เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 908 ตกลง!
ในห้องคึกคักมาก ตอนนี้ได้คำตอบมาหลายคำตอบแล้ว!
ทุกคนยังคงหารือกันต่อ เพราะถ้าจวงเยว่หมิงยังไม่พูดอะไร ก็
บ่งบอกว่ายังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง!
เห็นได้ชัดว่า โรคภัยไข้เจ็บมักจะซับซ้อนมาก คำตอบที่ถูกต้อง
ของเขาใช่ว่าจะถูกต้อง ถึงขั้นที่อาจจะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องด้วยซ้ำ !
การป่วยคือการแสดงอาการของโรค ไม่ใช่โจทย์ที่ให้คุณไป
ค้นหาคำตอบ สิ่งที่คุณต้องทำคือวิเคราะห์อาการต่างๆ อย่าง
ต่อเนื่อง
จวงเยว่หมิงเองก็ใช่ว่าจะวิเคราะห์ได้ถูกต้องไร้ข้อผิดพลาด
เขาก็ต้องฟังคำแนะนำของทุกคนเช่นกัน
โรครักษายากแบบนี้ ทางที่ดีคืออธิบายอาการทั้งหมดให้
ชัดเจนถึงจะเรียกว่าการวินิจฉัย!
และการวินิจฉัยยากตรงนี้แหละ!ความสำ คัญของการหารือก็เช่นกัน คำตอบที่ทำให้ทุกคน
เลื่อมใสได้ จึงจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ แสดงความคิดเห็นกันแทบจะครบ
ทุกคนแล้ว
จวงเยว่หมิงมองฉินเยว่ที่ยืนเหม่ออยู่ตรงนั้นก็อดยิ้มไม่ได้
ดูเหมือนว่าโรคนี้จะซับซ้อนเกินไป หญิงสาวคนนี้ฟังจนมึนไป
แล้ว
จวงเยว่หมิงกระแอมทีหนึ่ง อดพูดไม่ได้ “เสี่ยวฉิน คุณรู้อาการ
ของคนไข้ดีที่สุด คุณมีความคิดอย่างไร”
ตอนแรกฉินเยว่ฟังทุกคนพูดจนเหม่อเล็กน้อยแล้ว พอได้ยิน
หัวหน้าจวงพูดแบบนี้ ก็ตกใจจนเซเล็กน้อยก่อนจะรีบทรงตัว!
ทุกคนเห็นแบบนี้ ก็อดยิ้มในใจไม่ได้
ความจริงการหารือโรคที่ซับซ้อนแบบนี้ คนส่วนใหญ่แทบจะ
ฟังไม่เข้าใจเลย
สวี่รุ่ยเห็นฉินเยว่เหม่อขนาดนี้ สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้นมาฉินเยว่รีบมองจวงเยว่หมิง พยักหน้าพร้อมพูดว่า “พอ
จะมีความคิดเห็นอยู่บ้างค่ะ”
ทุกคนฟังแล้วนึกขำในใจ แต่ไม่ได้ใส่ใจ ก้มอ่านชาร์ตผู้ป่วย
และผลการตรวจที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือ
จวงเยว่หมิงได้ยินฉินเยว่พูดแบบนี้พลันพยักหน้า “อืม คุณ
อธิบายหน่อย คุณมองเคสนี้อย่างไร”
ฉินเยว่พยักหน้า “ฉันขอพูดถึงเรื่องการวินิจฉัยก่อนนะคะ
การวินิจฉัยของฉันคือ ก่อนอื่นคนไข้มีโรคกระเพาะตีบเรื้อรัง วัณโรค
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก มาพร้อมกับภาวะช็อคจากการ
เป็นพิษ!”
ได้ยินแบบนี้ จวงเยว่หมิงอึ้งงันไปทันที!
เขามองฉินเยว่ด้วยสีหน้ายากจะเชื่อ อ้าปากค้างแต่กลับพูด
อะไรไม่ออก
เขาเพียงแค่เห็นฉินเยว่กำลังเหม่อ อยากให้เธอเข้าร่วม
การหารือ ไม่ได้คาดหวังว่าฉินเยว่จะให้คำตอบอะไรได้
ทว่า พอได้ยินการวินิจฉัยของฉินเยว่ เขาก็ตกใจทันที!นี่…เหมือนที่ตนวินิจฉัยไม่มีผิด!
