เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 482 เข้าสมาคมแฮกเกอร์
สุดท้ายท่านหลี่ก็พาหัวหน้าผู้ดูแลที่ดูเป็นมิตรไปด้วย
หลังจากที่ทั้งสองออกมา ผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ในห้องโถงก็มองมาที่คุณชายใหญ่ตระกูลถังพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณชายใหญ่ นายท่านจะโกรธไหมครับ…”
“ไม่หรอก รอน้องรองฉันกลับมาก่อน” คุณชายใหญ่ถังไม่ได้เก่งเท่าลู่จือสิง แต่ความคิดความอ่านก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร เขารู้ดีว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ “สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเรื่องมอบอำนาจระบบอัจฉริยะของทางฝั่งอวิ๋นกวง”
แม้ลู่จือสิงจะเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลถัง แต่คุณชายใหญ่ถังกลับไม่ได้ทำตัวเป็นอริกับเขาเลย เนื่องจากลู่จือสิงทำงานภายในอวิ๋นกวงกรุ๊ปมาตลอด จึงไม่คิดอะไรกับตระกูลถัง
ส่วนญาติตระกูลฉินที่ตามกลับมานั้น เขาให้คนไปสืบเส้นสนกลในในเมืองหลวงมาคร่าวๆ แล้ว
พบว่าสี่ตระกูลหลักในเมืองหลวงปัจจุบันนี้ยังรุ่งเรืองไม่พอที่จะเอื้อมมาถึงรัฐ M ได้ นับประสาอะไรกับตระกูลฉินที่กำลังตกต่ำ
ที่ถังจวินใส่ใจลูกหลานน้องสาวตัวเองมากก็เพราะถังจวินกับน้องสาวมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่คุณชายใหญ่ถังไม่ได้มีความรู้สึกอันใดต่อพวกเขา แม้แต่ภายนอกยังแสดงความดูถูก
ผู้ดูแลเหล่านั้นต่างก็พยักหน้า “คราวนี้นายน้อยสองจะมีข่าวดีไหมครับ?”
ธุรกิจอวิ๋นกวงกรุ๊ปโดยหลักจะอยู่ที่ทวีปเอเชีย แม้สี่ตระกูลหลักจะมีอำนาจในเมืองหลวงเหนือกว่า แต่อาศัยอวิ๋นกวงกรุ๊ปเพียงอย่างเดียว ตระกูลถังก็ไม่จำเป็นต้องกลัว…
ทว่า…
กองกำลังในรัฐ M ค่อนข้างซับซ้อน ในช่วงที่ลู่จือสิงเข้าร่วมอวิ๋นกวงกรุ๊ปตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาก็ช่วยจัดการข้อพิพาทตระกูลถังมาแล้วหลายครั้ง ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลถังจึงเริ่มเข้าใจแล้วว่าพลังอำนาจอวิ๋นกวงกรุ๊ปน่ากลัวขนาดไหนในรัฐ M ส่วนจะเป็นพลังอำนาจแบบไหน ก็ใช่ว่าคนตระกูลถังจะสามารถรู้ได้
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนในตระกูลถังให้ความเคารพยำเกรงลู่จือสิง
“ไม่รู้สิ ฉันคุยกับน้องรองช่วงปีใหม่ การมอบอำนาจระบบอัจฉริยะไม่ได้อยู่ในการดูแลของเขา” คุณชายใหญ่ถังหรี่ตาลง พูดด้วยความลังเล “แต่คราวนี้…เกรงว่าไม่แน่นอน”
คิดว่าผู้บริหารระดับสูงแค่ประหลาดใจ “ปีนี้นายน้อยสองกลับมาตั้งหลายครั้ง…”
เมื่อหลายปีก่อนยังไม่เจอเขาแม้แต่เงา
**
ข้างนอก ถังจวินนั่งอยู่บนรถ
แววตาดูไม่ออกถึงความเปลี่ยนแปลง แค่มองท่านหลี่ “ลู่จือสิงกลับมาวันนี้?”
