ผมเข้าโรงเรียนในฐานะนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 4 มาระยะหนึ่งแล้ว
ตอนนี้ผ่านการสอบกลางภาคมาอย่างไม่มีปัญหา
ผมมีเพื่อนที่ค่อนข้างเชื่อใจได้อยู่ 3 คน เมฆ แก้มและมินท์
ความสัมพันธ์ของพวกเราราบรื่นดี
แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง
มินท์ชอบเข้าประชิดตัวผมแบบไม่ระวังตัว
พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมเสนอตัวเข้าช่วยเธอครั้งแรก
ผมเสียพื้นที่ส่วนตัวไปก็จริง แต่ที่กวนใจผมมากที่สุดคือ ผมไขปริศนาพฤติกรรมแปลกๆของเจ้าตัวไม่ออก
จะมองว่าเป็นเรื่องปกติคงไม่ได้แล้ว ผมไม่เห็นเพื่อนกันที่ไหนเขาทำกันแบบนั้น
กับคนอื่นเธอก็ทำตัวปกติ ไม่พูดจาเกินจำเป็น รักษาระยะห่าง
เธอคิดอะไรอยู่หรือมองผมอยู่ในฐานะอะไรก็ไม่รู้
ผมสนใจมากว่าเธอคิดจะทำอะไร เพราะแบบนั้นเลยตามน้ำไปเรื่อยๆ แค่ระวังไม่ให้อะไรมันเลยเถิดไปก็พอ
เวลาเย็นๆหลังเลิกเรียน
‘สวัสดี’ มินท์ทักแชทส่วนตัวหาผม
‘ว่าไง’
‘เปล่า ทักมาเล่นๆ’
สงสัยเจ้าตัวคงจะว่างมาก
เช้าวันต่อมา ผมมาโรงเรียนตามปกติ อากาศร้อนเหมือนเดิม รู้สึกเรี่ยวแรงค่อยๆหายไประหว่างเดินไปห้องเรียนหลังเข้าแถว
“บางคนอาจจะรู้แล้วว่าเร็วๆนี้เราจะมีทัศนศึกษากัน เพราะฉะนั้นชั่วโมงโฮมรูมนี้ครูจะให้คุยกันว่าจะเลือกไปที่ไหน เวลาในการทัศนศึกษาคือสามวันสองคืน ถึงจะบอกว่าเลือกได้ แต่ตัวเลือกก็มีไว้ให้อยู่ไม่เยอะ ใช้เวลาชั่วโมงนี้คุยกันให้เต็มที่ล่ะ ครูมีเรื่องจะบอกแค่นี้ หลังจากนี้ก็ตามสบายนะ”
ได้ข่าวเพิ่มเติมมาว่าปีนี้มีปัญหาหลายอย่างทำให้ทัศนศึกษาได้จัดเร็วกว่าทุกปี
นอกจากนั้นยังถือโอกาสนี้จับสายรหัสไปด้วยเลย
หลังจากนั้นครูก็คุยนักเรียนเรื่องสัพเพเหระกันนิดหน่อยแล้วค่อยเดินออกจากห้อง
ผมจะไม่พูดรายละเอียดมาก ห้องเรามีข้อปฏิบัติคือบางครั้ง ม.4,5 และ 6 จะไปกันทั้ง 3 ชั้นปี และรุ่นพี่ม.5 จะเป็นคนพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมไว้แล้ว
ทะเล พิพิธภัณฑ์และเกาะ นี่คือจุดเด่นของแต่ละเส้นทางที่เราเลือกได้ ที่พูดอย่างนี้เพราะคนส่วนใหญ่ตั้งใจไปพักผ่อน ที่ชมงานวิชาการระหว่างทางก็แค่ของแถม
หลังจากทำการลงคะแนนเสียงพวกเราก็ตกลงกัน
ทะเลได้คะแนนสูงสุดสูสีกับเกาะ ส่วนพิพิธภัณฑ์…น่าสงสารที่มีคนเลือกแค่ 8 จาก 40 คน ซึ่ง 1 ในนั้นคือผม ส่วนคนอื่นผมไม่รู้
หลังจากกำหนดการออกมาผมก็อ่านคร่าวๆ สายตาผมคัดเลือกดูแค่ว่าต้องตื่นกี่โมง ใส่ชุดอะไร ของใช้ที่จำเป็น แล้วก็เตรียมการตามนั้น
แล้ววันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงวันที่ต้องเดินทาง
