่วยอยู่แล้วสิ
เราทั้ง 3 คนจึงตกเป็นเป้าหมายการกลั่นแกล้ง
มีช่วงหนึ่งที่การกลั่นแกล้งหายไป
หลายคนคิดว่ามันจบแล้ว
แต่วันหนึ่งมันก็กลับมา และขณะเดียวกันก็เป็นวันที่การแกล้งกันมาถึงจุดต้องยุติ
ก่อนวันปิดเทอม เมฆไม่ได้กลับบ้าน โรงเรียนเร่งการสืบสวนขึ้นทันทีที่ได้รับแจ้ง
ในขณะเดียวกันแก้มกับฉันก็สังหรณ์ใจไม่ดี ถ้าเป็นเด็กคนอื่นถูกรังแกหรือลักพาตัวคงจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่สำหรับเมฆ เขาอาจไม่ส่งเสียงร้องสักแอะก็เป็นได้
โชคยังดีที่ไม่ใช่การลักพาตัว เขาถูกขังไว้ในตู้ล็อกเกอร์ผุพังข้างๆ ห้องเก็บของ หลังจากเมฆถูกส่งตัวกลับบ้านทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็กอันธพาลตัวการ ครู ผู้อำนวยการ ผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องถูกไล่สอบสวนกันหมดและได้รับโทษกันตามความเหมาะสม
เหตุการณ์นั้นทำให้เมฆหวาดกลัวต่อที่แคบมาตลอด เขากักตัวอยู่ในห้องไม่พูดไม่จากับใครจนคนที่ทำให้เขา ยอมออกมาเจอผู้คนได้ก็คือแก้มนั่นเอง ครอบครัวของเมฆก็มีส่วนทำให้อาการของเขาดีขึ้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ยื่นมือเข้าไปคนแรกไม่ว่าจะเป็นครั้งใดก็คือเธอ
หลังจากนั้นเราทั้ง 3 คนก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ความสัมพันธ์พวกเราก็ไม่ได้ราบรื่นนักหรอกแต่รวมๆ แล้วคือพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปเลย
เมื่อเราโตขึ้นฉันก็สังเกตเห็นบางอย่าง โดยสรุปคือแก้มกับเมฆเริ่มมีใจให้กันแต่พวกเขาไม่แสดงออก
ฉันในฐานะเพื่อนอยากจะช่วยให้พวกเขารับรู้ความในใจของกันและกันเสียที
นั่นคือเหตุผลที่ฉันทำเรื่องทั้งหมดเหรอ
หรือจริงๆ เป็นแค่คำอ้างที่ใช้กลบเสียงกรีดร้องในใจของฉันกันแน่
MANGA DISCUSSION