เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 500 เธอไม่ธรรมดา
ไม่แปลกใจเลยที่แครแโรลจะให้ความเคารพเขามากถึง เพียงนี้ อีกฝุายเป็นถึงแชมป้์มวย นั่นก็ถูกต้องแล้ว
แครแโรลเหลือบมองอีกรอบ กําชับคนตระกูลสวีไปไม่กี่ ประโยคก็พาเบิรแตเดินไปที่โซนหนึ่ง
“ท่านเบิรแต?” ทั้งสองเดินไปที่ทางเข้าฐาน เบิรแตหยุดเท้า ครู่หนึ่ง แครแโรลเงยหน้ามอง
เบิรแตมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลัง นัยนแตาดําขลับ เยือกเย็น มีพลังดุดัน แววตาแวววับไปด้วยเลือดราวกับ สายตาอํามหิต
เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ คนตระกูลสวีที่จิตอ่อนก็ ถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ
สายตาเบิรแตหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียวภายในกลุ่ม ผู้หญิง คนนั้นดูเหมือนจะรั้นอยู่หน่อยๆ แต่กลับไม่มีอาการหดหู่หรือ โศกเศร้าแบบนั้นแต่อย่างใด
คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย เขาส่ายหัวซ้ําๆ พูดด้วยเสียงดัง ทุ้ม “ไม่มีอะไร ดูผิดไป”
พอพูดจบเขาก็เดินเข้าไปข้างในพร้อมแครแโรล
คนส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างนอกนั้นเป็นคนตระกูลสวี
นี่แชมป้์มวยใต้ดินจริงๆ หรือนี่?
อารองสวีและคนตระกูลสวีมีสีหน้าตกอกตกใจ อดไม่ได้ ที่จะมองไปทางฉินหร่าน
ในขณะเดียวกันก็มีคําถามเพียงคําถามเดียวที่วนเวียนอยู่ ในหัว——
ฉินหร่านเธอรู้ได้อย่างไร?
คนอื่นต่างก็กําลังตกอกตกใจกันอยู่ แต่เฉิงมู่กลับมีท่าที ต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง เขาถือกระเปาเดินทางพลางมอง เบิรแตด้วยสายตาชื่นชม อารมณแคึกคักเล็กน้อย “ที่แท้เขาก็ เป็นแชมป้์มวยนี่เอง คงเก่งมากแน่ๆ”
เขาเคยได้ยินฉินหร่านกับซือลี่หมิงพูดถึงสนามมวยเมื่อปี ที่แล้ว
แต่ว่า…สุดท้ายฉินหร่านก็ไม่ให้เขาไป
ตอนนั้นฉินหร่านคุ้นเคยกับสนามมวยเป็นอย่างดี ดังนั้น เฉิงมู่จึงไม่แปลกใจที่เบิรแตออกมาในวันนี้
เวลานี้เขาเพียงรู้สึกชื่นชมในตัวเบิรแตอย่างเต็มเปี่ยม เขา คิดว่าคนที่กล้าขึ้นเวทีมวยล้วนเป็นคนไม่คิดชีวิตและมี ปณิธานอันแรงกล้า การที่ต่อสู้บนเวทีมวยเดนตายจนได้ชื่อ ว่าเป็นแชมป้์มวยใต้ดินก็เพียงพอแล้วที่เฉิงมู่จะชื่นชม
เพราะถึงอย่างไร…