ถึงเวลาประมาณตี 5 ผมก็มาปรากฏตัวที่โรงเรียน
ขณะที่กำลังจับจองที่นั่งบนรถปรับอากาศสองชั้นที่มีที่นั่งว่างมากมายเกินเพียงพอนั่นเอง…
ฟึ่บ
ชายเสื้อผมถูกดึงไปข้างๆ
มินท์ส่งสายตามาทางผมแล้วใช้มือตบเบาะข้างๆที่ยังว่างเบาๆ เป็นคำชวนหรืออะไรก็ไม่รู้
“นั่งได้เหรอ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ
“อื้อ” เธอมีปฏิกิริยาไม่เปลี่ยนแปลง
ผมไม่ปฏิเสธคำชวนนี้
ได้กลิ่นหอมแบบเดิมเตะจมูก
“มีเรื่องจะคุยน่ะ” เธอบอกแบบนั้น
“เรื่องอะไร” ผมไม่ได้ตั้งใจพูดห้วนนะ แต่มันออกไปแบบนั้น
“จริงๆมีเรื่องอยากให้ช่วย”
“ถ้าพอจะช่วยได้ก็จะช่วย”
“งั้นอ่านแชทให้ทีนะ”
‘เป็นพ่อสื่อให้หน่อยได้ไหม’ มินท์ส่งข้อความมาหาผม ทำไมต้องเป็นเรื่องแบบนี้ ผมไม่ถนัดสุดๆ ผมหันไปมองหน้าเธอด้วยความสงสัย เธอชี้นิ้วไปที่มือถือ
‘เธอชอบใครเหรอ’ ผมพิมพ์ตอบกลับ
‘เปล่า นายน่ะเป็นพ่อสื่อให้แก้มกับเมฆ แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากเพราะฉันจะร่วมมือด้วย’
‘ก็ได้อยู่มั้ง แต่ฉันโกหกไม่เก่งนะ’
‘ไม่ต้องห่วง’
‘เรื่องมันเป็นมายังไง’
‘อยากรู้เหรอ’ เธอดูกำลังสนุกอยู่
‘แน่สิ’ ผมตอบกลับไป
‘ฉันก็บอกไม่ได้มาก แก้มชอบเมฆก่อนน่ะ ชอบมานานแล้วด้วย แต่เมฆก็ไม่รู้ตัวสักที ทึ่มเนาะ?’ เธอมองมาทางผมครู่หนึ่ง
‘ไม่ใช่แบบนั้นหรอกมั้ง แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง’
‘ยังไม่รู้เหมือนกัน มาช่วยกันคิดเถอะ’
แล้วเธอก็ส่งรูปกำหนดการมาให้ผม
จะไปรอดไหมเนี่ย
หลังคุยเรื่องแผนการกันพอสมควรเราก็พักเรื่องนั้นไว้ก่อน
“นายได้คำใบ้หรือยัง”
หมายถึงคำใบ้ถึงพี่รหัส
“ได้แล้ว”
“เป็นไงบ้างอะ สืบได้ยังว่าใคร”
“ยังเลย”
“ขอดูได้ปะ ฉันอาจจะรู้ก็ได้นะ”
ถ้าตามตัวไม่เจอแน่นอนว่ามีบทลงโทษ และนี่คือคำใบ้ที่ผมได้
‘วันหนึ่งครับ
ผมเดินเข้าไปในถ้ำ
ตะโกนสุดเสียง แล้วก็ได้ยินเสียงตัวเองตอบกลับมา’
“อะไรเนี่ย” เธอขมวดคิ้ว
นั่นสิ ตอนนี้ผมก็คิดไม่ออก
“ขอดูของมินท์หน่อยได้ไหม”
“ได้ๆ ช่วยกันคิดก็ดีนะ”
‘เป็นคนหวานๆ
ลูกเยอะ
กลมๆม่วงๆ’
“เอิ่ม… ผลไม้?”
“อาจจะใช่ ของฉันพอเดาได้แต่ของนายนี่สิ” เธอยังจ้องคำใบ้ของผมไม่หยุด
แต่ไม่ว่าอย่างไร ถ้าอยากตามตัวเจออย่างแน่นอน ผมก็ต้องขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่ แต่ผมไม่เคยรู้จักใครสักคนมาก่อน
“มินท์พอรู้จักรุ่นพี่หรือเปล่า”
“ไม่รู้จักเลยสักคน”
สงสัยผมคงต้องเตรียมโดนโทษสถานเดียว แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นก็ตอนคืนสุดท้ายของการทัศนศึกษา ตอนนี้ผมเล่นเป็นพ่อสื่อก่อนดีกว่า
MANGA DISCUSSION