หญิงสาวคนนี้…เก่งเกินไปแล้ว
เรื่องนี้ทำให้จวงเยว่หมิงค่อนข้างอึ้ง เคสนี้ยากแค่ไหน ทุก
คนในนี้ล้วนรู้ดี รวมถึงผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์ในห้องก็มีกัน
หลายคน ดอกเตอร์ยิ่งนับไม่ถ้วน พวกเขาหารือกันมาเกือบหนึ่ง
ชั่วโมงยังไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง แต่ฉินเยว่กลับตอบได้ในคราเดียว!
ไม่เพียงแค่จวงเยว่หมิง ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ที่ตอนแรกอ่าน
ชาร์ตผู้ป่วยอยู่ ตอนที่ได้ยินคำพูดของฉินเยว่ ทุกคนต่างไม่ได้ใส่ใจ
ทว่า ตอนที่พวกเขาอ่านชาร์ตผู้ป่วยพร้อมกับที่ฉินเยว่พูด
อีกครั้ง จู่ๆ ก็อึ้งงันไป!
พวกเขาค้นพบว่า ทุกอย่างเหมือนจะชัดเจนกระจ่างแจ้งขึ้น
มาแล้ว!
ทำไมถึงเป็นไข้แกว่ง เพราะวัณโรคอย่างไรเล่า!
ทำไมถึงมีอาการไอของทางเดินหายใจ ใช้เดกซาเมทาโซนและ
เพนิซิลลินแล้วไม่ดีขึ้น เพราะไม่ใช่การติดเชื้อแต่แรก แต่เป็นวัณโรค
เยื่อบุอักเสบจากวัณโรค!ทุกคนต่างไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ ถึงขั้นความหนืดเหนียวที่เจอ
ตอนคลำหน้าท้องเพื่อวินิจฉัยก็อธิบายได้แล้วว่าไม่ใช่เพราะหนอง
และทำไม…
ชั่วขณะนี้…
ความจริงทุกอย่างชัดเจนกระจ่างแจ้งแล้ว!
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองฉินเยว่ ร่วมถึงสวี่รุ่ยเองก็มองฉินเยว่
อย่างผิดคาดและยากจะเชื่ออยู่ครู่ใหญ่
ทันใดนั้น ทั้งห้องทำงานพลันเงียบไปเพราะการวินิจฉัยของฉิน
เยว่
เงียบจนได้ยินเสียงลำไส้ของตนเอง อืม สี่ครั้งต่อนาที…
ครู่ใหญ่ จวงเยว่หมิงจึงรู้สึกตัว เขาตกใจเล็กน้อย มองฉินเยว่
แล้วรีบพูดว่า “คุณอธิบายหน่อยว่าเพราะอะไร อธิบายว่าทำไมคุณ
ถึงวินิจฉัยแบบนี้”
ฉินเยว่รีบพยักหน้า พูดอย่างใจเย็น “ความจริง เราดูจาก
พัฒนาการของโรคจะง่ายกว่า ไม่ใช่การวินิจฉัยจากอาการปัจจุบัน
ก่อนอื่น…”ฉินเยว่เปลี่ยนคำพูดของเฉินชางให้เป็นวิธีการพูดของตนเอง
แล้วอธิบายให้ทุกคนฟัง
เธอคิดว่าแบบนี้ก็ไม่นับว่าเธอลอกเลียนมุมมองของเฉิน
ชางแล้ว แต่เป็นความเข้าใจของตัวเธอเอง อย่างมากก็ถือว่าได้รับ
คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากเฉินชาง ทั้งหมดเป็นความสามารถของ
เธอ
ฉินเยว่อธิบายพลางพลิกเนื้อหาบนหน้าจอ ผ่านไปประมาณ
สิบนาที ฉินเยว่ก็ได้อธิบายอาการทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้ว
ชั่วขณะนี้สีหน้าของทุกคนในห้องทำงานล้วนอึ้งงัน!