แม้แต่ซือลี่หมิงยังหวงแหนชีวิต ไม่กล้าไปต่อยมวยเดน ตาย
เมื่อสวีเหยากวงเห็นเฉิงมู่ดูไม่ตกใจเลยแม้แต่น้อยจนถึง ขนาดยังมีอารมณแคึกคักอยู่หน่อยๆ เขาจึงผงะไปชั่วขณะหนึ่ง เหลือบมองฉินหร่านกับเฉิงมู่อีกครั้ง
“คุณชายเสี่ยวสวี พวกคุณตามผมมา” หลังจากแครแโรล ไปแล้ว คนเฝูาประตูฐานก็พาสวีเหยากวงและคนอื่นๆ ไปที่ โซนสาม
ตระกูลสวีเป็นสมาชิกของตระกูลมาสอยู่แล้ว แม้จะ เทียบไม่ได้กับตระกูลมาส แต่นอกเหนือจากกองกําลัง
ระดับสูงเหล่านี้ในรัฐ M ก็ถือว่ามีตัวตนกว่ากลุ่มคนธรรมดา ทั่วไป
ในสายตาคนเหล่านี้ ตระกูลสวีก็อยู่ในระดับเดียวกับแครแ โรลที่สูงเกินกว่าจะตะกายถึง
**
ฐานที่มั่นของตระกูลมาสมีพื้นที่ขนาดใหญ่
กลุ่มของสวีเหยากวงพักอาคารสามชั้นที่มีทั้งหมดสิบ ห้อง
ฉินหร่านอยู่ห้องด้านในสุดของชั้นสาม เฉิงมู่อยู่ห้องติด กับเธอ ส่วนสวีเหยากวงอยู่ห้องติดกับเฉิงมู่
เฉิงมู่เข้ามาในห้องแล้วกวาดตามอง ที่พักอาศัยในฐานที่ มั่นทางด้านนี้ยังสู้เฉิงเจวี้ยนไม่ได้ ค่อนข้างเรียบง่ายไม่มีการ ตกแต่งใดๆ
เขานํากระถางดอกไม้มาวางไว้และสํารวจห้องก่อนจะ ออกไป
ฉินหร่านไปหลับทั้งวัน
เวลาห้าโมงเย็น เฉิงมู่ปลุกลงไปทานข้าว
ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศ ฉินหร่านสวมเสื้อคลุม ลวกๆ แล้วเดินออกประตูไปอย่างเกียจคร้าน
“ตอนบ่ายคุณชายเจวี้ยนโทร.หาผม คุณหนูฉินจะโทร. กลับไหมครับ?” เฉิงมู่เดินตามหลังฉินหร่าน ในมือยังถือ โทรศัพทแ
“รู้แล้ว” ฉินหร่านม้วนแขนเสื้อข้างซ้ายขึ้น ตอบกลับ สบายๆ
ชั้นล่าง
สวีเหยากวงกับอารองสวีไม่ได้นอน พวกเขากับแครแโรล ยุ่งอยู่ในฐานที่มั่นเกือบทั้งวัน
“เธอกําลังทําอะไรน่ะ?” ผู้รับผิดชอบตระกูลสวีท่านหนึ่ง มองไปยังชั้นบนพลางขมวดคิ้ว
“ได้ยินเฉิงมู่บอกว่านอนตลอดเวลา” อารองสวีก็มองไป ยังชั้นบนด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แบบนี้ก็ดี เธอก็ฉลาด เหมือนกันนี่”
ถึงอย่างไรฉินหร่านก็ไม่ใช่คนทั่วไป เธอโดดเด่นใน สถาบันวิจัย
สถานะยังพิเศษมากอีกด้วย
คนตระกูลสวีส่วนใหญ่ตั้งแต่บนลงล่างล้วนเกรงกลัวเธอ มิฉะนั้นก็คงไม่พยายามห้ามท่านสวีให้ฉินหร่านมาถึงรัฐ M
ตอนนี้เธอหลีกเลี่ยงภารกิจตระกูลสวี ยังถือว่ามีวิสัยทัศนแ
“คราวนี้ท่านเบิรแตน่าจะคว้าอันดับดีๆ มาได้แน่…” ขณะ อารองสวีพูด ฉินหร่านกับเฉิงมู่ก็ลงมาจากข้างบน
