เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ - ตอนที่ 454 หนังสือการเขียนโปรแกรมของสมาคมแฮกเกอร์
ห้องวิศวกรรมใหญ่มาก แต่มีคนไม่มากนักที่สามารถเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ข้างๆ ผู้อำนวยการฉิน
นอกจากคุณชายสี่ตระกูลฉินก็มีแค่พ่อบ้านฉินและผู้ถือหุ้นเพียงไม่กี่คน
เมื่อเห็นกองตัวเลขเหล่านี้ รอยยิ้มบนใบหน้าคุณชายสี่ตระกูลฉินก็ปรากฏขึ้นภายในชั่วพริบตา
เขาดึงตัวคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าออกไป ไม่อยากจะเชื่อผลลัพธ์นี้
เดิมทีเขาไม่คิดจะปล่อยให้พวกฉินซิวเฉินได้หุ้นจำนวน10%นั้นไป เขาถึงขนาดสละหมากฉินเจาทิ้ง
เดิมทียังนึกว่าถ้าไม่มีฉินหลิง คนอื่นที่เหลือในตระกูลฉินก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาอีกต่อไป…
แต่ใครจะคิดว่าสุดท้ายแล้วจะมีฉินหร่านโผล่มา ??
ตอนแรกเขาวางแผนเรื่องหุ้น10%ไว้แล้วอย่างดี คำนวณมานานแล้ว ทว่าสุดท้ายเขาไม่เพียงแต่รักษาหุ้น10%นั้นไว้ไม่ได้ แต่ยังปันหุ้นไปถึง18%!
ผู้ถือหุ้นไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆ ยิ่งมองตาตั้ง “นี่เป็นเรื่องโกหกใช่ไหม? ผู้อำนวยการฉิน พวกคุณประเมินผิดกันหรือเปล่า?”
การที่จะเสร็จสมบูรณ์100% เป็นเรื่องยากมากที่วิศวกรซอฟต์แวร์ของสำนักงานใหญ่ตระกูลฉินจะทำได้?
60%ที่คุณชายสี่ตระกูลฉินพูดไว้ก่อนหน้านั้นก็ยากเกินกว่าจะทำให้คนเชื่อแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสร็จสมบูรณ์100% ซึ่งนี่ก็ดูเกินจริงไปหน่อย…
“นี่คือผลลัพธ์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบจากระบบครับ โดยเฉพาะแพตช์ของระบบเครื่องสุดท้าย ผมอยากถามคุณหนูใหญ่ดูว่าทำได้ยังไง” ผู้อำนวยการฉินพูดระหว่างที่มองไปยังข้างหลังกลุ่มคน แต่ก็ไม่เจอฉินหร่าน “คุณหนูใหญ่ล่ะครับ?”
ปฏิกิริยาของคนเหล่านี้ดูแปลกๆ
พ่อบ้านฉินที่อยู่ด้านหลังสายตาฝ้าฟาง มองไม่ค่อยชัด เขาฟังด้วยความร้อนใจจึงเดินไปข้างหน้าสองก้าว พอวางมือบนแว่นตาก็เห็นผลลัพธ์ทั้งหกบรรทัดอย่างชัดเจน
เท้าเขาถูกตอกไว้กับที่ จ้องมองผลลัพธ์นั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
ผู้อำนวยการฉินปรับหน้าจอกลับไป “ผลการประเมินของการดำเนินกิจการก็ออกมาแล้ว ประธานฉินพวกคุณกลับไปดูผลการประเมินสุดท้ายที่ห้องประชุมเถอะครับ”
ถึงอย่างไรทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้ดีว่าต่อให้ฉินหร่านจะทำการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ศูนย์ แต่การคัดเลือกผู้สืบทอดครั้งนี้ก็ต้องผ่านอย่างแน่นอน
“พ่อบ้านฉิน? พวกคุณเห็นผลลัพธ์อะไรกันแน่? ทำไมแต่ละคนถึงมีท่าทีแบบนี้กันหมดล่ะ? ผู้อำนวยการฉินบอกว่าคุณหนูผ่านแล้วใช่ไหม?” อาเหวินเดินมาตรงหน้าพ่อบ้านฉินพร้อมกับถามด้วยความกังวล