“ผมโทร.ไปยืนยันกับนายน้อยสองแล้วครับ” ท่านหลี่ผงกหัวเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางถังจวิน “ท่านประธานครับ คุณจะรอคุยกับนายน้อยสองหรือเปล่าครับ?”
ลู่จือสิงเป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเองมาโดยตลอด ตั้งตัวเป็นอิสระจากตระกูลถัง หลังจากเขียนชุดโปรแกรมได้ตอนอายุเก้าขวบ เขาก็ไม่เคยใช้เงินตระกูลถังแม้แต่สลึงเดียว
ตอนแรกถังจวินวางแผนอบรมบ่มเพาะเขาให้ไปในด้านแฮกเกอร์ แต่เขาไม่ลงรอยกับลู่จือสิง
จึงได้แต่ยอมแพ้ด้วยความเสียดาย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ลู่จือสิงจึงเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับตระกูลถังและถังจวิน
ถังจวินส่ายหน้า “รอฉันกลับมายังทัน”
พอพูดเสร็จก็ปิดเปลือกตา
ท่านหลี่ไม่กล้าพูดมาก ขับรถตรงไปยังสถานที่รับประทานอาหาร
ภายในห้องอาหารส่วนตัว ฉินฮั่นชิวฉินซิวเฉินก็ไม่ได้รอนานมาก
ถังจวินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาอธิบายอย่างสบายๆ ว่าลู่จือสิงกลับมาวันนี้
“ที่แท้แล้วน้องรองกลับมานี่เอง” ฉินฮั่นชิวไม่ได้สนใจคนตระกูลฉินที่เหลือ แต่หันไปอธิบายให้ฉินหร่านฟัง “เขาเป็นโปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์ที่เก่งมากเลยนะ”
“อ้อ” ฉินหร่านพยักหน้าส่งๆ เปิดโทรศัพท์คุยกับเพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้าน——
(เธออยู่รัฐ M ?)
(น้องชายเธอบอก)
ฉินหร่านหันไปมองฉินหลิง ฉินหลิงกำลังคุยกับกลุ่มของถังจวินอยู่
เธอละสายตากลับและตอบไปส่งๆ “อือ”
เพิ่มไปอีกประโยค (มาแข่งโครงการฟิสิกส์)
ทางฝั่งเพื่อนบ้านที่เห็นประโยคสุดท้ายรู้สึกสับสนอยู่ในใจ หายไปนานกว่าจะตอบกลับ
เวลาผ่านไปสักพักก็ถามเธออีกครั้ง——
(กลับเมื่อไหร่?)
ฉินหร่าน (พรุ่งนี้)
เพื่อนบ้าน (ฉันก็กลับพรุ่งนี้ รอฉันที่ลานจอดเครื่องบินด้วยนะ ให้คนคนนั้นของเธอเปลี่ยนตั๋วฉันด้วย)
เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน ฉินหร่านไม่คิดจะกลับไปพร้อมกับทีมของมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เฉิงเจวี้ยนกับเฉิงมู่ต่างก็รู้จักลู่จือสิง แต่ฉินฮั่นชิวกับพ่อบ้านฉินไม่รู้จัก
ฉินหร่าน (เจอกันที่สนามบิน)
ฉินหร่านเดาว่าลู่จือสิงน่าจะมีธุระคุยกับเธอ จึงตอบไปตามอารมณ์
ท่านหลี่กับหัวหน้าผู้ดูแลกำลังยืนอยู่ด้านหลังถังจวิน ท่านหลี่เห็นท่าทีฉินหร่านจนชินแล้ว เขารู้สึกว่าฉินหร่านกับลู่จือสิงได้รับการถ่ายทอดข้ามรุ่นอยู่หน่อยๆ