อารองสวีพูดได้เพียงครึ่งหนึ่งก็หยุดกะทันหัน
ไม่ได้พูดอะไรอีก
เห็นได้ชัดว่าหลีกเลี่ยงฉินหร่านกับเฉิงมู่
แน่นอนว่าฉินหร่านก็ไม่ได้ถาม เธอรู้จุดประสงคแที่ อาจารยแใหญ่สวีให้เธอมารัฐ M ดี เขาต้องการให้เธอสร้าง บารมีในหมู่กระดูกสันหลังตระกูลสวีเหล่านี้เสียก่อน
น่าคิดหนัก
ฉินหร่านนั่งที่นั่งว่างพลางขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
สวีเหยากวงที่นั่งฝั่งตรงข้ามเหลือบมองอารองสวี เขาละ สายตามาอย่างเงียบๆ และพูดกับฉินหร่านต่อ “ครั้งนี้เป็น การแบ่งกองกําลังทางฝั่งตะวันตกของอินเตอรแเนชั่นแนลเซ็น เตอรแ ส่วนรายละเอียดเป็นยังไงนั้นฉันก็ไม่แน่ใจ”
สวีเหยากวงไม่ค่อยรู้จักกองกําลังรัฐ M เท่าไหร่
ทางฝั่งตะวันตกของรัฐ M เป็นกองกําลังฝุายไหนเขาก็ยัง ไม่รู้
เขาบอกจุดประสงคแที่ตระกูลสวีมาครั้งนี้กับฉินหร่าน ภายใต้สถานการณแแย่งชิงตลาดในครั้งนี้จะมีการจัดสรรปัน ส่วนให้ตระกูลสวีโดยตรง
มือฉินหร่านที่กําลังถือตะเกียบชะงัก เธอเงยหน้ามองสวี เหยากวงด้วยแววตาสั่นไหวที่ทะลักออกมาอย่างอดไม่ได้
กองกําลังทางฝั่งตะวันตก…
มิน่าล่ะไม่กี่วันมานี้เฉิงเจวี้ยนถึงรีบกลับรัฐ M เพื่อ จัดการปัญหาพันธมิตรใต้ดิน กลัวก็แต่ว่าจะมีส่วนร่วมกับ เหตุการณแครั้งนี้ด้วย
เธอละสายตา
และไม่พูดต่อ
หลังจากทานข้าวเสร็จ ฉินหร่านก็ถือโทรศัพทแขึ้นไป ข้างบน
อารองสวีและคนอื่นสบตากัน รอจนกระทั่งสวีเหยากวง ไปถึงห้องหนังสือก็มองมาที่เขา “คุณชายเสี่ยวสวี ทําไมคุณ ไปบอกเธออย่างนั้นล่ะ? ผมรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าเธอ…ไม่ใช่ คนธรรมดา”
สวีเหยากวงมองไปยังนอกหน้าต่าง ขณะนี้ใกล้จะหกโมง เย็นแล้ว พระอาทิตยแค่อยๆ ลับลงเขา มีแสงอาทิตยแส่องระ เรื่อๆ
“คนที่คุณปูุเลือกจะเชื่อ คงไม่มีทางผิดหวัง” สวีเหยาก วงหันไป เขาหลุบตาลงเพื่อนซ่อนประกายที่อยู่ในดวงตา
อารองสวีขมวดคิ้วแน่น “แต่คุณไม่รู้สึกแปลกๆ บ้างเลย เหรอ? เธอเป็นแค่นักศึกษาในประเทศ แต่ทําไมมองแวบ เดียวก็เล่าสถานะเบิรแตได้? วันนี้ตอนบ่ายพวกเราลองไป สอบถามแครแโรลมา เขายังบอกว่าคนทั่วไปไม่มีทางสืบเรื่อง เบิรแตได้ คุณชายเสี่ยวสวี เธอ…ไม่ธรรมดา วันนี้ตอนที่เธอพูด ถึงแชมป้์มวยใต้ดิน ท่าทางเธอก็นิ่งเกินไป”