ฉินซิวเฉินยืนนิ่งๆ อยู่อีกด้านหนึ่ง มือไพล่หลัง
เลิกคิ้วจางๆ “ว่ามา”
“เอ๊ะ…” พ่อบ้านฉินที่ตัวแข็งทื่อกลับมารู้สึกตัว ในหัวมึนงงเล็กน้อย ราวกับได้ยินเสียงหัวใจเต้นก้องอยู่ริมหูตลอดเวลา เขาหันไปมองฉินซิวเฉินและอาเหวินด้วยความงงงวย “ไม่ใช่แค่ผ่านเท่านั้น เสร็จสมบูรณ์100%ทั้งหกเครื่อง…”
ในท้ายที่สุดใบหน้าสมบูรณ์แบบที่ดูสุขุมเยือกเย็นก็พังทลายอีกครั้ง
อาเหวินยิ่งเบิกตาโพลง ขาอ่อนอยู่หน่อยๆ เขาพยุงตัวกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านหลัง
นับตั้งแต่มีพิธีการคัดเลือกผู้สืบทอดนี้ ระดับความยากจะเพิ่มขึ้นและปรับใหม่ทุกปี
สำหรับคนอื่นย่อมไม่มีความเป็นไปได้ที่จะประเมินสำเร็จลุล่วง
มีคนวัยหนุ่มสาวของตระกูลฉินจำนวนมากที่เคยลองทำการประเมินนี้เป็นการส่วนตัว ทุกคนล้วนกู่ไม่กลับโดยไม่มีข้อยกเว้น ระดับความเสร็จสมบูรณ์สูงสุดของหนึ่งในนั้นได้เพียงแค่45% แม้จะเป็นคนหนุ่มวัย 25 ปี แต่นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความยากในการประเมินครั้งนี้
มิฉะนั้นคุณชายสี่ตระกูลฉินก็คงไม่ยอมเดิมพัน
เว้นแต่ว่าเป็นพวกวิปริตผิดแผกจริงๆ
100% นี่หมายความว่าอะไร?
หมายความว่าเธอมีพรสวรรค์เป็นใจทางด้านคอมพิวเตอร์
หมายความว่าผู้ถือหุ้นทุกคนกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะเปิดไฟเขียวให้เธอในการคัดเลือกผู้สืบทอดครั้งนี้
หมายความว่าจะได้รับหุ้นจำนวน18%
นี่คือกฎผู้สืบทอดที่นายท่านทิ้งเอาไว้
แม้ว่าคุณชายสี่ตระกูลฉินจะมีตระกูลโอวหยางคอยหนุนหลัง แต่ก็เปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้ไม่ได้
คราวที่แล้วผู้จัดการของฉินซิวเฉินก็เคยบอกพ่อบ้านฉินแล้วว่าฉินหร่านมีพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์ แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าเธอจะมีพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์ไม่แพ้ด้านฟิสิกส์เลย และที่ยิ่งไปกว่านั้น…
ยังสูงกว่าด้านฟิสิกส์ไปมาก
เนื่องจากการคัดเลือกครั้งนี้ของฉินหร่านในค่ำคืนนี้ ภายในบริษัทตระกูลฉินก็เกิดเหตุพลิกแผ่นฟ้า…
พ่อบ้านฉินอดนิ้วสั่นไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ เขาเงยหน้ามองไปทางฉินซิวเฉิน “คุณชายหก ตระกูลฉินเราน่าจะมีความสามารถพอที่จะย้อนกลับไปเป็นเหมือนในอดีตอีกครั้ง…”
พ่อบ้านฉินแก่แล้ว จึงคิดได้แต่เรื่องพวกนี้
แต่อาเหวินที่อยู่ข้างๆ นึกถึงอีกประเด็นหนึ่ง เขาลุกพรวดขึ้น ดวงตาเป็นประกาย “พ่อบ้านฉิน อย่างนั้นหุ้น5%ครั้งนั้นที่มาจากซอร์สโค้ด คุณหนูก็เป็นคนแก้ใช่ไหม?”
