เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 477 หลานสาวน้า
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
ท่านหลี่ตกตะลึง
ก่อนที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็มีชายคนหนึ่งลงมาจากรถที่จอดอยู่ตรงนั้น
มีกลิ่นอายสังหารอยู่ในตัว
ถังจวินไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดกับแมทธิว เขารู้จักแค่แมทธิว แต่ไม่รู้ว่านี่คือใคร แต่อย่างไรก็ตามคนที่กล้าแขวนธงกองกำลังแมทธิวจะต้องเป็นคนในกองกำลังแมทธิวอย่างแน่นอน
ฉินหร่านเหลือบมองก็จำได้ว่าเป็นคนของแมทธิว
เธออดไม่ได้ที่จะติดกระดุมเสื้อโค้ตที่ด้านหลัง ปิดใบหน้ากว่าครึ่งหน้าและหาโอกาสเดินไปข้างหลังฉินฮั่นชิวสองก้าว ฉินฮั่นชิวเป็นคนรูปร่างกำยำ จึงบังตัวเธอมิด
“นายท่าน นี่คือ…” ท่านหลี่ก็ลงจากรถเช่นกัน เขามองถังจวินด้วยความลังเล
เมื่อถังจวินเห็นชายที่ลงมาจากรถ ดวงตาที่สุกใสก็หรี่ลง
เขาส่ายหน้า “ฉันกับแมทธิวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน”
“คุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรครับ?” ชายคนนั้นเดินเข้ามา ท่านหลี่เดินออกมาบังฉินหลิงกับพวกพ่อบ้านฉินไว้ เขาก้มหน้าถามอย่างสุภาพ
ดูไม่เหมือนกับว่ากำลังตามหาท่านประธาน คงหาผิดที่ล่ะมั้ง?
“ผมมาหาคนคนหนึ่ง” เขาหยุดฝีเท้าและมองไปทางฉินหร่านที่อยู่อีกด้านของกลุ่มคน
สายตาของเขามองอย่างมีจุดมุ่งหมายเกินไป ท่านหลี่จึงอดมองไปตามสายตาเขาไม่ได้ ทันทีที่มองไปก็เห็นฉินหร่านยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ท่านหลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง เขาละสายตากลับและคิดว่าตัวเองคงคิดมากไปเอง…
ความคิดนี้ยังคิดไม่ทันจบ เขาก็ได้ยินชายหนุ่มคนนี้มองไปทางนั้นและพูดด้วยความเคารพ——
“คุณหนูฉิน ผมมีธุระกับคุณ”
คุณหนูฉิน…
ผู้หญิงแซ่ฉินที่อยู่ฝั่งนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ท่านหลี่คาดไม่ถึงเล็กน้อย ลำคอที่แข็งเกร็งหันไปมองฉินหร่านอีกครั้ง
ฉินหร่านยังคงยืนอยู่ข้างหลังฉินฮั่นชิว เธอก้มหน้าดูโทรศัพท์ เฉิงเจวี้ยนบอกว่าเขาไปคุยกับแมทธิวแล้ว ทีแรกเธอก็ไม่คิดว่าลูกน้องแมทธิวจะมาหาตัวเอง ครั้งล่าสุดที่เธอคุยกับแมทธิวคือเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้เลย
เธอเดินออกมาจากหลังฉินฮั่นชิวโดยไม่รู้ตัว กดโทรศัพท์ถามเฉิงเจวี้ยนว่าจะเสร็จเมื่อไหร่
เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็เงยหน้าขึ้น เธอจำได้ว่านี่คือลูกน้องแมทธิวที่จับเธอกับเฉิงเวินหรูเมื่อไม่กี่วันก่อน
มาหาเธอกะทันหันแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ
ฉินหร่านพิมพ์ข้อความส่งให้เฉิงเจวี้ยนเสร็จก็เก็บโทรศัพท์ เธอหันไปคุยกับพวกฉินซิวเฉิน
จากนั้นก็ยกคางให้ลูกน้องแมทธิวเพื่อส่งสัญญาณให้เขาเดินตามไป
ทั้งสองเดินไปที่ข้างถนนได้สักหนึ่งนาที เมื่อแน่ใจว่าเป็นระยะปลอดภัย เธอก็หยุดเท้าแล้วลดเสียงถาม “มีอะไร?”