ตรงกันข้ามกับหัวหน้าผู้ดูแล พอเขาเห็นท่าทีฉินหร่านก็แอบขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พวกเธอจะกลับพรุ่งนี้จริงเหรอ? ไม่อยู่เที่ยวอีกหน่อยล่ะ?” ถังจวินยังคงคุยกับฉินฮั่นชิว อยากรั้งตัวฉินฮั่นชิวไว้อีกวัน
“เสี่ยวหลิงต้องไปเรียนอีกสองวันนี้แล้ว” ฉินฮั่นชิวมองฉินหลิง
“เอาเถอะ” ถังจวินเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขายังคงยิ้มร่า “พอดีเลย น้องรองนายก็จะกลับพรุ่งนี้ ฉันคิดว่าพวกนายคงไม่มีโอกาสได้เจอกันแล้ว พรุ่งนี้ยังเจอกันที่สนามบินได้”
หลังจากทานข้าวเสร็จ ถังจวินก็ลุกขึ้นพลางโค้งตัวเล็กน้อย คุยเรื่องจริงจังกับฉินซิวเฉิน “พวกเราตระกูลถังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฮั่นชิวกับลูกๆ จะกลับไปทำความรู้จักกับตระกูล ตอนนั้นพ่อแม่ของผมรักน้องเล็กที่สุด ถ้าหากดวงวิญญาณพวกเขาที่อยู่บนฟ้าได้พบฮั่นชิวกับลูกๆ จะต้องดีใจมากแน่ๆ”
เรื่องแบบนี้ฉินฮั่นชิวไม่พูดอะไร ได้แต่มองไปทางฉินซิวเฉินเพื่อปล่อยให้เขาตัดสินใจ
ฉินซิวเฉินมองถังจวิน เขาไม่คิดว่าถังจวินจะยกเรื่องบรรพบุรุษที่ล่วงลับมาพูด
อันที่จริงเขาไม่อยากให้ฉินฮั่นชิวไปเกี่ยวข้องกับตระกูลถังมากนัก ฉินฮั่นชิวเป็นยังไงเขารู้ดี ส่วนตระกูลถังดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ตระกูลทั่วไปในรัฐ M
แต่แค่ว่าฉินซิวเฉินคาดไม่ถึงว่าถังจวินจะรั้นขนาดนี้…
“คุณฉิน คุณไม่ต้องเป็นห่วง แค่ให้ฮั่นชิวกับลูกๆ ไปคารวะบรรพบุรุษเท่านั้นเอง” ถังจวินเห็นฉินซิวเฉินคิดหนักจึงพูดสบายๆ
ถังจวินพูดถึงตรงนี้ ฉินซิวเฉินจึงพูดอะไรไม่ได้เป็นธรรมดา
“งั้นเราค่อยคุยเรื่องนี้อย่างละเอียดครั้งหน้าดีกว่าครับ” ใบหน้าผอมแห้งถังจวินเผยให้เห็นถึงความยินดี
เมื่อหัวหน้าผู้ดูแลที่อยู่ข้างหลังถังจวินเห็นอากัปกิริยาพวกฉินฮั่นชิวและฉินซิวเฉินก็ขมวดคิ้ว
คนตระกูลฉินพวกนี้…คิดว่าตัวเองเป็นใคร…
ถังจวิน ฉินฮั่นชิว และฉินซิวเฉินเดินนำออกไปก่อน ฉินหลิง ฉินหร่าน และผู้จัดการเป็นพวกเดินช้า
ผู้จัดการคุยเรื่องสมาคม M กับฉินหร่าน
“คุณชายเสี่ยวหลิง” หัวหน้าผู้ดูแลตระกูลถังก็เดินช้าลงเช่นกัน เขาโน้มตัวไปทางฉินหลิงพร้อมกับกล่าวขอโทษ “เรื่องคุณหนูใหญ่ครั้งที่แล้ว หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะครับ คุณหนูใหญ่เธอ…”
หัวหน้าผู้ดูแลทำตัวเคารพนบน้อม เขายิ้มเล็กน้อยและพูดราวกับไม่ใส่ใจ “เธอเข้าสมาคมแฮกเกอร์ตั้งแต่สองปีที่แล้ว เธอค่อนข้างหยิ่งไปหน่อยในด้านการเข้าสังคมน่ะครับ”