แฟลชไดรฟ์ที่บังเอิญสลับกับของฉินฮั่นชิวครั้งที่แล้วยังเป็นคดีที่ยังไม่คลี่คลาย
ระหว่างนั้นพ่อบ้านฉินกับพวกอาเหวินเดากันเอาไว้หลายคน แต่ก็เดาไม่ออก ต่อมาพ่อบ้านฉินยังเคยถามคุคว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ฉินหลิงจะเป็นคนประมวลผลออกมา
คุคให้คำตอบมาว่าเป็นไปไม่ได้ แม้แต่เขาเองก็ยากมากแล้ว
ในเวลานั้นเนื่องจากรู้ว่าฉินหร่านเป็นเด็กเรียนภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเมืองหลวง พ่อบ้านฉินและคนอื่นๆ จึงคิดไม่ถึงว่าฉินหร่านก็เขียนโปรแกรมเป็น
ตอนนี้พอมาได้ยินที่อาเหวินพูด พ่อบ้านฉินก็ถึงจะตระหนักได้…
คนคนนั้นเป็นไปได้ว่าคือฉินหร่านนี่เอง…
**
ฉินหร่านไม่รู้ว่าตระกูลฉินปั่นป่วนโกลาหลกันเพราะเธอ
ตอนนี้เธอกลับมาถึงถิงหลานแล้ว
เฉิงจินได้เล่าเรื่องหัวหน้าหน่วยเหล่านั้นให้ฉินหร่านฟังระหว่างทางแล้ว
ทั้งสองยืนอยู่อีกด้านเพื่อรอเฉิงมู่เอารถไปจอด
“หายตัวไป…” เมื่อฉินหร่านที่ยื่นมือไปกดลิฟต์ได้ยินดังนั้น ขนตาก็หลุบลงพลางครุ่นคิด “พวกนายมีใครนิสัยเสียแล้วไปล่วงเกินใครเขาหรือเปล่า”
เธอคิดดูแล้วก็พูดเบาๆ
รัฐMต่างจากที่อื่น กองกำลังใหญ่ๆ เป็นผู้มีอำนาจ นอกจากแมทธิวแล้วก็ไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนทั่วไปและกลุ่มนักท่องเที่ยวไม่กล้าไปรัฐM
หากหายตัวที่นั่น โดยหลักแล้วก็น่าจะไปล่วงเกินกองกำลังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
“หัวหน้าหน่วยหลักก็เป็นคนอารมณ์ร้ายอยู่แล้วครับ นิสัยหยาบกระด้าง เป็นเพราะอยู่กับตระกูลเฉิงในเมืองหลวงมานาน อยู่ตำแหน่งสูงๆ จนติดเป็นนิสัย” เฉิงจินพยักหน้า “เขาคงคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าพอไปถึงรัฐMแล้วจะได้ไปเจอคนที่เขาไม่ควรยุ่ง”
พอคิดมาถึงตรงนี้ เฉิงจินก็ขมวดคิ้ว “ไม่รู้ว่ากองกำลังฝ่ายไหนที่ลักพาตัวไปกันแน่ ตอนนี้เฉิงสุ่ยยังสืบไม่พบ กลุ่มคนของตระกูลเฉิงก็พึ่งพาไม่ได้ ก็เลยให้คุณชายเจวี้ยนไป…”
เฉิงมู่จอดรถเสร็จก็เดินมา
เขาได้ยินที่เฉิงจินพูดขึ้นมาพอดี กุมกุญแจรถไว้ในมือ “จะเป็นตระกูลมาสหรือเปล่า หรือกลุ่มพันธมิตรใต้ดิน…”
ช่วงระยะเวลาครึ่งปีที่เฉิงมู่อยู่รัฐM เขาพอจะรู้ว่ากองกำลังทั้งสองนี้แข็งแกร่งมาก
“ไม่รู้ว่าใช่ฝั่งตระกูลมาสไหม” ประตูลิฟต์เปิดออก ฉินหร่านเดินเข้าไป “แต่ไม่มีทางเป็นกลุ่มพันธมิตรใต้ดิน”
“คุณหนูฉินคุณรู้ได้ยังไง?” เฉิงมู่เงยหน้าด้วยความประหลาดใจ
เฉิงมู่รู้เรื่องกลุ่มพันธมิตรใต้ดินมาจากปากเฉิงสุ่ยนิดๆ หน่อยๆ แม้แต่เฉิงสุ่ยยังไม่รู้แน่ชัด กองกำลังนี้ดูเหมือนจะลึกลับเป็นพิเศษ แทบจะหาข้อมูลไม่พบ
ฉินหร่านเหลือบมองเขา หัวเราะเนือยๆ ด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ฉันเดาน่ะ”
ลิฟต์มาถึงที่ชั้นพอดี ฉินหร่านเดินตรงออกไป
จนกระทั่งฉินหร่านเข้าไปในบ้านแล้ว เฉิงจินจึงยื่นมือมารั้งตัวเฉิงมู่ไว้ ลดเสียงพูด “ตระกูลมาสฉันรู้จัก แต่พันธมิตรใต้ดินคืออะไร?”