ทุกคนต่างไม่กล้าเชื่อ นักศึกษาคนหนึ่งจะคลี่คลายโรครักษา
ยากแบบนี้ได้ง่ายๆ ได้อย่างไร
ทันใดนั้น ทุกคนต่างละอายใจจนหน้าแดง
แม้แต่สวี่รุ่ยยังตกใจเล็กน้อย หรือว่า…ปกติเธอดูถูกศักยภาพ
ของฉินเยว่เกินไป
จวงเยว่หมิงมองฉินเยว่ ปรบมือนำขึ้นก่อน!
จากนั้น ทุกคนจึงเริ่มปรบมือจวงเยว่หมิงยิ้ม “เป็นเคสที่ไม่เลวเลย ในขณะเดียวกันก็
มีการวินิจฉัยที่มีตรรกะมาก ไม่เลวเลยจริงๆ”
ฉินเยว่ได้รับคำชมจากทุกคนแบบนี้ก็เก้อเขินเล็กน้อย
จวงเยว่หมิงสรุปว่า “ไม่เลว ผมเองก็คิดแบบนี้ แม้สถานการณ์
ของคนไข้ค่อนข้างพิเศษ แต่ถ้าเราวินิจฉัยตามขั้นตอนความคิดของ
เสี่ยวฉิน ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะพอรับได้
ดูเหมือนเสี่ยวฉินจะเคยถามอาการคนไข้อย่างละเอียด!
ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้อาการป่วยและขั้นตอนการพัฒนาของอาการ
เรื่องนี้เตือนเราว่า หลังจากนี้ระหว่างที่พูดคุยกับคนไข้ ต้อง
เสริมสร้างการสื่อสารกับคนไข้ อย่าเอาแต่บอกว่าตนงานยุ่ง เหนื่อย
แบ่งเวลาให้ดี จะมีประโยชน์อย่างมากต่อการวินิจฉัยและการรักษา
ของเรา!”
ได้ยินสิ่งที่หัวหน้าทีมจวงเยว่หมิงพูด ทุกคนต่างพยักหน้าอย่าง
สะเทือนใจ
ฉินเยว่พลันหน้าแดง ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ดีอย่างที่หัวหน้าพูด
เพียงถามประวัติการป่วยของคนไข้อย่างละเอียด นอกนั้น…ทั้ง
หมดนี้คุณเฉินที่รักเป็นคนบอกเธอ…
จวงเยว่หมิงถอนหายใจ “ไม่ได้ถามอาการคนไข้อย่างละเอียด
มากพอ ไม่มีทางมีการวินิจฉัยที่ตรรกะและแนวคิดชัดเจนขนาดนี้
ดูเหมือนว่า ต่อไปทุกคนต้องตั้งใจชักประวัติคนไข้ เรียนรู้จากเสี่ยว
ฉินให้มาก ทุกคนล้วนเป็นครูของเราได้ในด้านใดด้านหนึ่ง อย่าคิด
ว่าตนเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นศาสตราจารย์แล้วจะเจ๋ง”
หลังจากพูดจบ จวงเยว่หมิงพลันพูดกับฉินเยว่พร้อมรอยยิ้ม
และเต็มไปด้วยความชื่นชม “เสี่ยวฉิน คุณคิดว่าควรรักษาอย่างไร”
ฉินเยว่หน้าแดง คำถามนี้ยังไม่ได้ถามเฉินชางเลย “ฉัน…ฉันขอ
ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ กลับมาค่อยอธิบายได้ไหมคะ”
จวงเยว่หมิงชะงัก ทุกคนต่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “รีบไป
รีบมาครับ”
ฉินเยว่พยักหน้าก่อนจะวิ่งออกไป รีบโทรหาเฉินชาง “สามีคะ
ขอความช่วยเหลือด่วนค่ะ ยังจำ เคสที่คุยกันตอนเที่ยงได้ไหมคะ
รักษาอย่างไรคะ”เฉินชางอ่านหนังสืออยู่ ได้ยินคำพูดของฉินเยว่พลันลังเล
ครู่หนึ่ง “คืนนี้! สีแดง สีดำ สีเนื้อ สามชุดนะครับ”
ฉินเยว่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “หนึ่งชุดค่ะ!”
เฉินชาง “สองตัว!”
“ตกลงค่ะ! รีบส่งคำตอบมาที่วีแชทฉันนะคะ!”