“ท่านต้องการรู้จริงๆ หรือว่าอยากรู้ว่าคิดสิ่งใดอยู่”
แววตาจริงจังที่สบมาอย่างแน่วแน่ราวกับเขาจะไม่หนีหายไปไหนและจะตัดสินใจด้วยตนเอง ทำให้นางถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
“ประการแรกข้าหวาดกลัวเรื่องความรัก แต่ครึ่งปีมานี้ท่านทำให้ข้ารู้ถึงความจริงใจของท่าน แต่ด้วยสถานะของท่านคือองค์ชายที่ต้องสืบทอดบัลลังก์ต่อจากบิดาท่าน ท่านจะต้องมีพระสนมหลายพันคนในตำหนักซึ่งเป็นเรื่องที่ข้าไม่อาจยอมรับ ถึงท่านจะไม่ได้เป็นฮ่องเต้ แค่ชายารองข้าก็รับไม่ได้เช่นกัน ท่านจะว่าข้าใจแคบก็ตาม ในเมื่อทุกอย่างไม่สามารถเป็นอย่างที่ข้าต้องการ ข้าจึงอยากแยกทางจากท่านเสียตอนนี้ดีกว่าต้องมาเจ็บปวดภายหลัง”
“เหตุใดเจ้าไม่เอ่ยถามข้ามาโดยตรง เหตุใดต้องคิดเอง”
เซียวหยวนซานถอนหายใจแผ่วเบา เมื่อครู่นี้ตนรู้สึกใจหายจริงๆ แม้จ้าวเหม่ยเซียนจะไม่พูดถึงเขาก็ไม่มีความคิดรับชายารองอีก
เขาไม่อยากเป็นเหมือนมารดาที่เฝ้ารอรักจนตรอมใจตาย ทิ้งให้เขาถูกเสี่ยนเฟยนำไปเลี้ยงดูเพื่อผลประโยชน์ หากเขาไม่แสร้งทำตัวอ่อนแอ ไร่ค่ามานาน ป่านนี้คงเป็นวิญญาณอยู่ในแม่น้ำเหลืองแล้วกระมัง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจหนีพ้นความริษยาของพี่น้องได้ แม้ไม่อยากได้อำนาจแต่พวกงูพิษเหล่านั้นก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปเช่นกัน
“ท่านคิดว่าตนเองทำตามความต้องการข้าได้หรือไร” จ้าวเหม่ยเซียนขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อถูกกอดรัดแน่นขึ้น
“ย่อมเป็นเช่นนั้น ข้าหาได้อยากเป็นฮ่องเต้ไม่ และข้าอยากมีเจ้าเป็นชายาเพียงคนเดียวเท่านั้น เซียนเอ๋อร์ได้โปรดเชื่อข้า”
จ้าวเหม่ยเซียนหยุดดิ้นเงยหน้ามองสบกับดวงตาคมกริบ ความจริงจังหนักแน่นที่ส่งมาทำให้หัวใจเต้นเร็วรัวกลัวว่าจะหลุดออกมา แต่เมื่อเบือนหน้าหนีด้วยความเขินก็ต้องนิ่งอึ้ง
บรรยากาศรอบกายมีแต่ป่าทึบ… นางถอนหายใจอย่างปลดปลงหากต้องการความโรแมนติกจากเซียวหยวนซานคงได้แต่รอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกเสียก่อน
“ข้าจะเชื่อใจท่านสักครั้ง หากเมื่อไหร่ที่ผิดคำพูดข้าจะสังหารท่านด้วยมือของข้าเอง”
“ย่อมไม่มีวันนั้น”
เซียวหยวนซานตอบกลับอย่างมั่นใจ รอยยิ้มกลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนด้วยความรักใคร่
แม้จะเห็นเขากินเต้าหู้นางอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยล่วงเกินไปมากกว่านี้ เขาเฝ้ารอเวลาให้ผลไม้ที่เฝ้าดูแลสุกหงอม เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะกินไม่เหลือ…
หลังจากปรับความเข้าใจกันได้แล้ว จ้าวเหม่ยเซียนจึงได้เดินทางไปยังสำนักแสงจันทร์ ที่นี่ค่อนข้างลึกลับลูกศิษย์แต่ละคนระดับหัวกระทิ และที่แห่งนี้คือที่เซียวหยวนซานขอนางแต่งงานซึ่งครั้งนี้นางตกลงอย่างยินดี
ก่อนจะจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินอย่างเงียบๆ ไปก่อน หลังจากช่วยพี่ชายชิงบัลลังก์สำเร็จค่อยจัดขบวนแต่งงานตามธรรมเนียนของแคว้นจ้าวอีกครั้ง ถึงอย่างไรร่างนี้ก็ยังมีบิดามารดา
งานแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้หรูหราแต่นางกลับรู้สึกพอใจมาก เพราะจากนี้ไปเซียวหยวนซานจะส่งคนสำนักแสงจันทร์ไปช่วยพี่ชายนาง นางแค่รอให้สงครามในครั้งนี้จบลงแล้วค่อยไปนั่งสวยๆ รอเกี้ยวเจ้าบ่าวมารับเท่านั้น
และไม่เกินความคาดหมายของนางเพียงหนึ่งเดือนเฟิ่งหยางก็จับคนก่อกบฏและลงโทษคนเหล่านั้นอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้ใครเอาเยี่ยงอย่างและนางก็ได้แก้แค้นให้เจ้าของร่างไปในตัวด้วย เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว
ตอนนี้เสด็จพ่อยังมีชีวิตอยู่ดีมีสุขเพียงแค่รอนางแต่งงานพวกเขาก็จะพากันไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน เสด็จแม่อาจใจเด็ดยอมเคียงข้างเสด็จพ่อทั้งๆ ทีเสด็จพ่อมีสนมมากมาย
ทว่าตัวนางเองไม่อาจเป็นแบบฮองเฮาแคว้นจ้าวได้ ใครจะว่านางเห็นแก่ตัวก็ตาม
อีกหนึ่งเดือนให้หลังแคว้นจ้าวก็มีขบวนเจ้าบ่าวใหญ่โต และยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งคนที่เป็นเจ้าสาวกลับเป็นองค์หญิงจ้าวเหม่ยเซียนที่ผู้คนแทบลืมเลือนตัวตนนางไปแล้ว
และน้อยคนนักที่จะรู้ว่านางคือคนเดียวกับหมอปีศาจในตำนานที่ผู้คนกล่าวถึงในเวลานี้…
หลังจากผ่านงานแต่งงานนางไปไม่นาน ฮ่องเต้ก็ประกาศราชโองการสละบัลลังก์และแต่งตั้งเฟิ่งหยางเป็นฮ่องเต้คนต่อไป สามเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผู้คนต่างกล่าวถึงไปอีกนานแสนนาน…
MANGA DISCUSSION