“นี่คือเอกสารที่ลูกพี่ฝากผมมาให้คุณครับ” ชายคนนั้นหยิบซองเอกสารปิดผนึกออกมาแล้วยื่นให้ฉินหร่าน “คุณต้องอ่านเอาเอง”
ฉินหร่านยื่นมือไปรับมา
บนหน้าซองปิดผนึกไม่ได้เขียนอะไรไว้ เธอกวาดตาดูคร่าวๆ เธอคิดไม่ตกว่าแมทธิวมีเรื่องอะไรถึงได้ทำตัวลึกลับแบบนี้
ชายคนดังกล่าวมาเพื่อส่งเอกสาร เมื่อเห็นฉินหร่านรับไปแล้วก็เดินตรงไปที่รถตัวเอง ตอนที่เดินผ่านกลุ่มท่านหลี่ เขายังทักทายพวกเขาอีกด้วย
ที่แห่งนี้มีคนเป็นจำนวนมาก ฉินหร่านจึงไม่ได้เปิดดูในทันที เธอถือซองเอกสารเดินกลับไปอย่างครุ่นคิด
ท่านหลี่เปิดประตูรถไว้แล้ว แต่ในขณะนี้กลับไม่มีใครเดินขึ้นรถสักคน ไม่มีใครคุยกันเลย ส่วนใหญ่มองไปที่ฉินหร่านที่เดินมาทางนี้อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“มีอะไร?” ฉินหร่านยังคงคิดเรื่องแมทธิวอยู่ พอเงยหน้าเห็นกลุ่มคนเหล่านี้กำลังมองเธอ เธอก็หยุดเดิน
ฉินฮั่นชิวเป็นคนที่ไม่มีไหวพริบที่สุดในหมู่คนเหล่านี้ เขายิ้มโดยไม่สนใจอะไร “หร่านหร่าน ลูกก็มีคนรู้จักอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ก็ไม่ถึงกับรู้จัก” ฉินหร่านคิดอย่างจริงจัง ความเกี่ยวพันระหว่างเธอกับแมทธิวล้วนมาจากกู้ซีฉือ “นั่นคือเพื่อนของพี่ใหญ่กู้น่ะ”
“ที่แท้ก็เพื่อนเสี่ยวกู้นี่เอง” ฉินฮั่นชิวแสดงออกว่าเข้าใจแล้ว
ถังจวินพยักหน้าอย่างครุ่นคิดโดยไม่พูดอะไร
ท่านหลี่ที่กำลังถือกุญแจรถยิ่งมองฉินหร่านก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ
ไม่แปลกใจเลยที่ท่านประธานทิ้งคนวัยหนุ่มสาวพวกนั้นเพื่อมาพบหลานสาวคนนี้…
ทั้งหมดขึ้นรถ ท่านหลี่วางมือบนพวงมาลัยมองผ่านกระจกมองหลัง “นายน้อยสอง เสี่ยวกู้คนนั้นที่คุณพูดถึงก็เป็นคนรัฐ M เหรอครับ?”