เฉิงมู่เงยหน้ามองเฉิงจิน
เฉิงจินอยากจะต่อยเขาเสียจริงๆ
**
โครงการICNEได้เพิ่มชื่อรุ่นพี่เยี่ยแล้ว ความคืบหน้าเร็วขึ้นกว่าเดิม
รุ่นพี่เยี่ยอยู่ช่วยนักวิจัยเลี่ยวในห้องปฏิบัติการมานานหลายปีแล้ว จึงมีประสบการณ์ในด้านนี้มากกว่าหนานฮุ่ยเหยาและคนอื่นๆ
ทั้งสี่คนกลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง พอมีเวลาว่างก็มารวมตัวกันทำโครงการวิจัย
หลังจากที่นักวิจัยเลี่ยวรู้ว่ารุ่นพี่เยี่ยเข้าร่วมโครงการICNEของฉินหร่าน จึงไม่ได้สั่งงานอะไรให้เขาทำในวันปกติ
ด้วยเหตุนี้ ภาระงานฉินหร่านในแต่ละวันจึงน้อยลงไปมาก
วันรุ่งขึ้น
วันศุกร์ เวลาห้าโมงเย็น ฉินหร่านไปเยี่ยมฉินหลิงที่โรงพยาบาล
หลังจากฉินหร่านเข้าร่วมการคัดเลือกผู้สืบทอดเสร็จ ฉินซิวเฉินก็จะบินไปรัฐMในเวลาสองทุ่ม
ขณะนี้ก็มาบอกลาฉินหลิงที่โรงพยาบาล
ทันทีที่ฉินหร่านผลักประตู
สายตาทุกคนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยก็มองมาที่เธอ
ฉินซิวเฉิน พ่อบ้านฉิน ฉินฮั่นชิว อาจารย์คุค รวมถึงผู้จัดการ…
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเหล่านี้ได้ยินคำบรรยายวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของฉินหร่านมาจากพ่อบ้านฉินกับอาเหวินแล้ว
เมื่อคืนคุณชายสี่ตระกูลฉินได้โอนหุ้นจำนวน18%มาสำเร็จแล้ว ฉินหร่านจึงโอนให้ฉินซิวเฉินโดยตรง
“คุณหนู” พ่อบ้านฉินรู้สึกตัวก็รีบหันไปย้ายเก้าอี้ข้างเตียง ท่าทีของเขาดูเคารพมากกว่าแต่ก่อน
ฉินหร่านส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ฉันยังมีธุระเดี๋ยวก็กลับแล้ว”
เธอเดินตรงมาที่หน้าเตียงฉินหลิง ยื่นมือไปเปิดประวัติการรักษาและดูอาการปัจจุบันของฉินหลิง ดีกว่าก่อนหน้านี้มาก
“จะไปเย็นนี้แล้วเหรอคะ?” ฉินหร่านเพิ่งเงยหน้ามองฉินซิวเฉิน
ขณะนี้ฉินซิวเฉินกลับมาสง่างามดังเดิม เขาสวมเสื้อโค้ตสีเบจ รูปร่างสง่าผ่าเผย มุมปากโค้งมนอย่างสวยงาม “ใช่ ต้องรีบไปแล้ว”
เขาก้มหน้าคิดแล้วค่อยๆ กำชับฉินหร่านไปไม่กี่ประโยค
ล้วนเป็นเรื่องการใช้ชีวิตเล็กๆ น้อยๆ
ผู้จัดการยกมือดูโทรศัพท์ “ซุปตาร์ฉิน ต้องไปแล้ว”
ส่วนที่ต้องพูดกับพ่อบ้านฉิน ฉินซิวเฉินก็ได้กำชับเมื่อคืนนี้แล้ว
เขาทักทายคนในห้องผู้ป่วยเสร็จก็สวมผ้าปิดจมูกจากไป
ฉินหร่านกับพ่อบ้านฉินจึงไปส่งเขาออกไป
คนอื่นในห้องผู้ป่วยอย่างเช่นอาเหวินและอาไห่ต่างก็จ้องมองฉินหร่านอย่างอึ้งๆ ไม่กล้าพูดแม้แต่ประโยคเดียว
อาจารย์คุคนั่งอยู่ที่ข้างเตียงฉินหลิงพลางมองแผ่นหลังฉินหร่านที่ออกไปอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็เหลือบมองฉินหลิงที่มีพลังเต็มเปี่ยม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาหรี่ลง “เธอฟื้นตัวเร็วไปหรือเปล่า?”
ขณะที่พูด โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น
คุคหยิบออกมาก็พบว่าเป็นข้อความหนึ่ง——
(ตรวจสอบแล้ว เป็นหนังสือการเขียนโปรแกรมแฮกเกอร์ของสมาคมแฮกเกอร์)