เขาสงสัยเล็กน้อยจึงถามเพิ่มไปอีกประโยค
คนของแมทธิวล้วนปะปนอยู่ในรัฐ M คนที่รู้จักล้วนเป็นคนในแวดวง
ฉินฮั่นชิวไม่ค่อยรู้เรื่องกู้ซีฉือมากนัก เขารัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จก็พูดว่า “ไม่รู้สิ เขาเป็นหมอที่เก่งมากคนหนึ่ง ตอนนี้อยู่เมืองหลวง”
ระหว่างที่พักอยู่โรงพยาบาลเมื่อเดือนที่แล้ว ฉินฮั่นชิวเคยได้ยินคุณหมอหลายท่านชื่นชมเขา
อย่างอื่นฉินฮั่นชิวอาจจะไม่รู้ แต่เขารู้ว่ากู้ซีฉือมีชื่อเสียงมาก
ท่านหลี่ขับรถไปทางข้างหน้าและผ่านสัญญาณไฟจราจร
เมื่อได้ยินดังนั้นก็หัวเราะโดยไม่พูดอะไร
ฉินฮั่นชิวอยู่แต่ในประเทศ ท่านหลี่จึงคิดว่าคำว่าเก่งของเขาก็คือเก่งแค่ในประเทศ ซึ่งนั่นไม่มีทางเทียบได้กับพวกบ้าการวิจัยกลุ่มนั้นขององค์กรการแพทย์ที่อยู่บริเวณเขตติดต่อของรัฐ M ท่านหลี่จึงไม่ถามอะไรอีก
ที่เบาะหลัง
ฉินฮั่นชิวนั่งแถวเดียวกับถังจวิน
ฉินหร่านนั่งแถวเดียวกับฉินหลิง
ส่วนพ่อบ้านฉินนั่งอยู่แถวหลังฉินหร่านคนเดียว
ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาหกโมงเย็น ท้องฟ้ายังไม่มืด พวกเขาอยู่ห่างจากกองถ่ายภาพยนตร์ของฉินซิวเฉินเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
คนในรถไม่มีใครหลับ
ถังจวินคุยกับฉินฮั่นชิวและสอบถามดูว่าเขาพอมีเวลาว่างไปบ้านตระกูลถังหรือไม่ “ห้องแม่ของนายยังอยู่นะ ต้นไม้ที่เธอปลูกก็ยังอยู่ ถ้านายว่างก็กลับมาเยี่ยมสิ”
พอพูดถึงตรงนี้ ถังจวินก็มองไปทางนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่รำลึกถึงอดีต
พอฟังแล้วก็คิดว่าตัวเองไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับผู้เป็นแม่ มือฉินฮั่นชิวชะงัก
“อีกอย่าง” ถังจวินเก็บสายตารำลึกถึง หรี่ตามองไปทางฉินหร่าน “ฉันมีหลานสาวที่อายุพอๆ กับเธอ แล้วก็ฉลาดมากเลยทีเดียว พวกเธอเจอกันคงเป็นเพื่อนกันได้”
ฉินหร่านที่กำลังดูฉินหลิงเล่นเกมได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าให้ถังจวิน
ฉินฮั่นชิวก็มองฉินหร่านตาม “จริงด้วยหร่านหร่าน ได้ยินมาว่าหลานสาวคนนั้นของคุณลุงเป็นแฮกเกอร์ด้วยนะ เธอเก่งมากด้วย ลูกก็คุยกับเธอให้มากๆ หน่อยก็ได้ อย่าหมกตัวอยู่แต่ในห้องทดลองทั้งวันทั้งคืนเลย…”
ถังจวินพูดขึ้นมาทันทีว่า “ฉันจะเอาช่องทางการติดต่อให้เธอ!”
เขาคิดว่าควรคนวัยหนุ่มสาวรุ่นเดียวกันคุยกันให้มากกว่านี้ เขาจนปัญญาที่จะเข้าหาฝั่งฉินหร่านแล้วจริงๆ หลานสาวคนนี้เย็นชาไปหน่อย…
ขณะที่พูดก็หยิบโทรศัพท์ออกมา คุยกับลูกชายคนโตอยู่สักพัก
ในเวลาเดียวกัน บ้านตระกูลถัง
คุณชายใหญ่ตระกูลถังเคาะประตูห้องถังชิง ถ่ายทอดความตั้งใจของถังจวินให้เธอฟัง
ถังชิงกำลังยุ่งอยู่กับการฝึกฝน พอได้ยินก็นึกรำคาญอยู่บ้าง “คนอะไรวุ่นวายจริงๆ”
ตอนนี้เธอกำลังยุ่งมาก ไม่ว่างมาเสียเวลา